ชีวิตก็คือละครหรือนิยายเรื่องหนึ่ง
|
|||||
เวลาที่หายไป - บทที่ 15 ขบวนที่จะไปเที่ยวป่าชมน้ำตก กำลังเตรียมพร้อมกันให้วุ่นวายอยู่บนลานหินกว้าง พวกบริวารทั้งหลายช่วยกันขนสัมภาระต่างๆ เช่นเสบียงอาหาร เต็นท์ น้ำดื่ม ผ้าห่ม ผ้าพลาสติก ถังน้ำแข็งและอุปกรณ์เดินป่าครบครัน บรรจุลงในรถปิ๊คอัพคันหนึ่ง นักท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์เพื่อนฝูงของวุฒิเลิศ ซึ่งหลังจากกลับจากการตระเวนท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆแล้วยังมีเวลาเหลืออยู่อีกสองสามวัน ประสงค์จะออกไปตั้งเต้นท์พักนอนสักสองคืนในป่าที่ไม่ไกลจากเวียงพุกามมากนัก เพื่อสัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่ แต่โชคร้ายที่หนานคำซึ่งได้รับคำสั่งจากคุณดนัย ให้ไปเป็นหัวหน้าทีมดูแลให้บริการ ต้องยกเลิกการเดินทางโดยกระทันหัน เนื่องจากลูกชายคนเล็กเกิดล้มป่วยจนถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล เมื่อหนานคำไปรายงานเรื่องนี้ คุณดนัยซึ่งกังวลเรื่องการเดินทางไปเที่ยวป่าครั้งนี้ก็ออกคำสั่งว่า“ ถ้าไปไม่ได้ ก็ต้องหาคนที่พอไว้ใจได้ไปแทน เพราะไอ้พวกที่แกจัดให้ไปด้วยก็ล้วนแต่เด็กๆทั้งนั้น ฉันอดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าคงไม่มีอันตรายอะไร แถวนั้นไม่เคยได้ข่าวว่ามีพวกเสือหรือหมี แล้วก็ไม่ใช่เส้นทางที่พวกค้ายาใช้แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีคนแบบแกคุมไปด้วย เอ..แล้วจะเอาใครดี ” หนานคำนิ่งคิดแล้วเสนออย่างไม่ค่อยมั่นใจนักว่า “ เคนเป็นยังไงครับ ท่าน ตอนที่ไปเที่ยวกันเมื่อวันก่อนเขาก็ทำงานได้ดี ไว้ใจได้ ” คุณดนัยไม่คัดค้าน บอกแต่เพียงว่า “ แล้วแต่แกก็แล้วกัน แต่อย่าลืมให้พวกลูกน้องเอาปืนผาหน้าไม้ติดรถไปบ้างล่ะ ถึงจะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็อย่าวางใจมากนัก ป่ามันก็เป็นป่าอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ประมาทไว้ก่อนเป็นดี ” เมื่อคุณดนัยไม่คัดค้านเหมือนครั้งแรก หนานคำจึงเรียกเคนมาพบเพื่อมอบหมายงานสำคัญ “ผมไปกับพวกที่จะไปเที่ยวป่าไม่ได้ ท่านเลยให้คุณไปแทน อินแปงจะเป็นคนนำทาง มันชำนาญเส้นทางแถวนั้น พวกเด็กๆของเราอีกสี่ห้าคนจะไปด้วย คุณต้องเป็นหัวหน้าทีมคุมเด็กพวกนั้นอีกทีให้ดูแลรับใช้คุณใหญ่ คุณหนูและพวกเพื่อนๆของท่านให้ดี ถ้ามีปัญหาอะไร ให้คุณเป็นคนตัดสินใจและจัดการได้ตามที่เห็นควร ” ชายหนุ่มอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่คิดว่าจะต้องร่วมทางไปกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นอีก ที่สำคัญคือเขาไม่อยากต้องไปเผชิญหน้ากับทิพย์สุรางค์ ผู้ที่สบประมาทเขาอย่างร้ายแรงเรื่องสาวน้อยที่ชื่อบุษบา ตอนนี้ถึงเขาจะหายโกรธแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องอธิบายอะไรให้ใครฟัง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เแต่ก็รู้สึกรำคาญ ที่จะต้องไปผจญกับสายตาที่คอยหาเรื่องจับผิดเขาของทิพย์สุรางค์ ถ้าสามารถทำได้เขาคงปฏิเสธหนานคำไปแล้ว เพราะคนงานที่ขับรถได้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่เมื่อไม่อยู่ในฐานะที่จะปฏิเสธคำขอร้องเพราะความจำเป็นของหนานคำได้ เคนก็เลยจำใจต้องรับคำ ขบวนนักเที่ยวป่าออกเดินทาง ด้วยรถจิ๊ปโฟร์วิวสามคันและรถปิ๊คอัพที่ใช้ขนเสบียงอีกหนึ่งคัน เคนพร้อมด้วยบริวารของเวียงพุกามอีกห้าคนนั่งไปในรถนำขบวนโดยมีอินแปง มือขวาของหนานคำซึ่งชำนาญทางเป็นคนขับ อาวุธปืนทั้งสั้นและยาวหลายกระบอกที่หนานคำสั่งให้นำมาด้วย รวมอยู่ในรถคันนี้ ตอนแรกที่รู้ว่าเคนจะร่วมทางไปด้วยกรซึ่งตื่นเต้นกับการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้มาก เพราะอยากเข้าไปตั้งแคมป์พักนอนในป่ามานานแล้ว ขอมานั่งกับเคนในรถคันนี้ แต่ทิพย์สุรางค์ไม่อนุญาต เธอต้องการให้เด็กชายอยู่ใกล้ตัวเพื่อควบคุมเขาให้อยู่ในสายตา หญิงสาวกลัวว่าถ้าปล่อยเขาให้ทำอะไรได้โดยอิสระ เขาอาจจะทำอะไรล้นๆหรือพิเรนท์ที่จะทำให้เธอที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกครองกลายๆของเขา ต้องอับอายขายหน้าแขกจากกรุงเทพฯและแม้แต่จากแม่ฮ่องสอน เด็กชายจึงได้แต่ส่งตาละห้อยมาให้เคนแล้วเดินต้อยๆตามเด็กหญิงบัวผันที่ทิพย์สุรางค์ส่งมาตาม กลับไปขึ้นรถคันที่คุณหนูของเขานั่งอยู่ ที่เขาอยากมานั่งรถคันที่มีเคน ไม่ใช่เพราะติดเพื่อนคนใหม่แจจนแยกกันไม่ได้ แต่เพราะเจ้าปืนสั้นปืนยาวหลายกระบอกในรถคันนั้นต่างหาก ที่เขาสนใจใคร่จะได้ลูบคลำแล้วนำมาลองลั่นไกเปล่าดู มันคงจะโก้พิลึกละ พวกคุณสาวๆจากกรุงเทพฯคงจะชื่นชมน่าดูในความเก่งกาจของเขา กรนึกแช่งชักคุณหนูอยู่ในใจที่มาทำลายความฝันของเขา ส่วนทิพย์สุรางค์นั้น ตอนแรกที่รู้ว่าเคนจะไปทำหน้าที่แทนหนานคำ เธอก็ไม่คิดจะร่วมทางไปตั้งเต้นท์นอนในป่ากับแขกของเวียงพุกาม สมัครใจที่จะอยู่บ้านมากกว่า แล้วยังวางแผนเอาไว้ด้วยที่จะใช้เวลาช่วงนั้นคุยกับบิดา ถึงเรื่องที่จะให้ไล่เคนออกไปจากเวียงพุกาม นอกจากนี้เธอยังคิดตรงกับชายหนุ่มผู้นั้นว่า ที่ตัดสินใจจะไม่ไปเที่ยวป่าครั้งนี้ก็เพราะไม่อยากเห็นหน้าเขาให้โมโหขึ้นมาอีก แต่แล้วทั้งวุฒิเลิศและสิริมาก็มาคาดคั้นแกมขอร้องให้ไปด้วย “น้องทิพย์จะไม่ไปได้ยังไง คุณระวิพรกับคุณสุวรรณีเป็นแขกของน้องทิพย์ไม่ใช่หรือ สองคนนั่นเขาจะคิดยังไง ถ้าอยู่ๆน้องทิพย์ทิ้งเขาเสียเฉยๆ ” สิริมาให้เหตุผล ส่วนพี่ชายของเธอทำหน้าเคร่ง คิ้วขมวด “ ถึงจะเบื่อหรือขี้เกียจไป แต่น้องก็ต้องทำหน้าที่เจ้าของบ้านให้สมบูรณ์ พี่ไม่เห็นด้วยนะที่น้องจะทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ ทนๆไปอีกสองสามวันพวกเขาก็จะกลับกันแล้ว นึกว่าเห็นแก่พี่ก็แล้วกัน พวกที่มาจากกรุงเทพฯนี่ก็พรรคพวกเพื่อนฝูงของพี่ทั้งนั้น ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ” แล้วด้วยความเกรงใจพี่ชายกับพี่สะใภ้ ทิพย์สุรางค์ก็จำใจต้องตกปากรับคำ ทั้งๆที่ถ้าสามารถเลือกได้เธอก็ไม่คิดจะร่วมทาง ไปกับผู้ชายปากร้าย กล่าวหาเธออย่างน่าเกลียดคนนั้นอีกเลย สามชั่วโมงต่อมารถทั้งสี่คันที่บุกตะลุยตามกันเข้าไปในป่า ก็จอดลงตรงบริเวณที่ราบใกล้น้ำตกใหญ่แห่งหนึ่ง ที่อินแปงลงไปตรวจดูชัยภูมิเรียบร้อยแล้วและเห็นว่าถึงบริเวณนั้นจะเป็นป่าแต่ก็ไม่รกทึบมากนัก แม้จะมีโขดหินน้อยใหญ่ตั้งระเกะระกะเรียงรายอยู่โดยทั่ว แต่ก็มีที่ว่างราบเรียบกว้างใหญ่ ให้กางเต้นท์ได้หลายหลัง ไกลออกไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เมื่อตกลงกันได้แล้วว่าจะตั้งเต้นท์พักกันที่ตรงนั้น บริวารสี่ห้าคนของเวียงพุกามก็ช่วยกันขนของลงจากรถ บางคนก็ไปช่วยกันกางเต้นท์หลังย่อมๆขึ้นสามหลัง ให้เป็นที่พักนอนของนักท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งหมดสิบสามคน ไม่นับลูกจ้างของเวียงพุกาม โดยแยกกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายเสียสองหลัง ส่วนหลังสุดท้ายใช้เป็นที่เก็บสัมภาระและให้พวกคนงานที่ติดตามมาด้วยใช้เป็นที่พักนอน ขณะนั้นใกล้เที่ยงแล้ว พวกลูกจ้างช่วยกันลำเลียงอาหารมื้อกลางวันที่จัดเตรียมมา ลงบนเสื่อผืนใหญ่สองผืนที่ปูติดต่อกัน ส่วนใหญ่เป็นอาหารเหนืออันโอชะ ทั้งน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคบหมู ไส้อั้ว แกงฮังเลย์ แกงโฮะ ยำหน่อไม้ แคบหมู และข้าวเหนียวนึ่ง ที่พวกกรุงเทพฯเพื่อนฝูงของวุฒิเลิศ มักจะร้องหาแทบทุกครั้งที่ขึ้นมาเวียงพุกาม วิสกี้ น้ำแข็งและโซดาสำหรับพวกผู้ชาย น้ำอัดลมชนิดต่างๆสำหรับพวกผู้หญิงซึ่งแช่อยู่ในหีบน้ำแข็งใบใหญ่ ถูกนำออกมาวางไว้ด้วยกัน รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหารทั้งหมด ทันทีที่นำสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวเข้าไปเก็บในเต้นท์นอนแล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนก็ออกเดินเล่น สำรวจไปตามโขดหินและดงไม้ที่อยู่ใกล้ๆ บ้างก็เดินไปดูน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งเต้นท์ ขณะนั้นแม้จะเป็นเวลาหลังเที่ยงเพียงเล็กน้อยแต่แสงแดดก็ไม่แรงนัก มีลมอ่อนๆเย็นสบายพัดมาเป็นระยะๆ วุฒิเลิศ ประสพชัยและพวกผู้ชายที่มาจากกรุงเทพฯ ซึ่งล้วนอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน เดินชมภูมิประเทศแถวนั้นอย่างสบายอารมณ์ ทุกคนรู้สึกปลอดโปร่งสบายใจ ที่ได้มาพักผ่อนในธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงาม ห่างไกลจากภารกิจที่หนักหน่วงของการทำงาน ที่นำความเครียดมาให้อยู่เกือบตลอดเวลา หลังจากนั้นก็ตั้งวงดื่มสุราแกล้มอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า พูดคุยสรวลเสเฮฮากันอย่างมีความสุข ในขณะที่พวกผู้หญิงก็นั่งล้อมวงอยู่ใกล้ๆ รับประทานอาหารเหนือกันอย่างเอร็ดอร่อย พูดคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันไปด้วยอย่างรื่นรมย์ หลังจากช่วยดูแลสั่งการเรื่องการตั้งเต้นท์และสร้างห้องน้ำเล็กๆ ด้วยการขุดหลุมตื้นๆลงไปในดิน ตั้งเสาสี่เสาและใช้แผ่นพลาสติกคลุมให้มิดชิด สำหรับพวกผู้หญิงโดยเฉพาะ และเดินดูความเรียบร้อยทั่วไปแล้ว เคนก็ออกเดินสำรวจภูมิประเทศไปเรื่อยๆจนมาถึงบริเวณน้ำตก แหงนหน้าขึ้นมองความสูงของมันที่เห็นอยู่ลิบๆ สายน้ำสีขาวไหลพร่างพรูผ่านลงมาตามหน้าผาสูง ที่มีต้นไม้ใหญ่น้อยสีเขียวขจีชุ่มชื้น ขึ้นอยู่เป็นหย่อมๆ หนาแน่นบ้าง ขึ้นอยู่โดดเดี่ยวห่างจากกันบ้าง เมื่อมองต่ำลงมาบนแอ่งน้ำตกที่รองรับสายน้ำอยู่หลายชั้นลดหลั่นกันลงมา เขาเห็นทั้งแอ่งใหญ่แอ่งเล็กหลายแอ่ง บางส่วนก็เป็นแท่นหินเรียบกว้างที่ใช้เดินได้สะดวก แม้อาจจะลื่นไปบ้างเนื่องจากตะไคร่น้ำสีเขียวที่สอดแทรกอยู่โดยทั่ว แล้วชายหนุ่มก็หันหลังให้ตัวน้ำตก เดินลัดเลาะไปตามชายฝั่งลำธาร ที่รองรับสายน้ำที่ไหลจากเชิงชั้นต่างๆของน้ำตกลงมา แล้วไหลต่อไปเรื่อยๆเพื่อไปออกแม่น้ำลำคลอง ที่อยู่ไกลออกไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เคนสังเกตเห็นว่าน้ำในลำธารแห่งนี้ค่อนข้างเชี่ยว มีโขดหินใหญ่น้อยโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นบางส่วน เมื่อเดินสำรวจต่อไปเขาก็พบว่าลำธารแห่งนั้นค่อยๆทอดตัวลาดต่ำลงไป กระแสน้ำที่ไหลผ่านมาแล้วกระแทกเข้ากับโขดหินใหญ่ แตกเป็นฟองฟอดขาวโพลน ทิ้งตัวลงไปในแอ่งน้ำด้านล่างที่รองรับอยู่ต่ำลงไปหลายเมตร มองแล้วชายหนุ่มก็คิดว่าตรงนี้เป็นจุดที่อันตรายที่สุด แต่เนื่องจากมันอยู่ห่างจากตัวน้ำตกพอสมควร เขาก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไรสำหรับนักท่องเที่ยวคณะนี้ ถ้าจะเล่นน้ำตกกันอยู่เฉพาะตรงตัวน้ำตกเท่านั้น ระหว่างทางที่เดินกลับเพื่อที่จะไปที่เต้นท์เคนก็พบกับบุษบาที่เดินสวนทางมา หญิงสาวผู้นั้นอยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำที่สวมทับชุดว่ายน้ำสองชิ้นเอาไว้หลวมๆ มองเห็นช่วงขาอวบขาวและส่วนอกวับๆแวมๆ เธอผู้นั้นยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน “ พี่เคนไปไหนมาคะ เดินเล่นหรือ?” แล้วโดยไม่รอคำตอบเธอก็กล่าวต่อว่า “นุชกำลังจะไปที่น้ำตก พอดีเห็นพี่เดินอยู่ตรงนี้ เลยแวะมาชวนไปเล่นน้ำตกด้วยกัน ” “ อย่าเลยครับ เชิญคุณนุชเถอะ ผมมีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง ” เคนมองไปรอบๆแล้วถามอย่างสงสัยว่า “ คุณวิภาล่ะครับ ไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ" “ อ๋อ เขาลงน้ำไปแล้วละค่ะ ” “ ทำไมคุณวิภากับคุณนุชจะรีบเล่นน้ำล่ะครับ น่าจะรอให้แดดร่มกว่านี้สักหน่อย ทานอาหารกลางวันให้เรีบบร้อยก่อนไม่ดีหรือ ไว้บ่ายๆค่อยมาเล่นน้ำตก ” สาวน้อยบุษบาหัวเราะเห็นฟันขาวแวววาวราวกับไข่มุกด์ “ ไม่ได้หรอกค่ะ นุชกับวิภาตกลงกันแล้ว ว่าเราจะเป็นสองคนแรกที่พิชิตน้ำตกแห่งนี้ เดี๋ยวเล่นน้ำกันสักพักก็จะขึ้นไปทานอาหาร แล้วค่อยมาเล่นน้ำต่อ วัยรุ่นก็อย่างนี้แหละค่ะ พี่เคนใจร้อน ” แล้วเมื่อนึกได้เธอก็พูดต่อว่า “ พี่เคนคะ วันนั้นนุชยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณพี่เลย ที่ช่วยรับนุชไว้ ไม่งั้นมีหวังนุชต้องเจ็บตัวแน่เลย ” เคนมองหน้าตาน่ารักของเธออย่างเอ็นดูเหมือนมองน้องสาว ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้น “ ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าใครยืนอยู่ตรงนั้นก็ต้องช่วยอยู่ดีแหละ ” แล้วชายหนุ่มก็ตัดบทว่า “เชิญคุณนุชไปเล่นน้ำเถอะครับ ” หญิงสาวทำหน้างอนๆ พูดทีเล่นทีจริงว่า “ก็ได้ค่ะ แต่พี่เคนต้องเดินไปส่งนุชให้ถึงน้ำตกโน่น นุชถึงจะไป ไม่งั้นก็จะยืนคุยกับพี่อยู่ยังงี้แหละ ” เคนเลยต้องเดินตามไปส่งเธอจนใกล้ตัวน้ำตก ก่อนจะแยกตัวไปเขามองเห็นว่ายังไม่มีใครมาเล่นน้ำตก นอกจากสาวน้อยเพื่อนของบุษบาที่ชื่อวิภาคนเดียวเท่านั้น เพราะคนอื่นๆ คงกำลังรอรับประทานอาหารกลางวันกันก่อน หลังอาหารกลางวัน บางคนก็นอนเล่นอยู่บนแผ่นพลาสติคผืนใหญ่ที่ปูไว้ใต้ร่มเงาไม้ บ้างก็เที่ยวเดินชมภูมิประเทศซึ่งมีโขดหินสลับซับซ้อนเล็กบ้างใหญ่บ้างคละเคล้ากันไป อีกกลุ่มหนึ่งลงไปแช่น้ำตกตรงบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำตื้นๆ พวกผู้หญิงเกือบทั้งหมดลงเล่นน้ำตก ทุกคนสวมชุดว่ายน้ำซึ่งคงเตรียมกันมาล่วงหน้า หลายคนอยู่ในชุดว่ายน้ำแบบทูพีซ อวดรูปทรงน่ามอง เคนซึ่งได้รับมอบหมายจากหนานคำ ให้คอยระแวดระวังความปลอดภัยให้คณะนักท่องเที่ยวเดินมาใกล้น้ำตก เขาเห็นผู้หญิงเกือบทั้งหมดนั่งแช่อยู่ในน้ำ แต่ไม่มีทิพย์สุรางค์ร่วมอยู่ด้วย จึงมองไปเรื่อยๆ แล้วก็เห็นเธอเดินอยู่บนหินแบนใหญ่บนชั้นน้ำตกกำลังจะลงน้ำ หญิงสาวอยู่ในชุดว่ายน้ำแบบวันพีซ ซึ่งไม่ได้อวดเนื้อหนังมากเหมือนแบบทูพีซ แต่สีเขียวเข้มปีกแมลงทับ ที่มีเหลือบประกายของสีอื่นๆอีกหลากหลายของชุดว่ายน้ำที่เธอสวมใส่ ส่งความผ่องผาดของผิวพรรณขาวผ่อง เจือเหลืองรำไรไร้ไฝฝ้าราคี ที่อยู่นอกการปกปิดของเสื้อผ้าให้ผุดผาดบาดตา เอวของเธอคอดกิ่ว ทรวงอกอิ่มเอิบสะพรั่งงามด้วยวัยสาว งามรับกันอย่างเหมาะเจาะกับสะโพกกลมกลึงผึ่งผาย ขาของเธออวบขาวเรียวยาวน่ามอง ทรวดทรงองค์เอวงามสมบูรณ์ไม่มีที่ติ จนทำให้สายตาเกือบทุกคู่ในบริเวณนั้นจับจ้องไปที่เธอเป็นตาเดียวกัน ความจริงเคนไม่ได้ตั้งใจจะจาบจ้วงแอบมองเธอเลย เขาเพียงแต่มองหาเธอตามหน้าที่เท่านั้น แต่เมื่อเห็นแล้ว เขาก็ไม่อาจถอนสายตาจากร่างของเธอได้เลย ราวกับถูกสะกดด้วยมนตรา เธอดูผิดแผกแตกต่างไปจากทิพย์สุรางค์ คนที่ชอบแต่งตัวง่ายๆและมิดชิดในเสื้อกางเกงหลวมๆ ที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันที่เวียงพุกาม จนเมื่อหญิงสาวลงไปอยู่ในน้ำร่วมกับผู้หญิงคนอื่นๆแล้วนั่นแหละ ที่เคนรู้สึกตัวแล้วรีบหันหลังกลับเดินออกจากที่ตรงนั้นไปโดยเร็ว แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกพักใหญ่ ดวงอาทิตย์เริ่มอ่อนแสงลง อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีหลายคนเล่นน้ำตกกันอยู่อย่างมีความสุข เคนซึ่งขณะนั้นผละจากคณะนักท่องเที่ยว เดินเล่นเรื่อยๆจากตัวน้ำตกไปทางใต้น้ำ ได้ยินเสียงกรีดร้อง เสียงตะโกนดังมาจากบริเวณน้ำตก แม้เสียงน้ำตกจะดังกึกก้อง แต่เสียงโหวกเหวกเหล่าก็ยังดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท ชายหนุ่มหยุดเดินเหลียวมองไปทางต้นน้ำ เห็นร่างของใครคนหนึ่งกำลังผลุบๆโผล่ๆ ลอยละลิ่วตามกระแสน้ำอย่างรวดเร็วมาทางที่เขายืนอยู่ โดยไม่ต้องหยุดคิดว่าเกิดอะไรขึ้น สัญชาติญาณกระตุ้นขาของเขาให้วิ่งอย่างรวดเร็วไปตามฝั่งน้ำซึ่งเป็นที่ราบ มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นอยู่ระเกะระกะบ้าง เป็นโขดหินเตี้ยๆบ้าง ย้อนขึ้นไปทางน้ำตก เมื่อถึงจุดที่ใกล้ร่างนั้นมากที่สุดเขาก็สลัดรองเท้าที่สวมอยู่หลุดกระเด็นไป แล้วกระโดดลงไปในลำธารทันที ว่ายไปดักหน้าร่างซึ่งกำลังถูกกระแสน้ำพัดพาตรงมาอย่างเร็วรี่ เคนคว้าร่างนั้นไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิดก่อนที่จะลอยห่างออกไป และตอนนั้นเองที่เขาเห็นว่าร่างนั้นคือทิพย์สุรางค์ เขาโอบตัวเธอไว้ด้วยแขนข้างหนึ่งแล้วพยายามว่ายตัดกระแสน้ำเข้าหาฝั่ง ที่มีคนหลายคนยืนคอยอยู่ แม้เคนจะพยายามหาทางเข้าฝั่งให้เร็วที่สุด แต่เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก มันกำลังพัดพาเขาและทิพย์สุรางค์ให้ตรงไปสู่จุด ที่สายน้ำไหลกระแทกลงไปที่โขดหินขนาดใหญ่ ที่อยู่ต่ำลงไปหลายเมตร เนื่องจากชายหนุ่มรู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงพาทิพย์สุรางค์โผไปเกาะโขดหินที่อยู่กลางลำน้ำ เพื่อหาทางเข้าฝั่งให้ได้ต่อไป แต่การที่จะเกาะยึดโขดหินนั้นไว้ได้นาน ในกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากขนาดนั้นเป็นเรื่องยาก คนอื่นบนฝั่งที่วิ่งตามมาต่างก็รู้ดีว่ามีเวลาเหลือเพียงเล็กน้อยที่จะช่วยคนทั้งสองเอาไว้ ไม่ให้ถูกกระแสน้ำพัดจนหลุดจากโขดหิน ไหลตามน้ำลงไปกระแทกกับโขดหินใหญ่ที่อยู่ต่ำลงไปหลายเมตรได้ อินแปงซึ่งถือเชือกเส้นยาว ที่มีคนไปหยิบมาให้จากรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ ขมวดปลายเชือกด้านหนึ่งให้เป็นบ่วงแล้วพยายามโยนไปให้เคน ครั้งแรกมันไกลเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะเอื้อมถึง อินแปงต้องสาวเชือกกลับแล้วโยนเข้าไปใหม่ แต่เคนก็ไม่สามารถรับได้เพราะขณะนั้นร่างของทิพย์สุรางค์ เลื่อนหลุดจากอ้อมแขนของเขา ทำให้เคนต้องผวาตามไปกระชากตัวเธอซึ่งกำลังจะถูกกระแสน้ำพัดพาห่างออกไปให้กลับเข้ามา และต้องใช้แขนทั้งสองข้างโอบรั้งตัวเธอเอาไว้ “ คุณหนูครับ กอดเอวผมไว้ให้แน่น ไม่ต้องกลัว ผมไม่ปล่อยคุณหนูหรอก แต่มือข้างหนึ่งของผมต้องว่าง เพื่อจับเชือกเส้นนั้นไว้ให้ได้ ” ในความตื่นตระหนกจนสุดขีด ในกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่กระทบโขดหินเสียงดังกึกก้อง จนแทบไม่ได้ยินอะไรเลยนั้น ทิพย์สุรางค์สำเหนียกได้ ถึงเสียงที่ปลอบประโลมอย่างปราณี ของชายนิรนามไร้หัวนอนปลายเท้า ที่เธอกำลังซุกซบอกและสวมกอดร่างกายส่วนหนึ่งของเขาเอาไว้ เสียงนั้นปลุกปลอบเรียกสติที่กำลังจะขาดผึงลงไป เพราะความกลัวจนถึงขีดสุดของเธอให้กลับคืนมา หญิงสาวลืมตาขึ้นมองใบหน้าที่กำลังก้มลงมองเธออยู่อย่างร้อนใจ หน้านั้นซีดขาวอย่างเหนื่อยล้า ผมสีเข้มเปียกลู่ปรกลงมาถึงคิ้ว แต่ตาที่กำลังสบตาเธออยู่นั้นยังเข้มแข็งมุ่งมั่นและให้กำลังใจ “ ฉันเข้าใจ ” เธอพยักหน้าอย่างอ่อนล้าตอบรับคำสั่ง โอบแขนทั้งสองของเธอไปรอบกายเขา อินแปงร้องตะโกนเรียกมาจากริมฝั่งพร้อมกับให้สัญญาณว่า กำลังจะโยนเชือกไปให้อีกครั้งหนึ่ง เคนชูมือข้างหนึ่งเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว เชือกที่ถูกโยนเป็นครั้งที่สามลอยละลิ่วเข้าหาเคน ครั้งนี้เขารับได้โดยไม่ผิดพลาด ชายหนุ่มคล้องบ่วงนั้นลงบนร่างของทิพย์สุรางค์ เมื่อตรวจดูว่ามันรัดรึงร่างของเธอเรียบร้อยโดยจะไม่หลุดออกมาแล้ว เคนก็พยักหน้าให้อินแปงเป็นสัญญาณ ให้เขาและพวกอีกสองคนช่วยกันดึงเชือกเข้าหาฝั่ง คนทั้งสามดึงเชือกเต็มแรง ในขณะที่เคนยึดมือข้างหนึ่งของทิพย์สุรางค์เอาไว้แล้วประคองตัวว่ายตามไปข้างๆ ในที่สุดร่างของคนทั้งสองก็ถูกดึงออกจากลำธารที่เชี่ยวกรากขึ้นมาบนฝั่งจนได้ ทันทีที่บ่วงถูกปลดออกจากร่างของทิพย์สุรางค์โดยอินแปง เด็กชายกรก็เป็นคนแรกที่ปราดเข้ามาหา เขาลงนั่งยองๆทำตาแดงๆ มองเคนและคุณหนูของเขาสลับกันไป วุฒิเลิศและนายแพทย์ประสพชัยพร้อมด้วยกระเป๋าเครื่องมือปฐมพยาบาลที่เอาติดรถมาด้วย แหวกกลุ่มคนเข้ามา เคนลุกขึ้นยืน ส่วนทิพย์สุรางค์ซึ่งมีคนเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างที่เปียกโชกในชุดอาบน้ำรัดรูป นั่งอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่บนพื้นดินปนทราย หน้าของเธอซีดขาว ผมที่ขมวดไว้สูงบนศรีษะ บัดนี้หลุดรุ่ยร่ายลงมาปกคลุมหลังไหล่ หญิงสาวอาเจียนอยู่หลายครั้ง นายแพทย์หนุ่มเข้ามาสำรวจหาบาดแผลที่อาจจะเกิดจากการกระแทกกับโขดหิน แล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่พบแผลฉกรรจ์ มีแต่แผลเล็กๆหลายแผลตามแขนขาและบนศรีษะ ตามเนื้อตัวของเธอมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปทั่ว นอกจากนั้นก็เป็นรอยขูดข่วนเล็กๆน้อยๆ พี่ชายของเธอพยุงเธอเข้าไปในเต้นท์ โดยมีนายแพทย์ประสพชัยและสิริมาตามเข้าไปด้วย ส่วนเคนเดินหายไปจากบริเวณนั้นแล้ว คนอื่นๆก็จับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ หลังจากพี่ชายกับพี่สะใภ้ของเธอและประสพชัยออกจากเต้นท์ไปแล้ว ทิพย์สุรางค์ซึ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็มานั่งสางผมที่ยังหมาดอยู่ตามลำพัง ตอนนี้เธอหายตกใจแล้ว เมื่อนึกถึงคนที่ฝ่าอันตรายลงไปช่วยเธอจากลำธาร หญิงสาวก็คิดอย่างอัดอั้นตันใจว่าทำไมคนที่ลงไปช่วยเธอ จะต้องเป็นผู้ชายคนนั้นด้วย ผู้ชายคนที่เธอรู้สึกหมั่นไส้และเกลียดโกรธกับวาจาสามหาวของเขา คนที่เธอกำลังจะบอกบิดาให้ไล่ไปเสียให้พ้นหน้า แล้ววันนี้เธอก็ต้องมาตกเป็นหนี้บุญคุณของเขาอีก แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี? ที่คิดจะพูดกับคุณดนัให้เขาไปเสียจากเวียงพุกาม มิเป็นอันต้องล้มเลิกหรือชะลอออกไปอย่างนั้นหรือ? วันนี้ตั้งแต่ออกเดินทางจากเวียงพุกามเข้ามาในป่าแห่งนี้ เธอเห็นชายหนุ่มผู้นั้นทำหน้าเฉยๆ ท่าทางเขาดูปกติ เมื่อบังเอิญพบกันเขาก็มองเธอด้วยสายตาที่สุภาพเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิพย์สุรางค์คิดว่าเขาคงลืมไปแล้วว่าพูดจาน่าเกลียดขนาดไหนกับเธอเอาไว้ ในขณะที่เธอยังรู้สึกโกรธและอดสูกับข้อกล่าวหาของเขา ถึงเขาจะแก้ตัวว่าเป็นข้อหาปลอมๆเพื่อสั่งสอนเธอก็เถอะ หญิงสาวพยายามลืมคำพูดของเคนที่บอกว่าเขาไม่คิดพิศวาสเธอหรอก แต่ก็ลืมไม่ลงเพราะมันเข้าไปกระตุ้นเธอให้โกรธ เมื่อรู้สึกว่าความเป็นสาวสวยโสภาจับตาผู้ชายทุกคนของเธอ ไม่ได้มีความหมายอะไรในสายตาของเขา ซึ่งก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน เมื่อไม่รู้ว่าจะจัดการกับเคนต่อไปอย่างไรดี ทิพย์สุรางค์ก็ทำได้แต่เพียงบอกตัวเองว่า ‘ฝากเอาไว้ก่อนเถิด มีโอกาสเมื่อไรจะแก้แค้นให้เจ็บเป็นสองเท่าทีเดียว’ สวัสดียามเช้าค่ะ อ่านแล้วฟินเลยค่ะ
โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:10:04:23 น.
|
ดอยสะเก็ด
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]
Group Blog
All Blog
Friends Blog
|
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
มาอ่านตอนใหม่ครับ