|
▶ นั่งรถไฟไปแม่กลอง..
จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม 3 จังหวัดนี้ทำให้คนฟังสับสนมากทีเดียว เพราะมีชื่อขึ้นต้นว่าสมุทรเหมือนกัน ที่สำคัญยังมีชื่อเรียกขานในหมู่ชาวบ้านอีกด้วย อย่างเมืองปากน้ำก็สมุทรปราการ มหาชัยก็สมุทรสาคร และแม่กลองก็สมุทรสงคราม สัปดาห์นี้ผมจะพาไปแม่กลองอีกครั้ง เนื่องจากไปแล้วไม่สึกรู้เบื่อ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นๆของภาคกลาง
คำขวัญของจังหวัดสมุทรสงครามคือ “เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม” จึงทำให้อาหารการกินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ จากกรุงเทพฯไปสมุทรสงครามไปได้ 2 ทางคือ ทางรถไฟกับทางรถยนต์ ซึ่งการเดินทางทางรถไฟค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องนั่ง 2 ช่วงคือ จากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ถึงสถานีมหาชัย จากนั้นลงเรือข้ามแม่น้ำท่าจีนไปต่อรถไฟที่สถานีบ้านแหลม มุ่งหน้าสู่สถานีแม่กลอง รวมระยะทาง 66 กิโลเมตร
แม่ค้าและนักเรียนมักโดยสารรถไฟในเวลาเช้าตรู่ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ทุกตู้จะเต็มไปด้วยพืชผัก ผลไม้ อาหารทะเล ซึ่งแม่ค้านำไปขายที่ตลาดในกรุงเทพฯ นอกจากนี้เสียงวิ่งของรถไฟยังมีเสน่ห์บอกไม่ถูก ทิวทัศน์ 2 ข้างทางเป็นนาเกลือสีขาวโพลน บางแห่งกำลังกวาดมากองรวมกันเป็นรูปพีระมิดเพื่อรอบรรจุถุง
รถไฟสายแม่กลองยังผ่านป่าชายเลน นากุ้ง และชุมชนทางรถไฟ เด็กหลายคนเมื่อรถไฟวิ่งผ่านก็โบกไม้โบกมือทักทายคนบนรถไฟ
เมื่อถึงสถานีปลายทางแม่กลอง แม่ค้า 2 ข้างทางจะพากันหุบร่ม เมื่อรถไฟจอดสนิทก็กางร่มขายสินค้าเช่นเดิม ตลาดนี้มีชื่อว่า ตลาดร่มหุบ หรือตลาดเสี่ยงตาย เป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาลจังหวัดสมุทรสงคราม เริ่มเปิดขายเมื่อปี 2527 โดยพ่อค้านำสินค้ามาตั้งแผงตาม 2 ข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนนเพื่อจับจ่ายซื้อของ เมื่อรถไฟวิ่งผ่านพ่อค้าแม่ค้าตะพากันหุบร่มเพื่อไม่ให้ขวางทาง ถือเป็นวัฒนธรรมการขายที่น่าตื่นเต้นและเสี่ยงตายมากเลยทีเดียว
หลายคนเที่ยวตลาดร่มหุบมักซื้อปลาทูกลับบ้าน เพราะปลาทูเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองแม่กลอง คือปลาทูหน้างอ คอหัก ซึ่งต้องบอกว่าอร่อยมากและราคาไม่แพง
จังหวัดสมุทรสงครามมีพื้นที่เล็กที่สุดของประเทศ คือประมาณ 416.7 ตารางกิโลเมตร ทั้งยังมีจำนวนประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ นับเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ มีชายฝั่งทะเลติดอ่าวไทยยาวประมาณ 23 กิโลเมตร และมีภูเขา 1 ลูก (เขายี่สาร)
แม่กลองมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริง สูงประมาณ 167 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าสร้างในมัยสุโขทัย-อยุธยาตอนต้น หลวงพ่อบ้านแหลมนั้นเป็นพระพุทธรูปที่ถูกค้นพบในลำน้ำแม่กลอง ดังตำนานเล่าว่า ชาวประมงได้ลากอวนและพบพระพุทธรูป 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งได้อัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดเก่าแก่ในเมืองแม่กลองที่ชื่อว่าวัดศรีจำปา ต่อมาได้ชื่อว่าวัดบ้านแหลม ทำให้ชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่าหลวงพ่อบ้านแหลมเรื่อยมา ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวแม่กลองแล้ว ยังเป็นที่เคารพสักการะอย่างกว้างขวางของชาวไทยทุกสารทิศ จนมีคำกล่าวว่าหากไม่ได้มานมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลมก็เสมือนมาไม่ถึงเมืองสมุทรสงคราม
หมายเหตุ-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำโครงการ “เสน่ห์ไทย (The Charms of Thailand)” เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกส่งคลิปวิดีโอหรือภาพถ่ายเข้ามาประกวด โดยมีหัวข้อในการประกวด 4 หัวข้อ ได้แก่ ยิ้ม (ยิ้มสยาม) ไหว้ รำไทย และพับเพียบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ผู้สนใจส่งคลิปวิดีโอหรือภาพถ่ายเข้าประกวดต้องเข้าไปลงทะเบียนที่เว็บไซต์ //www.TourismThailand.org/TheCharmsOfThailand ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 มีนาคม 2555
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 13 ฉบับที่ 3236 ประจำวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 คอลัมน์ เที่ยวสบาย โดย วรพจน์
credit : dailyworldtodaynews
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2555 15:05:51 น. |
Counter : 1322 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |