|
▷▷นั่งรถไฟฟ้าตะลุยป่าคอนกรีต ชมสวนนานาชาติในเมืองกรุง ◁◁
▷▷นั่งรถไฟฟ้าตะลุยป่าคอนกรีต ชมสวนนานาชาติในเมืองกรุง ◁◁
บ่ายวันอาทิตย์ สำหรับใครหลายคนอาจอยากนึกฮัมเพลง The Lazy Song ของบรูโน่ มาร์ส พร้อมนอนเอกเขนกเอนกายอยู่กับบ้านมากกว่าจะเลือกออกมาเผชิญแดดจ้าและอากาศที่แปรปรวน แต่สุดท้ายกลับตัดสินใจก้าวขึ้นรถไฟฟ้า BTS มุ่งหน้าสู่สวนเบญจสิริ
เพราะนี่คือโอกาสท้ายสุดของการเที่ยวชมงาน "สัปดาห์เมืองพี่เมืองน้อง" (Bangkok Sister Cities Week 2012) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้แนวคิด "Urban Rehabilitation & Renewal" เพื่อฟื้นฟูและเยียวยาเมือง ภายหลังวิกฤตภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯเริ่มมีญาติพี่น้องเพิ่มขึ้น ทุกปี ปัจจุบันได้สถาปนาความสัมพันธ์ในฐานะเมืองพี่เมืองน้องกับ 18 เมือง จากทั้งหมด 13 ประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองให้ใกล้ชิด โดยเฉพาะระดับประชาชนต่อประชาชนด้วยกัน ได้แก่ วอชิงตัน ดี.ซี. (อเมริกา), ปักกิ่ง (จีน), มอสโก (รัสเซีย), เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย), บูดาเปสต์ (ฮังการี), บริสเบน (ออสเตรเลีย), มะนิลา (ฟิลิปปินส์), ฮานอย (เวียดนาม), จาการ์ตา (อินโดนีเซีย), เวียงจันทน์ (ลาว), อัสตานา (คาซัคสถาน), แต้จิ๋ว (จีน), ฟูกูโอกะ (ญี่ปุ่น), โซล (เกาหลี), กว่างโจว (จีน), โลซานน์ (สวิตเซอร์แลนด์), ปูซาน (เกาหลี) และฉงชิ่ง (จีน)
ในปีนี้ทางกรุงเทพมหานครจึงได้มีการจำลองสวนในสไตล์เอกลักษณ์ของแต่ละเมืองมาจัดแสดงที่สวนเบญจสิริ มีหลายเมืองที่เข้าร่วม เช่น สวนจากญี่ปุ่น สวนเมืองจีน แต่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดน่าจะเป็นสวนดอกไม้สไตล์โปร่งโล่งสบายจากบูดาเปสต์ของฮังการี ที่มีผู้คนแวะเวียนเข้าไปชมอย่างไม่ขาดสาย
สร้างบรรยากาศให้สวนสาธารณะคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมา ผสมผสานเคล้าคลอด้วยเสียงเพลงฝรั่งเบา ๆ ที่ฟังคุ้นหู อาจพอจะคลายไอร้อนจากแสงแดดได้ไม่มากก็น้อย ทั้งชาวไทยและชาวเทศ บ้างก็มาเป็นคู่รัก ครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ต่างสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเดินเข้า-ออกจากสวนตะวันออกไปตะวันตก สลับสับเปลี่ยนกันไม่รู้จักเบื่อ และมีมุมให้เก็บภาพเป็นที่ระลึกอีกด้วย
เมื่อเดินชมสวนจนอิ่มเอมแล้ว ก็เดินชมบูทที่ทางสถานทูตต่าง ๆ พากันนำสินค้าและอาหารประจำชาติมาให้ชาวกรุงเทพฯได้ลิ้มลองกันทั่วงาน
เริ่มต้นด้วยซุ้มที่ผู้คนรุมล้อมต่อแถวยาวที่สุดคือ อาหารจากเปรู เสียง เจ้าหน้าที่สถานทูตที่ผันตัวมาเป็นแม่ค้า จำเป็นชั่วคราวกำลังชักชวนให้ลองลิ้มรสอาหารที่หารับประทานยากมากในเมืองไทย เช่น จานที่มีชื่อว่า Seco de Cordero ดูเผิน ๆ คล้ายกับแกงมัสมั่น ของไทย แต่วัตถุดิบทุกอย่างต้องตุ๋นด้วยซอสพริกพิเศษของเปรู รสชาติจะออกเผ็ดนิด ๆ ไม่ได้จัดจ้านเหมือนของไทย
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจจนหลายคนเอ่ยปากถามคือ น้ำข้าวโพดสีม่วง ซึ่งเป็นข้าวโพดพันธุ์พิเศษที่สงวนลิขสิทธิ์ ปลูกได้เฉพาะในเขตเปรูเท่านั้น เรียกว่า ชิชิโมราด้า (Chichi Morada) มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ การพิสูจน์ด้วยสายตาอาจไม่เพียงพอ คงต้องใจกล้าชิมสักแก้ว หากไม่บอกก่อนว่านี่คือน้ำข้าวโพด ก็คงนึกว่าเป็นน้ำ ลูกพรุนหรือน้ำองุ่นเป็นแน่
เดินถัดมาจะพบกับสลัดผักที่มีชื่อว่า Gado-gado เป็นอาหารประจำชาติของอินโดนีเซีย ความแปลกอยู่ที่น้ำสลัดซึ่งทำจากซอสถั่วบดรสออกเผ็ดหน่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีกิมจิแท้ส่งตรงจากเกาหลี อาหารสไตล์เยอรมัน และสินค้าพื้นเมืองจากหลายประเทศ
ระหว่างที่เดินเตร็ดเตร่ หันมาสะดุดตากับหญิงสาวหน้าตาคิขุในชุดกิโมโนด้วยท่าทางที่กำลังเชื้อชวนให้ลองชิมสตรอว์เบอรี่สีแดงสดลูกใหญ่ พร้อมกับถามว่าสนใจให้เธอวาดภาพดูไหม เหมือนต้องมนต์สะกด ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตัดสินใจลงไปนั่งให้เธอวาดภาพแต่โดยดี
ห้วงที่มือของเธอขีดเขียนภาพอย่างเป็นธรรมชาติ ประกอบกับการพูดคุยอย่างเป็นกันเองด้วยภาษาญี่ปุ่นผ่านการสื่อความโดยล่าม ทำให้ผู้ที่ไม่เคยชินกับการนั่งนิ่ง ๆ กลับรู้สึกผ่อนคลายและไม่นั่งตัวแข็งทื่อจนเกินไป ด้วยรอยยิ้มและใบหน้าของเธอทำให้ช่วงเวลาการวาดภาพผ่านไปไว
เสร็จสิ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที พร้อมกับควักเงิน 300 บาท เพื่อแลกกับภาพวาดสีสันสดใสแบบฉบับการ์ตูนญี่ปุ่นมาครอบครอง
กว่าจะเดินออกจากสวนเบญจสิริพระอาทิตย์ก็คล้อยต่ำ ลับมุมตึก ส่งสัญญาณบอกลาขอบฟ้า เป็นเวลาเริ่มต้นของแสง สี เสียงจำลองสาดส่องในเวลาค่ำคืนบนเวทีการแสดง ผู้ชอบสีสันยามค่ำคืนต่างทยอยเดินเข้างาน สวนทางกับผู้เขียนที่หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังก้าวออกจากงาน และมุ่งหน้าสู่ถนนสุขุมวิทอันจอแจและวุ่นวายเหมือนเช่นเคย
คลิกชมอ่านและชมภาพต่อ...ที่นี่ขอรับ
credit : prachachatnews
| Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
0 comments |
| Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2555 6:57:43 น. |
| Counter : 2313 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [