วัฒนธรรมไทยวน อ.เสาไห้
ที่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี มีเรือนไม้หลังใหญ่ยกพื้นสูง ใต้ถุนบ้านเป็นสถานที่แสดงเครื่องตำข้าวและเครื่องมือทอผ้าแบบโบราณมากมาย ที่นี่คือ หอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี ของหมู่บ้านไทยวน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยวนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดสระบุรีเมื่อ 200 กว่าปีก่อน ปัจจุบันชาวไทยวนยังคงรักษาวัฒนธรรมของตัวเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ให้วัฒนธรรมสมัยใหม่มากลืนกิน
โดยมีอาจารย์ทรงชัย วรรณกุล เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการก่อตั้งชมรมไทยวนสระบุรี รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวนเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและนำไปสานต่อ
การตั้งหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวนมาจากแนวความคิด 3 ส. คือ 1.สืบสาวเรื่องราวความเป็นมา 2.สานต่อวัฒนธรรมให้คงไว้ และ 3.เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชนไทยวนด้วยกัน
อาจารย์ทรงชัยบอกว่า จริงๆแล้วชุมชนไทยวนที่ตั้งรกรากอยู่ในอำเภอเสาไห้และอีกหลายอำเภอในจังหวัดสระบุรี หรือแม้กระทั่งชาวไทยวนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดราชบุรี จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ที่ยังมีชีวิตอยู่และจากพงศาวดารต่างๆเชื่อได้ว่าแท้จริงแล้วชาวไทยวนไม่ได้เป็นชนพื้นเมืองของจังหวัดสระบุรีหรือราชบุรี แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากไทโยนก หรือคนไทยเมืองเหนือ หรือไทยล้านนา ไม่ใช่ญวน (เวียดนาม) ที่หลายคนเข้าใจกัน
เดิมทีชาวไทยวนมีถิ่นฐานอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงตรงที่เรียกว่าเมืองหรือเวียงโยนก คำว่าโยนกเป็นภาษาบาลี มาจากคำว่ายะนะ หรือเยนะ ฉะนั้นคนไทที่อาศัยอยู่ในเมืองโยนกจึงเรียกตัวเองว่าไทโยนก หรือไทโยนะกะ หรือไทยวน เมืองโยนกในปัจจุบันคือเมืองเชียงแสนในจังหวัดเชียงราย ซึ่งนับได้ว่าเป็นถิ่นกำเนิดของชาวไทยวนทั้งหมด แต่ต่อมาได้อพยพไปอยู่ตามภาคเหนือของไทย บ้างก็ถูกพม่าจับเป็นเชลย พอถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้พระยายมราชยกทัพหลวงไปร่วมกับหัวเมืองฝ่ายเหนือเพื่อกวาดล้างพม่าที่ยึดครองเมืองเชียงแสนอยู่ในขณะนั้นให้สิ้นซาก
หลังจากตีเมืองเชียงแสนได้สำเร็จแล้วจึงเผาป้อมปราการและกำแพงเมืองทิ้ง พร้อมกับกวาดต้อนผู้คนที่พม่าจับไว้เป็นเชลย ซึ่งก็คือชาวไทยวนจำนวนกว่า 20,000 คนลงมาด้วย ในระหว่างนั้นชาวไทยวนบางกลุ่มขอไปตั้งถิ่นฐานใหม่อยู่ที่เชียงใหม่ น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ เช่น ไทยวนที่อำเภอลับแล ท่าปลา ตรอน เป็นต้น ส่วนที่อพยพลงมาทางใต้ตามทัพหลวงซึ่งนำโดยพระยายมราชก็เลือกมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ลุ่มแม่น้ำป่าสักในเขตอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี และอีกส่วนหนึ่งไปถึงจังหวัดราชบุรี
สำหรับชาวไทยวนที่อำเภอเสาไห้นั้นสืบเชื้อสายกันมากว่า 5 ชั่วคน และกระจายกันอยู่ตามอำเภอต่างๆของสระบุรี
ทั้งนี้ บทบาทสำคัญของหอวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยวน สระบุรี นอกจากใช้เป็นสถานที่ศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวไทยวนแล้ว ยังใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรม สัมมนา หรือจัดเลี้ยงแบบวัฒนธรรมล้านนา มีการกินข้าวแลงขันโตก ชมการฟ้อนรำอันสวยงามของเด็กๆ เรียกว่าไม่ต้องไปไกลถึงล้านนาก็สามารถสัมผัสบรรยากาศแบบเดียวกันได้ที่นี่
นอกจากนั้นอาจารย์ทรงชัยยังเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ (Home Stay) ให้คนที่สนใจได้พักค้างแรม และผัสวิถีชีวิตการอยู่อาศัยแบบชาวไทยวนแท้ๆอีกด้วย
หมายเหตุ : ท่านใดที่ต้องการพักค้างแรมแบบโฮมสเตย์ที่บ้านไทยวนควรจองไว้ล่วงหน้าก่อน ติดต่อสำรองที่พักได้ที่หมายเลข 0-3672-5224
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 13 ฉบับที่ 3204 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ.2555 คอลัมน์ วัฒนธรรมบ้านเรา โดย กรวี
credit : dailyworld
Create Date : 13 มกราคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 13 มกราคม 2555 19:02:05 น. |
Counter : 2228 Pageviews. |
|
|
|