- นอนร้อง แอะๆๆ แอะๆๆ ไม่เสียงดังแต่ร้องบ่อยร้องเรื่อยๆ
- นอนบิดตัวเหยียดแขนเหยียดขา ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดๆ คล้ายเสียงประตูไม่หยอดน้ำมัน
- เสียงครืดคราดในคอ คล้ายเสมหะในคอ เนื่องจากนมล้นขึ้นมาที่คอหอยแล้ว ทำท่าจะอวกไม่อวก
- อาการแหวะนมหรืออาเจียนนมออกมา ทางปากหรือจมูก
- ท้องป่อง พุงกาง ตลอดเวลา ไม่เคยเห็นพุงแฟบเลย

หากลูกน้อยของผู้ใดมีอาการดังกล่าว และพบว่าน้ำหนักขึ้นเกิน 35 กรัมต่อวัน หรือ เกิน 1 กิโลกรัมต่อเดือน บางคนเข้าใจผิดว่าทารกควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเดือนละกิโล โปรดเข้าใจใหม่นั่นคือลูกกิน
มากเกินไปแล้ว จนทำให้อึดอัด ปวดท้อง โยเย ร้องไห้กวน หากน้ำหนักขึ้นปกติ จะขึ้นตามเกณฑ์ดังนี้
- 600-900 กรัมต่อเดือนในช่วงอายุ 0-3 เดือน
- 450-600 กรัมต่อเดือนในช่วงอายุ 4-6 เดือน
- 300 กรัมต่อเดือนในช่วงอายุ 7-12 เดือน

การที่น้ำหนักเพิ่มมากจากการกินนมแม่ หรือ overfeeding จากนมแม่ ไม่อันตราย แต่อย่างใดเพราะโตขึ้นหุ่นจะผอมเพรียวได้เอง แต่หากมีการอาเจียนบ่อยก็ไม่ดีเพราะจะทำให้กรดจากกระเพาะอาหารย้อนออกมาทำให้หลอดอาหารเป็นแผลได้ ดังนั้น การคุมสถานการณ์การกิน ไม่ให้กินมากเกินไปได้ก็ควรทำ วิธีคุมไม่ให้ลูกกินมากเกิน ไป คือ ให้ประเมินว่าลูกอึครบ 2 ครั้ง โดยที่แต่ละครั้งมีปริมาณอึ กว้างเท่ากับแกนของม้วนกระดาษชำระ คือ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 ซม. หรือจำนวนฉี่ครบ 6 ครั้ง ในหนึ่งวัน (24 ชม.) ลูกพุงกางเป็นน้ำเต้าแล้ว ลูกสะอึกบ่อยแล้ว หากลูกร้องทุกครั้งให้ประเมินดูสถานการณ์เหล่านี้ ถ้าพบว่าได้รับนมเข้าไปมากพอแล้ว ให้ใช้วิธีเบี่ยงเบน โดยอุ้มลูก เคลื่อนไหวไป-มา ใช้เปลไกว ใช้จุกหลอกได้ทั้งสิ้น ไม่ต้องกลัวติดมือ ติดเปล ติดจุกหลอก เพราะเราจะใช้แค่ช่วงเวลา 3-4 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกปรับตัวกับโลกใบใหม่อยู่ หลังจากนั้นลูกจะเลี้ยงง่าย ขึ้นและตะกละน้อยลง เราก็เลิกใช้ ให้เบี่ยงเบนโดยเล่นกับลูก สุดท้ายจริงๆ หากลูกต้องการดูดเต้าให้ได้ ก็ต้องปั๊มนมออกก่อน เพื่อจะได้ไม่ได้รับปริมาณนมเข้าไปมากเกินไป แต่เป็นการดูดเพื่อความพึงพอใจ

คนเป็นพ่อแม่นี่ลำบากนะครับ ลูกกินน้อยก็ไม่ดี กินมากก็ไม่ดี การปรับตัวของลูกช่วงแรก เป็นช่วงวัดใจกันเลยทีเดียว ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้แม่พ่อแม่ใหม่นะครับ มีความสุขกับการเลี้ยงลูกมากๆ

Power by I9 เว็บเพื่อสุขภาพแม่และเด็ก