เรื่องของ " Nipple จุกนม"
เรื่องควรรู้ของ “จุกนมยาง” , เลือกจุกนมให้เหมาะกับเจ้าตัวเล็ก , ขนาด “จุกนม” แบบไหนใช่เลย , สัญญาณเตือนจุกนมเสื่อม , ความสะอาดสำคัญสุดสุด
เรื่องควรรู้ของ “จุกนมยาง”
เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนก็อยากจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งนั้น เพราะนมแม่มีประโยชน์กว่าอาหารอื่นในในโลกของเจ้าตัวเล็ก
แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างทำให้แม่ ๆ อย่างเราไม่สามารถให้นมลูกด้วยตัวเองได้ อันนี้ก็พอจะเข้าใจอยู่ค่ะ เลยอาสามาเป็นผู้ช่วยพ่อแม่มือใหม่ ในการเลือกซื้อจุกนมอีกแรง เพราะจุกนมเป็นส่วนสำคัญในการลำเลียงน้ำนมมาสู่ลูกน้อย และก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับพ่อแม่มือใหม่ เต่อย่าเพิ่งกังวลค่ะ ตามยาหยีมาก่อนแล้วจะรู้ว่าเรื่องจุกนมไม่ยากและไม่ยุ่งอย่างที่คิดหรอก....
จุกนมไม่เหมือนหัวนมแม่นะคะที่ไม่เสื่อมสภาพและ ไม่มีอันตรายถึงเชียร์นักเชียร์หนา ให้เจ้าตัวเล็กได้หม่ำนมจากอก (แม่) ดีที่สุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่แล้วละก็ต้องรู้วิธีเลือก วิธีใช้กันหน่อยค่ะ
เลือกจุกนมให้เหมาะกับเจ้าตัวเล็ก
จุกนมที่มีขายอยู่ทั่วไปนั้นทำมาจากวัสดุ 2 ชนิดค่ะคือยางพาราและซิลิโคน ซึ่งทั้งสองชนิดก็มีข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป จุกนมที่ทำจากยางพาราจะเป็นสีน้ำตาล มีความนิ่มมากกว่าจุกนมที่ทำจากซิลิโคนซึ่งเป็นสีขาวใส แต่ความคงทนและอายุการใช้งานจะน้อยกว่าแบบซิลิโคน
ขนาด “จุกนม” แบบไหนใช่เลย
รูจุกนมมีอยู่ 3 ขนาดคือ S M L (ระบุข้างกล่อง) ในเด็กแรกเกิดควรใช้ขนาด S ก่อนนะคะ เพราะเด็กจะดูดได้ช้าและน้อย เนื่องจากกล้ามเนื้อในช่องปากและระบบการกลืนยังไม่ค่อยมีแรง ถ้ารูกว้างไปจะทำให้เด็กสำลักได้ค่ะ เมื่อลูกเราโตขึ้น ดูดนมได้มากขึ้นก็ค่อยเปลี่ยนขนาดให้ใหญ่ขึ้น
แต่อาจมีบ้างที่จุกนมไม่พอดีสำหรับลูกเรา ต้องไม่ลืมนะคะว่าเด็กแต่ละคนมีน้ำหนักตัวต่างกัน เรี่ยวแรงที่จะใช้ในการดูดนมก็ต่างกัน คุณแม่ต้องคอยสังเกตดูด้วยค่ะ ถ้าเมื่อไรที่ลูกดูดนมไปได้สักพักแล้วร้องโยเย หรือดูดไปได้หน่อยเดียวก็หอบเหนื่อยหลับไปไม่นานก็ตื่นเพราะหิว นั่นอาจจะเป็นเพราะว่ารูจุกนมเล็กเกินไป คุณแม่ต้องเจาะรูให้ใหญ่ขึ้นโดยใช้เข็มเย็บผ้าที่ฆ่าเชื้อแล้ว
สัญญาณเตือนจุกนมเสื่อม
จุกนมที่เราใช้นั้นจะมีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับชนิดและการใช้งานของเรา เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องหมั่นตรวจดูทุก 2-3 เดือน ถ้าจุกนมมีอาการแบบนี้... ควรเปลี่ยนได้แล้วค่ะ....
1. น้ำนมไหลออกมาเป็นสาย หรือไหลออกมาไม่สม่ำเสมอปกติแล้วน้ำนมจะไหลออกมาเป็นหยด ถ้าเมื่อไหร่ที่ไหลออกมาเป็นสายล่ะก็ แสดงว่าจุกนมเสื่อสภาพ เพราะรูจุกนมนั้นใหญ่เกินไป 2. จุกยางเสื่อม เมื่อใช้ไปนาน ๆ หรือผ่านการต้มฆ่าเชื้อโรคบ่อย ๆ ยางจะบางลงและเสียรูปทรง เรามีวิธีทดสอบคุณภาพยางง่าย ๆ ค่ะ โดยการดึงจุกนม ออกมาตรง ๆ แล้วก็ปล่อย ถ้าจุกนมหดกลับสู่สภาพเดิมก็แสดงว่ายังใช้ได้ แต่ถ้าไม่กลับไปอยู่ในรูปเดิม เปลี่ยนใหม่เถอะค่ะ 3. สังเกตสีนะคะ เมื่อไรที่สีซีดลง จุกนมบวม เนื้อยางบวมนิ่ม เวลาที่ลูกดูดจุกจะแบนจนน้ำนมไม่ไหล แสดงว่าเสื่อมสภาพแล้วค่ะ 4. ข้อสุดท้าย ถ้าเมื่อไรที่จุกนมมียางแตกหรือขาด ต้องเลิกใช้ทันทีค่ะ เพราะอาจจะมีเศษยางหลุดปนเข้าไปในปากขณะที่ลูกดูดนม เศษยางอาจจะไปติดหลอดลม เกิดอันตรายได้ค่ะ
ความสะอาดสำคัญสุดสุด
เมื่อลูกดูดนมเสร็จอย่าปล่อยจุกนมทิ้งไว้นะคะ ควรรีบนำไปแช่น้ำอุ่นแล้วก็ใช้แปรงล้างขจัดคราบนมออกให้หมด อาจจะใช้เกลือป่นช่วยถูด้านในของหัวนมยางเพื่อล้างคราบนม เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน จะทำให้ล้างออกยากและ อาจทำให้จุกนมตันเพราะคราบนมไปอุดอยู่ค่ะ เมื่อล้างเสร็จแล้วก็นำไปฆ่าเชื้อโรคโดยอาจจะเลือกใช้วิธี....
1. ต้มในน้ำเดือดใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีนะคะ ไม่ควรต้มนานเกินไปเพราะจะทำให้หัวนมเปื่อยเร็วค่ะ แต่ถ้าเราต้มรวมกับอุปกรณ์ให้นมชนิดอื่นด้วยก็จะใช้เวลาประมาณ 25 นาที 2. ใช้เครื่องนึ่งไอน้ำไฟฟ้า วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะขวดนมและจุกนมเท่านั้นนะคะ อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนนำมานึ่งด้วย 3. ใช้ยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาด 4. อ้อ....อีกขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ และห้ามลืมเด็ดขาดคือ ล้างมือทุกครั้งก่อนหยิบจับอุปกรณ์ของเจ้าตัวเล็กนะคะ
เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายก็กลายเป็นมือโปรได้อย่างไม่ยากเย็นแล้วละ
 ที่มา : นิตยสารรักลูกฉบับประจำเดือน กรกฎาคม 2546
Create Date : 13 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 12:23:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1680 Pageviews. |
 |
|
|
|
|