พบกับ ซาราห์ แอนเดอร์สัน เจ้าของร้านหนังสือ The Travel Bookshop จากหนังเรื่อง Notting HIll






วันก่อน TCDC อีเมล์ข่าวกิจกรรมมาให้ จขบ.เห็นว่าอันนี้น่าสนใจมาก เลยเอาข่าวมาเล่าต่อ

เสวนา ทำสิ่งที่รักให้กลายเป็นธุรกิจทำเงิน: ที่มาของร้านหนังสือสุดเก๋ในภาพยนตร์เรื่องนอตติ้ง ฮิลล์โดย ซาราห์ แอนเดอร์สัน เจ้าของร้าน The Travel Bookshop ในนอตติ้ง ฮิลล์

เวลา 29 มกราคม 2549 | 14:00-16:00
สถานที่ ห้องออดิทอเรียม, TCDC
ชั้น 6 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม
เสวนาเป็นภาษาอังกฤษ

ภาพยนตร์เรื่องนอตติ้ง ฮิลล์อาจทำให้คนทั้งโลกจดจำฮิวจ์ แกรนต์ในฐานะเจ้าของร้านหนังสือ และจูเลีย โรเบิร์ตส์ในบทดาราที่มีชื่อเสียง แต่มีอยู่คนหนึ่งที่คุณอาจลืมเธอไป… ซาราห์ แอนเดอร์สัน เจ้าของ The Travel Bookshop ร้านหนังสือเปี่ยมเสน่ห์ในย่านนอตติ้ง ฮิลล์ ซึ่งจุดประกายให้ริชาร์ด เคอร์ทิส สร้างสรรค์บทภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องนอตติ้ง ฮิลล์จนได้รับการขนานนามให้เป็นภาพยนตร์รักแห่งปี 1999 ซาราห์ แอนเดอร์สันได้ริเริ่มThe Travel Bookshop โดยอาศัยความรักในตัวหนังสือและการเดินทางเป็นทุนในการตั้งต้นธุรกิจ ด้วยระยะเวลาเกือบสามทศวรรษที่ร้านหนังสือเดินทางเล็กๆ แห่งนี้ได้ ยืนหยัด อยู่ในย่านนอตติ้ง ฮิลล์ ใครจะรู้ว่าเธอเคยต้อง ปวดหัว กับการจัดซื้อหนังสือมาขึ้นให้เต็มชั้น เพราะในต้นยุค 80 หนังสือเดินทางยังเป็นสิ่งที่นักอ่านในยุคนั้นไม่คุ้นเคย แต่มาวันนี้ The Travel Bookshop เป็นร้านหนังสือเดินทางเพียงหนึ่งเดียวในย่านนอตติ้ง ฮิลล์ที่อัดแน่นไปด้วยวรรณกรรมการเดินทาง หนังสือพาเที่ยว และแผนที่ และยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนนอตติ้ง ฮิลล์

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ได้เล็งเห็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ ซาราห์ แอนเดอร์สัน เจ้าของร้าน The Travel Bookshop สามารถดำเนินธุรกิจร้านหนังสือให้อยู่รอดท่ามกลางการรุกตลาดของค่ายร้านหนังสือทุนหนา นั่นคือความหลงใหลในสิ่งที่เธอทำ โดยครั้งนี้ซาราห์ แอนเดอร์สันจะมาเปิดเผยที่มาของความสำเร็จ ตั้งแต่ประสบการณ์ก่อนหน้าที่เธอจะเปิดร้านหนังสือ การบริหารจัดการหนังสือในร้าน กลุ่มลูกค้า ตลอดจนผลกระทบที่มีต่อร้านและย่านนอตติ้ง ฮิลล์ ภายหลังจากภาพยนตร์เรื่องนอตติ้ง ฮิลล์ที่มีดาราแม่เหล็กอย่างฮิวจ์ แกรนต์และจูเลีย โรเบิร์ตส์ออกฉาย นอกจากนี้แอนเดอร์สันจะร่วมแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางในช่วงปีที่ผ่านมาของเธอ รวมถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเธอจึงคิดว่า การอ่านช่วยให้การเดินทางมีรสชาติและสวยงามยิ่งขึ้น

จริง ๆ กรุงเทพก็มีร้านหนังสือ ที่มีคอนเซ็ปต์แบบร้าน The Travel Bookshop ชื่อ ร้านหนังสือเดินทาง เคยอยู่ที่ถนนพระอาทิตย์ แต่ตอนนี้ร้านกำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงมาเปิดร้านใหม่บริเวณย่านผ่านฟ้า ร้านหนังสือเดินทางจะเปิดอีกครั้งประมาณเดือนพฤษภาคม ร้านเปิดเมื่อไหร่ จขบ.ไม่พลาดที่จะนำข่าวมาบอกอยู่แล้วค่ะ

กลับมาเรื่องเสวนา จขบ.สนใจประเด็นเรื่องการอยู่รอดทางธุรกิจท่ามกลาง คู่ต่อสู้ที่ทุนหนา (อาจคล้ายๆ ประเด็นที่จขบ.กำลังประสบอยู่ ) แต่ชอบที่ข่าวบอกว่า หนทางอยู่รอดคือ หลงใหล ในสิ่งที่เราทำ จขบ.เลยจะไปฟังเพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาจากการงานของตัวเองต่อไป

ข่าวข้างบน เอามาจากเว็บไซด์ของ TCDC นะคะ ใครสนใจงานกิจกรรมของ TCDC เข้าไปดูได้ที่เว็ปไซด์ ของ TCDC ที่นี่ //www.tcdc.or.th/
เคยเขียนถึงห้องสมุดของ TCDC ไว้ที่นี่ด้วยค่ะ คลิกเลยๆ

มีใครแถวๆ นี้อยากทำร้านหนังสือไหมคะ




 

Create Date : 20 มกราคม 2549   
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 16:41:13 น.   
Counter : 1930 Pageviews.  

พุ่งเข้าสู่หัวใจอย่าง "ธรรมดาและเรียบง่าย" & OST A Love That Will Never Grow Old





ธรรมดาและเรียบง่าย
ซู เบนเดอร์ เขียน
สุภาพร พงศ์พฤกษ์ แปล
ซู และริชาร์ด เบนเดอร์ ภาพประกอบ

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่จขบ.หยิบมาอ่านอยู่เสมอ เป็นหนังสือในดวงใจ เป็นหนังสือที่เอาไว้อ่านเวลาที่ตัวเองอยากรู้สึก "สงบ " อยากรู้สึก "นิ่ง" อ่านในเวลาที่รู้สึกว่าความคิดและหัวใจตัวเองช่างวุ่นวาย

ซู เบนเดอร์ ผู้เขียนเรื่องนี้ เป็นนิวยอร์คเกอร์ ที่มีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเบิร์คเลย์ แคลิฟอร์เนีย เป็นเมียและแม่ของลูกชายสองคน เป็นศิลปินและนักบำบัดผู้มีสองปริญญา จากฮาเวิร์ดแผ่นหนึ่งและเบิร์คเลย์อีกแผ่นหนึ่ง เธอให้คุณค่ากับความสำเร็จ ความเป็นคนพิเศษโดดเด่น ให้คุณค่ากับผลที่จะออกมา

ในโลกที่เธอเติบโต การมีสิ่งให้เลือกมากขึ้น หมายถึงการมีชีวิตที่ดีกว่า เธอต้องการไปเสียทั้งหมด ต้องการประสบการณ์ ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้น ความเย้ายวน สิ่งหลอกล่อทุกทิศทาง เธอเคยเชื่อว่าเธอโชคดีที่มีตัวเลือกมากมาย เธอเคยเชื่อว่าเธออาจใช้ชีวิตแบบนั้นๆ ได้หมด

แต่ มีวัตถุบางชิ้นพุ่งเข้าสู่หัวใจเธอ



มันเป็นผ้าต่อตะเข็บของเก่าแห่งชุมชนอามิช มีลวดลายเป็นรูปทรงเรขาคณิตง่ายๆ มีทั้งรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส สี่เหลี่ยมเปียกปูน สี่เหลี่ยมผืนผ้า มันพูดกับเธอโดยตรง มันรู้บางอย่าง มันพุ่งตรงเข้าสู่หัวใจเธอ อย่าง "เงียบเหมือนฟ้าผ่า"

ในที่สุดเสียงในตัวเธอ ก็บอกว่า ซู ไปเถอะ ไปอยู่กับครอบครัวอามิช



นับตั้งแต่นั้นวิธีคิดของเธอก็เปลี่ยนไป

การติดตาม"หนทางที่มีหัวใจ" ให้บทเรียนแก่เธอมากมาย

" ฉันไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร หากมีใครสักคนถามฉันในงานเลี้ยงว่า "คุณมีอาชีพอะไร" เป็นศิลปิน เป็นนักเขียน เป็นนักบำบัด ภรรยา หรือแม่ ฉันก็จะถูกตัดสินโดยป้ายที่ฉันเลือกติด สำหรับพวกอามิชแล้ว ไม่มีความแตกต่างกัน ไม่มีใครที่จะถูกติดป้ายว่าเป็นแม่ครัว คนเย็บผ้าต่อตะเข็บ หรือแม่บ้าน ความเป็นจริงก็คือว่า การทำตัวให้โดดเด่นออกมา ย่อมเป็นสัญญาณบอกถึงทิฐิมานะผิดๆ

ฉันยังจำได้ถึงคำพูดของมิเรียม แม่บ้านอามิช บอกว่าการทำซุปผักสักหม้อหนึ่ง ย่อมเป็นการไม่ถูกต้องที่หัวแครอท จะพูดว่า ฉันมีรสอร่อยกว่าถั่วลันเตา หรือถั่วลันเตาจะพูดว่าฉันต่งหากที่มีรสชาติอร่อยกว่ากะหล่ำปลี จริงๆ แล้วผักทุกอย่างทำให้ซุปผักอร่อย

หากฉันถามตัวเองว่าตอนที่อายุยี่สิบ สามสิบ หรือสี่สิบ ว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตฉัน ฉันคงบอกว่าการเป็นอิสระและมีทางเลือกมากมาย แต่ก็มีหลายอย่างที่ฉันไม่ได้เลือก ครอบครัวดีและน่ารักที่ฉันได้ถือกำเนิดมา สังคม ศาสนา สภาพเศรษฐกิจของครอบครัว หรือการที่ฉันสูง 175 เซนติเมตร ผมสีน้ำตาล รูปร่างผอม และมีสุขภาพแข็งแรง หรือมีธรรมชาติของการตั้งคำถาม

การได้กลับคืนสู่เรื่องราวในอดีต รู้ว่าฉันมาจากไหน การได้รู้จักและรักพี่ชาย ลูกพี่ลูกน้องของตนเอง รู้ความต้องการในเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี พิธีกรรมต่างๆ เห็นความจำเป็นที่จะต้องกินอาหารมื้อเย็นในวันเทศกาลขอบคุณพระเจ้ากับครอบครัวทุกปีเป็นประจำมาสามสิบปีแล้ว หรือการที่ฉันเป็นคนกระตือรือร้น แข็งขันที่จะมีส่วนร่วมในวัฒนธรรม มองความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสวยงามอยู่เสมอนั้น ทั้งหมดนี่คือตัวฉัน

"หลักการแรก ของ นักสู้ คือ ต้องไม่กลัวว่าเขาเป็นใคร " ประมุขของชาวทิเบตผู้ชาญฉลาดพูดไว้ ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด

ฉันมีทางเลือกอื่น คือการยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่ได้เลือก ฉันอาจตั้งความปรารถนาที่จะมีธรรมชาติอันสงบศานติในตัวฉัน และอื่นๆ อีกนานาประการเป็นบัญชีหางว่าว แต่ท้ายที่สุดก็คือช่องว่างน้อยๆ ที่อยู่ระหว่างสิ่งฉันได้รับการหยิบยื่น

ในพื้นที่น้อยๆ นั่นคือเสรีภาพ


ป.ล. 1. "ฉัน" ในประโยคที่ยกมาคือ ซู เบนเดอร์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้

ป.ล. 2. อามิชเป็นกลุ่มชนทางศาสนากลุ่มหนึ่งที่อพยพมาจากยุโรป คนกลุ่มนี้มีวิถีชีวิตแบบชนบทดั้งเดิม ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ผู้ชายสวมหมวกปีกกว้าง ใส่ชุดสูทดำ และไว้เคราเมื่อแต่งงานแล้ว ผู้หญิงจะใช้ผ้าคลุมศีรษะ สวมกระโปรงยาวครึ่งแข้งหรือถึงตาตุ่ม สำหรับอามิชแล้ว เสื้อผ้าไม่ได้เป็นเพียงเครื่องนุ่งห่ม แต่สะท้อนถึงศรัทธาของพวกเขา อามิชไม่ได้ปฏิเสธความทันสมัย แต่จะรับไว้เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อามิชกระจายกันอยู่ใน 22 รัฐ ทั่วสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง รัฐออนแทรีโอ ในแคนาดา โดยกลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ที่แลงแคสเตอร์ เพนซิลเวเนีย
(คำอธิบายชุมชนอามิช นี้มาจาก บทความ Amish in the City โดย รุ่งมณี เมฆโสภณ คอลัมน์ รุ่งมณีฟรีสไตล์ จากเว็บไซด์ ผู้จัดการออนไลน์ 5 สิงหาคม 2547 คุณ รุ่งมณี เป็นคอมลัมนิสต์คนโปรดของ จขบ.คนหนึ่ง )



เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลลูกโลกทองคำ
A Love That Will Never Grow Old ร้องโดย Emmylou Harris เพลงจากหนังเรื่อง Brokeback Mountain พึ่งมีการประกาศผลรางวัลไปเมื่อเช้านี้ จขบ.รู้สึกว่าเพลงนี้เข้ากับเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ดี เลยมั่วนิ่มเอาเพลงมาใส่เสียเลย




 

Create Date : 17 มกราคม 2549   
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 16:42:16 น.   
Counter : 3121 Pageviews.  

Walking Stories : แล้วเราก็เดินไปพร้อมความขอบคุณ






สมคิด เปี่ยมปิยะชาติ : ภาพ
รวมนักเขียน : เรื่อง









ใครที่คิดถึงนิตยสาร Summer ต้องไม่พลาดหนังสือเล่มนี้ Walking stories ทีมงานของนิตยสาร Summer ยังคงอยู่ ยังไม่ได้ไปไหน พวกเขายังทำหนังสืออยู่ แต่คราวนี้มาในรูปของพ็อคเก็ทบุ้ค ในนามของสำนักพิมพ์ Fullstop และถ้าเป็นสำนักพิมพ์ Fullstop แล้ว ไม่มีเสียล่ะ ที่หนังสือของพวกเขาจะไม่เท่

Walking stories เป็นงานรวมภาพถ่ายว่าด้วยการเดิน ของสมคิด เปี่ยมปิยะชาติ บรรณาธิการภาพของนิตยสาร Summer นอกจากนี้ Walking stories ยังรวมเอางานเขียนทั้งประเภทความเรียงและเรื่องสั้นของนักเขียน สถาปนิค บรรณาธิการ ดีเจ คอลัมนิสต์ ไม่ว่าจะเป็น วินทร์ เลียววารินทร์ ทินกร หุตางกูร ประธาน ธีระธาดา ดวงฤทธิ์ บุนนาค อาทิตย์ พรหมประสิทธิ์ ปิยะลักษณ์ นาคะโยธิน กรกฏ พัลลพรักษา เห็นรายชื่อคนเขียนแล้ว แฟนๆ ของนิตยสาร Summer คงจำได้ดี
ผู้เขียนแต่ละคน จะได้รับ"โจทย์" เป็นรูปภาพของฝีมือสมคิด แล้วตีความเรื่องราวเกี่ยวกับภาพนั้นๆ ออกมา ทุกภาพเกี่ยวเนื่องกับการเดิน และภาพเหล่านั้นก็กลายเป็นภาพประกอบของเรื่องแต่ละคน เมื่อหนังสือเล่มนี้สำเร็จลง มันจึงไม่เป็นหนังสือที่มีแต่รูปเท่ๆ แต่กลับมี "อะไรๆ " ให้อ่านอีกพะเรอเกวียน

เอาเนื้อหาบางส่วนอยู่ที่ในหนังสือเล่มนี้มาฝากกันค้า จขบ.ชอบตอนนี้มาก

I keep on walking towards my goal.When I'am tried, I take a rest. When I'am lazy ,I just sit down watching people passing by. Sometime I walk backwards because there is something I left behind.






 

Create Date : 13 มกราคม 2549   
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 16:44:25 น.   
Counter : 3112 Pageviews.  

"ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์ " กับความสุขอันแสนเปราะบาง







ผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์
'ปราย พันแสง แปล
Jimmy Liao เรื่องและภาพ























สิ่งใดมองไม่เห็น หรือนั่นเป็นเพราะมันไม่มีอยู่ ?
สิ่งใดเราเก็บซ่อนไว้ในความทรงจำ
หมายความว่าจะคงอยู่อย่างนั้นได้ตลอดไป ?
ทุกยามเย็นย่ำ ผู้คนต่างร่ำรอทุรนทุราย
ดวงจันทร์กลับเร้นกาย...มิได้ปรากฎตัว

กระแสคลื่นสงบนิ่ง ผืนสมุทรดุจกระจกน้ำสีดำ
ค่ำคืนปราศจากดวงจันทร์ โลกประหนึ่งฤดูกาลหนาวเย็น

ค่ำคืนมืดมิดจะต้องสิ้นสุด
พระจันทร์กำลังขึ้น...





 

Create Date : 11 มกราคม 2549   
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 16:45:42 น.   
Counter : 3254 Pageviews.  

ดวงตะวันส่องฉาย เมื่อผู้หญิงเลี้ยวซ้ายและผู้ชายเลี้ยวขวา





ดวงตะวันส่องฉาย : ' ปราย พันแสง แปล
Jimmy Liao เรื่องและภาพ



เขาเป็นนักดนตรี เธอเป็นนักเขียน ทั้งสองอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน ห้องติดกัน แต่ไม่เคยพบหน้ากันเลย
เนื่องจากว่าเธอมักจะเลี้ยวซ้ายและเขามักจะเลี้ยวขวา
จนกระทั่งวันหนึ่ง บางสิ่งอันอ่อนหวานเกิดขึ้นกับเขาทั้งสองที่สวนสาธาราณะแห่งหนึ่ง แต่แล้วชะตากรรมก็ย่างกรายพัดพาชีวิตทั้งสองให้เป็นเครื่องเล่นของความบังเอิญ รอโอกาสนำพาให้พวกเขาได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง หรือบางทีโชคชะตาอาจนำพา ให้ไม่มีช่วงเวลาที่ ดวงตะวันส่องฉาย อีกเลยก็ได้ ...ใครจะรู้



ป.ล.1 เพลงที่เปิดชื่อเพลง So close yet so far...เป็นเพลงจากหนัง TurnLeft Turn Right หนังที่ทำขึ้นมาจากหนังสือภาพเล่มนี้

ป.ล.2 ในหนัง TurnLeft Turn Right มีจิมมี่ เหลียว คนเขียนเรื่องนี้ปรากฎตัวในฉากด้วย เป็นฉากในสวนสาธารณะที่พระเอกนางเอกมาเจอกัน ฉากนี้มีพ่อ-แม่-ลูก นั่งอยู่ริมสระน้ำ ครอบครัวที่ว่าคือครอบครัวของจิ่มมี่ เหลียวนั่นเอง




 

Create Date : 09 มกราคม 2549   
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 16:46:57 น.   
Counter : 2816 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]