- - - - ก่อนราตรี ( จะ) มหัศจรรย์ ( บรรยากาศงานคนอ่านและไม่อ่านมูราคามิ) - - -- - --


ป้ายทางเข้างาน เห็นป้ายนี้แล้วรู้ว่าไม่หลงแน่ๆ


กิจกรรมของแขกก่อนได้เวลาบนเวที โลเลก็ชอบอ่านมูราคามิเหมือนกัน


ความที่พร็อบในร้านเยอะมาก เลยมีใครบางคนแอบถ่ายแบบฆ่าเวลา


สองหนุ่มแฟนเฮียมูราคามิ


เจ้าของสำนักพิมพ์ อธิชา เธอเป็น "รานี" มากวันนี้


แขกที่รับเชิญมาพูดบนเวที หลบเข้ามุมมืดกันหมด ปล่อยให้ พอล เฮง สู้กับสปอตไลท์ไปคนเดียว



บางส่วนของคนฟัง



คนพูดและคนฟัง


เมื่อการพูดจบบนเวทีจบลงบรรยากาศบาร์แจ๊สก็เริ่ม ( เซ็กซี่มาก รูปนี้ -ผู้หญิงกับแซกโซโฟน )


สรุปการพูดบนเวทีมาให้ฟังแล้วกันค่ะ ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดอยู่ที่ คุณอนุสรณ์ ติปยานนท์ ซึ่งในวันนั้นบอกว่า ผมกลายเป็นกระบอกเสียงหนือโฆษกของมูราคามิไปแล้ว อ.ต้นเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าเล่มนอร์วีเจียน วูด ที่ญี่ปุ่น มีคนอ่านมูราคามิกันไม่มาก เป็นนักอ่านกลุ่มเล็กๆ อินดี้ๆ หน่อย แต่พอหลังจากเล่ม นอร์วีเจียน วูด ชื่อไทยคือ ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย ออกมาแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไป นักอ่านให้การต้อนรับมูราคามิอย่างแน่นหนา มูราคามิกลายเป็นพระเจ้าของวัฒนธรรมป๊อบญี่ปุ่น ( อันนี้ดิฉันพูดเอง ) ร้านหนังสือทุกร้านมีนอร์วีเจียน วูด วางอย่างเด่นหน้าร้าน ทุกคนคลั่งไคล้มูราคามิ แฟนเล็กๆ กลุ่มเดิมออกอาการรับไม่ได้ ที่นักเขียนอินดี้ของตัวเอง กลายเป็นนักเขียนในวัฒนธรรมป๊อบกระแสหลักไป มูราคามิเอง ก็ต้องถึงกับต้องเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อทบทวนความดังของตัวเอง หาโอกาสให้ตัวเองอยู่นิ่งๆ ทบทวนกระแสคนอ่านที่ถาโถมมาหาตัวเอง

มีคำถามจากคมสันว่า ทำไมถึงชอบอ่านมูราคามิ ทั้งสามคนคือ อนุสรณ์ พอล และดวงฤทัย ตอบคล้ายๆ กันว่า มันเป็นสิ่งที่พูดได้ยาก มันเหมือนกับเราถูกดูดเข้าไปในหนังสือ ลืมทุกอย่างตรงหน้าหมดเมื่ออ่านงานมูราคามิ พอล เฮง ใช้คำว่า รู้สึกเหมือนมีความมืดเข้าปกคลุมเมื่ออ่านงานของมูราคามิ พอล เฮง บอกว่าเขาชอบ มนุษย์แกะมาก คมสัน บอกเพิ่มอีกว่า ตอนที่อ่านแกะรอยแกะดาวไปถึงครึ่งเล่ม แล้วมันมีจุดเปลี่ยนของเรื่อง ตอนอ่านเขาถึงกับทิ้งหนังสือกับพื้น ลุกขึ้นมาอุทานว่า "ไอ้ ...เชี่ย เล่นอย่างงี้เลยหรือวะเนี่ยะ"

คำถามบังคับตอบอีกข้อหนึ่งคือ ถ้าทั้งสามเจอมูราคามิ จะถามว่าอะไร
ดวงฤทัยบอกว่า คงไม่กล้าถามอะไร คงยืนมองเฉยๆ หรือไม่ก็เป็นลมไปเลย พอล เฮง ตอบแบบมาโช่มาก เขาบอกว่า จะถามมูราคามิว่า คุณเสพสังวาสครั้งสุดท้ายเมือ่ไหร่ ส่วนคมสัน บอกว่าจะถามว่า แผ่นเสียงเพลงแจสที่คุณฟังล่าสุดคือแผ่นไหน

อ.ต้นบอกว่า ปรากฏการณ์มูราคามิ มาพร้อมกับปรากฏการณ์ของหนังหว่องการ์ไว เมื่อหลายปีก่อน มันมาพร้อมกับความเหงา ( แต่ตอนนี้บนเวทีเห็นตรงกันว่า ความเหงาทั้งหลายในหนังสือ ในหนัง มันเป็นปรากฏการณ์ที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เหงาแล้วไม่เท่แล้วนะคะ หนังสือเล่มใหม่ของมูราคามิ "ราตรีมหัศจรรย์" ก็ไม่เหงาแล้ว )

พอพูดถึงหว่องการ์ไวมีเกร็ดๆ บนเวทีที่น่าตื่นเต้น คือ อ.ต้นบอกว่า ไปเจอหว่องการ์ไวโดยบังเอิญที่ห้องอัดเสียงศรีสยาม เขามาอัดเสียงหนัง Ashes of Time Redux อ.ต้นเลยได้คุยกับหว่องการ์ไวหลายประโยค

มีคำถามอย่างเช่น เฮียเหลียงพูดอะไร ใส่โพรงไม้ ในตอนจบของ In The Mood For Love คำตอบน่าจะเดาได้นะคะ คือถ้าเราไปถามนักเขียน หรือคนทำหนัง หรือศิลปินคนเขียนภาพอะไรก็ตาม คำตอบมักจะเป็นว่า ( เราไม่ได้คำตอบหรอก) มันเป็นสิทธิ์ของคนดู ที่จะตีความ หรือคิดเอง ( นั่น เห็นไหม ในฐานะคนเสพงานศิลปะ เราอยากรู้ว่าคนสร้างงานคิดอะไรอยู่ แต่คนสร้างงานก็มักจะไม่ยอมบอกเรา) อ. ต้นบอกว่า หว่องการ์ไว ตัวจริงสูงมาก แล้วก็ทันสมัยมาก โทรศัพท์คุยกับลูกชายเรื่องเพลงฮิพฮ็อพด้วย ( ดิฉันเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าหว่องการ์ไว มีลูกชาย-อยากเห็นหน้าจัง )

เริ่มที่มูราคามิ จบที่หว่องการ์ไว แถมาได้อย่างไรเนี่ยะ อ้อ มีข้อเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งระหว่างหนังของหว่องการ์ไว และหนังสือของมูราคามิ คือ คุณไม่จำเป็นต้องอ่านหรือดูแบบ "รู้เรื่อง" ก็ได้นะ คุณแค่หยิบเอาบางช่วง บางตอนของหนังหรือหนังสือมาอ่าน หรือมาดูก็ได้ ยามใดที่คุณอยากได้ Feel แบบมูราคามิ หรือแบบหว่องการ์ไว


ป.ล. 1 ขอบคุณโลเล และน้องแพร เพื่อนร่วมทางและทำให้ข้าพเจ้าไปถึงงานได้ สถานที่จัดงานไกลเหลือเกิน ให้ไปเองก็คงไปไม่ถูก

ป.ล.2 รูปทั้งหมดเป็นฝีมือการถ่ายภาพของเมอร์ซิเออร์ ฟิลิปป์ กาบูล็อง

ป.ล.3 จริงๆ คนที่อยากให้มาปรากฏตัวในงานมากคือ คุณนพดล เวชสวัสดิ์
มูราคามิเมืองไทย อีกท่านหนึ่ง


Create Date : 21 สิงหาคม 2551
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 13:53:29 น. 24 comments
Counter : 2610 Pageviews.  

 
คุณดวงฤทัยนี่ต้องสวยมากแน่ๆ


โดย: pick IP: 58.137.81.212 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:10:54:37 น.  

 
เห็นด้วยกับ ป.ล. 3 อย่างแรงกล้า


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:11:38:27 น.  

 
^
^ นึกว่าเห็นด้วยกับ คห. 1 (5 5 5 )


โดย: grappa วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:11:42:30 น.  

 
มาดูห่างๆ ครับ


โดย: Untrue วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:12:23:22 น.  

 
ได้อ่านบล็อกพี่เป็นบล็อกที่สามค่ะสำหรับการไปงาน
เดียวกัน

บล็อกแรกน้องหมี
บล็อกสองบล็อก "รานี" ของงานนี้แ
และบล็อกสามก็บล็อกนี้ล่ะคะ

อ่านแล้วได้ความรู้สึกว่า อยากอ่านงานของมูราคามิจัง
เอาว่าอ่านยอมรับว่าอาจจะอยากรุ้ว่าเค้า "อิน"
กันยังไง วันนี้ไปเดินร้านหนังสือ ก็ได้เล่มใหม่สุด
มาแต่ว่าอยากได้งานอื่นๆ ด้วย อาจจะต้องรอเข้าเมือง
อีกสักแป็ปค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:16:54:13 น.  

 
กี๊ด เป็นสิทธิ์ของคนดูที่จะคิด คนดูอยากรู้ว่าผกกคิดไงอ่า แง้ อดกัน อุตส่าห์เพ่งอ่านปากพี่เหลียงมาหลายรอบ

มูราคามินี่สารภาพจริงๆค่ะว่าไม่ค่อยอิน ไม่รู้ทำไม หรือว่าไม่ชอบเหงา ไม่ค่อยเหงา ไม่อินกับความเหงาก็ไม่รู้นะพี่ (สรุปว่าไม่เคย 'อิน' กะเขาเลยช่วงที่ความเหงายังฮิตเนี่ย ฮ่า)

รูปสวยมากๆค่ะพี่ แต่ไม่เห็นหน้าจขบ.เลยแฮะ


โดย: พัท IP: 87.203.124.43 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:17:15:08 น.  

 
อิฉันเพิ่ง บันทึกนกไขลานไปค่ะ
(แบบว่า บิวต์อารมณ์ให้หยิบมาอ่านช้ากว่าคนอื่น )
อ่านแล้วเหมือนชีวิตอิฉันมันหมดลาน
แต่เสียดายที่ไม่ได้ไปงานค่ะ คุณกรัปปา เลยอดดริงก์ด้วยกันเลยค่ะ


โดย: นกบป IP: 222.123.162.202 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:18:59:03 น.  

 
อือ...รู้สึกเหมือนกันเลยค่ะ
มีคนเคยถามว่าทำไมชอบมูราคามิ
(คนญี่ปุ่นจะถามบ่อยมากๆ)
ก็ตอบไปว่า อ่านแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกนึง
บางเล่มก็เข้าใจ บางเล่มไม่เข้าใจ
แต่ทุกครั้งที่อ่าน ต้องอยู่คนเดียวเงียบๆ อินๆ เหงาๆ
และพออ่านจบจะรู้สึกมีความสุขมาก

ขอบคุณที่อัพค่า
แต่ทำไมดูคนไปน้อยจัง
(ก็ไกลเนอะ ฝนยังตัดใจเลย)


โดย: fonkoon วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:19:45:14 น.  

 
อ่านและชมบรรยากาศของงานนี้ มา 2 blog
ทำให้อยากทำความรู้จักมุราคามิซะที...


โดย: นัทธ์ วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:21:10:34 น.  

 
^
^
อยากทำความรู้จักเหมือนกันนิ


โดย: คนขับช้า วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:22:33:44 น.  

 
เห็นด้วยครับว่างานของมูราคามิมีบางอย่างคล้ายงานของหว่องการ์ไว
ผมชอบหนังหว่องการ์ไวมาก แต่กลับไม่รู้สึกอินกับหนังสือของมูราคามิได้มากเท่า (อาจต้องอ่านมูราคามิมากกว่านี้)

และเห็นด้วยที่งานของทั้งสอง บางครั้งอย่าตั้งหน้าตั้งตาดู/อ่านเอาเรื่องมาก เปิดใจกว้างๆ แล้วปล่อยให้ตัวเราไหลไปกับมัน จบแล้วยังไม่เท่าไหร่ แต่อีกสามวันเจ็ดวันมาคิดถึงมันอีก จะพบว่ามันมีอิมแพ็คกับเราแรงขึ้น

- ว้าว! คุณอนุสรณ์ได้เจอหว่องด้วย

- พี่แป๊ดแดงแปร๊ดเลยนะคร้าบ แอบเห็นข้างบน


โดย: เอกเช้า IP: 124.122.153.113 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:23:19:39 น.  

 
อ่านนอวิเจียน วู้ด แล้วทั้งรักทั้งกลัว
รู้สึกเหมือนเห็นด้านมืดของตัวเองค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:1:29:53 น.  

 
อยากทราบว่าเล่มโปรดมูราคามิของอาจารย์ต้นและคุณคมสัน นันคือเล่มไหนคะ


โดย: estrella IP: 125.25.95.242 วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:1:34:11 น.  

 
คมสัน นัน น่าจะเป็นอาฟเตอร์ เดอะ เควก ( อิอิ)

อ.ต้น เอ ไม่แน่ใจว่าเคยคุยกับ อ.ต้นหรือเปล่า ว่าชอบเล่มไหม เด๋วถามมาให้จ้า


โดย: จขบ. IP: 58.9.192.218 วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:7:37:08 น.  

 
โอ้ว พี่แป็ดในมุมมืด



โดย: I will see U in the next life. วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:10:19:39 น.  

 
อิจฉาอย่างแรงง่ะ เสียดายที่ไม่ได้ไป

อ่า..เพิ่งรู้ว่าหลังด้วยรักฯ ดังแล้วเกิดเหตุดังนี้ (เอ่อ..เพิ่งรู้ว่า ด้วยรักฯ ดังมากขนาดนี้ด้วย ง่า..ควรลดความชอบดีมั้ยหว่า เดี๋ยวจะ "ป๊อป" เกินไป 555+)


เสียดายจริงๆ ค่ะที่คุณนพดลไม่ไปด้วย แต่ก็ดีแล้ว ไม่งั้นเราจะเสียดายยิ่งกว่านี้


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:16:42:16 น.  

 
หว่องกาไวโทรศัพท์คุยกับลูกชายเรื่องเพลงฮิพฮ็อพด้วย
^
^
surreal มาก 555555


โดย: merveillesxx วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:13:12:42 น.  

 
จะมาแจ้งว่าแก้ลิงค์ เรียบร้อยแล้วค่ะ...
เจอบรรยากาศมูราคามิเข้าจนได้ ...

อยากบอกว่าเป็นคนหนึ่งที่สาบานว่าจะไม่อ่านงานยากๆของใครต่อใคร ไม่ชอบงานโนเบล ....แต่เผลออ่านเมื่อใดให้หลงรักทุกทีไป ....ตอนนี้ก็กำลังหลงรัก โฟลแบรต์ ชนิด หัวปักหัวปำ ราวกับคนเพิ่งค้นพบเนื้อคู่้....555

ว่างๆเผลอใจอ่านมูราคามิ เมื่อไหร่ จะกลับมาลงชื่อบล๊อคอันนี้ของคุณ grappaอีกรอบค่ะ


โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:10:11:20 น.  

 
เข้าใจน่ะครับว่า แฟนอินดี้กลุ่มๆเล็กเค้าจะคิดยังไง สำหรับฮีโร่ของพวกเขา ที่สุดท้ายแล้วกลายเป็นเมนสตรีมอย่างนี้ แต่ก็อยากจะถามเหมือนกันนะครับว่า "ตกลงคุณชอบในตัวงาน หรือความที่ไม่เหมือนใครกันแน่"

ส่วนผม ก็ยังไม่ได้เริ่มเข้าสู่โลกของมุราคามิซะทีครับ (ยังรอหาโอกาสอยู่) แต่งานของ Maestros อีกคนนึงที่คุณ grappa พูดถึง ผมก็ยังรักสุดใจไม่เปลี่ยนแปลงครับ


โดย: BloodyMonday วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:20:21:21 น.  

 
"ทั้งสามคนคือ อนุสรณ์ พอล และดวงฤทัย ตอบคล้ายๆ กันว่า มันเป็นสิ่งที่พูดได้ยาก มันเหมือนกับเราถูกดูดเข้าไปในหนังสือ ลืมทุกอย่างตรงหน้าหมดเมื่ออ่านงานมูราคามิ"

จริงเลย สำหรับฉันงานของมูราคามิเนี่ย ตอนแรกๆอาจจะยังอ่านแล้ววางได้บ้างไรบ้าง แต่เมื่อถึงจุดที่เครื่องติด ถูกดูดเข้าไปในโลกอักษรเรื่องเล่า ก็แทบจะวางไม่ลงเลยทีเดียว

ถ้าฉันได้เจอมูราคามิ คงนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอย่างไร อาจทำเรื่องเชยๆ ขอให้เขาเซ็นหนังสือให้สักเล่มมั้งคะ


โดย: cottonbook วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:0:16:21 น.  

 
อ่านหน้าบล็อกนี้ด้วยใจระทึก

ระทึก1: ถ้าเจอมุราคามิจะถามอะไร
(ไม่ได้ตอบไปกับเขาด้วย แต่พอคิดภาพมุราคามิอยู่ตรงหน้า ก็ใจเต้นระทึกแล้ว...จะเป็นลม)

ระทึก2: เจอเฮียหว่องเป็นๆ
แถมลุ้นคำตอบจากคำพูดปริศนาอีก
(ยาดม...อยู่ไหนนนน)


โดย: Evil is Live วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:11:22:47 น.  

 
ก๊ากกก เหงาไม่เท่แล้วค่ะ


โดย: iwalktheline IP: 58.136.60.62 วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:11:30:25 น.  

 
อ่านนอร์วีเจี้ยน จบที่สอง จากเล่มพิมพ์
ใหม่ของกำมะหยี่ ความรู้สึกเดิมที่เคย
หายไป กลับมาอีกครั้ง ทั้งทั้งที่รู้บทสรุปก็อดลุ้นตามวาตานาเบะไม่ได้
มั่นใจว่าทิ้งระยะอีกสองสามเดือน คงได้หยิบขึ้นมาเป็นจบที่สามแน่แน่ครับ
ท่าที่ดีอยากให้มีนอร์วีเจี้ยน พาร์ททู
ว่าไหมครับบบบ


โดย: วิน IP: 192.193.164.8 วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:15:29:50 น.  

 
ขอบคุณครับพี่สาวสำหรับภาพและเนื้อหาอันคมชัด(ที่น่าติดตาม)


โดย: พอกลอน ซาเสียง IP: 203.146.136.113 วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:18:17:33 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]