- - - - - - - - Murakami and The Music of Words + Dinner with Murakami- - - - - - - -






ช่วงนี้กำลังอ่านหนังสือเล่มข้างบนอยู่ซื้อไว้นานแล้ว อ่านไปนิดหน่อยตอนซื้อมาใหม่ๆ แต่ตอนนี้เอาลงมาจากชั้นหนังสือและอ่านมันอย่างจริงจังเนื่องจากว่าตอนนี้ต้องทำงานที่เกี่ยวกับมูราคามิ คนเขียนหนังสือเล่มนี่คือ เจย์ รูบิน โปรเฟสเซอร์ผู้สอนวรรณคดีญี่ปุ่นจากฮาร์วาร์ด นวนิยายหลายเล่มของมูราคามิในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เจย์ รูบินเป็นคนแปลจากภาษาญี่ปุ่น ชอบหนังสือเล่มนี้ตรงที่โยงประวัติชีวิตของมูราคามิเข้ากับงานเขียนของเขา

ตอนที่อ่านถึงช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัยของเขาเป็นตอนที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับตัวเอง มูราคามิเรียนวรรณคดีและการละครที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ มหาวิทยาลัยอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น แต่มูราคามิบอกว่าเขาแทบจะไม่เข้าเรียนเลย เขาใช้ชีวิตในบาร์แจ๊ส รอบๆ มหาวิทยาลัยเสียมากกว่า นอกบาร์แจ๊สเขาเป็นแบ็คแพ็กเกอร์ ออกเที่ยวไปทั่ว และแน่นอนเขาแทบจะไม่มีเพื่อนในมหาวิทยาลัยเลย ตอนเรียนเขามีเพื่อนเพียงสองคนเท่านั้น เป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนหนึ่งคือโยโกะ ซึ่งเป็นภรรยาของเขานั่นเอง



เวลาอ่านถึงตอนชีวิตรักของเขายิ่งน่าสนใจ เขามีแฟนคนแรกและคนเดียวคือโยโกะ รักกันตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง โยโกะเคยไปคบหากับผู้ชายคนอื่น แต่ในที่สุดทั้งสองก็กลับมารักกัน และจดทะเบียนสมรสกันช่วงเรียนหนังสือนี่เอง (เปรี้ยวจริงๆ) มูราคามิใช้เวลาถึงเจ็ดปีในการเรียนมหาวิทยาลัย บางช่วงปีการศึกษาเขาดร็อปการเรียนด้วย ( รู้สึกจะเป็นช่วงที่จดทะเบียนสมรสกับโยโกะ ) คาแรกเตอร์ของมิโดริ ในเรื่องนอร์วีเจียน วูด มูราคามิบอกว่าหยิบยืมมาจากภรรยาของเขานั่นเอง

มูราคามิเป็นคนนอกอย่างสิ้นเชิงต่อแวดวงที่เขาอยู่ อย่างช่วงตอนเรียนหนังสือ ช่วงนั้นนักศึกษามหาวิทยาลัยนิยมอ่านวรรณคดีญี่ปุ่น แต่เขากลับชอบวรรณคดีอเมริกันและบาร์แจ๊ส เรียนจบเขาก็มุ่งหน้าเป็นเจ้าของบาร์แจ๊ส จนกระทั่งอายุ 29 เริ่มเขียนเรื่องสั้นเรื่องแรก ( แถมได้รางวัลด้วย-แต่รางวัลทางด้านวรรณกรรมญี่ปุ่นมีมากจริงๆ ไม่แปลกเท่าไรนักถ้าใครสักคนลุกขึ้นมาเขียนหนังสือแล้วได้รางวัล )

ไว้อ่านจบจริงๆ (ตอนนี้อ่านไปกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว) จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง

เสริช์หาความรู้เรื่องมูราคามิไปมาก็เจอเทรลเลอร์หนังสารคดีเรื่องนี้ ทำเอาอยากดูมากมาย


Dinner with Murakami A documentary about the magical bestselling author Haruki Murakami. directed by Yan Ting Yuen

ตอนต้นเรื่องใจเต้นตึกตัก เหมือนจะเห็นมูราคามืเดินขึ้นบันไดตามคำเชิญดินเนอร์ของคนทำสารคดีเรื่องนี้ด้วย อยากดูสารคดีเรื่องนี้ให้จบจริงๆ จะไปหาดูที่ไหนล่ะนี่ T-T


ช่วงเวลาเดียวกับที่อ่านหนังสือเล่มข้างบน ได้ดูหนังยาวไปสองเรื่อง คือ Into the wild ที่กำกับและเขียนบทโดย ฌอน เพนน์ ดูตอนตีสองกว่าๆ ไปจบเอาตีห้า เหมือนได้อ่าน วอลเดน ของ เฮนรี่ เดวิด ทอโร ภาคมีชีวิต วอลเดน ฉบับหนังสือสุขุม และนุ่มนวล แต่อินทูเดอะไวลด์ นี่มีเลือดเนื้อและรุ่มร้อน ดูจบถึงกับน้ำตาซึมและนอนไม่หลับเอาทีเดียว

เมื่อวานเพิ่งได้ดู The Reader หนังที่กำลังจะฉายบ้านเรา เคท วินสเล็ต เล่นได้ดีมาก แต่แปลกดีกลับไม่ชอบหนังเรื่องนี้เท่าไรนัก ตอนกลางๆ เรื่องมีเบื่อๆ ด้วย ที่จริงหนังเรื่องนี้น่าจะเข้าทางตัวเอง เพราะชอบหนังสือเดอะ รีดเดอร์มาก หนังก็ทำได้เนียนดี ประเด็นใหญ่ของหนังคือ การตั้งคำถามต่อเจตนารมย์ของกฎหมายกับความเป็นมนุษย์ คิดว่าประเด็นแบบนี้อ่านหนังสือได้อรรถรสกว่า แต่อย่างไรก็ตามหนังเข้าแล้วเชียร์ให้ไปดูกันค่ะ

ป.ล. วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ เป็นทั้งวันเกิดและวันตายของกนกพงศ์ จขบ.ขอระลึกถึงเขามา ณ ที่นี้

HBD and RIP กนกพงศ์ สงสมพันธุ์







Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 13:21:31 น. 48 comments
Counter : 2473 Pageviews.  

 

RIP กนกพงศ์ เช่นกัน

มุราคามิว่าชอบแล้ว เจอภรรยาและชีวิตที่เชื่อมโยงกับงานเขียน น่าสนใจ ทำให้ชอบขึ้นไปอีก เล่มที่พี่แป๊ดอ่านอยู่ น่าสนใจมาก ติดแต่ตอนอ่านนอร์เวเจียนแล้วไม่ชอบสิ เป็นเล่มเดียวของลุงมูที่อ่านไม่จบ

84 Charing cross ภาคหนัง มีคุณยาย แอนน์ เบนครอฟ (คนที่เล่น เดอะ เกรดูเอท) กับ แอนโทนี่ ฮอปกิ้นส์ แสดงนำค่ะ


โดย: อออ IP: 202.176.89.115 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:16:43 น.  

 
มาทักทายจ้า
แบบว่าพี่ดูคลิปแล้วยังไม่เข้าใจอ่า


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:38:22 น.  

 
สวัสดีวันหยุดครับ ^^

เรื่องของ มูราคามิ คงไม่สามารถแชร์ความรู้สึกได้เท่าไร (เพราะยังไม่เคยอ่านหนังสือเขาสักเล่ม...) นอกจากการเป็นผู้อ่านที่ดี แต่ได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของเขาแล้ว ก็รู้สึกว่าเขาใช้ชีวิตได้น่าสนใจดีจริงๆ... อ่านจบแล้วมาเล่ากันต่อนะครับ

เรื่อง Into the Wild นี้ถือว่าชอบเป็นอันดับต้นๆในปีที่ผ่านมาเลย (ชอบถึงขนาดรีวิวไว้ทั้งในบล็อค และแปลรีวิวของตัวเองลงอีกบอร์ดนึงเลย แหะๆๆ) ผมว่าใครก็ตามที่ดูจบ ก็จะยิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า "Destination is not really matters, the journey is"

The Reader กะว่าจะดูที่บิทมาครับ เพราะฟังมาจากที่นายนาโนเล่า ว่ามันมีตัดหรือเซ็นเซอร์อะไรนี้แหละ ก็เลยหวั่นๆว่าจะไม่ได้เห็นอะไรๆเต็มหนึ่งร้อยเปอร์เซ็น


โดย: BloodyMonday วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:44:28 น.  

 
รีบอ่านให้จบเร็วๆนะพี่ รอรีวิวคับ ฮ่าๆๆ..

into the wild ชอบมากๆๆๆๆๆๆสุดๆของสุดๆ (เมื่อคืนก่อนก็เพิ่งหยิบมาดูรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) ยิ่งตอนที่บอกว่าบ่นถึงพ่อ-แม่ "just give me the truth" (ก่อนจะมาเข้าใจตอนกำลังจะตาย จากหนังสือของ Tolstoy) แต่ผมอ่านที่เป็นหนังสือแล้วไม่ค่อยอินเท่าไหร่อ่ะ ชอบ into thin air มากกว่า อันนี้เจ็บปวดสุดๆ

ไม่แน่นะ..เจออีกที ผมอาจแบกแพคไปอลาสก้าก็ได้ ฮ่าๆ

อยากดู The reader ด้วย..เข้าแล้วเหรอครับ

ปล. เห็นชื่อหัวข้อนึกว่าพี่จะได้ไปดินเนอร์กับเฮียมูฯซะอีก


โดย: Tentty วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:55:42 น.  

 
ประวัติลุงแกเปรี้ยวจริงๆ แฮะพี่


RIP คุณกนกพงศ์เช่นกันค่ะพี่


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.103.44 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:01:07 น.  

 
ชีวิตมูราคามิจี๊ดจังครับ อ่านแล้วรู้สึกว่า Norwegian Wood นี่มันก็ชีวิตแกสมัยมหา'ลัยดีๆ นี่เอง

Into The Wild นี่ชอบมากๆๆๆๆ เช่นกันครับ ฉากจากลากับคุณลุงคนนั้นบนรถนี่ไม่ไหวแล้ว หนังมันกระตุ้นจิตวิญญาณเสรีที่มีอยู่ในตัวทุกคนให้ฮึกเหิมอยากออกเดินทางเนอะ แต่พอมาถึงตอนใกล้ๆ จบที่มันบรรลุสัจธรรมข้อหนึ่งที่ว่า "Happiness only real when shared" นี่อย่างเจ็บปวดเลยอ่ะ จริงมากและโดนมากถึงกับเอาขึ้นใน display name ในเอ็มเอสเอ็นอยู่นานเลย

เมื่อคืนเพิ่งดูหนังไต้หวันเรื่อง Island Etude ครับพี่ ดูแล้วนึกถึง Into The Wild มากๆ (แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ดู "real" กว่า จนทำให้ Into The Wild ดูเว่อร์ไปเลย เอ๊ะ! แต่มันก็เป็นเรื่องจริงนี่ 555) เป็นเรื่องจริงของนักศึกษาหนุ่มที่มีปัญหาได้ยินและพูดไม่ชัด (หูหนวกแบบไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่กำเนิดน่ะครับ) ที่แบกกีตาร์ขี่จักรยานไปรอบเกาะไต้หวัน ไว้ว่าจะเขียนถึงลงบล็อคอยู่ครับ

The Reader เดี๋ยวดูแน่ครับ =)


โดย: เอกเช้า IP: 165.89.84.86 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:49:36 น.  

 
หายคิดถึงไปหนึ่งเฮือก

ตอนแรกนึกว่า
คุณgrappaไปรับประทานอาหารเย็นกับลุงมุฯ
แบบว่าเขาแวะมาเมืองไทย
แล้วมีกิจกรรมmeet & greet
คุณgrappa จับฉลากได้รางวัลที่หนึ่ง
อิจฉาสุดๆ

คิดไปถึงนั่น นั่นแหละ


โดย: Evil is Live วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:48:57 น.  

 
Dinner with Murakami
ในยูทูบ

เรื่องที่ผู้ชายอ่านที่ทางม้าลายกลางเมือง
เรื่องที่สอง
มาจากเรื่อง
บันทึกนกไขลานรึเปล่าคะ


โดย: Evil is Live วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:21:22 น.  

 
เจอแล้ว
ถามเอง ขอตอบเอง
เป็นเรื่องสั้นชื่อว่าA Shinagawa Monkey
อยู่ในเล่ม Blind Willow, Sleeping Woman



โดย: Evil is Live วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:36:26 น.  

 
^
^ น่ารักจริงๆ คนข้างบน มาไม่ทันตอบให้ เก๋เนอะ เรื่องที่สองไปยืนกางร่มอ่านท่ามกลางฝูงชนและสายฝน

ส่วนเรื่องแรก ไม่ต้องสงสัยมาจากเรื่อง ... เว้นไว้ให้คนที่ยังไม่ได้ดูตอบ :-)


โดย: grappa IP: 58.9.186.127 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:34:48 น.  

 
มูราคามิเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมากในประเทศญี่ปุ่น

จะหาอ่านเเถวๆบ้านบ้าง คิดว่ามีขายถ้าเป็นหนังสือเเปลโดยชาวต่างประเทศ

ขอบคุณมากค่ะ พรุ่งนี้ไปหามาเเน่ เเล้วจะกลับมารายงานค่ะ


โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:25:19 น.  

 
อ่านบล็อกช่วงแรก ไพล่ไปนึกถึงจอห์น เลนน่อนเสียนี่

หนังวอลเดนภาคมีชีวิตนี่น่าสนค่ะ
จะเข้าฉายหรือเปล่าเนี่ย
ช่วงนี้ยิ่งห่างเหินโรงหนังอยู่ด้วย


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:11:39 น.  

 
หนังสือเล่มนี้ก็อยากหาอ่า่นค่ะ ตั้งแต่ที่แนะนำไว้ตอนโน้นนนแล้ว

สารคดีดูน่าสนใจดีค่ะ

ปล เพิ่งไปดู happy-go-lucky มาค่ะ เธอมองโลกได้น่าสนใจมากๆค่ะ


โดย: cottonbook วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:02:45 น.  

 
The Reader นี่จริงๆถ้าเอาตามเนื้อผ้า ผมให้ประมาณ B+ นะ แต่เ้พราะมี Kate Winslet ถึงได้ให้ A เธอช่วยยกระดับหนัีงได้สุดๆไปเลย

แอบตลกนิดหน่อย เพราะหนังเอา Bruno Ganz ที่เคยเล่นเป็นฮิตเลอร์ใน Downfall มาเล่นเป็นศาสตราจารย์กฎหมาย 5555 (ดูล้อเลียนกันเองดี)

พี่รู้สึกไหมว่าเหมือนหนังมันรีบๆทำไปหน่อย


โดย: nanoguy IP: 125.24.148.126 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:29:01 น.  

 
^
^ ไม่รู้สึกว่ารีบนะ แต่รู้สึกว่ามันเป็นหนังสูตร เลยเบื่อๆ


โดย: grappa IP: 58.9.186.127 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:50:00 น.  

 
ผมไปดู happy go lucky มาแล้วล่ะ แต่ที่ตื่นเต้นคือหนังตัวอย่างทั้งหลายแหล่ที่น่าดูทุกเรื่อง เร็วๆ นี้ว่าจะไปดู revolutionary road


โดย: pick IP: 202.41.187.247 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:06:38 น.  

 
พึ่งเคยเห็นหน้าภรรยามูราคามิครั้งแรก ว้าว
ส่วนสารคดี เจ๋งมากอ่ะ ไอ้ตอนที่ให้คนอ่านหนังสือกลางสวนผัก กับคนที่สองที่อ่านระหว่างฝนตก แล้วถ่ายแต่ภาพร่มร่มร่ม เราชอบ!
ผกก. จีน? ฮ่องกง? ใครกันไม่เคยผ่านชื่อ

into the wild ไม่รู้ทำไมหนูไม่ค่อยชอบตาพระเอก แต่ภาพสวยมาก แล้วก็ทำให้คิดไปว่ามันมีเรื่องที่ผู้หญิงออกเดินทางแบบนี้บ้างมั๊ย ทำไมส่วนมากเราเจอแต่ผู้ชาย

the reader เราชอบพี่เคตอยากดูๆ รู้สึกดีมากที่อ่านหนังสือมานานก่อนจะเอามาทำหนัง (ภาพในหนังจะได้ไม่มามั่วกับจินตนาการ) แต่ในจินตนาการแอนนา ชมิตท์ ก็คล้ายๆพี่เคทแหละนะ แล้วตกลงมันตัดจริงเหรอ

เอาใจช่วยหนังสือเสร็จไวนะพี่ รอแบบไม่เร่งอยู่ตรงนี้หนึ่งคนค่า


โดย: b u IP: 58.8.101.200 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:46:06 น.  

 
^
^ ผกก.เป็นคนฮ่องกงจ้า เธอไม่ได้ทำหนังสตูดิโอน่ะ เลยไม่ได้เป็นที่รู้จักทั่วไปมากนัก

เพิ่งเคยเห็นภรรยามูราคามิเหมือนกัน หน้าตาเปรี้ยวเนอะ
หนังผู้หญิงเดินทางน่าจะมีนะ


โดย: จขบ. IP: 58.9.186.127 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:17:54 น.  

 
อืม... ยังไม่เคยอ่านงานของมุราคามิเลย ทำให้รู้สึกว่าตัวเองห่างเหินจากเรื่องราวในบล็อคนี้ชอบกล

The Reader มีตัดด้วยเรอะ เดี๋ยวต้องไปถามคุณ BdMd นี่มันทำให้ความอยากดูลดลงกว่าครึ่งเลยนะเนี่ย

เรื่อง Ip Man ถ้าผมไม่รู้มาก่อนก็คงอ่านว่าไอพี แมนเหมือนกันแหละครับ (หรือไม่งั้นก็อ่านว่าอิ๊ป แมนเหมือนน้องเมอร์)


โดย: แฟนผมฯ IP: 222.123.194.96 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:41:50 น.  

 

ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ
แหล่มเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:17:29 น.  

 
แหะ แหะ ยังไม่เคยอ่านมูราคามิกับเขาค่ะ


โดย: ทินา วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:37:22 น.  

 
อยากลองอ่านผลงานของมูราคามิมั่งจังค่ะ ซื้อมาสองเล่ม
แล้วแต่ว่ายังไมได้เปิดอ่านเลย .. กะว่าพร้อมเมื่อใด
ก็อาจจะได้เข้าเป็นสาวกของหนังสือมูราคามิด้วยคนค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:31:40 น.  

 
"ถ้าพี่ได้ไป dinner กับมูราคามิ ชาตินี้่ตายตาหลับแล้วนุ้ยเอ๋ย"

เออ...สมมุตินะคะ สมมุติ
ถ้าพี่ได้ไปจริงๆ
หนูขอไปด้วยนะคะ
ไม่ได้ร่วมโต๊ะก็ได้ ขอแบบยืนดูพี่กิน
พอพวกพี่กินเสร็จแล้ว

หนูค่อยเข้าไปขอลายเซ็นต์
ถ่ายรูปแบบเงียบๆ
นะคะ...นะคะ
พาหนูไปด้วย


โดย: Evil is Live วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:58:42 น.  

 
อยากอ่านเล่มนี้บ้างจังเลยค่ะ
แต่ว่าเอาแบบแปลมาให้อ่านได้มั้ย

ป.ล.1 เมื่อวานเพิ่งดู happy-go-lucky
ตอนนี้ตกหลุมรักป๊อบปี้ไปแล้วล่ะค่า

ป.ล.2 อยากดู The Reader เพราะชอบหนังสือเล่มนี้ค่า


โดย: fonkoon วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:22:45 น.  

 
ไม่กล้าอ่านมุราคามิค่ะ แต่ก็ยังเข้ามาขอมีส่วนร่วมในบล็อกเกี่ยวกับมุราคามิอยู่เรื่อยๆ ขอเรียกตัวเองเป็นมุราคามิstalkerแล้วกัน หุๆ

อืมม..รางวัลวรรณกรรมของญี่ปุ่นเค้าแจกกันเยอะจริงๆ อปอช.สุ่มหยิบเล่มไหนขึ้นมาก็มักจะมีการันตีเป็นรางวัลแปะอยู่หน้าปกบ่อยๆ แต่ก็ดีนะคะ ส่งเสริมนักเขียนและต่อไปเป็นการส่งเสริมการอ่านนั่นเอง

ว่าแต่ตัวละครที่ยืมจากคาแรกเตอร์ศรีภรรยาตัวเองไปเนี่ยเป็นคนดีใช่มั๊ย...ไม่งั้นมุราคามิซังอาจมีเรื่อง


โดย: อปอช (apple_cinnamon ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:06:52 น.  

 
HBD และ RIP คุณกนกพงศ์เช่นกันค่ะ

สนใจเดอะรีดเดอร์เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะได้ดูมั้ยอะค่ะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:12:29 น.  

 
ได้ทำทุกอย่างที่อยากทำค่ะ ไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน (รู้แบบนี้ขอกอดไปนานแล้ว 55)



HBD & RIP คุณกนกพงศ์ด้วยค่ะ


โดย: rebel IP: 118.173.99.148 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:03:39 น.  

 
วันนี้ไปทำ radio กับ ใหม่ อโนชา พี่เค้าบอกว่าตอนชีวิตจิตตก แกอ่าน Norwegian Wood ...ผลคือ หนักกว่าเก่า 55555555


โดย: merveillesxx วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:58:20 น.  

 
ู^
^ ช่วงจิตตกและอกหัก นั่งอ่าน"บันทึกนกไขลาน" ยังจำความทรมานได้เลย ยิ่งอ่านยิ่งทรมาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตอนนี้รัก "บันทึกนกไขลาน"มากๆ


โดย: grappa IP: 58.9.190.125 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:21:48 น.  

 
ของเฮียมูฯ นี่ดองไว้หลายเล่มเหมือนกันค่ะ เอาไว้อ่านตอนที่สมองต้องการการใช้ความคิดอย่างหนัก

สามีภรรยาคู่นี้นี่เปรี้ยวมากเลย


โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:29:31 น.  

 
ยังไม่อินกับมูราคามิสักทีค่ะพี่ :)
แต่ว่าก็สนใจใคร่รู้นะคะว่าทำไมใครๆ ถึงอิน

ส่วนเดอะรีดเดอร์ ตอนอ่านเมื่อครั้งกระนู้นก็แบบว่า
เนื้อเรื่องแปลก น่าสนใจดีจัง ชอบพอสมควร
แต่ไม่ทันคิดเลยค่ะว่าจะมากลายเป็นหนังที่ดารานำหญิงจะเข้าชิงออสการ์
ไงก็คงต้องไปหาดูละค่ะ
อยากรู้
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:09:27 น.  

 
ช่วงจิตตกยังอ่านหนังสือกันได้อีกเหรอครับ ถ้าเป็นเราแค่อ่านป้ายรถ BTS ยังไม่มีแรงใจเลย 555+


โดย: BdMd IP: 124.120.45.148 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:35:31 น.  

 
^
^ พี่อ่านหมดแหล่ะ อกหัก ตกหลุมรัก ปวดหัว ตัวร้อน ถ้าโลกนี้ไม่มีหนังสือตา่ยแน่ๆ


โดย: grappa IP: 58.9.192.88 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:01:49 น.  

 
^
^
555++ เหมือนกันครับ

คุณ BdMd แกเป็นทากหนังครับ (เห็นแกบอกว่าเป็นญาติห่างๆกับหนอนหนังสือ) แกก็มีวิธีบำบัดในแบบของแก (คงใช้หนังบำบัดนั่นแหละ แต่หนังแบบไหนก็อีกเรื่องนึง 55555)


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:32:55 น.  

 
คำว่า "ทากหนัง" นี่คุณ BdMd แกเป็นคนคิดนะครับ ผมก็ว่ามันเจ๋งดีเหมือนกัน


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:26:43 น.  

 
เพิ่งเห็นหน้าภริยาของคุณมูราคามิ หน้าตาเหมือนกันเลย

ขอบคุณมากนะคะที่แวะไปเยี่ยมกัน ขอให้คุณgrappaมีความสุขมากๆในวันแห่งความรักค่า


โดย: haiku วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:14:58 น.  

 
ตอนนี้กำลังอ่านแกะรอยแกะดาวอยู่ครับ

อ่านจบแล้ว รู้สึกอย่างไร จะมาบอกให้ทราบอีกทีนึงนะครับ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:50:07 น.  

 
วันนี้ไปซื้อหนังสือกนกพงศ์มาค่ะพี่ ไม่เคยอ่านเลย (แหง๋) เดี๋ยวจะลองอ่านดู : )


โดย: b u IP: 58.8.103.71 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:42:52 น.  

 
ขอเป็นเล่มๆ เลยนะครับ

จ่ายตังค์ทันทีด้วยเอ้า



โดย: พอกลอน ซาเสียง IP: 58.8.133.51 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:57:58 น.  

 
Into The Wild จบได้แบบน่าเสียดาย คนทั้งคน มาก หดหู่ พาลทำเอาซึมเศร้าไปเลย


โดย: renton_renton วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:18:57 น.  

 
ส่วนใหญ่หนังที่เอามาจากนิยายจะต้องตัดส่วนที่ละเอียดๆออกครับ detailพวกนี้แหละที่ทำให้เราจินตนาการไปในหัว เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ พอหายไปแล้วดูห้วนๆ ร้ายหน่อยก็โดนเปลี่ยนพล๊อตให้เข้ากับmainstream ของhollywood
โดยส่วนตัวชอบThe Beachของ Alex Garlandครับ แต่พอมาเป็นหนังแล้วไม่ประทับใจเช่นกัน


โดย: แป๊กก วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:11:40 น.  

 
ไม่น่าเชื่อว่ามูราคามิจะมีแฟนคนเดียว เพราะอ่านแล้วคิดว่าคนเขียนน่าจะออกแนวมีแฟนเยอะๆ เจ้าชู้หน่อย
ส่วนมิโดรินี่อ่านแล้วไม่ชอบคาแรคเตอร์เท่าไหร่เลย รู้สึกว่ามันไม่จริง แต่ภาพของแรงบันดาลใจนี่ท่าจะเปรี้ยวดีจังเลยเนอะพี่

ยังไม่ได้ดู the reader เลย อยากดูเหมือนกันนะเนี่ย


โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:11:40 น.  

 
ผมไปดู The Reader มาแล้วนะครับ ผมว่าดีทีเดียวเลยนะ แต่ก็ใช่ล่ะ ตอนที่อ่านหนังสือผมรู้สึกว่ามันสะเทือนใจกว่า หรืออาจจะเพราะตอนดูหนังนี่เรารู้เรื่องมาหมดแล้วก็ไม่รู้

เคตกับพระเอกวัยรุ่นเล่นดีทั้งคู่เลยนะครับ สีหน้าน้องพระเอกในศาลตอนได้ยินว่าเคตเธอชอบให้เชลยอ่านหนังสือให้เนี่ยเยี่ยมมากๆ เลยครับ

เคืองก็ตรงที่ พออารมณ์กำลังได้ที่ มันชอบตัดไปฉาก่อไปเสียห้วนๆ อย่างนั้น ไม่ใช่ทีเดียวนะ หลายทีเลย


โดย: เอกเช้า IP: 124.122.152.115 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:35:39 น.  

 
ดูแล้วครับพี่แป๊ด สลัมด็อกน่ะ หนังมันป๊อปมากๆเลยนะ สนุกสุดๆ การดำเนินเรื่องเก๋ไก๋ ชอบตอนจบที่มันเต้นๆกันด้วย น่ารักดี และเราเอาใจช่วยจามาลสุดๆไปเลยครับ ฟีลกู๊ดมากๆ ชอบล่ะพี่

อยากคุยกับคนอินเดียเรื่องหนังเรื่องนี้จัง ว่าแดนนี่ บอยล์มันใส่มุมมองคนตะวันตกจริงๆอย่างที่มีคนเขาว่าไหม อาทิตย์ที่แล้วเพื่อนมาจากมุมไบ ก็ได้แค่ถามเรื่องมุมไบไครซิสตอนนั้น ไม่มีเวลาเหลือให้คุยเรื่องสลัมด็อกเลย



โดย: เอกเช้า IP: 124.122.152.115 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:04:47 น.  

 
อ่านจบแล้วมาเล่าให้ฟังอีกครั้งหนึ่งนะคะ อยากทราบๆๆ


โดย: ดา ดา วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:03:37 น.  

 
มาทักทายเจ้าของบล็อกนี้ค่ะ


โดย: ปณาลี วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:38:51 น.  

 
จะมีแปลออกมาไหมครับรออ่านอ่านงานของเฮียแกไม่ไว้แล้ว อ่านนอร์วีเจี้ยนไปสองรอบแล้วครับ คิดถึงงานของเฮียแกมากๆ ได้ข่าวแว่วมาว่า ปีนี้สำนักพิมพ์กำมะหยี่จะมีแปลออกมาด้วยครับ รอลุ้นอยู่เหมือนกันครับบบบ


โดย: codename v IP: 124.121.80.207 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:14:16 น.  

 
เห็นพูดถึงกำมะหยี่เลยขอตอบหน่อยนะคะ ปีนี้เราจะออกชุดรวมเรื่องสั้นของมูราคามิที่แฟนๆ มูราคามิมาร่วมกันแปลเองเลย ทั้งชุดมี 3 เล่มค่ะ พี่แป๊ดเป็นแม่งานและบรรณาธิการทั้งสามเล่มเลย เล่มแรกเราลุ้นให้คลอดช่วงมหกรรมหนังสือ 26 มีค. นี้ ส่วนเล่มที่สองและสามจะตามมาติดๆ ท้ายๆ ปี คุณนพดลจะมาโซโล What I Talk About When I Talk About Running ที่จะทำให้เราเข้าใจตัวตนของมูราคามิมากขึ้นค่ะ ฝากผลงานมูราคามิของกำมะหยี่ในปีนี้ด้วยนะคะ ความคืบหน้าติดตามได้จากเว็บและบล้อกของกำมะหยี่ //www.gammemagie.com; //www.gammemagie.blogspot.com ค่ะ


โดย: สนพ. กำมะหยี่ IP: 125.24.151.48 วันที่: 4 มีนาคม 2552 เวลา:14:49:00 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]