- - - วารสาร "อ่าน" พาไป "ฟัง" เขาและเธอ "พูด" เรื่อง"การอ่าน" - - - -






โมเมไปเองว่าหลายๆ คนคงเห็น วารสาร "อ่าน" วารสารหน้าตาดี แต่อ่านยาก ( หรือเปล่า ?) ตามแผงหนังสือกันบ้างแล้ว หนังสือหัวสวย ดีไซน์สวย เนื้อหาเข้มข้ม ว่าด้วยการวิจารณ์วรรณกรรม ชนิดฮาร์ดคอร์ บทวิจารณ์เรื่องเด่น คงจะอยู่ที่เรื่องจากปกโดย อ.ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ อ.ประจำ คณะ ศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ นักวิจารณ์คนแรก (สายวรรณกรรม) ของ รางวัล ม.ล.บุญเหลือ วิจารณ์ ทุ่งมหาราช ของ เรียมเอง และคราวนี้มาในแบบ "ชุมชนกับชาติ อำนาจกับความรัก" ลองอ่านกันดูค่ะ เผื่อจะเปิดภาพมุมมองใหม่ๆ ของวรรณกรรมเก่า ๆ( เรียมเอง เขียนทุ่งมหาราชตั้งแต่ปี 2497 ) เข้าไปอ่านอีกครั้งจะพบว่า มาลัย ชูพินิจ ( ซึ่งก็คือ เรียมเอง) เป็นนักเขียนหัวก้าวหน้ามาก ในการนำเสนอประเด็นทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องชนชั้น และเรื่องผู้หญิง อยากให้กลับไปอ่าน "ทุ่งมหาราช" กันจริงๆ ( เป็นหนึ่งในหนังสือโปรดตลอดกาลของดิฉันด้วย ^^ )

เมื่อปลายเดือนมิถุนายน วารสารอ่าน ได้ไปจัดเสวนากันถึงร้านเล่าเชียงใหม่ ในหัวข้อ “พลังของการอ่าน เพดานของการวิจารณ์” นำเสวนาโดย คำ ผกา นักเขียน/นักวิจารณ์ ผู้เคยมีผลงานเรื่อง “กระทู้ดอกทอง”, ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ นักเขียน/นักวิจารณ์ จากผลงาน “อ่าน (ไม่) เอาเรื่อง” ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.ไชยันต์ รัชชกูล จากภาคประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เข้าไปอ่านส่วนที่เว็บประชาไทเอามารายงาน อ่านไป ยิ้มไป มันช่างสนุก และทำให้คิดถึงการอ่านของตัวเอง


รูปจากเว็บประชาไท จากซ้ายไปขวา ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์, ไชยันต์ รัชชกูล และ คำ ผกา

ประชาไท เขาสรุปประเด็นที่คนทั้งสามพูดกันวันนั้นได้สนุกดี

ข้างล่างคือตัวอย่าง

....
การอ่านคือความฟุ่มเฟือยของชีวิต?


คำ ผกา เผยว่าเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีบรรยากาศการอ่านอะไรเลย เวลาจะอ่านหนังสือต้องคลุมโปงแล้วเอาไฟฉายส่อง นอกจากหนังสือเรียนแล้ว หนังสือแนวอื่น ๆ ต้องห้ามหมดเพราะมันจะนำพาให้เด็กมีจินตนาการเตลิดเปิดเปิงรู้จักเรื่องรักใคร่ก่อนวัยอันควร แล้วที่บ้านพ่อแม่ก็ไม่ได้เรียนหนังสือก็เลยไม่มีคนมาคอยบอกว่าต้องแบบนี้นะ หนังสือสำหรับเด็กเป็นแบบนี้นะ ก็เลยโตมากับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐกับนิยายเล่มละบาท เป็นหนังสือที่ผู้ใหญ่อ่านกัน มีนิยายรัก ๆ ใคร่ ๆ แล้วก็ที่ขายตามสถานีรถทัวร์ที่หน้าปกเป็นดารา ไม่เคยได้สัมผัสกับวรรณกรรมเยาวชนเลย ...คำ ผกา พูดต่อว่า โดยส่วนตัวก็อ่านสิ่งเหล่านี้เพื่อความเพลิดเพลิน ไม่ได้คิดว่าเป็นความรู้ แต่ทำไมนิยายที่ดูไม่มีคุณค่าพวกนี้มันกลับทำให้เรา อยู่กับหนังสือมาจนโต


...ชูศักดิ์ เผยต่อว่า ถ้าให้พูดประชด ๆ หน่อย คือจริง ๆ แล้ววรรณคดีเป็นวิชาฟุ่มเฟือยของชีวิต “พวกผู้ดีอังกฤษเขาก็ถือว่าการอ่านวรรณคดีเป็นแค่อาภรณ์ประดับตัว ไม่ได้เอาไว้ใช้ทำอะไรอยู่แล้ว เพราะถ้าคุณอยากเป็นผู้ดี คือคุณก็ ‘ไม่ต้องทำอะไร’ อยู่แล้ว โดยนิยามของผู้ดีคือคุณจงเป็นไอดอล ใครที่ ‘ทำอะไร’ ก็คือพวกกเฬวราก คือไพร่”

เข้าไปอ่านต่อได้ที่นี่ //www.prachatai.com/05web/th/home/12703


ในฐานะที่โตมากับไทยรัฐและนิตยสารสกุลไทย อ่านที่คำ ผกา พูดแล้วชอบมาก

แถม ยังเอาสิ่งที่ อ. ไชยันต์ ตั้งประเด็นไว้มาคิดต่อ อาจารย์ไชยันต์บอกว่าการอ่านมันจะทำให้เกิดพลังอะไรได้จริงหรือไม่ เพราะมีคำตอบอยู่อีกอย่างหนึ่งคือ การอ่านมันไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย มีคนเคยบอกว่าการอ่านเป็นของฟุ่มเฟือย เหมือนที่เราไม่ได้กินชาก็ไม่เป็นไร

วันก่อน ยังคิดอยู่เลยว่า เลิกอ่านหนังสือไปเย็บปักถักร้อยดีกว่าไหม เพราะมันดู" ยังประโยชน์" ให้เห็นจริงๆ มากกว่าสิ่งเหลวไหลเพ้อเจ้อที่ได้จากการอ่าน

ดีไหมๆๆๆๆ

ป.ล. 1 คนออกแบบหน้าปกวารสารคือประชา สุวีรานนท์ เข้าใจว่าน่าจะออกแบบหัววารสารด้วย คิดได้อย่างไรที่เอาเครื่องหมายปุ่ม power บนคอมพิวเตอร์มาแทน อ.อ่าง เก่งจริงๆ ราวกับจะบอกว่า การอ่านคือ อำนาจ แบบหนึ่ง

ป.ล.2 ตอนนี้ประชาไทอัพเดทเรื่องพลังแห่งการอ่านตอนที่ 2 แล้ว ตามลิงก์
นี้ไปเลยค่ะ //www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=12723&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

อันนี้คือ ตัวอย่าง
...คุณภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ผู้เข้ารับฟังการเสวนา เสนอความเห็นว่า ในวงการการอ่านการเขียนบ้านเรา เรามักจะพิจารณาแต่อะไรที่เป็นมืออาชีพ (Professional) หรือ เป็นแบบชนชั้นที่มีเวลาว่าง (Leisure Class) ถ้าหากมองไปที่ชนชั้นแรงงาน (Working Class) เราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขามากพอ “ผมเห็นแบบเดียวกับที่คำ ผกา พูด ผมเคยไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟ กลับมาบ้านก็ไม่อารมณ์ที่จะอ่านอะไรเป็นสาระ”

ตรงนี้มันเกิดการอ่านการเขียนแบบชีวิตประจำวันของชาวบ้าน เขาอ่านคู่สร้างคู่สม อ่านไทยรัฐ ศาลาคนเศร้า เรามีการสนทนากันตรงนี้หรือเปล่า ซึ่งคู่สร้างคู่สมอยู่มา 20-30 ปี ขายดีมาก แล้วก็พบตามร้านเสริมสวย ร้านก๋วยเตี๋ยว” ภิญญพันธุ์กล่าว “ไม่ใช่ว่าชาวบ้านไม่อ่าน แต่ชาวบ้านเขาเลือกที่จะอ่าน ตรงนี้ผมว่ามันเป็นประเด็นทางวัฒนธรรม”










Create Date : 02 กรกฎาคม 2551
Last Update : 28 สิงหาคม 2557 14:00:20 น. 62 comments
Counter : 2410 Pageviews.  

 
ตามลิงค์ไปอ่านหน่อยจิ๊ อิอิ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:24:39 น.  

 
พลาดอ่ะ ไม่รู้เรื่องได้ไงนี้

ผมว่าอาจารย์ชูศักดิ์นี้เทพมาก ๆ เลยนะครับ อ่านหนังสือ อ่านไม่เอาเรื่อง แต่ละข้อเขียนนี้แทบกราบเท้า


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:02:00 น.  

 
^
^ นั่นน่ะสิดอง เสียดาย อยู่เชียงใหม่ด้วย


โดย: grappa IP: 58.9.188.32 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:07:11 น.  

 
เปลี่ยนจากอ่านหนังสือไปเย็บปักถักร้อยเพื่อดูยังประโยชน์ - - - -

ไม่ดีๆ ๆ ๆ



โดย: อั๊งอังอา วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:33:32 น.  

 
คิดมานานแล้วพี่ว่าการอ่านไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่

เอาง่าย ๆ ถ้าตัวเองเลิกอ่านเนี่ย จะเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีกว่านี้ สังคมกว้างและที่ชัวร์ๆ คือ...รวยกว่านี้!

เดี๋ยวตามไปอ่านบทความค่ะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:15:53 น.  

 
เห็นวารสารนี้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าคงอ่านไม่รู้เรื่องแน่ๆ

ตามลิงค์ไปแล้วค่ะ


โดย: BoOKend วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:41:19 น.  

 
แต่ไม่อ่านอยู่ไม่ได้อ่ะพี่ ชีวิตไร้ความหมาย ฮืออ

แต่ก็คิดว่าควรจะคัดสรรสิ่งที่ตัวเองอ่านซักหน่อย เพราะหลังๆเผลอใจไปกับแนวฝันหวานมากไปนิด

ว่าแล้วก็ตามไปอ่านบทความต่อค่ะ


โดย: พัท IP: 79.131.198.244 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:00:35 น.  

 
โอ้ ฝาน เอ๊ย อ่าน

ตามลิงค์ไปโดยพลัน


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.20.226 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:21:31 น.  

 
หนูซื้อมาเกือบเดือนเเล้วค่ะพี่...
แต่ยังอ่านไปไม่ถึงไหน...
เพราะต้องค่อยๆอ่าน...แต่อ่านเเล้วจะต้องดิ้นรนไปหาเล่มที่กล่าวอ้าง
หรือเป็นต้นทางของเรื่องในเล่มมาอ่านต่อไปอีก...
ต้องบอกว่าคุ้มจริงๆ...เพราะมันจะได้อ่านหนังสือต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ขอบคุณที่เเวะไปเยี่ยมค่ะ..


โดย: กาแฟดำไม่เผ็ด วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:33:56 น.  

 
"เลิกอ่านหนังสือไปเย็บปักถักร้อยดีกว่าไหม"

ไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เปลี่ยนเป็นทำกับข้าวจะดีกว่ามากพี่ อิอิ

(หนูเอาข้าวไปเองก็ได้นะ กร๊าก)


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.20.226 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:00:47 น.  

 
อ่าน "อ่าน" แล้วค่ะ
เมื่อกี้ก็มีน้องส่งลิ้งค์นี้ของประชาไทมาให้อ่าน

อ่านแล้วหนูเลยงดอ่านทุ่งมหาราชที่เพิ่งซื้อมาหนึ่งวัน

ไม่ไปเย็บปักถักร้อยหรอกค่ะ
เพราะตอนนี้หนูกำลังเพ้นท์เสื้อค้างไว้
เดี๋ยววันศุกร์ไม่มีเสื้อใหม่ๆ สวยๆ ใส่ไปโชว์ตัว
หน้าไม่สวย ขอเสื้อสวยไว้หน่อยก็ยังดี
คิ้กๆๆ


โดย: นกที่ไม่มีเสียง วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:13:29 น.  

 
- ลูกสาวโมโจโจโจ้
กับข้าวทำอยู่แล้วไง
วันหลังเราปาร์ตี้ชาวกระทู้ห้องสมุดแบบทำกับข้าวกันด้วยดีไหม

ว่าแต่จะเริ่มที่บ้านใครดีล่ะ


- คุณนกที่ไม่มีเสียงเปิดตัวหนังสืออะหยังอ่ะ ใส่เสื้อเพ้นท์มือตัวเองไปด้วยหรือ เริ่ดค่ะ


โดย: grappa วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:25:59 น.  

 
ขออนุญาตเรียกพี่แป้ดนะคะ

เปิดตัวหนังสือ "สาบอีสาน" ที่โฮมมูนมังเมืองขอนแก่นค่ะ

แล้วจะเอารูปและเรื่องมาเล่าให้ฟัง


โดย: นกที่ไม่มีเสียง วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:49:27 น.  

 
พึ่งอ่าน ดีไซน์ + คัลเจอร์ ของ ประชา สุวีรานนท์จบ

อ่านปุ๊บรักปั๊บเลย

ผมว่าอ่านหนังสือเล่มนี้เก็ทกว่าตอนอ่านมติชนเยอะเลย สงสัยเนื้อหาพอมารวมอยู่ในเล่มก็เลยดูเป็นก้อนเชื่อมสัมพันธ์กันดี

ป.ล. อ่านมติชนเล่มล่าสุดจากคอลัมน์นี้ก็เลยพึ่งได้รู้ว่า ตัวอักษรแบบอังสนาพัฒนามาจากฟอนท์ฝรั่งเศส

ช่างขุดหาข้อมูลเหลือเกิน


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:02:51 น.  

 
เป็นวารสารที่น่าสนใจดีค่ะ
คงต้องซื้อมาอ่านดู


โดย: concubine วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:36:39 น.  

 
ขนาดว่าเป็นคนอ่านไม่เยอะนะคะพี่ แต่ว่าก็ไม่อยาก
เลิกอ่านอ่ะคะ เพราะว่าหนังสือบางอย่างก็อ่าน
เพื่อความจรรโลงใจ มากกว่าจะอ่านเอาเรื่องอย่างเดียวค่ะ
เพราะปกติเครียดอยู่แล้ว พอได้หนังสือสนุกๆ มันช่วยได้
จริงๆ คะ ... แต่ว่าถ้าเอาเรื่องมากอย่างหนังสือมีสาระ ฮี่ๆ
สงสัยว่าอ่านไม่จบเป็นแน่แท้ 55+

ต่างจังหวัดไม่เห็นมีเลยค่ะพี่ .. เอ หรือว่าเราไม่ได้
ไปเดินหาหนอ เลยไม่เห็นเล่มนี้อ่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:25:32 น.  

 
ได้มาแล้ว แพงมากกก

200 บาทแน่ะ

น่าอ่าน แต่เห็นราคาก็สะอึก



โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:55:53 น.  

 
สนุกครับ (ผมยังไม่ได้อ่านอ่านเลย) ที่สนุกคือในประชาไท ผมเคยอ่านงานเขียนของ คุณคำ ผกา ตอนยังเป็น ฮิมิโกะ ณ โตเกียว (หรือเกียวโต?) อ่านสนุกและเพลิดเพลิน เมื่อไม่นานมานี้ผมยังเข้าใจว่าเป็นคนละคนกับ คำ ผกา อยู่เลย :)
ป.ล. เครื่องหมายพาวเว่อน่าสนใจ ตอนแรกเห็นเป็นหัวนิตยสารผมไม่ค่อยชอบเพราะดูเป็นสัญลักษณ์มากไป เมื่อเทียบกับปก design+culture ดูแล้ว ว๊าว กว่าเพราะทั้งดูลึกลับและอ่านได้มากกว่าหนึ่งแบบ :P แต่สนใจว่าทำไมมันถึงมาเป็นสัญลักษณ์ของปุ่ม ปิด เปิด หรือพาวเว่อได้ เจ้าวงกลมแล้วมีเส้นมาเสียบนี้ อยากรู้ครับ พี่แป๊ด?
และเรื่องวิจารณ์ซ้อนวิจารณ์ ถ้าเรามีความรู้ไม่เพียงพอ รู้น้อยเราจะทำได้ไหม? คงต้องอ่าน อ่าน อ่าน ต่อไป เย็บ ปัก ถัก ร้อย ก็น่าสน เพราะผมว่ามันอาจจะพาเราสู่ความสงบ ชีพจรเต้นปกติ ระหว่างนั้นก็อาจจะ อ่าน อะไรออกได้ บลาบลาบลา


โดย: โต้ง IP: 161.200.255.162 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:03:34 น.  

 
ยังไม่เคยเห็น "อ่าน" นี้เลยค่ะ

เอ่อ..เลิกอ่านหนังสือไปทำอย่างอื่นดีมั้ย เคยลองแล้วค่ะ แต่ปรากฏว่าทำให้ตัวเอง "สูญเสีย" บางอย่างไป

สูญเสียการคิดที่เป็นระบบ ความจำละเอียดยิบย่อย ความละเอียดถี่ถ้วน การอ่านหนังสือแล้วจับใจความได้รวดเร็ว

พอกลับมาอ่านอีก ก็ค่อยๆ ฟื้น แล้วก็ไม่เหมือนเดิม

ไม่คิดว่า พี่จะคิดว่าการอ่านไม่มีประโยชน์หรือเป็นของฟุ่มเฟือยจริงๆ หรอกค่ะ (ใช่มั้ย?)

การอ่านมันก่อรูปความเป็นคนในอีกรูปแบบหนึ่งน่ะค่ะ สร้างคุณลักษณะที่ดีบางอย่างให้ (แต่บางอย่างก็ไม่ดีนัก เช่น การมีกรอบอะไรบางอย่างเสมอๆ)

คิดว่างั้นนะคะพี่


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:24:45 น.  

 
- I will see U in the next life

เห็นด้วยว่า ดีไซน์+คัลเจอร์ ฉบับรวมเล่ม เวลาอ่านแล้วรวบรวมความคิดได้ดีกว่า

ตอนที่เห็น "อ่าน" นี้ใหม่ๆ พี่คิดถึง คอลัมน์เชิงอรรถวัฒนธรรม ใน นสพ.ผู้จัดการ เมื่อนานมาแล้ว คอลัมน์นี้มีนัเขียนผลัดเปลี่ยนกันเขียนบทความ มี ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์, ประชา สุวีรานนท์, นพพร ประชากุล, อิสระ ชูศรี และภาณุ บุรุษรัตนพันธ์ " อ่าน" แทบจะpกนักเขียนจาก เชิงอรรถวัฒนธรรมมาทั้งหมด เสียดายก็แต่ อ.นพพร ผู้ล่วงลับ

- JewNid
ต่างจังหวัด น่าจะมีเห็นบ้างแล้วนะคะ

- แอบชอบ คห.ข้างล่าง ( แสดงว่าแอบชอบโต้ง 5 5)
200 บาท อ่านกัน สามเดือน ไม่แพงหรอกค่ะ (วารสารอ่านออกราย สามเดือน )

-โต้ง
ฮิมิโตะ ณ เกียวโต จ้า
เรื่อง วงกลม กับเครื่องหมายเสียบ
พี่ลองตีความนะ มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้น หรือ จุดสิ้นสุดของวงกลมก็ได้
มันทำให้เปิดหรือปิดเครื่องก็ได้ มีอำนาจหรือไม่มีอำนาจมันเริ่มจากตรงนี้ ( 5 5 เดาไปเรื่อย)

- สาวไกด์
คิดทั้งจริงและไม่จริงจ้า คิดคล้ายๆ ที่ยาคูลท์ตอบน่ะ คือ ถ้าเราไม่อ่านหนังสือเยอะเท่านี้ ชีวิตเราอาจจะดีกว่านี้ ไม่เพ้อเจ้อกว่านี้ เคยนึกอยากเลิกจากอะไรที่เราเสพติดมากๆ ไหมล่ะ
แต่มันเลิกยากแล้วล่ะ สำหรับพี่ การอ่าน มันกลายเป็นชีวิตจิตใจไปแล้ว

ส่วนเรื่องเย็บปักถักร้อย คิดจริงๆ ว่าเราน่าจะแบ่งเวลาไปให้งานการฝีมือบ้าง
เวลาที่เราเย็บอะไรที่แล้วมันเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วมันดีจัง ที่สาคัญ มันทำด้วยมือของเราน่ะ มีความสุข

วันก่อนแม่เย็บปลอกหมอนด้วยมือให้
กอดหมอนแล้วมีความสุข


โดย: grappa วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:19:30 น.  

 
"การอ่านคือความฟุ่มเฟือยของชีวิต" โห เล่นเอาสะอึกเลย แสดงว่าผมฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่เด็กเลยสิ ขัดแย้งกับที่ถูกปลูกฝังมาให้รักการอ่านอย่างแรง

ผมว่า มันอยู่ที่การอ่านให้พอดีมากกว่าครับ ต้องรักษาสมดุลกับองค์ประกอบต่างๆ ในชีวิตให้ได้ ไม่ให้มันเอียงกระเท่เร่จนเกิดทุกข์
ส่วนเลือกอ่านอะไรนั้น ก็แล้วแต่แต่ละคน

ผมยิ่งโตยิ่งอ่านหนังสือ (ที่เป็นเล่มๆ) น้อยลง เพราะองค์ประกอบในชีวิตมากขึ้น ต้องเอาให้มันสมดุลน่ะครับ


โดย: เอกเช้า IP: 124.122.152.207 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:47:37 น.  

 
เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าเราไม่อ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ป่านนี้เราอาจจะ"บรรลุ" ไปแล้วก็ได้ 555

ทำไงล่ะเนี่ยมันเสพติดไปเสียแล้ว...หนังสือท่วมหัวเอาตัวไม่รอดจริง ๆ

ตามไปอ่านลิงก์ก่อนนะคะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:54:29 น.  

 
เคยเห็นข่าวก่อนวารสารเล่มนี้จะออกเปิดตัว
แต่กลับหาบนแผงไหนๆ ก็ไม่เจอ (คงขายดี )

ถ้าไม่อ่านหนังสือ ก็คงไม่รอบรู้ (ฟังดูดีกว่ารู้มากเล็กน้อย) และเท่าทันสังคม (โดยเฉพาะสังคมรอบตัวเราเอง)
ถ้าไม่อ่านหนังสือ ก็คงไม่มีเพื่อนๆ อยู่หน้าจอคอมพ์แบบนี้

เพราะฉะนั้น ก็จะยืดหยัดอ่านต่อไปค่ะ
และจะตาม link ไปอ่าน


โดย: นัทธ์ วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:45:20 น.  

 
ปาร์ตี้ห้องสมุดแบบทำกับข้าวด้วย บ้านพัทเลยพี่ๆๆ (เสียดายมีตติ้งแรกชาวเราพี่ไม่ได้ไปนะ ไม่มีใครยอมคุยกันเลย เอาแต่กิน เกือบห่อแจกกลับบ้านด้วยแน่ะ ฮ่า)


โดย: พัท IP: 87.202.191.2 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:58:52 น.  

 
^
^ พัทคิดถึงบ้านสิเนี่ยะ ได้เลยพัทกลับมาแล้วไปบ้านพัทกัน จะได้เล่นกับ ( หมา) บุ้งกี๋ด้วย :-)


โดย: จขบ. IP: 58.9.189.159 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:07:16 น.  

 
พึ่งรู้ว่าอ.ชูศักดิ์อยู่ที่เชียงใหม่ อะครับ
โอ้ว น่าตื่นเต้น

หนังสือก็น่าตื่นเต้น เดียวลองไปหาซื้อดีกั่ว ถ้าไม่ได้บล๊อคพี่นี่แย่เรยยนะนี่(ไม่รู้เชียงใหม่มีขายมั้ยน้อ)

คิดถึงงานเขียนของอ.นพพร เช่นเดียวกันครับ ;[)


โดย: superblackpig IP: 118.172.63.102 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:8:40:35 น.  

 


อ่าน"อ่าน"แล้วค่า
เหมือนเป็นกำไรชีวิตเลย
ยอมรับว่า อ่านหนังสือสะเปะสะปะ
อยากอ่านอะไรก็อ่าน
พอเพียงเป็นบางอย่าง
แต่ยอมฟุ่มเฟือยกับเรื่องอ่าน
อ่านแล้วก็ซื้อ สะสม..
ไม่คิดมากเรื่องนี้อยู่แล้ว

เอาเวลาไปเย็บปักถักร้อยหรือคะ
ทำเพิ่มได้ค่ะ
จะปลูกต้นไม้ เล่นกับลูกชายสี่ขา
วาดภาพกับเด็ก ๆ
เที่ยวตะลอน ๆ ..
แต่ก็ไม่เลิกอ่านหนังสือหรอก
เป็นไปไม่ได้..แน่ ๆ คร่าาาา
ยังกับยาเสพติดแน่ะ
อ่านแล้วมีความสุข
เสพสุขเล็ก ๆ พอเพียงกับชีวิต
ที่คิดว่าเลือกได้..








โดย: ภูเพยีย วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:07:16 น.  

 
ไม่ได้อ่าน แต่ก็ขอให้มี 'อ่าน' กันต่อไป


โดย: visuallyyours IP: 58.8.107.6 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:18:41 น.  

 
หนูบ้าใบ้ไปเลย เวลาเจอคนอ่านหนังสือเยอะๆ


โดย: renton_renton วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:50:56 น.  

 
เห็นที่ออฟฟิศไบโอ หยิบๆ มาอ่านดู รู้สึกตัวหนังสือเยอะ -__-'


โดย: merveillesxx วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:09:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขออนุญาตเรียกพี่แป๊ดนะคะ นานๆ จะแวะเข้ามาอ่านบล็อกของใครๆ ซะที แต่แวะเข้ามาดูบล็อกพี่ทีไร ยิ่งรู้สึกว่าพี่มีความรู้เรื่องหนังสือระดับเซียนจริงๆ

ที่อยากมาขอแจมตรงนี้ก็เพราะสะดุดตรงชื่อ อ. ชูศักดิ์ นี่แหละค่ะ เคยอ่าน 'อ่าน (ไม่) เอาเรื่อง' แล้ว ชอบมาก และตกตะลึงอึ้งอิมกี่กับความคิดอันล้ำลึกและความรู้อันกว้างขวางของอาจารย์เช่นกัน (คิดเหมือนคุณ I will see U in the next life) รู้สึกคุ้นๆ เหมือนจะเคยเห็นที่อาจารย์บอกว่าวรรณคดีเป็นของฟุ่มเฟือยของชีวิตมาแล้วใน 'อ่าน (ไม่) เอาเรื่อง' อ่านแล้วสะอึกจริงๆ


ว่าแต่พี่คะ จะหาวารสาร 'อ่าน' นี่ได้ที่ไหนบ้างคะ? น่าสนมากๆ แผงหนังสือทั่วไปมีมั้ยเอ่ย หรือว่าต้องร้านหนังสือใหญ่ๆ อย่างเดียว เผอิญว่าไม่ได้ไปร้านหนังสือบ่อยๆ ซะด้วย (เพราะที่ซื้อตุนไว้เป็นตั้งยังอ่านไม่หมด 555)


โดย: Slacker (BBJane) IP: 58.9.48.108 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:07:55 น.  

 
เห็น "อ่าน" ครั้งแรกที่งานโรงเรียนหนังสือ ของสำนักพิมพ์ผีเสื้อค่ะ

ไปยืนอ่าน "อ่าน" ที่ร้านอยู่พักใหญ่ แล้วขอยอมแพ้คะพี่แป็ด

ได้แต่ยืนเชียร์อยู่วงนอก และอยากให้ "อ่าน" อยู่กับวงการวารสารเมืองไทยไปนานๆ


โดย: ปณาลี วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:15:09 น.  

 
^
^ ว่าจะไปงานโรงเรียนหนังสือเหมือนกันติดงานซะงั้น

- Slacker (BBJane)

เรียกอะไรก็ได้ค่ะ ตามสบาย จริงๆ ในบล็อกนี้ ที่ตอบคอมเม้นท์กัน มี "นักอ่าน" ระดับเซียนทั้งนั้นเลยค่ะ พี่ยังน้อย
( จริงๆนะ )

"อ่าน " พี่ซื้อที่ศูนย์หนังสือธรรมศาสตร์น่ะ บ้านหนูอยู่แถวไหน ร้านหนังสือเดินทาง ใกล้ๆ ผ่านฟ้าก็มี ร้านโอเดียน ตรงสยามพี่ก็เห็น ลองหาดูเน้อ

เคยอ่าน "อ่าน(ไม่) เอาเรื่อง แสดงว่าเป็นนักอ่านนะเนี่ยะ


โดย: พี่แป๊ด IP: 58.9.183.161 วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:43:53 น.  

 
^
^
ซีเอ็ดมีค่ะ หาไม่เจอสั่งได้ หรืออาจจะสั่งทางเน็ทได้ด้วยก็ได้ หาง่ายกว่าที่คิดนะ (ช่วยๆ กันทำมาหากิน)

อ่านคอมเม้นท์มากๆ แล้วชักสะกิดใจกับปฏิกิริยาต่อประโยค "วรรณคดี (or การอ่าน) เป็นของฟุ่มเฟือยกับชีวิต" แฮะ ตอนที่ได้ยินครั้งแรก อาจารย์ใช้คำภาษาอังกฤษ "วรรณคดีเป็น luxury" เสริมด้วยอะไรทำนองว่า "คุณต้องมีทุกอย่างพร้อมไม่เดือดร้อนก่อน ถึงจะมานั่งเสพมันได้" ซึ่งมันออกจะแตกต่างกันอยู่นะพี่ หรือว่าไง

ทีนี้ก็เลยติดกับความรู้สึกแรกนั่นมาตลอด พอเปลี่ยนมาเป็น "ความฟุ่มเฟือย" ก็ไม่ได้สะดุดอะไร จนเมื่อมาพิจารณามันใกล้ๆ เพราะเห็นคนอื่นรู้สึกไปอีกทางนี่แหละ

ขออนุญาตอาจารย์ (ทางอากาศ) reword เป็น "วรรณคดีเป็นของหรูหรา" แทนได้ไหมคะ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:03:22 น.  

 
ปล. มั่ง โชคดีที่กลับมา เพราะรอตอนสองจนลืมไปแล้ว


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:05:55 น.  

 

^
^ เย้ย เค้าก็อัพเดท ไม่ได้ห่างกันมากนะ

ส่วนเรื่องวรรณคดี เป็นของหรูหรา หรือของฟุ่มเฟือยนี้ (คิดว่า ประชาไท คงรายงานมาถูกนะ )

ที่ได้ยินมาครั้งแรก ได้ยินจากไหนหว่า

ส่วนประโยค วรรณคดี เป็นของฟุ่มเฟือยนี้ มันอาจจะอยู่ในบริบทของการพูด มันเป็นภาษาพูด อาจารย์แกเลยพูดให้สุดโต่งน่ะ

ถ้า " ความฟุ่มเฟือย" มันจะหมายความว่า ถ้าไม่มีก็อยู่ได้ วรรณคดีก็เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยนะ ในแง่นี้ ไม่อ่านวรรรณคดีก็ไม่ตายน่ะ (เอ๊ะ ลูกศิษย์ อ. ชูศักดิ์อย่างคนข้างบนจะรับได้ไหมถ้าพูดแบบนี้ อิอิ )

พี่ชอบประโยคว่า วรรณคดี เป็นของฟุ่มเฟือยนะ สุดโต่งดี ยั่วให้แย้งต่อไปได้อีก มันจะทำให้คิดต่อไปว่า จริงหรือไม่

แต่พอบอกว่า วรรณคดีเป็นของหรูหรา
มันใช่น่ะ จบเลย จะเถียงกันไปทำไมอีก ( หรือเปล่า)


โดย: grappa วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:47:23 น.  

 
ยังไม่เห็นเลย...หนังสือเล่มนี้...
จริงๆไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน...
ประหยัด...เพราะน้ำมันแพง....โคตร
..................................
อ้อ...ท่านพี่...
เครื่องชงแบบ....syphon
ราคาสี่พัน..ขอรับ..ขายที่เซ็นทรัล
นี่ลดราคาแล้ว

แล้วมีอีกแบบ....
ชื่อ...เคมเมกซ์
//bkksprolab.com/2008/02/post-19.html
อันนี้แบบหยด...สร้างโดยนักเคมี...
ประมาณสองพันบาท...

อีกแบบคือ Aero Press
แบบหยดเหมือนกัน....
แต่ต้องใช้แรงกดเหมือน french press
อันนี้เค้าว่า เจํง...
ยังไม่ได้ลองเลย....
ของหมด....ต้องรอ
ประมาณ พันสี่ร้อยบาท....

กาแฟก็...ดอยช้างเลยพี่...สุดยอดกาแฟไทย


โดย: alienboon IP: 124.120.179.74 วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:11:04 น.  

 
^
^ อ่าสงสัยพี่ต้องกินกาแฟอินสแตนท์ต่อไป T-T


โดย: จขบ. IP: 58.9.204.49 วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:25:55 น.  

 
ไปลองเปิดๆ "อ่าน" ดู
อยากอ่านอยู่คอลัมน์เดียวคืออันที่วิเคราะห์ แด่พระผู้ทรงธรรม 5555

เพราะไม่มั่นใจศักยภาพตัวเองว่าจะอ่านรู้เรื่องทั้งเล่มหรือเปล่าเนี่ยสิ


โดย: nanoguy IP: 161.200.255.162 วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:34:38 น.  

 
เฮียไปหาซื้อ แต่หาไม่ค่อยจะเจอ ซื้อยากมากเลยค่ะ


โดย: fonkoon วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:12:17 น.  

 
เมื่อวานไปถามหน้าม.มาไม่มีอะครับ คนขายทำหน้างงๆ อะไรนะ "อ่าน" ไม่มีนะคะ ผมเลยซื้อ MEMO มาแทน อิอิ


โดย: superblackpig IP: 118.172.51.20 วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:14:46 น.  

 
- fonkoon

โอเดียน สยาม ตรงข้าม สกาล่าอ่ะจ้า
วันก่อนพี่เห็นอยู่


- superblackpig
ร้านเล่า ไง ร้านหนังสือแนวๆ มีอยู่แล้ว


โดย: grappa IP: 58.9.190.249 วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:23:56 น.  

 
ซื้อ"อ่าน"มาอ่านแล้วครับ
มึนใช้ได้เลย (มึนกว่าอ่านฟ้าเดียวกันประมาณ 10 เท่า)

แต่รู้สึกดีที่มีวารสารแนวนี้ออกมา

ปล.ตอนนี้อ่าน แด่พระผู้ทรงธรรม, การ์ตูนคุณเรณู ปัญญาดีกับบทความคุณณัฐพล ใจจริง จบไป 3 คอลัมน์
ส่วนคอลัมน์ที่เหลือขอทำใจก่อน


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:3:03:19 น.  

 
ตอนแรกเห็นปกหนังสือ ก็แอบคิดอยู่ในใจว่าต้องได้เสียตังค์แน่ๆ
แต่หลังจากหยิบมาเปิดดูเห็นตัวหนังสือเต็มพรืด ก็เอาวางไว้ที่เดิมแบบแทบไม่ต้องคิดเลยค่ะ

แต่ถ้าเราไม่ได้อ่านหนังสือชีวิตอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ เพราะคงหันไปเล่นเกมทั้งวันแทน
อย่างน้อยอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมันก็ยังพอได้เรื่องภาษาอยู่บ้าง ไม่ไร้ประโยชน์ไปทั้งหมดหรอก(มั้ง)


โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:24:57 น.  

 
ไปหาซื้อ แต่หาไม่เจอ เลยต้องฝากน้องซื้อที่นายอินทร์ท่าพระจันทร์ น้องซื้อมาให้แล้ว เกือบจะว่าน้องว่า ซื้อหนังสือหางานมาให้ทำไม

แต่ชอบมากเลย เหมือนได้กลับไปอ่าน New York Times Book Review


โดย: ikkechai IP: 116.68.146.74 วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:36:20 น.  

 
ผมก็ยอมรับว่าการอ่านคือความฟุ่มเฟือย เพราะรายจ่ายทุกวันนี้ก็หมดไปกับหนังสือ ( ที่อ่านไม่จบ ) มากมาย
แต่ผมว่า มันเป็นความฟุ่มเฟือยที่คุ้มค่าน่ะ ( เอ แล้วมันเรียกว่าฟุ่มเฟือยได้ไหมเนื่ย )

คิดถึงร้านเล่าจังแฮะ


โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:31:41 น.  

 
กำลังพยายามตกผลึกตัวเองอยู่ค่ะ
(มีคนบอกว่าให้ลดการอ่านลงบ้าง...แล้วลงมือเขียนของตัวเองซะบ้าง)

แต่ ก็ น่า "อ่าน" จริงๆ นั่นแหละ
มีสองสิ่งในชีวิตที่ไม่คิดว่าเป็นสิ่งหมดเปลืองหรือฟุ่มเฟือย
หนึ่งคือหนังสือ
และสองคือ(การปรนเปรอ) แมวค่ะ



โดย: quin toki วันที่: 7 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:48:27 น.  

 
มันมีขายทั่วไปหรือเปล่าพี่ พูดแล้วก็นึกถึงหนังสือนิ้วกลมที่ฝากพี่ไว้ ไม่รู้ขายใครไปหรือยัง วันศุกร์เจอกันงานโซออน


โดย: pick IP: 202.41.167.246 วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:39:12 น.  

 
ปัจจุบันขัดเกล้าลูกให้อ่านค่ะพี่ เหมือนเค้าจะชอบด้วย

เพราะตัวเองเป็นคนไม่ชอบอ่าน แต่ชอบหนังสือว่ามันน่าถนุถนอม เอจริงๆแล้วเป็นคนขี้เกียจ ต้องหนังสือที่ตรงจุดมากถึงจะอ่าน เอหรือมีเหตุที่ต้องอ่าน ยิ่งพูดยิ่งงงตัวเอง แฮ่ๆ


โดย: Special Ed. วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:21:34 น.  

 
อืมมมม เลยต้องยอ้นกลับมาคิดถึงค่าเฉลี่ยการอ่านอีกครั้งนะครับ
ว่าเขานับตัวเลขมาจากไหน


โดย: Marvellous Boy วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:16:03 น.  

 
ยังไม่เคยเห็นเลยครับ

ต้องรีบไปหาดูมั่ง อยากได้ๆๆ


โดย: ahiruno007 วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:54:45 น.  

 
กำลังนัดกันไปดูสามก๊กอยู่อ่ะพี่ ในกรุ๊ปบล็อกวีไอพี เข้าไปดูได้งับ ตกลงได้กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วว่าเป็นวันที่ 19

ตอนนี้กำลังติดการ์ตูนที่เป็นแฟนฟิคของสามก๊กอยู่อ่ะค่ะ ถ้ายังไม่เคยอ่าน ก็ขอเชิญชวนอ่าน หงสาจอมราชันย์ นะฮับ การ์ตูนขั้นเทพ คนเขียนก็เทพ คนแปลก็เทพ

ว่าจะเขียนขยายความเรื่องการอ่านเป็นความฟุ่ยเฟือย or หรูหราในบล็อกตัวเองสักที แต่งานยุ่งจิ๊บ เฮ่อ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:39:18 น.  

 
หงสาออก 27 เล่มแล้วฮับ ตอนนี้มีแต่เล่ม 24-27 หุๆ เ่ช่าเขามั่ง ยืมเขามั่ง กำลังเคลียร์ที่ให้มันอยู่อยู่ฮับ แต่จะบอกพี่ว่า ซื้อเหอะๆ ถึงจะยืมเขาอ่าน สุดท้ายก็ต้องซื้ออยู่ดี ตั้งแต่แนะนำมา ยังไม่มีใครที่ไม่ชอบเลยนะ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:48:57 น.  

 


เห็นวางที่ นายอินทร์ ด้วยนะคะ

แวบแรก เห็นเป็น "ฝาน" เหมือนกัน ^^"


โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.122.105 วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:56:28 น.  

 
เห็นที่ร้านนายอินทร์สาขามาบุญครอง ไปยืนอ่านมาแล้วครับพี่

เห็นมีบทความเรื่องนักเขียนอินเดีย Kiran Desai ด้วย พี่รู้ไหม ผมมีเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียคนหนึ่ง ชื่อ Kiran Desai เด๊ะๆ เลย ว่าจะถามนานละ พอดีอาทิตย์นี้เค้ามาประชุมที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน เลยถามซะ ปรากฏไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เค้ารู้จักคีรานที่เป็นนักเขียนคนนี้ว่าได้ Booker Prize ไรเงี้ยครับ

แต่เพื่อนผมคนนี้เป็นผู้ชายนะ แสดงว่าชื่อ+สกุลนี้ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.182.207 วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:56:25 น.  

 
ซื้อ "อ่าน" มาแล้วครับ
แต่ก็ยังไม่ได้ฤกษ์ อ่าน สักที


โดย: calcium_kid วันที่: 17 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:21:43 น.  

 
ต้องรีบไปหาซื้อ


โดย: lolay IP: 58.9.205.209 วันที่: 19 กรกฎาคม 2551 เวลา:6:21:24 น.  

 
วันนี้วันหยุด
มาเด็กๆ มาเยี่ยมค่ะ





โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:54:08 น.  

 
ผมเสพติดการอ่านพี่
เนื่องจากเป็นคนใจร้อน ถ้าต้องรออะไรเกิน 1 นาที แล้วต้องมีหนังสืออ่าน
หรือนั่งกินคนเดียวก็ต้องมีหนังสืออ่าน
อ่านอะไรก็ได้ที่มันมีตัวหนังสือ เมื่อตอนเด็กๆ ชอบอ่านบางกอก เริงสาร ทานตะวันที่บ้านน้ารับหนังสือพวกนี้มาอ่าน เมื้อก่อนแกเคยเปิดซุ้มปั้มน้ำมันหมุนอยู่หน้าบ้านแกคงอยากจะอ่านฆ่าเวลา ผมเลยมีโอกาสได้อ่าน
อ่านจนชอบนิยายบู๊ยิงล้างผลาญ แลเวแม่ก็จะชอบอ่านพวกขวัญเรือน ผมเลยได้อ่านนิยายแนวหญิงๆ เยอะเลย
แหม แต่พอโตขึ้น ก็เป็นอย่างตอนนี้ วรรณกรรมก็ต้องอ่านที่เขียนว่าสร้างสรรค์ (ทั้งที่ตอนนี้มันชักน้ำเน่าเข้าทุกทีแล้วพี่) เป็นหลัก
ช่วยด้วย!!


โดย: นิล IP: 61.7.137.225 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:33:47 น.  

 
ได้อ่านหนังสือที่แมวสอนนกบินนะครับ (จำชื่อไม่ได้ละ ที่ออกกับสำนักพิมพ์ผีเสื้อ)

น่ารักมากเลยพี่ โดยเฉพาะหน้าปก เห็นแล้วอยากมีแมวอ้วน ๆ แสนรู้แบบนี้ที่หอสักตัว


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:04:06 น.  

 
ไม่งงครับพี่ เดี๋ยวจัดให้ Last Friends รอหน่อยนะครับ


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.188.90 วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:19:11 น.  

 
แล้วเราฟุ่มเฟือยหรือเปล่าหว่า

อาจจะฟุ่มเฟือยมากกว่าที่คิด เพราะซื้อมาแล้วยังไม่ได้อ่านเลยก็มี(มีมากด้วย)
เห็นด้วยนะแต่เราว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะอ่านมาเหมือนกันด้วย ถ้าอ่านแบบชาวบ้านร้านตลาดอย่างเดียวกัน การมองอาจเปลี่ยนเป็นอีกแบบก็ได้เนอะ ว่ามะ...


โดย: มินมู วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:02:31 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]