|
- - - - - - - กลับจากเสม็ด - -- - -- -- - - -
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2551 |
| |
|
Last Update : 23 สิงหาคม 2557 19:26:06 น. |
| |
Counter : 1140 Pageviews. |
| |
|
|
|
- - - - - โปสการ์ดจากภูฎาน : ด้วยความระลึกถึง - - - - -
จริงๆ เสาร์-อาทิตย์นี้ตั้งใจไว้คร่าวๆ ว่าอยากไปพักที่โฮมสเตย์ของเพื่อนคนหนึ่ง อยากหายสาบสูญไปอ่านหนังสือเล่มโปรด อยากทิ้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปสักสามสี่-วัน แต่จนแล้วจนรอด งาน Job บางชิ้นก็ทำให้ทิ้งไปไม่ได้ ( หรือดิฉันอาจจะจัดการบริหารเวลาไม่ค่อยดีเท่าใดนัก )
โปสการ์ดจากภูฎานเซ็ทนี้ เห็นคราวแรกก็คิดถึงเพื่อนช่างภาพผู้กำลังปลุกปั้นกับโฮมสเตย์เล็กๆ แถวๆ จังหวัดบ้านเกิดของเขา ดิฉันโทรศัพท์ไปนัดหมายกับเขาไว้คร่าวๆแล้วว่าเสาร์-อาทิตย์นี้อาจไปนั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือที่นั่น
คิดไว้ด้วยว่าถ้าเสาร์-อาทิตย์นี้ได้ออกเดินทางจะเอาโปสการ์ดชุดนี้ไปฝากเขาด้วย ตั้งใจจะบอกเขาว่า ดูรูปจากโปสการ์ดพวกนี้แล้ว คิดถึงรูปขาว-ดำของเขามากๆ ถ่ายรูปต่อไปนะ อย่าเพิ่งทิ้งอาชีพที่เขารักไปเสียก่อน
ดิฉันคิดถึงการเดินทางไปโฮมสเตย์ของเขา และคิดถึงการเดินทางครั้งล่าสุด - ภูฎาน- จริงๆ
 Phub Om at Home in Ada village
 Gachi , a yak herder in Haa valley
 Sonam Wangdi with family members in Sakteng valley
 Tangsubi village enroute to Ura valley
Photograp by Serena Choera
โปสการ์ดชุดนี้จัดทำโดย Tarayana Foundation ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร ทำงานเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชนบทของภูฎาน ดูรายละเอียดของมูลนิธิได้ที่นี่ //www.tarayanafoundation.org/
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2550 |
| |
|
Last Update : 23 สิงหาคม 2557 19:52:15 น. |
| |
Counter : 1016 Pageviews. |
| |
|
|
|
- - - - - - - - - - สองปีผ่านไป ความเศร้านั้นยังคงอยู่ - - - - - - - - - -
 วิวจากหน้าต่างห้องของโรงแรมที่ดาร์จิลิงก์
เข้าไปอ่านบล็อกของคุณ sTRAWBERRY sOMEDAY ที่แต่งเพลงให้เหตุการณ์ทซึนามิ มันทำให้ดิฉันระลึกถึงการเดินทางเมื่อสองปีที่แล้ว เป็นการเดินทางที่หนาวเหน็บ สลดหดหู่ สับสน งุนงง และแสนเศร้าพอๆ กัน
วันที่ 25 ธันวาคม เมื่อสองปีที่แล้วดิฉันไปอินเดียครั้งแรก หลังจากจดๆ จ้องประเทศนี่อยู่นาน เพื่อนผู้เคยเรียนที่ศานตินิเกตัน กลับไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยของตัวเอง ชักชวนไปเที่ยวด้วยกัน ดิฉันเห็นว่าเป็นการดีแน่ที่จะได้เดินทางกับคนที่มีอินเดียเป็นบ้านที่สอง ( เธอคือคนเขียนหนังสือ คำถามใต้ร่มไม้ ดิฉันเคยเขียนถึงหนังสือของเธอไว้ ที่นี่ )
เมืองแรกที่เราไปถึงคือกัลกัตตา เมืองที่แสนวุ่นวาย เมืองที่คุณจะเห็นทุกอย่างอยู่บนนถนน วัว แกะ ไก่ รถราง รถเมล์ แท็กซี่ รถส่วนตัว ผู้คนที่ใช้ฟุตบาทเป็นบ้าน คนขายของ ฯลฯ มีหลายคนไม่ชอบเมืองนี้ ค่าที่มันแสนวุ่นวาย แต่ดิฉันไม่รังเกียจ ดิฉันเห็นว่ามันก็เป็นอินเดียดี เราค้างคืนกันที่นี่คืนหนึ่ง ไปดูหนังอินเดียที่ไม่รู้ว่าตัวละครพูดอะไรกันเลย ( เพราะฟังภาษาของเขาไม่ออก แถมดูหนังไม่จบเรื่อง ) ในคืนคริสต์มาสของที่นี่
รุ่งขึ้นเช้าเรานั่งรถไฟต่อไปศานตินิเกตัน เมืองมหาวิทยาลัยของอินเดีย ไปพักที่บ้านเช่าของเพื่อน เจอนักเรียนไทยหลายคน ได้กินอาหารอินเดียอร่อยๆ ก็ที่นี่ ได้ดื่มชาถ้วยละบาท รสแสนละมุนก็จากที่นี่ อยู่ที่อินเดียดิฉันจิบชาแทนน้ำ แถมแก้หนาวได้ดี และที่นี่เองข่าวคราวความสูญเสียก็ก่อตัวขึ้น น้องนักเรียนไทยที่มาคุยกับเราระหว่างมื้อน้ำชายามบ่าย บอกว่า CNN กำลังรายงานข่าวถึงเมืองไทย เขาคิดว่าเกิดแผ่นดินไหว ( ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าเกิดทซึนามิด้วย ) เราคุยกันด้วยความแปลกใจ เมืองไทยไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมากๆ มาก่อน และเราไม่ได้คิดกันสักนิดว่าเหตุการณ์มันจะร้ายแรงถึงปานนี้
เช้าอีกวันดิฉันเดินทางต่อ นั่งรถไฟข้ามคืน ก่อนที่จะต่อรถจิ๊ปขึ้นภูเขาสูงไปสิกขิม เพื่อนดิฉันยังคงพักอยู่ที่ศานตินิเกตัน ดิฉันเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทางอีกกลุ่มหนึ่ง ที่กังต็อคเมืองเอกของสิกขิมเราได้รับรู้ว่าแผ่นดินไหวนั่นร้ายแรงกว่าที่เราคิดมากมาย ดิฉันซื้อหนังสือพิมพ์อินเดียอ่านด้วยความตกใจ ( อินเดียมีหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษหลายหัว ราคาถูกมาก มีตั้งแต่ราคา 1 รูปีขึ้นไป ) รีบโทรศัพท์กลับบ้าน ไม่มีใครไปที่ภูเก็ตและพังงา ช่วงปีใหม่ โล่งอกไปหนึ่งเปลาะ ได้แต่ภาวนาว่าเพื่อนๆ เราคงไม่มีใครไปภูเก็ตและพังงาช่วงนั้น เข้าไปเช็คข่าวที่พันทิป ยิ่งตกใจเพราะหน้าแรกของพันทิปเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน พวกเราสับสนมาก พากันโทรศัพท์หาคนรู้จักที่เมืองไทย
อีกสองวันต่อมาดิฉันแยกกับเพื่อนร่วมทางทุกคน เดินทางคนเดียวไปดาร์จิลิงก์ ( เรานัดเจอกันอีกครั้งที่กัลกัตตา วันที่นั่งเครื่องบินกลับบ้าน ) กลางวันดิฉันเดินดูบ้านเมืองและผู้คนของดาร์จิลิงก์ ไปเที่ยวไร่ชา ไปดูร้านหนังสือ ไปซื้อชากลับบ้านฝากเพื่อนๆ ไปนั่งรถไฟ Toy Train รถไฟที่ใช้หัวจักรไอน้ำซึ่งเหลือเพียงไม่กี่ขบวนของโลก ฯลฯ เดินไปทางไหนเมื่อมีใครรู้ว่าดิฉันมาจากเมืองไทย ทุกคนต่างแสดงความเสียใจ กลางคืนหลับคาจอโทรทัศน์ไปพร้อมกับข่าวของ CNN และข่าวภาคภาษาอังกฤษของอินเดีย จะกลับบ้านก่อนก็ไม่ได้เพราะไม่สามารถเลื่อนตั๋วกลับได้ วันสิ้นปี ดิฉันเคานท์ดาวน์อยู่คนเดียวที่โรงแรมในดาร์จิลิงก์ นั่งเช็คข่าวจาก CNN ท่ามกลางความหนาวประมาณ 1-2 องศา ดูภาพผู้คนและความสูญเสียของเมืองไทย ได้แต่ถามตัวเองว่าเกิดอะไรกับเมืองไทยหรือนี่ ก่อนนอนคืนนั้นดิฉันสวดมนต์อธิษฐานว่า ขออย่าให้คนที่เมืองไทยเป็นอะไรมากกว่านี้เลย ( ปรกติดิฉันมักเข้านอนโดยไม่ได้สวดมนต์)
กลับมาเมืองไทย มีข้อความหลายข้อความฝากไว้ใน เมลบ็อกซ์ของโทรศัพท์มือถือ เพื่อนๆ หลายคนเป็นห่วง เพราะบางคนรู้แค่ว่าดิฉันไปอินเดีย แต่ไม่รู้ว่าไปเมืองไหน คนที่เมืองไทยก็ตกใจเพราะอินเดียก็เจอทซึนามิร้ายแรงเหมือนกัน พอออน์ไลน์ขึ้นมามีหลายคนเข้ามาแสดงความโล่งอกที่ดิฉันกลับมาแล้ว
กลับมาบ้านคราวนั้นดิฉันคิดว่าเส้นแบ่งระหว่างความมีชีวิตอยู่และการจากไปมันนิดเดียวเอง
มนุษย์เราเป็นเผ่าพันธุ์ที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความตายและความสูญเสียได้ทุกเมื่อ
และดิฉันคงจดจำคืนเคานท์ดาวน์อยู่คนเดียวที่โรงแรมในดาร์จิลิงก์นั่นไปอีกนาน
ป.ล.เข้าไปฟังเพลงของคุณ sTRAWBERRY sOMEDAY ได้ที่นี่ค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=strawberry-someday&group=7
Create Date : 26 ธันวาคม 2549 |
| |
|
Last Update : 26 ธันวาคม 2549 19:40:39 น. |
| |
Counter : 1222 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
 |
grappa |
|
 |
|
|