- - -มหา'ลัยเเหมืองแร่ VS เหมืองแร่ : เกียรติยศตายไปแล้วจริงหรือ - -



เขียนถึงหนังสือและหนังเรื่องนี้ เพื่อต้อนรับหนังที่จะเข้าฉายจริง เมื่อวาน (26 พฤษภาคม ) ชอบหนังเรื่องนี้พอสมควร มากว่าเรื่องแรกของพี่เก้ง (ขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ) วันสองวันนี้จึงไปรื้อหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาจากชั้นหนังสือ สารภาพว่าไม่เคยอ่านหนังสือของคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ มาก่อน ทั้งๆที่ได้ยินกิตติศัพท์มานานนักหนาแล้ว ไม่ต้องพูดว่ามีการทำวิจัย บอกว่าหนังสือเล่มนี่เป็นหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน
แต่สิ่งที่ทำให้อยากอ่านหนังสือเล่มนี้มากคือ เสียงของพระเอกที่เป็นคนดำเนินเรื่อง และทุกประโยคที่พระเอกพูดถึงล้วนยกมาจากหนังสือเล่มนี้ทั้งสิ้น ทำให้อยากอ่าน " เหมืองแร่" เหลือเกิน ทำไมสำนวนคุณลุงอาจินต์ ช่างเท่อย่างนี้หนอ

คำนำของสำนักพิมพ์มติชนขึ้นต้นไว้ดังนี้
Go west , Go west ... ไปบุกไร่ไถนากันเถิด ไปบุกเบิกแผ่นดินใหม่ ไปเสี่ยงชะตา ไปให้ฟ้ากำหนดชีวิตเราเถิด
นั่นละ อาจินต์ ปัญจพรรค์ในปี 2493 แต่เขาไม่ได้ Go west หรือบุกเบิกอะไรที่ไหนหรอก หากแต่ Go south โกทูพังงา โกทูเหมืองแร่ อันอุดมด้วยป่าแดด ป่าฝน และป่าทราย


ส่วนคำนำของผู้เขียนนั้นบอกว่า ...อันว่าผมอาจินต์ ปัญจพรรค์ ในวัย 77 ปีเห็นว่าการต่อสู้ของชีวิตมีทุคยุค ทุคสมัย คนเราสู้กับสิ่งแวดล้อม พลางสู้กับสังขารของตัวเอง ..

เด็กหนุ่มผู้รีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัย ยากจน ไร้งาน ท้อแท้ ใกล้จะอกหัก(และต่อมาก็อกหัก ) และแหย ได้ระเห็จออกไปสู่สภาพแวดล้อมที่ ภูเขาเปียกจนละลาย ใบไม้โงหัวไม่ขึ้น ดินเละเป็นโคลน ...หนาวที่นั่นเป็นหนาวโศก และเงียบขรึม ..ถึงแดดร้อนเราก็ต้องเดินตากมันไป ตากมันไปจนในที่สุดมันก็ละอายแก่ใจแล้วจึงค่อยๆ หุบเข้าก้อนเมฆฝน...เอาอีกแล้ว ฝนตกอีกแล้ว ไปทำงานในเหมืองที่ห่างไกลจากกรุงเทพถิ่นที่เขาคุ้นเคย เขาไปเพื่อจะพบว่า เขาสามารถเรียนรู้งานและชีวิตได้จาก ยามของเหมือง คนงานระดับล่างในเหมือง และเรียนรู้งานจากอีกหลายคนที่ไม่แม้แต่จะเคยเหยียบย่างเข้าสู่มหาวิทยาลัยหรือกรุงเทพมหานคร

แรกๆ เขาทำงานได้ค่าแรงเท่ากับกรรรมกรคือได้ค่าแรงวันละหกบาท แต่ต่อมาหลังจากพิสูจน์ตัวเองได้แล้ว เขาก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นคนสำรวจทำแผนที่ งานที่เขาต้องพิสูจน์แก่ใจตนเองว่าไม่ได้ทำให้เป็นกาฝากของเหมืองแร่แห่งนี้

ถามตัวเองว่าทำไมชอบหนังเรื่องนี้นักหนา ทั้งๆ มันก็เป็นหนังที่แสดงตัวเองง่าย ๆ ไม่ได้สลับซับซ้อน อะไรมากมาย ดำเนินเรื่องไปตามลำดับเวลา ดูง่ายแสนง่ายซ้ำหนังก็ไม่ได้ทำให้เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนการมองโลกแต่อย่างใด มันเป็นหนังธรรมดาๆ และเรียบง่ายขนาดนั้น

ตอบตัวเองได้ทันทีทันใด เพราะหนังมันแสดงถึง อุดมคติบางอย่างที่ขาดหายไปจากชีวิตคนส่วนใหญ่นานแล้ว ผู้กำกับอธิบายเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจในบทสัมภาษณ์จากนิตยสาร GM " ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้มันอยู่ในใจมานาน อย่างเรื่องที่เจอน้องๆ พูดกันแต่เรื่องงเดือน แทนที่จะพูดเรื่องงาน หรือเรื่องที่ว่า เกียรติยศ มันตายไปแล้ว ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนรุ่นเราอีกแล้ว การพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงานกลายเป็นเรื่องเชย เราพิสูจน์ตัวเองด้วยข้าวของเครื่องใช้ ภายนอกแทนดีกว่า เผอิญว่าเหมืองแร่มันสนุกและมันพูดถึงเรื่องนี้ได้อย่างแนบเนียน "

ตัวละครในเรื่องที่เราพบเห็นใน เหมืองแร่ จึงเป็นตัวละครที่ฆ่า ได้ แต่หยามไม่ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพี่จอน ที่ยอมลาออก ดีกว่าทนทำงานอยู่ผู้จัดการเหมืองคนใหม่(ซึ่งเป็นฝรั่ง ) ที่ไม่รู้งานเลย พี่ก้องที่ไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย แต่สอนงานและสอนชีวิตให้รุ่นน้องที่เป็นนักศึกษาอย่างจัง ตาจวน ยามแก่ๆ ที่ไม่ยอม "เก็บความเกลียดเป็นที่ระลึก " และผู้คนที่ "แมนๆ " อีกหลายชีวิต การใช้ชีวิตแบบ แบบนี้เอง ที่นำพาความอิ่มเอมมาสู่ชีวิตอีกครั้งนึง

มันได้ทำให้ คำว่า เกียรติยศ ถูกสะกดขึ้นอีกครั้งในหัวของคนดู และคนอ่านหนังสือ

และ มันได้ทำให้ คนที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในร่มและหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเจ้าของบล็อค อยากเดินออกไปสู่โลกภายนอก ออกจากโรงหนังที่มีแต่ความมืดมิด

ออกไปตั้งคำถามต่อตัวเองอย่างจริงจังว่า อะไรกัน หนอ ที่เป็น "Sunshine of my Life " และ ทำให้มันเป็นแสงสว่างแห่งชีวิตตลอดไปอย่างจริงจังเสียที

หมายเหตุ
เพลงประกอบ หนังเรื่องนี้น่ารัก และสมเหตุสมผลเสียเหลือเกิน ดินแดนที่มีฝนตลอดปี อย่างในเหมืองแร่ห่างไกลในป่าทึบ วันไหนที่มีแดด จึงเป็นวันที่"พิเศษ" อย่างแท้จริง

ขอบคุณ

นิตยสาร GM ที่ชวนไปดูหนังดี ๆ
สำนักพิมพ์มติชน ที่มีหนังสือดีๆ มาให้อ่านบ่อยครั้ง






Create Date : 27 พฤษภาคม 2548
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 17:27:05 น. 58 comments
Counter : 4683 Pageviews.  

 
ชอบประโยคนี้จังครับ
>> และ มันได้ทำให้ คนที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในร่มและหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเจ้าของบล็อค อยากเดินออกไปสู่โลกภายนอก ออกจากโรงหนังที่มีแต่ความมืดมิด

ออกไปตั้งคำถามต่อตัวเองอย่างจริงจังว่า อะไรกัน หนอ ที่เป็น "Sunshine of my Life " และ ทำให้มันเป็นแสงสว่างแห่งชีวิตตลอดไปอย่างจริงจังเสียที

---------------
มีประโยคหนึ่งในหนัง Head-On ที่ผมคิดว่าน่าจะเข้ากับหนังเรื่องนี้ได้

"if you can't change the world, change your world"
สุดท้ายแล้ว โลกที่อาจินต์อาศัยอยู่ก็แทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากมาย , โลกของอาจินต์เอง (หมายถึงในแง่ทัศนคติ) ก็แทบจะจับต้องอะไรไม่ค่อยได้

...มาตัวเปล่า กลับตัวเปล่า
...มาศูนย์บาท กลับศูนย์บาท

แต่ผมกลับคิดว่า การเดินทางครั้งนี้ของเขาไม่ "สูญ" เปล่าครับ
อาจินต์ได้หลายๆ อย่างจากการเดินทางครั้งนี้ - มิตรภาพกับไข่ (แหะๆ จำพี่ก้องไม่ได้ คนไหนหว่า ต้องกลับไปดูรอบสอง), การเรียนรู้เรื่องเกียรติยศและศักดิ์ศรี

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็อดนึกถึงคำพูดนี้ไม่ได้ (ความจริงไม่ใคร่อยากเอ่ยถึง เพราะมันดูเป็นการยึดติดกับสถาบันมากเกินไป) คำพูดที่ผมได้ยินกรอกหูตั้งแต่เข้ามาเรียนที่คณะนี้ , คำพูดที่บางครั้ง บางครา ผมก็เซ็งๆ (แบบจะย้ำกันไปถึงไหน เหมือนเฟคๆ ยังไงไม่รู้)

กับคำพูดๆ นี้ครับ

......."เกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน"

จบ




โดย: it ซียู วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:38:58 น.




เอ คิดไปคิดมา ประโยคนั้น (if you can't change the world....) มันขัดสิ่งที่ผมพูดตามมายังไงไม่รู้ (ฮา)



โดย: it ซียู วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:41:13 น.




กลับมาอ่านแล้วงงๆ ที่ตัวเองเขียน แหะๆ เมื่อคืนมัวแต่ดูมิสยูฯ ตื่นมาเลยงัวเงียๆ

ขอแก้ไขนิดนึงครับ
โลกของอาจินต์เอง (หมายถึงในแง่ทัศนคติ) เป็น >> โลกของอาจินต์เอง (หมายถึงในแง่กายภาพ)

เพราะแง่ทัศนคติ ผมเห็นว่าอาจินต์ได้เรียนรู้หลายอย่างไปเต็มๆ
เดี๋ยวขอดูอีกรอบแล้วจะมาพูดอีกทีครับ
ตอนนี้ ตัวละครบางตัวยังจำไม่ค่อยได้เลย (ฮา)



โดย: it ซียู วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:48:13 น.





โดย: grappa วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:17:13 น.  

 
ไม่ขัดหรอกค้า ประะโยคนั้นน่ะ

ถ้าเราเปลี่ยนโลกใหญ่ๆ ๆ ไม่ได้ ก็ เปลี่ยนโลกในใจของเรานี่แหละ

ธรรมศาสตร์ ก็มีเหมือนกันค่ะ ประโยคเชยๆ แบบนี้ ไม่รู้ปัจจุบันยังใช้ได้ไหม 'ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน '
จำได้ว่า (เมื่อนานมาแล้ว ) เขียนประโยคนี้ลงใน สมุดเซ็นชื่อของคณะ ที่รุ่นพี่ให้เซ็น ตอนรับน้องใหม่ ตอบคำถามไปว่า ทำไมถึงเลือกเอนทรานซ์เข้าธรรรมศาสตร์ เอาประโยคนี้ใส่ลงไป มีรุ่นพี่บางคนมองหน้าเราด้วยล่ะ อิอิ

ไม่คิดว่า อาจินต์ ไม่ได้อะไรจากประสบการณ์การใช้ชีวิตในเหมืองแร่ นะคะ อย่างน้อยก็ได้เรี่องสั้น 142 เรื่อง (และกำลังมีเรื่องที่ 143 ตามมา)
และ ความทรงจำที่ไม่มีใครสามารถลบออกไปจากใจของเขาได้ เป็นคนรุ่นหลังและเป็นผู้หญิง ยังอิจฉาประสบการณ์ แมน ๆ แบบนี้เลย ตัวเองคงไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้

อยากดูหนังเรื่องนี้อีกรอบ




โดย: grappa วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:9:00:55 น.


โดย: grappa วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:18:44 น.  

 
นึกถึงประโยคนี้ ตอนอ่านความเห็นของคุณ itซียูค่ะ let the world change you...and you can change the world. จากหนังเรื่อง the motorcycle diaries แต่ตอนดูไม่ได้คิดถึงหรอกค่ะ ตอนนี้มานึกๆ ไป มันก็มีส่วนคล้ายๆ กันอยู่ เพราะประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับ อย่างที่คุณอาจินต์จากเหมืองแร่ หรือเชกับการเดินทางในอเมริกาใต้ มันเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากจริงๆ ทั้งโลกในแง่ของสังคมโลก และโลกในความเป็นปัจเจกของแต่ละคน
ชอบหนังสือ (โดยเฉพาะตอนจบของแต่ละเรื่องสั้น) และหนังเรื่องมหา'ลัยเหมืองแร่ค่ะ ดูแล้วอิ่มใจ และรักฝนยิ่งขึ้นอีก (ชอบไปทะเลหน้าฝน นอนเล่นที่ระเบียงดูฝนตก แล้วมีเพื่อนนั่งบ่นว่าฝนตกทำไมว๊า...) ตอนนี้กำลังพยายามโงหัวให้ขึ้นอยู่ค่ะ



โดย: pino วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:10:48:33 น.




เห็นว่าพูดเทียบกับมอเตอร์ไซเคิล
เลยก็อปที่พูดถึงตอนแรกมาจ้า (จากตรงสปุตนิกอ่ะครับ)
--------------------------------
ดูมหาลัยเหมืองแร่มาแล้วจ้า...
โดยส่วนตัว คิดว่าหนังเรื่องนี้มีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับ Motorcycle Diaries พอสมควร
- เป็นหนัง Coming of Age เหมือนกัน
- มีเรื่องมิตรภาพของตัวละครหลักสองคนคล้ายๆ กัน (แต่ Motorcycle ชัดกว่า)
แต่กระนั้น Motorcycle ผมกลับให้เกรดแค่ A- แต่เรื่องนี้ให้ A กับครึ่งประจุบวก

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะ Motorcycle มันตามสูตร ตามขนบไปหน่อย แต่หนังพี่เก้ง มีสไตล์ส่วนตัวของผกก. ค่อนข้างชัด มุกเล็กๆ น้อยๆ ที่ใส่เข้ามาน่ารักมากกก ชอบ Worm Digging, Water Carrying อะไรพวกนี้

ผมชอบที่ ผกก. เข้าใจคิด แบ่งซีเควนซ์ของหนังออกเป็นชีวิตในรั้วมหาลัยสี่ปี ซึ่งแต่ละปีก็มีการเติบโต มีปัญหาต่างๆ แสดงออกมาชัดเจน พอก่อนดีกว่า รอดูรอบสองอีกครั้งแล้วจะมาเล่าอีกที เพราะเดี๋ยวเล่าตรงนี้เยอะไป จะไม่มีอะไรให้เขียน (ฮา)



โดย: it ซียู วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:13:54:26 น.





โดย: grappa วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:19:36 น.  

 
ผมสารภาพว่าพึ่งเคยได้ยินชื่อหนังสือ และหนังเรื่องนี้เมื่อตอนออกฉายนี่เองนะครับ แต่ได้ดูแล้วประทับใจมากๆ ชอบหนังที่ให้ทั้งแนวคิดแล้วก็ไม่ทำเวอร์จนเกินไป แต่อยากดูเต็มๆมากกว่า ที่เค้าตัดไปมันอาจเป็นน้ำๆ แต่อยากเสพให้หมดง่ะครับ ^^ รอแผ่น DVD ว่าจะซื้อเก็บไว้เหมือนกัน
ชอบเพลงประกอบทุกเพลงครับ รอ OST.ประกอบอยุ่เหมือนกัน^_^

ปล.อยากได้หนังสืออ่ะครับ = =' คือผมอยู่ ตจว. แต่ว่าจะไปหาซื้อที่ กทม. เอ้อนะ ไม่ทราบหาได้แถวไหนอ่ะครับ



โดย: Sugarray วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:14:31:18 น.




ตอนนี้หนังสือมีขายตามร้านทั่วไปในกรุงเทพอยู่ค่ะ
เพื่อรับกระแสหนัง

แต่ว่าเข้าไปที่เว็บมติชนก็ได้ค่ะ รู้สึกว่าจะลดราคา

//www.matichonbook.com









โดย: grappa วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:20:21 น.  

 
โอ้ย อยากดูจัง


มีแต่คนพูดถึง ยิ่งอยากดู


โดย: zaesun วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:57:58 น.  

 
หนังดีครับ ขอเฟิร์มอีกคน


โดย: tenz วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:58:17 น.  

 
ยังไม่ได้ดูหนังเลยค่ะ อยู่ ตจว. ก็เงี้ย .. (ก็ว่าไปนั่น..ถึงอยู่ กทม. หล่อนก็ไม่ย้ายตูดไปดูอยู่แล้ว) เดี๋ยวสิ้นเดือนนี้จะเข้ากรุงไปดูเสียหน่อย เห็นโปรโมทกันจริงๆ จังๆ ทางหน้าจอทีวี เอ..หรือโปรโมทเทปเพลงกันแน่หว่า ... ไม่แน่ใจ

สำหรับหนังสือ ซื้อมาแล้วจ้า ตั้งแต่ตอนงานหนังสือ ที่เขามี โปรโมท (อีกแล้ว..หนูจะอ๊วกอ่ะ) หนังสือ เอ..หรือหนังเรื่องนี้..หว่า .. หนูไม่รู้อีกแล้ว

ตอนนั้นหนูไม่สนหรอกหนังน่ะ เด็กหนุ่มๆ หน้าตาดีที่รับจ๊อบเชียร์หนัง+หนังสือในงานหนูก็ไม่สน (มากเท่าไหร่ - สนนิดเดียว) หนูสนหนังสือ เหมืองแร่ Limited Edition ที่พิมพ์ใหม่ใส่กล่องสวย พร้อมลายเซ็นต์คุณอาจินต์และหมายเลขตังหาก หนูได้หมายเลข 602 ค่ะ น้องเขาไปหยิบมาให้ หนูไม่กล้าเลือกเลขเอง กลัวน้องเขาจะรำคาญ - อีป้านี้ ไม่สวยแล้วยังเรื่องมากอีก

ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยค่ะ (ท่านผู้ชมจะสังเกตได้ว่า หนังสือยังไม่แกะห่อปลาสสะติกออกเลย) ตั้งใจว่าหมดฤดูการเผางานแปลของปีนี้แล้วจะแกะออกอ่านเสียที อ่านจบแล้วจะมาคุยด้วยค่ะ



โดย: มิว (Mutation ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:58:13 น.  

 
แกร๊กกก .. รูปไม่ออก ... ลองใหม่



ถ้าไม่ขึ้นอีก .. หนูไม่รู้แล้ว .... จิ้มอมยิ้มไปดูบ้านหนูล่ะกันค่ะ


โดย: มิว (Mutation ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:19:04:15 น.  

 
ครับ ยังไม่เคนอ่านหนังสือเลย เพื่อนที่อ่านแล้วบอกว่าประทับใจมาก เห็นว่าไปดูหนังมาแล้ว ยังไม่มารายงานเลย(นะ)

น่าสนใจมากครับ

ชอบเพลงมากครับ เพลงที่พอเข้ามาบล็อกนี้น่ะครัล จะได้ยินเสียงเปียโน เร้าใจมากครับ ชอบจริงๆ


โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.113.77.100 วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:19:06:35 น.  

 
ตั้งแต่รู้ว่า เหมืองแร่ จะถูกนำมาถ่ายทอดบนจอ ขาว ใหญ่ ยาว เอ่อ ... จอ หนังนะครับ ก็คิดจะไปหยิบหนังสือเรื่องนี้ จากชั้นหนังสือ (ของมหาลัยที่เดียวกับที่ ผู้เขียนจากมา) อ่านไป 2-3 บท ผมรู้สึกว่า ว่ามันเรือยๆ เอื่อยๆ ยังไงไม่รู้นะ ... อาจเป็นเพราะผมยังไม่มีสมาธิเพียงพอ หรืออะไรก็ตามแต่

แต่ก็มีที่ชอบ ที่ชอบ คือ ประโยค เท่ๆ จากหนังสือ และเรื่อง ชีวิตจริง ของคุณตา อาจินต์ ที่ผมใครรู้ ...

วันนี้ ก็จดๆจ้องๆ จะไปดู แต่ก็ไม่ลงล็อก ... แต่คาดว่าจะดูเรื่องนี้ครับ


โดย: Nutty Professor วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:19:15:35 น.  

 
ยืนยันว่า ประโยค

'ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน '

ยังใช้ได้ครับ

สมัยผมเรียน ป.ตรี ก็ยังได้ยินอยู่ ...

และในงานรับเพื่อนใหม่ปีนี้ ก็ยังมีประโยคนี้ครับ ...

ได้ยิน ได้ฟัง และก็ได้ใช้บ้างบางโอกาส ถ้าไม่มองโลกในแง่ร้ายเกินไปนะครับ



โดย: Nutty Professor วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:19:19:23 น.  

 
ตอนนี้ซื้อแล้วครับสั่งซื้อทางเว็บเลย จริงๆอยากได้ Limited Edition ด้วยซ้ำล่ะนะ ฮี่ๆๆ


โดย: Sugarray วันที่: 27 พฤษภาคม 2548 เวลา:23:05:40 น.  

 
อยากดูมาก

แต่กว่าจะกลับ คงลาโรงเสียแล้ว



โดย: ปิ่น ปรเมศวร์ IP: 72.19.126.193 วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:7:40:36 น.  

 
ดีจัง ที่ประโยค ข้างบนยังใช้ได้นะคะ
คุณ Nutty Professor


คุณมิว ได้หนังสือเหมืองแร่นี้ฟรีมาจากมติชนหล่ะ อิอิ
ไปบังคับขู่เข็ญคนที่นั่นมา

และพึ่งมาตั้งใจอ่านเรื่องลุงอาจินต์ จาก ประโยคหลายๆ ประโยคในหนัง
มายืนยันว่าสำนวนลุงอาจินต์เท่จริง ๆ

คุณพ่อน้องโจ เพลงเปียโน นี่คือ เพลง You are my sunshine ค่ะ

คุณ ปิ่น กว่าจะกลับหนังคงลาโรงแล้วจริงๆ สงสัยต้องหาแผ่นมาดู
ว่าจะซื้อแผ่นเก็บไว้ ชอบฉากฝนตกในเรื่องนี้มาก มันดูเป็นภาคใต๊ ภาคใต้


โดย: grappa วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:00:03 น.  

 
ต๊าย พึ่งเห็นรูปคุณมิว
ตกลงจะโชว์หนังสือ หรือ โชว์เจ้าของหนังสือยะ
(อิอิ )
แต่อิจฉาฉบับลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นเหมือนกันนะ


โดย: grappa วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:03:40 น.  

 
ไปดูมาวันนี้...รักหนังเรื่องนี้เลยค่ะ จะไปดูอีกรอบแน่นอน


โดย: ผ่านมา IP: 210.203.180.80 วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:58:53 น.  

 
พี่อาจินต์ ไม่ยอมให้เรียกลุง

ไปดูมาแล้วค่า ดูในบรรยากาศ พี่น้องวิศวฯ

หนังดีๆ แต่จบไม่ค่อยรู้ตัวเลย

รู้สึกยังซึมซับอะไรที่เค้าต้องการจะสื่อได้ยังไม่ค่อยเต็มที่เลย

เรื่องมันดำเนินไปเรื่อยๆ เนิบๆ แต่มีความสุข


โดย: เด็กเล็ก IP: 203.188.20.14 วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:20:57:47 น.  

 
ชอบความเห็นของคุณเด็กเล็กจัง
เรื่อย ๆ เนิบ ๆ แต่มีความสุข
ตัวเองขอเพิ่ม ฮา ๆ เข้าไปด้วยนะคะ


โดย: grappa วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:21:58:51 น.  

 
ดูหนังมาแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย
แต่อยากขอบคุณทีมงานสร้างหนังเรื่องนี้จริงๆ
ที่หยิบวรรณกรรมเรื่องนี้มาสร้าง ถ้าเราไม่ได้ดูเราก็คงยังไม่รู้จัก
และอยากอ่านมากขนาดนี้ ตอนนี้กำลังจะสั่งซื้อออนไลน์กับเว็บมติชนแล้วล่ะ
อ่านจบแล้วจะมาคุยค่ะ



โดย: cottonbook IP: 202.57.149.13 วันที่: 28 พฤษภาคม 2548 เวลา:22:23:24 น.  

 
ใช่ค่ะ เห็นด้วยเลยว่ากระแสหนังทำให้หนังสือชุดนี้ได้พิมพือีกรอบ เมื่อกี้อ่าน a day เล่มล่าสุด เห็นมีเรื่องเกี่ยวกับสำนักพิมพ์โอเลี้ยง 5 แก้วด้วย เห็นความอึก และจริงใจสื่อสารกับร้านหนังสือและคนอ่านของคุณอาจินต์- ผู้ยอมตายคากองน้ำหมึก ด้วย ทำให้อยากอ่านยิ่งขึ้นไปอีก

เอ๊ะ..หรือจะไปแกะปลาสะติกที่ห่ออยู่เอาหนังสือมาพลิกๆ อ่านเลยดีน้า


โดย: มิว IP: 202.47.233.234 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:0:01:50 น.  

 
ใจร้อน เปิดเลย ยลโฉมได้เลยจ้ะ หนังสือปกแข็งอย่างดีสีดำสองเล่ม ดุน (จม) เป็นตัวหนังสือหน้าปกด้วยสีเงิน ... งามขรึมสง่าน่าอ่านเป็นที่สุด



โดย: มิว (Mutation ) วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:0:30:35 น.  

 
อ่านไปได้หน่อยๆ แล้วค่ะ สำนวนเท่ขาดใจจริงๆ ด้วย


โดย: มิว IP: 202.47.233.234 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:0:53:33 น.  

 



โดย: อิฮั้น(เอง) IP: 202.183.139.239 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:4:06:56 น.  

 
มิว
เธอทำให้ฉันตาร้อนมาก
เนอะ สำนวนลุงอาจินต์เท่เนอะ
ตอนนี้คิดถึงความเป็นนักเลงโบราณ มาก ๆ
แค่ประโยคจบ "ต้องมีเงินเท่าไหร่ ถึงไปกรุงเทพได้"
ประโยคของไข่ ตอนใกล้ๆ หนังจบ ทำเอาเกือบๆ น้ำตาปริ่ม


โดย: grappino (grappa ) วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:02:33 น.  

 
ไปดูมาแล้วเหมือนกันค่ะ ถุกใจ แล้วก็ภูมิใจมากๆ ที่ได้ไปดูหนังไทยดีๆ

ตอนที่ไปดู ก้แปลกใจเหมือนกันนะคะ เพราะเห็นเด็กมัธยมต้น 4 - 5คน เค้าไปนั่งดูด้วย แถมก่อนเดินเข้าโรงน้องเค้าก็พูดถึงแต่เรื่องนี้ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีเด็กในกลุ่มนี้ เข้าไปดูหนังแนวนี้ ถ้าไม่ติดว่าได้ยินน้องเค้าคุยกันเรื่องเหมืองแร่ก่อนเข้าโรง ต้องคิดว่าจะมาดูสตาร์วอร์แล้วซื้อตัวผิดป่าวเนี่ย ดีใจแทน คุณเก้ง ด้วยนะคะ ที่มีลูกค้าหลายกลุ่ม

พอดีไปดูกับเพื่อนอีกคน ที่เค้าอ่านหนังสือแล้ว แล้วก็ชอบหนังสือเรื่องนี้มาก เค้าก็ให้ความเห็นมาว่า คนสร้างๆ ได้ดี ยิ่งถ้าดูจากบทสัมภาษณ์ ของผู้กำกับ ถือว่าตอบโจทย์ที่ตัวเองตั้งไว้ได้ดีมาก หนังออกมาในโทน ตามที่ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ไว้ก่อน ถือว่าไม่น่าผิดหวังเลย สำหรับแฟนหนังสือเล่มนี้ การดำเนินเรื่องเป็นไปได้อย่างลื่นไหล เหมือนที่ผู้กำกับพูดไว้ว่า อยากให้ออกมาเป็นหนังสือที่มีภาพปรากฎให้เห็นออกมา ตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนกับอ่านหนังสือที่คัดเฉพาะ บางจุดบางประเด็นบางมุมมองออกมาขยาย ส่วนที่เหลือก็เป็นการเล่าอย่างผ่านๆ ให้เห็นภาพรวมของหนังสือทั้งหมด ผู้กำกับจับจุดและดึงออกมาขยายได้ดีมาก โดยเฉพาะตัวละคร และคาแรคเตอร์ของตัวละคร นี่ถอดมาจากในหนังสือ ได้ตามจินตนาการของคนอ่าน ( เพื่อนอิชั้น ) ถือว่ายกนิ้วให้เลยเรื่องคัดตัว และกำกับการแสดง

โทนของหนังแทบทั้งเรื่องให้บรรยากาศ ของทางใต้จริงๆ ถ้าคุณอ่านหนังสือมานี่มันใช่เลย มันต้องเปียกอย่างนี้ แฉะอย่างนี้ ทั้งปีทั้งชาติเนี่ยละ ขอชม คุณเก้ง จริงๆ เรื่องนี้ ทำการบ้านดีมากๆๆ

เพื่อนอิชั้น มีคอมเมนท์ อย่างเดียว คือ คุณเก้ง ตอบโจทย์ ที่ตัวเองตั้ง ให้กับแฟนหนังสือได้ดีแบบนี้ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนหนังสือ จะเข้าใจและรับได้ขนาดไหน อันนี้เค้าก็บอกไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ อิชั้น เองในฐานะ ของคนที่ไม่เคยอ่านเลย ขอบอกเลยว่า หนังดูได้ราบรื่นค่ะ ไม่มีสะดุดว่า มาไง ไปไง เนี่ย อ้อ จริงๆ ก้มีแปร่งๆ นิดเดียวตรงตอนจบ ระหว่าง ลุงไข่ กับ คุณลุงอาจินต์ ดูแล้วรู้สึกมันโดด ไปหน่อย จริงๆ จะทำเป็นรูปถ่าย ก็ไม่เลว หรือบทสัมภาษณ์ ให้รู้แล้วรู้รอดไป ก้น่าจะดีนะคะ

โดยสรุป ถือว่าหนังเรื่องนี้ ทำออกมาดูแล้ว สุขใจ ค่ะ คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องอาฆาต ไว้ว่า DVD ออกเมื่อไหร่ ต้องสอยไว้อีกเรื่องนึงเลยค่ะ


โดย: หมู...หวานกรอบ IP: 58.10.155.94 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:15:00:12 น.  

 
ที่บ้านมีหนังสือที่ราคาโอเลี้ยงห้าแก้ว....คือห้าบาท..โอ้โฮ...หนังสือก็
สนุกมากนะ
เมื่อวานไปดูกับคนไม่เคยอ่านหนังสือเค้าชอบถึงกับจะไปหาหนังสือมาอ่าน
ถือว่าสำเร็จ
ภาพปักษ์ใต้ร้านกาแฟและบรรยากาศแฉะทั้งปีเป็นเช่นนั้นจริงๆ เวลาเดินมันจะสไลด์แบบนั้น มาอยู่ใหม่ๆร้องไห้ทุกวันด้วยความเหงาแต่
เมื่อมีกลุ่มมันก็สนุกไปเรื่อยๆขนาดตามหลังลุงอาจินต์มาตั้งนานนะ
ร้านกาแฟในเหมืองใช่เลยมันเป็นที่รวมทุกอย่าง...แล้วก็เป็นเช่นนั้นไม่มีอะไร
ทำนอกจากพนัน...ชอบจัง
...แต่คนที่เคยทำงานเหมืองหลายคนที่นี่บอกว่ามันยังไม่อิ่มน่ะ....


โดย: หม้อข้าวหม้อแกงลิง IP: 203.156.122.61 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:16:28 น.  

 
คุณหม้อข้าวหม้อแกงลิง เคยอยู่เหมืองด้วยเหรอเนี่ย วาวๆๆ


โดย: เด็กเล็ก วันที่: 30 พฤษภาคม 2548 เวลา:1:01:18 น.  

 
เราจำตัวละครเรื่องนี้ได้ทุกตัว พูดชื่อมานึกออกหมด ออกเล็กออกน้อย แต่ตัวละครทุกตัวมีค่าทั้งหมด เป็นเรื่องแรกที่รู้สึกอย่างนี้

ชอบมากๆค่ะ ทั้งหนัง และที่เจ้าของบล็อกเขียน


โดย: patsypacky วันที่: 30 พฤษภาคม 2548 เวลา:11:47:20 น.  

 
ไปดูมาแล้วเหมือนกันครับ ชอบนะ แต่ยังต้องติงๆ เรื่อง Acting นักแสดงนำนิดนึงอ่ะ
ผมว่าข้อดีอย่างหนึ่งของคุณเก้งคือการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี ผสมผสานเรื่องหนักๆ กับเรื่องเชิงพาณิชย์ให้ลงตัวได้อย่างน่าสนใจ...หนังเลยออกมาสนุก ไม่หนักและดูรู้เรื่องกว่าหนังของเป็นเอก และก็ไม่ออกทะเลเหมือนงานหลังๆ ของนนทรีย์

คิดแล้วอยากเป็นลูกศิษย์เก้งมั่งว้อย!


PS. เพลงเพราะดีนะครับคุณ grappa ชอบ Jazz แม่นบ่?


โดย: PIPPO IP: 203.170.161.249 วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:04:34 น.  

 
แล้วแต่ว่าช่วงไหนชีวิตเป็นยังไงค่ะคุณ PIPPO
บางทีก็ฟังแจ๊ส
บางทีก็ฟังป๊อป บางทีก็ฟังชิลล์ เอาท์
บางทีก็ฟังเพื่อชีวิต บางทีก็ฟังคลาสสิค
เห็นด้วยว่าพี่เก้งผสานเชิงพาณิชย์กับเรื่องหนักๆ ได้
หนังแกไม่อาร์ทมาก
แต่มี'อะไร' อยู่ในหนัง
แกทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้
แต่ที่ชอบคือหนังแกมีอารมณ์ขัน
ซึ่งบางทีก็มุข แกก็ อ่ะนะ มุขลื่นล้มบ้าง
อะไรบ้าง (แต่เราก็ขำ )
ชอบอีกอย่างคือ หนังของแกเราจับต้องได้
เราหัวเราะได้ เราคิดอะไรกับสิ่งที่แกอยากบอกได้
งง ๆ ว่าหนังไทยสมัยนี้เป็นอะไร ทำไมต้องเหงาๆ
ชิวิตจริงเหงาอยู่พอแล้ว อยากดูหนังที่ไม่เหงาบ้าง


โดย: grappa วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:22:52:02 น.  

 
จากตะกี้ที่ดูรอบที่ 4 มา - -"

เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆๆมั้ง ถึงดูได้ถึง4รอบแล้วยังรู้สึกไม่เบื่อเลย ยังสามารถดูได้อีกแฮะ

ให้ตายสิ ผมชอบเรื่องนี้มากเลย
ทั้งๆๆ ช่วงที่ผ่านมาปีที่แล้วดูหนังแค่1-2เรื่องตลอดทั้งปี

สำหรับเรื่องนี้ผมเห็นแค่หนังตัวอย่างก็อยากดูมากๆๆๆๆๆๆแล้ว
จนต้องซื้อมาอ่าน แต่อ่านแค่จนเล่มแรกแล้วเข้าไปดูที่โรง

พอเข้าไปดูแล้วยิ่งชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากขึ้น ไม่ผิดหวังเลย
รู้สึกเหมือนหนังเรื่องนี้อยากดูเรื่อยๆๆ ไม่อยากให้จบเลย

แต่ละรอบที่ดูเสียใจที่มันจะต้องจบ เหอๆๆๆๆ

ผมชอบหลายฉากในเรื่องมากเลยมันซึ้งกินใจจนน้ำตาซึม
และทำให้ผมหัวเราะได้ยิ่งรอบคนเยอะๆๆ ชอบบรรยากาศในโรงที่ครึกครื้นเป็นอันมาก

แต่อยากจะบอกว่าชอบหนังเรื่องนี้ที่สุดครับ
ถึงแม้นการตัดต่อจะมีคนบ่นมาไม่ดี เข้าใจอาจเป็นเพราะเอาตอนหลายๆๆตอนในเรื่องสั้นมาให้ครบถ้วน
หรือแม้นพระเอก ผมก็ไม่เห็นจะเล่นแข็งเป็นไม้เลยนิครับ

เพราะไม้มันขยับไม่ได้นิ อุอุ ล้อเล่น

เพราะผมนั้นไม่เป็นนักดูหนังประจำจนถึงขั้นวิจารณ์หนังได้มั้ง

แต่ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่า หนังเรื่องนี้จะอยู่ในใจของผมตลอดไปครับ


โดย: taecu IP: 202.5.83.252 วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:23:23:16 น.  

 
โอว ดูสี่รอบ
ตกใจ?!!!
แต่ดีแล้วครับ ได้ข่าวว่ารายได้หนังเข้าขั้นวิกฤต
เดี๋ยวว่างๆ ต้องช่วยเขียนโปรโมตแล้ว (แต่ดีไม่ดี คนอาจไม่ดูเพิ่มก็ได้ ฮา)

แต่ผมชอบการตัดต่อนะ มองเป็นช็อตๆ อาจเห็นเป็น Fragment แต่มองภาพรวม กลับมีความเป็นเอกภาพอยู่มาก


โดย: it ซียู IP: 161.200.255.162 วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:0:37:58 น.  

 
เป็นหนังเรื่องแรกครับที่ร้องไห้คาโรงหนังเลย(ดีนะคนน้อย) ไปดูกับแฟนสองคน ทั้งดีใจและก็เสียใจครับ ดีใจที่คุณเก้งทำหนังออกมาได้ตรงมากๆกับหนังสือ เรื่องรายละเอียดนี่ผ่านเลยนะ ตามหนังสือเป๊ะๆ(ใครอ่านหนังสือคงจะจำนิสัยผูกนาฬิกาของพี่จอนได้นะครับ) ส่วนที่ผมเสียใจก็นิดเดียวแหละครับว่าหนังเรื่องนี้น่าจะสร้างเร็วกว่านี้ เพราะมีคนที่เค้าบ่นให้ผมฟังบ่อยๆว่าเมื่อไหร่น้า จะมีคนเอาเรื่องเหมืองแร่ไปทำเป็นหนังซักที แต่เค้าก็ไม่ได้อยู่ดูหนังเรื่องนี้ ถ้าเค้าได้ดูคงดีใจเหมือนผมนะ อ้ออีกอย่างนึงผมเห็นพ่อพาลูกชายไปดูหนังเรื่องนี้ด้วยแหละ อิจฉาอ่ะครับ อยากให้พ่อพาผมไปดูหนังเรื่องนี้มั่งจัง


โดย: Bomber Rock IP: 203.151.140.112 วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:1:27:31 น.  

 
รออุดหนุน DVD ของแท้อ่ะ ไม่ผี หนังไทยดีต้องอุดหนุนกันอยู่แล้ว
เหอ เหอ เป็นพวกติดจอเล็กอ่ะ ไม่ค่อยมีโอกาสไปดูจอใหญ่

ง่ะ---คุณมิว---เอาหนังสือมาแบ่งกันอ่านมั่งดิ


โดย: ^U^=(nAthAn)= IP: 58.10.237.35 วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:1:52:41 น.  

 
อืม รายได้หนังไม่ค่อยดีเหรอครับ

เสียดายนะ ท่าทางจะเป็นหนังที่น่าดู น่าจะช่วยๆกันดูหน่อยะ เอ้า เร้วๆๆ


โดย: อิศวร์ (พ่อน้องโจ ) วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:2:11:31 น.  

 
คุณ taecu ดูสี่รอบ
โอ้โห แสดงว่าชอบหนังเรื่องนี้จริงๆ
ว่าจะดูอีกรอบเหมือนกัน

คุณอิศวร์ อย่าลืมไปดูหนังนะ
อยู่ใต้ด้วย คงได้อรรถรสเพิ่มขึ้น

คุณ Bomber Rock ดูหนังละเอียดมาก

คุณ ยู นาธาน ไปดูในโรงเถอะ หนังเขาควรดูในโรง
ภาพสวยมาก

คุณ it cu ประเด็นเรื่อง fragment น่าสนใจมาก
เขียนรีวิวฉบับเต็มเถอะ เขียนๆๆๆๆ


โดย: grappa วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:9:08:23 น.  

 
เหอๆๆๆๆๆๆ
ก็ก่อนหน้านี้2-3ปีที่ผ่านมาผมเข้าโรงแค่2-3ครั้งเอง
ขนาดLord 2-3 สไปเดอร์แมน2 หนังดังๆๆผมยังไม่เข้าไปดูเลย
สงสัยจะเก็บตังไว้ดูหนังเรื่องนี้ 55555
ผมว่าผมถึงเข้าไปดูสัก10รอบ ผมก็ไม่เสียใจหรอก
เพราะอนาคตอาจจะไม่มีหนังดีๆๆอย่างนี้ก็เป็นได้ 5555

แต่เรื่องนี้ขอบอกว่าชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดีน่ะที่อ่านเล่มแรกไปดูรู้สึกเข้าเรื่องได้ดีขึ้น

แต่ผมเขียนเชียร์หนังไม่เก่งอ่ะ >.<


โดย: taecu IP: 202.57.175.23 วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:9:34:26 น.  

 
สวัสดีค่ะ

มาสวัสดีวันแรกของเดือนมิถุนายนค่ะ
ขอให้ชีวิตมีแต่ความชื่นฉ่ำตลอดเดือนนี้นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:12:02:19 น.  

 
อืมม์...
กลับมาอ่านอีกทีค่ะ

หนังสือหลายเล่มที่ grappa แนะนำน่าอ่านทั้งนั้นเลย..

ว่างๆ อย่าลืมแวะไปแนะนำหนังกับหนังสือนะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่...

"ห้ามพลาดเด็ดขาด"

น่ะค่ะ

จะรอต่อไปค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 มิถุนายน 2548 เวลา:10:30:37 น.  

 
อ้อ..ลืมบอกไป

ขอบคุณสำหรับเนื้อเพลง
"You Are My Sunshine" ด้วยนะคะ

เคยมีคนๆ หนึ่งร้องแล้วเราอยากได้เนื้อมาก แต่หาไม่ได้

จู่ๆ ก็มาได้ที่บล็อกเพื่อนคนหนึ่ง..ซะงั้น

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 2 มิถุนายน 2548 เวลา:10:33:10 น.  

 
ช่วงนี้มัวแต่ดูหนังน่ะค่ะ
คุณ สาวไกด์ใจซื่อ
มีหนังสือที่อ่านจบไปแล้วยังไม่แนะนำ
อีกหลายเล่ม
เขียนเสร็จแล้วจะไปตามมาอ่านอีกค่ะ


โดย: grappa (grappa ) วันที่: 2 มิถุนายน 2548 เวลา:11:43:46 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ เหมืองแร่

ภาพสวยเชียว ได้บรรยากาศมากๆ

แต่ไม่รู้สิ เราไม่เชื่อในการแสดงของพระเอก ยิ่งการบรรยายด้วยนะ เสียดาย ภาษาดีขนาดนี้ถ้าคนพูดพูดได้ดีๆ จะเพราะมาก


โดย: มิว (Mutation ) วันที่: 2 มิถุนายน 2548 เวลา:23:16:26 น.  

 
เราคิดว่าพอถูไถอ่ะ เพราะว่าบทพระเอกเรื่องนี้ไม่ใช่คนเก่งไง เป็นคนที่ต้องลงไปเรียนรู้จากคนอื่น เก้ๆ กัง ๆ บ้าง
ไม่ "แมนจัดๆ" เหมือนพวกพี่ทั้งหลาย อย่างพี่ก้อง พี่จอน ไง ก็เลยหยวนๆ ขำ ๆ สำเนียงใต้ของพระเอกจะตาย
ไม่แน่นะ อาจดูอีกรอบ



โดย: grappa IP: 61.90.15.80 วันที่: 3 มิถุนายน 2548 เวลา:10:32:25 น.  

 
ชอบการใช้วิธีบรรยาย
แต่ไม่ใคร่ชอบเสียงพระเอกบรรยายนักครับ
มันแข็งๆ ไปนิด
แต่ก็เอาเถอะ หยวนๆ เพราะส่วนอื่นดีหมดเลย หุหุ


โดย: it ซียู IP: 161.200.255.163 วันที่: 3 มิถุนายน 2548 เวลา:14:35:30 น.  

 
Ho..Ho..เจอแฟนอาจินต์ ปัญจพรรค์ที่นี้ตรึม...ไหนๆก็ไหนๆไปเยี่ยมที่boardของอาจินต์และออกเสียงเบี่ยมเยียนได้ที่นี่คับ


โดย: Votary วันที่: 4 มิถุนายน 2548 เวลา:12:24:16 น.  

 
งะทำlinkไม่เห็น...เอาแต่urlปายละกาน
//www.bookcyber.com/cgi-bin/cgi-bin5/webboard.pl


โดย: Votary วันที่: 4 มิถุนายน 2548 เวลา:12:25:50 น.  

 
แท้งกิ้วค่ะ คุณ Votary
ตามไปแล้วค่ะ


โดย: grappa IP: 61.91.110.130 วันที่: 4 มิถุนายน 2548 เวลา:21:54:01 น.  

 
ไปๆ มา เลยคิดถึง คนในอุดมคติคนนี้
Commandante Che Guevara
เลยเอาเพลงนี้มาฟัง


โดย: grappino (grappa ) วันที่: 5 มิถุนายน 2548 เวลา:11:37:59 น.  

 
เหอๆ ตอนแรกก็ต๊กกะใจว่าเพลงอะไรกันหว่า
เกิดไม่ทันน่ะครับ
อิอิ
ป.ล. ดูเฮด ออนมาเป็นไงบ้างครับ
เห็นคนออกจากโรงเยอะมากกกกก
(ผมดู Pleasant Day โรง 6 ซึ่งฉายจบไล่ๆ กับเฮด ออนน่ะครับ เลยเห็นคนออกมาเต็มเลย ส่วน Pleasant Day คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่)

วันนี้ดูสามเรื่อง Raiz do Coração, Pleasant Day , A Girl
ต้องบอกว่าชอบสองเรื่องหลังมากกกก
เรื่องที่สองแรงได้ใจ
และจบได้เฉียบขาดดี (กับฉากอย่างงั้นเนี่ยนะ โอวว)
ส่วนอะเกิร์ล เรื่องของอะเกิร์ลไปอาศัยอยู่กับอีแก่ จนเกิดเหตุ (ฮา) เรื่องนี้ความจริงผู้หญิงน่าจะดูนะครับ มีแง่มุมหลากหลายทีเดียว ชอบๆ โดยเฉพาะเพลงตอนจบที่อีแก่ร้อง (ฮา)

แต่เรื่องแรก แหะๆ ไม่ค่อยเข้าทางเท่าไหร่ ไม่รู้เรื่องย่อก่อนเข้าชมด้วยแหละครับ เลยไม่รู้ว่าเซนต์แอนโทนี่นี่ใคร และหลายๆ อย่างก็งงๆ

พอกลับมาอ่านเรื่องย่อเลยอ๋อ เข้าใจอะไรมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ชอบการใช้เพลงเล่าเรื่องในช่วงต้นๆ ของหนังมาก (แต่รำคาญ ซับขึ้นไม่ตรงคำพูดในช่วงแรกๆ)


โดย: it ซียู IP: 161.200.255.163 วันที่: 5 มิถุนายน 2548 เวลา:23:58:18 น.  

 
^
^
อิสระสรรค์
ไปตอบไว้ที่บล็อคแล้วจ้า
สรุปแล้วดูไป 3-4 เรื่อง
ชอบ I always Wanted to be a Saints
มากที่สุด เพราะหนังมันพูดถึงสาวน้อยที่พยายามจะเป็นคนดี แต่ก็มีความสับสนในชีวิต บางครั้งก็ "ว้าก"ใส่คนที่เธอรัก มันดูเป็นชีวิตจริงดี มีเพื่อนบางคนที่พยายามจะเป็นคนดี แต่ก็แพ้ใจตัวเองอยู่หลายคนเหมือนกัน



โดย: grappa วันที่: 6 มิถุนายน 2548 เวลา:9:35:39 น.  

 
กระทู้เกี่ยวกับเหมืองแร่ที่ประทับใจ ณ เฉลิมไทย

ขอขอบคุณ คุณ เก้ง และ ฝากคำพูดจากใจของอากง มาให้ค่ะ
เป็นคนภูเก็ตคะ

เกิด โต เีรียน และ ทำงานอยู่บ้านเกิดมาตลอด
มีตอนเรียน มหาวิทยาลัยที่ต้องไปอยู่ ปัตตานี อยู่ 4 ปี

เติบโตมากับภาพที่ได้เห็นอากง อาม่า อาอิ็๊ ถือเลียง (อุปกรณ์สำหรับร่อนแร่)เดินไปเหมืองไม่ไกลจากบ้านจนชินตา

โตขึ้นมาอีกหน่อย เมื่อการท่องเที่ยวเข้้ามาแทนที่ ยุคของเหมืองแร่ก็ค่อยค่อยหายไปจากเกาะเล็กเล็กแห่งนี้

หลายวันมานี้ อากงบ่นบ่น ที่แกเริ่มหลงหลงลืมลืม เลยได้แต่ปลอบใจว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนอายุ 80 กว่ากว่า ทั้งที่จริงแล้วก็รู้ว่า แกคิดถึงอาม่า ที่พึ่งจากไปได้ 6 เดือนมากกว่าก็เลยมาเรียกร้องความสนใจแบบเด็กแนว
........ และแล้วความคิดบางอย่างก็ แวบเข้ามาในตอนนั้น.....

จากคุณ : รักคนอ้วน - [ 31 พ.ค. 48 16:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 1

เอาล่ะ จะพากง ไปดูหนังแก้เบื่อนะ
เป็นหนังเกีียวกับเหมืองที่กงเคยทำไง

สัญญากับเด็กแนวเรียบร้อยแล้ว ก็ยุ่งยุ่งจนลืมไป จนกระทั่งพี่สาวมากระซิบว่าเฮ้ย เด็กแนว รออยู่นะ แกดูจากในทีวี แล้วรู้แล้วว่าหนังเรื่องเหมืองแร่ฉายแล้วนะ รีบทำตามสัญญาด่วน

วันนี้ที่โรงหน้งแห่งหนึ่งในภูเก็ต บางคนอาจจะได้เห็น ผู้หญิงวัยกลางคน กับวัยปลายปลายวัยรุ่น อีกคน จูงคนแก่ชายคนหนึ่งถือไม้เท้า เข้าโรงหน้ง เด็กส่องไฟ เด็กเดินตั๋วอมยิ้ม ที่เห็นอากงแก่ขนาดนี้ในโรงหนัง

จากคุณ : รักคนอ้วน - [ 31 พ.ค. 48 16:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2

ตลอดเวลาที่หนังเดินเรื่อง เราเป็นห่วงว่า กงจะหนาว กงจะหลับ
แต่ไม่มีเลย มีแต่แววตาของกงที่เปล่งประกาย ออกมาตลอดเวลา พร้อมกับเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากไม่ขาดสาย

คุณเก้งค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้คนแก่ อายุเกือบ 90 คนนึงได้หัวเราะ ได้คุยโขมงโฉงเฉง ตลอดทางกลับ ถึงการทำงานของแกในสมัยนั้น และทำให้ภาพความสุขที่เลือนลางของคนรุ่นนั้นกลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

คุณเก้งค่ะ คุณทำสำเร็จนะค่ะ ดิฉันไม่ทราบว่า่รายได้ของคุณจะเป็นยังไง

แต่งานของคุณชิ้นนี้ จะเป็นเรื่องที่ดิฉันจะเล่าให้ลูกหลานฟัง จะซื้อแผ่นเก็บเอาไว้ให้มันดู

อ้อ อากงฝากบอกมาว่า " เออ ไอ้คนทำหนังมันเก่งนะ มันทำเหมือนเลย อยากให้เพื่อนฝูง กูที่มันไม่อยู่แล้วได้ดูด้วยนะ ฮะฮะ มันเก่งจริงจริง"

ขอเป็นกำลังใจ และจะเฝ้ารอดูงานคุณภาพจากคุณตลอดไปคุ่ะ

จากคุณ : รักคนอ้วน - [ 31 พ.ค. 48 16:25:34 ]

กระทู้ภาคต่อ หลังจากพี่เก้งตอบคุณ รักคนอ้วน

เหมืองแร่ และ อากง ค่ะ
หลังจากโพสเรื่องของเด็กแนว ลงพันทิพไปแล้ว

ก็ไม่ได้มีเวลา ได้กลับมาดูิอีกเลย นิสัยดีมากจริงจริง

วันนี้ ได้เปิดดู รู้สึกขอบคุณ ชาวพันทิพทุกคนมากนะค่ะ ที่เป็นห่วงเด็กแนว

และที่น่ายินดีไปกว่่านั้น และ ขอเชิญทุกคนอิจฉาได้เต็มที่ก็คือ

เราได้มีโอกาสได้คุยกับ "ไอ้คนทำหนัง" ของอากงแล้วนะค่ะ

จากคุณ : รักคนอ้วน - [ 4 มิ.ย. 48 11:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 1

แม้จะเป็นเพียงการคุยโทรศัพท์ ตามประสาคนไกล แต่ย้งไง ปลายสาย ก็ย้งเป็น .........."ไอ้คนทำหนัง" ของอากง หรือ........ พี่เก้งนั่นแหละ

พี่เก้ง ก็ยังคงเป็นพี่เก้ง ที่ละเอียดละออ เราแนะนำตัวเองเสร็จ เธอก็จำได้ถึงเรื่องอากงทันที

ได้ให้กำลังใจ และขอบคุณสำหรับรูปภาพที่ทาง GHT จะจัดส่งมาให้แล้วค่ะ
ขอขอบคุณ คุณ Film man ด้วยนะค่ะที่กรุณา ลิ้งค์ข้อความของพี่เก้งให้ เพราะทราบว่าพี่เก้ง แพ้เทคโนโลยีทุกชนิด และไม่ค่อยเข้ามาในพันทิบบ่อยมากนัก

จากคุณ : รักคนอ้วน - [ 4 มิ.ย. 48 11:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2

ตอนนี้ ภูเก็ตฝนตกหนัก

อากง ก็ยังนุ่งผ้าขาวม้า ผืนเดียว กับ พาดอีกผืน ไว้ที่คอ
แน่นอน ผืนที่คอ ไม่ใช่ผ้าขาวม้าธรรมดา มันเป็นผ้าขาวม้า ม้ลติฟังก์ชั่น ทั้งไว้พัดยุง พันคอ ห่มหน้าิอก สารพัดจะแอบพลายได้

อุปกรณ์พกพา สำหรับกง ไม่ใช่ Nokia Siemen หรือ i pod ยี่ห้อไหนทั้งสิ้น แต่มันคือ ... กระป๋องนมตราหมีสมัยโบราณ ทีมียาเส้น และ ใบจาก บรรจุอยู่ข้างใน

ตามประสาคนแก่ อะไรมากระทบใจซักหน่อย ก็จะพูดถึงเป็นวรรคเป็นเวรอยู่อย่างนั้น

กง ยัง โม้เรื่อง "หนังเหมือง" ไม่หยุุดหย่อน แถด้วย เรื่องการทำเหมืองฉีดสมัยเก่าของเธอตบท้าย
ระหว่างเล่า ก็พันยาเส้นใส่ใบจาก จุดด้วยไฟแช็คตัวเก่า พ่นควันปุ๋ยปุ๋ย

น่าเสียดาย ที่ อา่ม่า คู่ทุกข์คู่ยาก พึ่งมาจากไปเมื่อปีที่แล้ว ไม่อย่างนั้น คงมีเด็กอวบ วัย 80 กว่ากว่า นั่งอมยิ้มดมยานัตถ์ ฟังกงโม้โดยไม่เคยบ่นรำคาญ

ดิฉันไม่มีข้อโต้แย้งใดใด หากใครจะคิดว่ากะทู้นี้เป็น 1 ในกะทู้เชียร์ หนังเหมืองแร่

เพราะมัน ก็ใช่ จริงจริง และ ใช่ อย่างจริงจัง

เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน สำหรับคนในช่วงวัยรุ่นปลายปลาย อาจไม่มีค่าเท่าไหร่

แต่สำหรับคน อายุ เกือบเก้าสิบ อย่างอากง แต่ละนาทีที่ผ่านไป มันคือการนับถอยหลัง สู่จุดสุดท้ายในชีวิต

มี สิ่งที่ได้ทำไปเป็น ร้อย เป็นพัน อย่าง ที่ได้ทำให้ ช่วงสุดท้ายในชีวิต กง มีความสุข

และ การพากง ไปซึมซับ ทุกวินาที ในหนัง เหมืองแร่ ก็เป็นหนึ่งในความสุขเหล่านั้น

ขอบคุณมากนะค่ะ คุณ จิระ

หลานเด็กแนวภูเก็ต

จากคุณ : รักคนอ้วน - [ 4 มิ.ย. 48 12:32:12 ]







โดย: grappa วันที่: 6 มิถุนายน 2548 เวลา:13:35:52 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ ช่วงนี้งานรุมเร้าจริงๆ ไม่ว่างอัพบล็อกเลยครับ เฮ้อ สบายดีนะครับ ไม่ได้มาเยี่ยมคุณกรัปป้านานเลย


โดย: underdog(พ่อน้องโจ) IP: 203.156.67.20 วันที่: 7 มิถุนายน 2548 เวลา:1:20:30 น.  

 
หวัดดีค่ะ

เราไปดูเหมืองแร่มาแล้วนะคะ ง่า...แต่ว่า...

บอกไม่ถูกอ้ะค่ะ...คือถามว่าดีมั้ยดีค่ะ

แต่เราคิดว่าคุณเก้งทำได้ "ดี" กว่านี้น่ะค่ะ

หลายๆ อย่างมันไม่กลมกล่อมน่ะค่ะ

สำหรับหนังสือ เราเพิ่งอ่าน EverybodyEverything กะ "เจ้าชายไม่พูด" จบค่ะ

เราเม้นท์ "เจ้าชายไม่พูด" กะ "มหาลัยเหมืองแร่" ไว้ที่ blog ค่ะ

จะรออ่านความเห็นของ grappa เรื่องหนังกะหนังสือนะ

up เรื่องใหม่ๆ เมื่อไหร่อย่าลืมแวะไปบอกเราด้วยล่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 มิถุนายน 2548 เวลา:17:59:26 น.  

 
ค้า คุณสาวไกด์ใจชื่อ
เร็วนี้ ๆ จะแวะไปบอกค้า
ใกล้ๆ อัพแล้ว

เปลี่ยนแบ็คกราวด์เป็นสีชมพู
แล้วเลี่ยนจัง เปลี่ยนใหม่ดีกว่า


โดย: grappa (grappa ) วันที่: 7 มิถุนายน 2548 เวลา:20:38:02 น.  

 
ตอนนี้จัดการลิงค์ที่บล็อกแล้ว สามารถเข้าได้ตามปกติละครับ เชิญนะครับ


โดย: underdog (พ่อน้องโจ ) วันที่: 7 มิถุนายน 2548 เวลา:23:25:24 น.  

 
หวัดดีค่ะ grappa


"มหาลัยเหมืองแร่" ไม่เชิงไม่ชอบหรอกค่ะ

เราแค่รู้สึกอย่างที่เขียนไว้ใน blog เราน่ะแหละว่า

เรารู้สึกว่า จริงๆ แล้วผู้กำกับเค้าทำได้ดีกว่านี้น่ะค่ะ

คือเราว่าเขา "พยายาม" มากเกินไปที่จะรักษา "เสน่ห์" ของ "หนังสือ" ของ "อาจินต์

โดยลืมไปว่า "เสน่ห์" ของหนังกับหนังสือมันต่างกัน
มันก็เลยไม่กลมกล่อมเท่าไหร่น่ะค่ะ

เราก็เลยชอบไม่เท่า ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ น่ะค่ะ

เราเคยอ่าน hesheit ตั้งแต่สมัยเค้าเขียนลง a day น่ะค่ะ
พอมารวมเล่มก็ไปแอบเปิดอ่านตามร้านหนังสือเอา

ส่วนใหญ่เราอ่านแล้วก็เลยยังไม่ได้ซื้อเก็บเลย
(แต่เห็นที่คิโนคุนิยะยังมีขายอยู่นะคะ)

EverybodyEverything เราชอบค่ะ

ชอบ "พี่ชาย" ที่สุดค่ะ (เรื่องนี้เราร้องไห้ตั้งแต่อ่านใน a day น่ะ)

เราชอบ "ตั้ม" ตั้งแต่ขนมจีบไส้อึที่เคยอ่านตั้งเมื่อหลายปีมาแล้ว

เรารู้สึกว่าเขามีมุมมองโลกได้แบบ..น่าสนใจมากๆ
ชอบลายเส้นเค้าด้วย
ดิบดี

แต่ขณะเดียวกันเวลาอ่านเรื่องของเค้า ก็รู้สึกว่าอ่อนโยนจัง (ไม่ทุกเรื่องหรอกนะ บางเรื่องก็เฮ้ย..คิดได้ไง แบบขนมจีบฯ เป็นต้น)


จะรออ่านเมื่ออัพบล็อกนะคะ อย่าลืมไปแจ้งข่าวเราล่ะ จะรอนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 มิถุนายน 2548 เวลา:9:38:45 น.  

 
รอvcdอยู่ค่ะ


โดย: chon IP: 61.19.169.113 วันที่: 15 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:37:53 น.  

 
เพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ สนุกมากสอนเรื่องคนเยอะเลยค่ะ


โดย: เป้ วาทินี ย่านงูเหลือม IP: 49.230.96.137 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:27:31 น.  

grappa
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




New Comments
[Add grappa's blog to your web]