กรรมทันตา แรงฤทธิ์อธิษฐาน
กรรมทันตา แรงฤทธิ์อธิษฐาน เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน คุณพ่อตาของผม พอ.พิเศษ ลิขิต สว่างวรรณ อาจารย์ ร.ร.นายร้อย จปร. ท่านชอบทำบุญ ด้วยการถวายพระพุทธรูป...พระประธาน...เป็นอย่างมาก ถวายมาแล้วซัก 10 กว่าองค์ เห็นจะได้ และมักจะไปถวายให้ตามวัดที่อยู่ในถิ่นกันดาร และอยากได้จริง ๆ วันหนึ่ง มีวัดที่จังหวัด ชัยภูมิ... ชื่อวัด…สง่าคงคาราม และยังเป็นวัด ที่มีการสอนปริยัติธรรมด้วย ทางวัดได้ เขียนจดหมายมาขอพระประธาน เนื่องจากได้สร้างโบสถ์ใหม่ แต่....ที่สำคัญ ขอโต๊ะหมู่บูชาที่ใช้ประดับหน้าพระประธานด้วย แถมยังเน้นมาว่า อยากจะได้เป็น...โต๊ะประดับมุก...ด้วยนะ คุณพ่อตา ท่านมาปรึกษาว่าสนใจมาก อยากทำบุญนี้ กับวัดนี้มาก ๆ แต่ถ้าให้ถวายทั้งสองอย่าง ออกจะไม่ค่อยสะดวก เพราะพระประธาน อย่างเดียว ราคาประมาณ 50,000 บาท ส่วนโต๊ะหมู่ไปเช็คราคาแล้ว ก็ประมาณ 45,000 บาท ปัญหาอีกอย่างคือ มีเวลาไม่เกิน 10 วันเท่านั้น จะถึงวันฉลองโบสถ์ใหม่ ต้องมีการตัดลูกนิมิตด้วย ผมเองก็คิดว่า.....โอ๊ย อะไรกันเวลาแค่ 10 วันเท่านั้นเอง ทางวัดไม่คิดหรือว่าจะหาใครมีสตางค์ได้ทันกันนะ ถ้า เกิดไม่ทันเวลาจะทำยังไง ไม่แย่เหรอ..... แต่คุณหม่อง ภรรยาของผม...ได้ฟังแล้วสนใจอยากร่วมทำบุญนี้มาก เลยปรึกษากันว่า…. ผม กับภรรยา จะรับเรื่องโต๊ะหมู่เอง ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยมั่นใจ เงินไม่ค่อยมี อยากทำก็อยากทำ แต่ติดแค่เรื่องเงิน คุณพ่อตาท่านก็บอกว่า...คนเราต้องมีศรัทธา ถ้า ศรัทธา ถึงก็จะทำได้ แล้วท่องภาษาบาลีให้ฟังว่า ....มโนปุพพัง คมา ธัมมา ....มโนเสรฐา มโน มะยา แปลแล้วหมายความว่า ...ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ... และท่านก้อบอกว่า…. ตั้งใจให้ดี แล้วไปตั้งจิตอธิษฐานกับ พระ ดูสิ.... ผมกับภรรยา ก็ไปที่หิ้งพระ ยกมือพนมขึ้น อธิษฐาน เราอยากทำบุญ...สร้างโต๊ะหมู่บูชา เพื่อเป็นศรีสง่า แก่องค์พระประธาน…..แต่ไม่มีสตางค์ ขอบุญกุศลที่เคยได้ทำมา ดลบันดาลให้สำเร็จด้วยเถอะ ครับ อันที่จริงเงินก็พอมีนะ แต่เป็นเงินทุนการค้า เป็นเงินหมุนเวียน จะเอามาทำบุญถวายวัด...คงไม่ไหวนะ วันรุ่งขึ้นไปทำธุระการงานตามปนกติ แล้วคุณหม่อง ชวนให้ไปดูที่เขาขาย….พระประธาน กับ โต๊ะหมู่ กัน เรามุ่งไปที่เสาชิงช้า เลือก…พระประธาน ได้ถูกใจมาก ขนาดองค์ใหญ่ งดงาม พระพักตร์ยิ้มน้อย ๆ มองดูแล้ว ให้ความรู้สึกว่า…..ท่านใจดีมาก ๆ แต่เราไม่ชอบโต๊ะหมู่เลย ไม่สวย …สีดำ ๆ ลายมุกที่ฝัง ก้อไม่สวย ไม่เป็นศิลปะพอ เลยไปดูตามแหล่ง ร้านเฟอร์นิเจอร์ ไฮโซ ฯ ไปเจออยู่ชุดหนึ่งสวยมาก โต๊ะหมู่เก้า ขนาดกำลังดี สีน้ำตาลแดง ประดับมุกลายเถาว์ตำลึง อู๊ย..ย..ย....ถูกใจ…สวยจริง ๆ แต่...ราคาในสมัยนั้น 40,000 บาท ขาดตัว ผมกับคุณหม่อง หันมามองหน้ากัน ทำตาปริบ ๆ แล้วเล่าเรื่องให้เจ๊ เจ้าของร้านฟัง ว่าจะซื้อไปทำบุญถวายวัดที่ต่างจังหวัด เจ๊ แก….นิ่งอึ้ง ไปอึดใจนึง มองหน้าเราสองคน แล้วเดินไปหยิบสมุดบัญชีมาเปิดดู บอกอยากช่วยนะ…เอาอย่างนี้ 35,900 บาท ขาดใจ เราเลยกัดฟันวางมัดจำไว้ 5,000 บาท จากนั้น ก็กลับมานอนคิด...เอ๊ ทำยังไงดี คุณพ่อตา ก็มาปลอบใจบอกขอให้มี ศรัทธา ก้อเลยตั้งใจสวดมนต์ จะได้นอนหลับ วันรุ่งขึ้นมัวแต่ยุ่งกับเรื่องงานธุรกิจจนลืม ภรรยาของผมขาย...ของเด็กเล่น เค้าจะไปซื้อตามโรงงานที่ผลิตส่งออก เหมาซื้อของที่ไม่ผ่าน Q.C. เป็นพวกเกรด B แต่ปัจจุบัน โรงงานพวกนี้ย้ายไปเมืองจีนหมดแล้ว พอตอนบ่าย มีโทรศัพท์จาก...คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ว่าที่ รง.ของเขามีของค้างตกสต๊อกเหลืออยู่อีก 1 อย่าง เป็น...ตุ๊กตาช้าง จำนวน 5,000 ตัว เย็บด้วยผ้าร่ม ขนาดเท่าฝ่ามือ แต่เป็นของเกรด A นะ ผมถามว่า มีอย่างอื่นอีกด้วยมั้ย เขาบอก อย่างอื่นขายไปหมดแล้ว รง.เลิกแล้ว กำลังเก็บของย้ายไปเมืองจีน เลยตกลงกันว่าวันพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปดู แต่ก็ถามว่า ได้เบอร์โทร.ของผมมาจากไหน เขาบอก...ไม่รู้ใครให้มาเหมือนกัน และสินค้า ก็เหลืออยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้น ไม่รู้ทำไมถึงยังมีไอ้ตุ๊กตานี่เหลืออยู่ได้ยังไง เค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รุ่งขึ้นเช้าผมกับภรรยา ก็ไปดูที่โรงงานแห่งนี้ เอ๊อ.อ...โรงงานมันเลิกแล้ว อ่ะ... มีแต่โกดังเปล่า ๆ โล่ง ๆ เลย โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์อะไรสักอย่างก้อไม่มีสักชิ้นเดียว แต่….มีตุ๊กตาช้างผ้าร่มสีสดสวย แพ๊คใส่กล่องกองไว้อย่างเด่นชัด กลางโกดัง อย่างดีเลย ผมก็ตกลงซื้อมา ราคาไม่แพงแค่ตัวละ 5 บาท เท่านั้นเอง เรียกรถมาขนไปบ้าน...กองพะเนิน แทบไม่มีที่เดิน ตอนบ่ายคุณหม่อง แกก้อเอาตัวอย่าง...ตุ๊กตาช้าง...ไปให้ร้านค้าส่งที่สำเพ็งดู ระหว่างเดินไปเ จอคนรู้จักที่มีแผงขาย อยู่ริมถนนราชวงศ์ หน้า ธ.กรุงศรีฯ ซึ่งเป็นทำเลทอง มาก ๆ ก้อทักทายกันตามประสาคนค้าขายแล้วก็เอา ตุ๊กตาช้าง ให้เค้าดู เขากลับบอกว่า ยังไม่เอาเพราะจะไปเที่ยว และหาซื้อสินค้าที่ ….เกาหลี ปรกติตัวเจ้าของไปคนเดียว ปล่อยให้สามี หรือลูกน้องเปิดขายทุกวัน แต่เที่ยวนี้ไม่รู้เป็นไง...จู่ ๆ ก้ออยากให้ลูกน้องได้หยุดไปเที่ยวซัก 2 วัน ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกมาก….เพราะไม่ใช่หน้าเทศกาล ในย่านสำเพ็ง ค่าที่แพงมาก ถ้าไม่จำเป็นจะไม่หยุดขายกัน หร๊อก.ก..ก แถมยังใจดี….บอกให้ผมมาขายแทนได้ 2 วัน ไม่คิดค่าที่ด้วย...นะ โอ้ววว..มหัศจรรย์ วันรุ่งขึ้น จำได้ว่าเป็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เพราะธนาคารปิด ผมไปยืนร้องตะโกนขายที่แผงของเขา ขายตัวละ 20 บาท ถ้าซื้อ 5 ตัว 100 บาท ขายบ้าง แถมบ้าง.....ขายดีแฮะ แค่เวลา 2 วัน ขายหมดไปประมาณ 2,000 ตัวเห็นจะได้ แต่วันต่อมามีคนสนใจ โทร.มาขอซื้อไปขายต่อ จำได้ว่าเจ้าที่ซื้อเยอะที่สุดอยู่บางลำพู เป็นแผงกางเกงยีนส์ชื่อ...เจ๊หมวย โดยสรุป ที่เหลือก็ขายหมดเกลี้ยงภายใน 5 วันเท่านั้นเอง ที่แปลกมากก็คือ...ผมไม่มีเหลือซักตัวเดียวเลย ทั้งๆ ที่อยากจะเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกอย่างมาก แต่ตัวเดียวก็ไม่เหลือ ไปขอซื้อจากลูกค้า ทุกคนก็บอกว่าหมด.....ไม่มีเหลือเลย สักตัวเดียว…ก้อไม่มี เมื่อคุณหม่อง….มานับเงินดู ยิ่งขนลุกมาก.ก...ก.... ผมมีกำไรจากการขายตุ๊กตาช้าง เป็นเงิน 35,900 บาท พอดีเป๊ะ ไม่มีขาด ไม่มีเกิน เท่านี้จริง ๆ คืนนั้น ตั้งใจสวดมนต์ ถวายบุญกุศล ให้เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ ซะยาว.ว..ว....เลย เมื่อถึงวันเดินทางนำ พระประธาน กับโต๊ะหมู่ไปตอนเช้ามืด ช่วงนั้นเป็นหน้าหนาว ซึ่งในปีนั้น….หนาว มากพอควรเลย เรื่องแปลกอีกอย่าง ก็คือ ผมหาเช่ารถบรรทุก ที่จะนำ พระประธาน ไปส่งไม่ได้ ต้องเอารถกระบะ มาสด้า สีขาวที่ตั้งขายอยู่มาบรรทุกแทน อ้อ ลืมบอกไป...ตอนนั้นผมมีอาชีพเปิดเต็นท์รถ ขายรถมือสอง ซึ่งรถคนนี้มีประวัติไม่ค่อยดี เจ้าของเดิม เคยเอาไปทำธุรกิจ รับจ้างบรรทุกศพ ไปหาอ่านได้จากเรื่อง...กรรมทันตา กฏแห่งกรรมที่เห็นกับตา เค้าเอามาขายคืน ซึ่ง…ไอ้รถคันนี้ สร้างความปวดหัวให้ผมอย่างมาก ทำยังไงก็ขายไม่ออก ฟิตเครื่องใหม่ก็แล้ว ทำสีใหม่เอี่ยมก็แล้ว มีปัญหาจุกจิกตลอดเวลา ลูกค้ามาดูหลายราย มอง ๆ แล้วก็ไม่เอา....ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เราออกเดินทางกันตอนเช้ามืด ตกลงกันว่ารถกระบะมาสด้าที่มีองค์พระประธาน กับโต๊ะหมู่ตั้งอยู่นำหน้า คนขับพร้อมกับคนที่รู้ทางไปด้วยกัน ผมและครอบครัวนั่งรถเก๋งตามหลัง ขับตามกันไปติด ๆ จุดหมายปลายทาง คือ…วัด สง่าคงคารม จ.ชัยภูมิ พอไประหว่างทาง ประมาณ 7 - 8 โมงเช้า หมอกลงจัดมาก.ก..ก...มองอะไรแทบไม่เห็น ผมก็ไม่ค่อยได้เจอหมอกหนามาก ๆ อย่างนี้มาก่อน มองไปได้ไกลแค่ไม่เกิน 10 เมตร ต้องขับช้า ๆ ไปเร็วไม่ได้ .... แต่รถดันพลัดหลงกัน ผมเองก็ไม่รู้ทาง ไอ้คนที่รู้ ก็นั่งไปกับรถกระบะ ซะด้วย แล้วจะทำยังไง กัน..... ขับตามมองหากันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง...ก็ไม่เจอ คุณพ่อตาผม ท่านบอกให้ใจเย็น ๆ การทำบุญใหญ่ก็ต้องมี มาร มาผจญทั้งนั้น ให้ตั้งจิตให้สงบ นึกถึงองค์พระ ท่านก็แล้วกัน ผมก็สงบใจ ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เจอกันเถอะ ถ้าหลงกันละแย่เชียว คันหน้าถึงจะรู้ทางแต่ก็ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ขณะนั้นรถอยู่กลางถนนที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็น แถว ๆ สระบุรี หมอกก็ลงหนามาก เพ่งมองถนนยังลำบากเลย แล้ว จู่ ๆ....ก็มีแสง แว๊บ.บ..แว๊บ.บ..บ...อยู่ข้างหน้า ห่างไปพอดู คุณพ่อตา บอกให้ตามแสงนั่นไป ผมก็ต้องค่อย ๆ ขับช้า ๆ ย่อง ๆ ตามแสงไป สักพักใหญ่ ๆ เริ่มมีแดดบ้าง ไม่นานก็ตามกันทัน ปรากฎว่า เป็นแสงแดดที่สะท้อนจากองค์พระนั่นเอง ผมงี้...ขนลุกซู่เลย ถามคนขับก็ยังไม่รู้เลยว่าพลัดหลงกัน นึกว่าขับตามมาติด ๆ พวกเราไปถึงวัดที่หมายก่อนเที่ยง แต่ก่อนจะถึงวัดซัก 300 เมตร ได้ยินเสียง เฮ..เฮ... เสียงเหมือนคนโห่ร้อง เชียร์มวย เชียร์กีฬา ….แว่ว ๆ มา พอถึงวัดถึงได้รู้ว่าเป็น…เสียงชาวบ้านเขาร้องดีใจกัน เพราะเห็นแสงที่สะท้อนออกจากองค์พระมาแต่ไกล พวกเค้าว่า เห็นเป็นแสงสีทอง สว่างไสว เป็นสิ่งมหัศจรรย์ มาก ไม่เคยพบไม่เคยเห็น พอรถกระบะจอดหน้าวัดเท่านั้นแหละ คนทั้งหมู่บ้าน....ทั้งหมู่บ้าน...เลย กรูกันเข้าไปช่วยกันยก...องค์พระประธาน และโต๊ะหมู่ รวมทั้งข้าวของทุกอย่างเข้าไปในโบสถ์หลังใหม่ ปรกติองค์พระท่านหนักมาก น้ำหนักหลายร้อยกิโล…. แต่พวกเค้ายกกันปลิวเลย คนที่ไม่มีอะไรให้ยก ก็วิ่งตามกันไปเอิกเกริก แต่ไม่มีใครสนใจพวกผม..เจ้าภาพ พวกเราเป็น…เจ้าภาพ..นะเนี่ยะ เมื่อช่วยกันตั้งองค์พระ บนฐานที่ทำเตรียมไว้...อย่าง พอดี๊ พอดี เลย แล้วคนที่อยู่ในโบสถ์กันแน่น น น น น ไปหมด รวมถึงคนที่เข้าไม่ได้ อยู่นอกโบสถ์ ก็ทำกริยา….ก้มลงกราบพระพร้อมกัน ไม่รู้ใครขึ้นต้นเสียง... ดังกังวาลออกมาจากในโบสถ์ ช้า ๆ แต่...แจ่มชัด ...อะระหัง ง ง ง ง....สัมมา...สัมพุทโธ ภะคะวา , พุทธัง ง ง ง...ภะคะวันตัง... อภิวาเท มิ. กราบ ...สวากขาโต.... ภะคะวะตา... ธัมโม , ธัมมัง ง ง ง...นะมัสสา มิ. กราบ ...สุปะฏิปปันโน.... ภะคะวะโต... สาวะกะสังโฆ , สังฆัง ง ง ง ...นะมา มิ. กราบ ชาวบ้านทุกคนสวดตาม เสียงดังง..ง...ง ก้องกังวาลไปพร้อมกัน แล้วก้มลง กราบ.....กราบ.....กราบ... ผมเอง ที่วิ่งตามพระไป ก็เข้าไม่ถึงยืนชะเง้ออยู่นอกโบสถ์เหมือนกัน ได้แต่ยืนดูภาพนั้น.....ไม่รู้ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุด เดินแหวกคนเข้าไปพยายามมองท่าน.......โอ้ โฮ องค์พระ ท่านเปล่งประกาย ยิ้มน้อย ๆ งดงาม สว่าง องค์ท่านดู…มีชีวิต ชีวา อย่างกับคนละองค์กันเลย คืนนั้นกลับถึงบ้านอย่างปิติสุข สุด...สุด แต่ปาฏิหารย์ยังไม่ยอมหมด ตอนเช้ามีคนมากดกริ่งเรียก...ขอซื้อรถกระบะมาสด้า คันนั้น คันที่ผมขายไม่ออกซักที เลยเอาไปบรรทุก พระประธาน น่ะ เป็นใครก็ไม่รู้ บอกแต่ว่า…. บังเอิญขับรถหลงทางผ่านมา เห็นแล้วชอบ อยากได้...จะเอาไปทำมาหากิน เรื่องนี้ทำให้ผมกลับมาคุยกับภรรยา ถึงความมหัศจรรย์หลายครั้งที่เกิดขึ้น คุณพ่อตาผม ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ท่านเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้ผมเข้าใจถึงพลัง ศรัทธา และ แรงอธิษฐาน ....... ปล. วัด แห่งนี้ชื่อ ...วัดสง่าคงคาราม... อยู่ที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ นี่ผมว่าจะหาเวลาไป กราบ... อีกสักครั้ง ปาฏิหารย์ของท่าน...มากมายเหลือเกิน ลองไป ตั้งจิตอธิษฐาน ดูซิครับ อนณ 093-149-9564 ไลน์ : anon.nisarut
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553 | | |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2565 12:06:42 น. |
Counter : 2381 Pageviews. |
| |
|
|
|