กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
วัดป่า...มหาสนุก 27

วัดป่า...มหาสนุก 27

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

เมื่อครั้งก่อนเล่าเรื่องการไป อินโดนีเซีย กับหลวงตามหาฯ และหลวงพ่อ...

อันที่จริงพอผมไปบวช อยู่กับหลวงพ่อ...ที่วัดป่าฯ 5 เดือน

ลาสิกขามาแล้ว ก็ได้ไปอินโดฯ กับท่าน

หลังจากนั้น ก็ได้เดินทางไป อินเดีย เพื่อกราบสังเวชนียสถานกับท่านทุกปีอีก 3 ครั้ง

แต่ละครั้งที่ไปก็จะมีบรรดาลูกศิษย์ที่เคารพนับถือติดตามไปด้วยมากบ้าง น้อยบ้าง

ทุกครั้งที่ไปต้องเดินทางรอนแรมหลังจากลงเครื่องบินแล้ว อีก 10 วัน

พวกเราเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไปลงยังเมือง กัลกัตตา 

แล้วนั่งรถบัสตะลอนไปอีก 7 - 8 ชั่วโมงกว่าจะถึง พุทธคยา

ทั้ง ๆ ที่เราสามารถจะบินจากเมืองไทย ไปลงเมือง คยา เลยก็ได้ แต่ต้องเพิ่มเงินอีกคนละ 10,000 บาท

มันจะสบายกว่ากันเยอะเลย....แต่หลวงตามหาฯ กับหลวงพ่อ...ท่านไม่เอา

ท่านบอกว่า สงสารคนที่กำลังทรัพย์ไม่พอจะต้องไปกู้หนี้ยืมสินเค้ามาให้เดือดร้อน หรือคนที่มีไม่พอ ก็ไม่ได้ไปกันพอดี

ท่านยอมลำบากไปกับพวกเราดีกว่า....

ความเมตตาของท่านทั้งสอง ต่อลูกศิษย์ถึงขนาดยอมลำบากกาย ต้องทนทุกข์ทรมานบนรถบัสครั้งละ 7 - 8 ชั่วโมง

ผมบอกท่านว่า จะตีตั๋วให้ท่านไปลงเมือง คยา โดยตรงเลย

แต่ท่านกลับบอกว่า...ท่านทำอย่างนั้นไม่ได้ จะเอาแต่ส่วนตัวสบาย แล้วลูกศิษย์ลำบาก ท่านทำไม่ได้ และจะไม่ทำเด็ดขาด

ในปีแรก ครั้งแรกที่จะพาท่านทั้งสองไป ผมเองก็ยังไม่ได้เตรียมเงินไว้มากพอ ค่าใช้จ่ายตกประมาณ คนละ 30,000

มีหลวงตาฯ หลวงพ่อ ตัวผม และภรรยา รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ สารพัดแล้ว ก็เกือบ 150,000 - 200,000

ก็มีความหวาดหวั่นใจอยู่มากเหมือนกัน

ทั้งเรื่องเงิน เรื่องปัญหาการเดินทาง เรื่องต้องหาผู้ร่วมคณะให้ได้จำนวนพอเพียง เรื่องเอกสารอันวุ่นวายอีกต่างหาก

พอหลวงตาฯ ท่านได้ยินแล้ว ก็เงยหน้าพูดขึ้น ดัง ๆ ว่า....

เทวดา ทั้งหลายเอ๋ยยย ได้ยินมั้ย...คนเค้าตั้งใจทำบุญใหญ่ ให้เทวดามาช่วยกันเอาบุญ ให้ทุกอย่างราบรื่นด้วย เน้ออออ

ผมเองรีบยกมือขึ้น.....สาธุ

หลังจากวันนั้นมา ทุกสิ่งอย่างก็สำเร็จราบรื่น

อย่างเช่น เรื่องเงินที่ต้องใช้ก็ให้มีเหตุการณ์ประจวบเหมาะ ทำมาค้าขึ้น ซื้อมาขายไปคล่องตัว เงินทองไหลมาเทมา

มีรายได้เข้ามาให้เรา อย่างมหัศจรรย์

ปีต่อมาอีก 2 ครั้ง เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นคล้าย ๆ กันอีกทั้ง 2 ครั้ง

ปีที่ผ่านมายิ่งน่าแปลกใจเข้าไปอีก....ขณะที่กำลังหาทางว่าจะหาเงินมาจากไหน เพื่อเป็นทุนในการทำบุญใหญ่นี้อีก

อยู่ดี ๆ ก็มีคนมาขอเหมาสินค้าที่ค้างสต๊อกของผม แบบโล๊ะทีเดียว...เกลี้ยง

ได้ทั้งเคลียร์สต๊อกตกค้าง และได้ทั้งเงินอีกก้อนใหญ่ ๆ พอเพียงอย่างไม่น่าเชื่อทุกครั้งเลย

การไปอินเดีย ของพวกท่านไม่ใช่การไปเที่ยวชม สังเวชนียสถาน

แต่จะเป็นแบบการเดินทางเพื่อไป...ปฏิบัติฯ ภาวนาถวายแด่ พระพุทธเจ้า

ในสถานที่อันสำคัญเกี่ยวเนื่องกับ พุทธประวัติ คณะของเราจะ สวดมนต์ และนั่งสมาธิภาวนา ประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

ในสังเวชนียสถานแต่ละแห่ง จะมีพลังงานบางอย่างที่ช่วยให้การ ปฏิบัติฯ ภาวนา

ได้สงบนิ่ง ลึกซึ้ง ดำดิ่งจดจ่อกับลมหายใจ และคำภาวนา ได้อย่างที่เราจะทำไม่ได้ดีอย่างนี้ ในสถานที่อื่น ๆ เลย

คงจะเป็นเหตุเพราะว่าสถานที่เหล่านี้ได้สะสมพลังงานบริสุทธิ์ของ พระพุทธองค์ ไว้อย่างเต็มเปี่ยม

ยิ่งได้มาสวดมนต์ กับท่านทั้งสอง ก็ยิ่งเหมือนกับได้ต่อสายชาร์ทพลังของพระองค์ท่านมาใส่ในตัวเราจนเต็มล้นปรี่

ทั้งสถานที่ บรรยากาศ และผู้นำของเราสามารถจูงจิตของเราไปสู่จุดที่...สงบ ระงับได้ลึกถึงที่สุด

ตอนนั้นแหละ เราจะสัมผัสได้ถึง...ความสุขของใจที่ไม่ยึดเหนี่ยวข้องเกี่ยวกับอะไร

ไม่ว่า รัก หรือชัง อยากได้ อยากมี อยากดี อยากเด่นดัง ผิดหวัง เศร้าสลด หรือสุขแสน อะไรมันก็ไม่มีในหัวใจ

ขณะเวลาที่จิตของเรา แจ่มใสกระจ่าง และว่างเปล่า มันไม่มีแม้ทุกข์ หรือสุข...เกินกว่าจะอธิบายด้วยภาษาใด ๆ ในโลกนี้

ความรู้สึกแบบนั้น นั่นแหละที่เราต้องจำให้ได้ไปให้ถึง และประคับประคองเอาไว้ทุกครั้งที่ ปฏิบัติฯ ภาวนา

หลวงตามหาฯ ท่านเคยบอกว่า...จิตใจที่แท้จริงของเรา มันเปรียบเหมือน...ผ้าที่ขาวสะอาด

ไม่มีกิเลสมลทิน มาเปรอะเปื้อน

แต่...อารมณ์ความรู้สึก รัก ชอบ ชัง สุข เศร้า ทุกข์ หรือสมหวังลิงโลด นั่นแหละเหมือนกับ สี ที่มาย้อมไว้

ใจของเรา ก็เลยกะดำกะด่าง แดง เหลือง เขียว ชมพูเบ่งบานไปตามอารมณ์ที่กระหน่ำเข้ามา

ที่น่าเศร้าคือ เราซึมซับรับเอาไว้หมด ทุกสีทุกอารมณ์

ลองนึกถึงกระดาษเปล่า สีขาวสะอาด แล้วเราเอาสารพัดสีมาป้ายไปทั่วเละเทะไปหมด

ทุกสีทุกเฉดเมื่อมันซึมซาบเข้าหากัน....ผลที่ออกมาคือ สีมันเน่า มันกะดำกะด่าง

ใจ...ของเรา ก็เหมือนเป็นเช่นนั้นแหละครับ เน่า และกะดำกะด่าง

เน่า ด้วยความทุกข์ และกะดำกะด่างด้วย กิเลส ตัณหา โลภะ โทสะ โมหะ

ทางแก้ที่เราทำได้ คือ...ซักฟอกจิตใจของเรา อย่างสม่ำเสมอ

หมั่นตรวจสอบว่า มีสีอะไรมากระเด็นติดที่ใจของเรา

ไม่ว่าสีอะไร จะสดใสแค่ไหน...มันก็ทำให้ผ้าขาวต้องแปดเปื้อน ห่างจากความขาวสะอาดไปทุกที

สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของสังเวชนียสถาน มักทำให้หลวงตามหาฯ และหลวงพ่อ...ได้พบกับความมหัศจรรย์อยู่เสมอ

เมื่อครั้งหนึ่งที่ไปยัง ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นสถานที่ พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเหล่า...ปัญจวัคคีย์

แต่ครั้งโบราณกาลนั้น เป็นป่าที่อุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะกวางป่า

บรรดากษัตริย์ นักรบ ข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ชอบมาล่าสัตว์เป็นงานอดิเรก

หลวงตามหาฯ ท่านนั่งสมาธิ ภาวนา แล้วได้นิมิตรเห็น...ตัวท่านเองในอดีต

แต่งกายไม่เหมือนคนธรรมดา มีเครื่องยศ เครื่องประดับผิดแผกผู้อื่น...ยืนเด่นอยู่ในป่าแห่งนี้

ในสังเวชนียสถานอันสำคัญอีกแห่ง คือ...กุสินารา สถานที่พระพุทธองค์ ได้ทรงนอนราบแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

หลวงตามหาฯ ท่านได้เห็น...ตัวท่านเองเป็น พระสงฆ์ อยู่ร่วมในเวลานั้นด้วย

เห็นเลยว่าตัวของท่านในอดีตนั้น...เศร้าโศกเสียใจอย่างสุดแสน

ท่านเล่าว่า...พอได้เห็นตัวเอง ความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้น กลับจำขึ้นมาได้ 

และมันกลับมา...จิตวูบเศร้าสลด ต้องแข็งใจสงบ ระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

หลวงพ่อ...เองท่านก็ได้พบเจอเรื่องราวในอดีตกาล ของท่านเหมือนกัน

ท่านนิมิตรเห็นว่าในช่วงเวลาที่ พระพุทธองค์ทรงปรินิพพาน 

ตัวท่าน...เป็นเพียงหัวหน้าพราหมณ์คนหนึ่ง และยังได้รู้ขึ้นมาว่าลูกศิษย์ที่ติดตามไปในครั้งนั้น

ใครเป็นอะไร...บางคนในช่วงเวลานั้น เป็นพราหมณ์ระดับลูกน้อง บางคนเป็นลิง เป็นพญาเสือ

มัคทายก คนสนิทของท่านในอดีตชาติเวลานั้น เป็นเพียงเณรน้อยรับใช้พระอัครสาวก วิ่งวุ่นอยู่แถวนั้น

แม้แต่ที่...วัดเชตวันมหาวิหาร พวกเราไปนั่งภาวนา ท่ามกลางไอหมอกขาว ๆ ที่ลอยอยู่รอบ ๆ ตัวเป็นชั่วโมง

หลวงพ่อ...ท่านได้ระลึกถึง บุพกรรม บางอย่างที่ทำให้ท่านต้องวนเวียนอยู่ใน สังสารวัฏ อีก 2,000 กว่าปี

ว่าท่านได้กระทำ ประมาทพลาดผิดต่อ...พระมหากัจจายนะ พระสาวกองค์สำคัญในสมัยพุทธกาล

หลวงพ่อ...ท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานขอขมา ต่อกรรมที่ได้เคยกระทำไว้

จึงเกิดนิมิตร เห็นท่านพระกัจจายนะ ได้มายืนอยู่ตรงหน้าให้ท่านได้...ก้มกราบ กล่าวขอขมา

ครั้งหนึ่งได้เดินไปบนผีนทรายท้องน้ำ ข้าม...เนรัญชรา

เป็นการเดินตามรอยบาท พระพุทธองค์ และพระอริยสงฆ์ ผู้ไกลจากกิเลส

หลวงพ่อ...ท่านเดินเหมือนกำลังเดินจงกรม...ช้า ๆ เนิบ ๆ ไม่เร่งไม่รีบร้อน สบาย ๆ สงบสำรวม

พวกเราที่เดินตามหลัง ก็ทำตามท่านทุกคน

ในภายหลัง หลวงพ่อ...ท่านเล่าว่ามี ผี วิญญาณ ของคนที่นี่มากมายมหาศาล มาวนเวียนขอส่วนบุญ

วิญญาณเหล่านี้ คือพวกที่เคยทำร้าย พระพุทธศาสนา ของเราทุกวิถีทาง

เมื่อตายลง ไปนรกอเวจีมาแล้ว ก็ยังต้องขึ้นมาตกค้าง ทุกข์ทรมานอยู่อีกนานเลย

ท่านบอกว่า...แผ่เมตตาให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ จำนวนมันเยอะอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

แต่ในเขต พุทธคยามหาเจดีย์ จะไม่กล้าเข้าไปเพราะมี เทพเทวา ที่มีฤทธิ์เดชมากมายปกปักษ์รักษาอยู่

พวกวิญญาณ นี้ก็ได้แต่เร่ร่อน ร้องขอส่วนบุญไปตลอดเวลา

ดูไปก็เหมือน กับพวกบรรดาเหล่าขอทานทั้งหลายในอินเดีย ที่วิ่งวนเวียนพัวพันอยู่กับพวกเรา

ต่างกันแต่ว่า...บรรดาขอทานอินเดีย เค้าไม่ได้ทุกข์จริง เค้าแค่มาทำงาน...ขอทาน จึงต้องตีบทให้แตกเท่านั้นเอง

แต่วิญญาณ ที่วนเวียนอยู่อย่างมากมายมหาศาล พวกนี้ทุกข์ทรมานจริง หิวโหยจริง 

เทวดา แบบอินเดียตามความเชื่อ ตามศาสนาของเค้า...ก็มีจริง

ไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจพระพุทธศาสนา...แต่บำเพ็ญตบะเดชะ ได้ฤทธิ์ ได้ฌานตามแบบของเค้า

สิงสถิตย์อยู่ตามที่ต่าง ๆ หรือมายืนมอง นั่งมองพวกเราอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน

ผมมาคิด ๆ ดูตามที่หลวงพ่อ...ท่านบอก ก็คงเหมือนเวลาไปซื้อผ้าที่ พาหุรัด

แขกอินเดีย เค้าก็มีชีวิตแบบของเค้า เรามองดูเค้า เค้าก็มองดูเรา 

คล้าย ๆ จะเข้าใจ แต่ลึก ๆ แล้วก็ไม่เข้าใจกัน

ในบริเวณ มหาเจดีย์พุทธคยา สิ่งที่เป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของชาวพุทธเรา คือ...ต้นพระศรีมหาโพธิ์

คนที่ดั้นด้นเดินทาง ระหกระเหินไปจนถึง อินเดีย ความปรารถนาอย่างหนึ่งคือ...ใบพระศรีมหาโพธิ์

คนที่ไม่เคยไป คงนึกภาพไม่ออก ว่าบริเวณใต้ร่มเงากิ่งก้าน ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ 

จะมีคนไปทั้งนั่ง ทั้งยืน และเดินจงกรม อยู่แน่นขนัดไปหมด...แน่นขนัดไปหมดแทบทุกตารางนิ้ว

ใคร ๆ ก็อยากได้ใกล้ชิด จุดที่ พระพุทธองค์ ท่านประทับนั่งต่อสู้กับ พญามาร กิเลสมาร จนบรรลุโพธิญาณ

นั่นก็คือ...ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

และใคร ๆ ทุกคนก็ปรารถนาอยากจะได้...ใบพระศรีมหาโพธิ์ กลับไปเพื่อบูชา และเป็นการวัดการบำเพ็ญภาวนาด้วย

เกือบทุกคนก็พยายามแหงนมองหา ว่าของท่านจะร่วงหล่นลงมาบ้างมั้ย

แต่ความที่คนอยู่กันเต็มแน่น เพราะฉะนั้นต้องหล่นลงมาตรงที่คน ๆ นั้นจริง ถึงจะได้

เอาเข้าจริง ๆ แล้วผมยังเคยโดนคนมาตะปปเอาใบพระศรีมหาโพธิ์ ที่หล่นมาบนตัวผม แทบจะคว้าจากหัวผมเลย

แล้วขอสารภาพนะครับ ไปตั้งหลายครั้ง ได้มาก็ตั้งหลาย ๆๆๆๆ ใบ

แต่พอไปถึงตรงนั้น...ก็ยังอยากได้อีก แน่ะ

และทุกครั้งที่เดินตามหลัง หลวงตา ฯ และหลวงพ่อไปที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์...รับรองว่าไม่เคยผิดหวัง

ปีแรกที่ไปกับท่าน....หลวงตาท่านอธิษฐานว่า ได้พาลูกหลานผู้มีศรัทธาต่อ พระพุทธศาสนา เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล

ขอให้ได้ใบพระศรีมหาโพธิ์ กลับไปเป็นกำลังใจด้วยเถิด....

พอสิ้นคำอธิษฐาน ก็มีลมกระโชกพัดมาอย่างแรง หลาย ๆ ครั้งเฉพาะที่ตรงนั้น

ใบพระศรีมหาโพธิ์ ท่านร่วงหล่นลงมา กราว ๆ มากมายจนตื่นเต้นไล่เก็บกันใหญ่

ได้มามากถึง คนละ 20 กว่าใบ 

ในปีที่ผ่านมานี้....วันที่พวกเราเข้าไปในบริเวณ มหาเจดีย์พุทธคยา 

เป็นวันที่ลมสงบนิ่ง ใบพระศรีมหาโพธิ์ก็ไม่ใช่ช่วงผลัดใบ ร่วงหล่นลงมาน้อยมาก

เมื่อได้ทำการ...สวดมนต์ นั่งปฏิบัติฯ สมาธิภาวนาอยู่จนอิ่มใจเต็มที่แล้ว

หลวงตาฯ ท่านมองพวกเรา แล้วเงยหน้าบอกเทวดา ว่าขอเมตตาเพื่อให้เกิดเป็นกำลังใจกับลูกหลานด้วยเถอะ

ทันใดนั้น ลมก็กระโชกมาหลาย ๆ ครั้ง ใบพระศรีมหาโพธิ์ ร่วงหล่นลงมามากมาย

แต่มีอยู่หลายท่าน เค้านั่งภาวนานาน ๆ ไม่ไหว ชวนกันไปเดินจงกรม เวียนรอบพระมหาเจดีย์

ช่วงเวลานั้นพวกเค้าเดินมาใกล้เกือบจะถึงพวกที่นั่งอยู่แล้ว...พวกเค้าเห็นภาพที่อัศจรรย์

คือ...เห็นลมกระโชกพัดมาแต่เฉพาะที่ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ บวกกับแดดที่ส่องตรงนั้นอยู่แล้ว

พวกเค้าได้เห็น...ใบพระศรีมหาโพธิ์ ร่วงหล่นลงมาเป็นสาย เป็นกลุ่มต้องแสงแดด จนเห็นเป็นลำสีทอง เฉพาะที่ตรงกลุ่มหลวงตาฯ เท่านั้น

ภาพที่เห็นทำให้ตกตะลึง ยกมือขึ้นพนมไหว้ด้วย...ศรัทธาที่เต็มตื้นล้นปรี่

พวกเค้าบอกว่ามัวแต่...ปิติ จนขนลุกขนพอง ไม่ได้ถ่ายภาพ ถ่ายคลิปไว้เลย...แต่มันประทับอยู่ในความทรงจำอย่างที่สุด

ผมจำได้แต่ว่า...วันนั้นใบพระศรีมหาโพธิ์ร่วงหล่นลงมาให้พวกเรามากมาย 

จนกระทั้งหลวงตาฯ ท่านต้องบอกว่า...พอแล้ว ๆๆๆ ลมถึงได้หยุดพัด

หลวงตามหาฯ ท่านพูดกับบรรดาลูกศิษย์ และใครต่อใครเสมอ

ว่า...ท่านไม่มีอิทธิฤทธิ์ เดชะบารมีเหมือนคนอื่นหรอกนะ

แต่พวกผมที่อยู่ใกล้ชิด จะได้เห็นถึง...ความมหัศจรรย์ของหลวงตาฯ เสมอ ๆ

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 28
https://pantip.com/topic/39244677


Create Date : 19 กันยายน 2562
Last Update : 19 กันยายน 2562 22:00:24 น. 0 comments
Counter : 419 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.