กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
กรรมทันตา โอ้..อินเดีย 11

โอ้..อินเดีย 11

เมื่อวานเล่าถึงช่วงเช้า พวกเรายังมัวแต่ชื่นชมอยู่กับความงดงามของ...วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
ซึ่งเป็นวัดที่มีการออกแบบ มีการดีไซด์ สวยไปหมดทุกตารางนิ้ว
แต่ก็เป็นเพียงวัตถุธาตุ

สิ่งสำคัญไปกว่านั้น...คน
ที่นี่อันหมายรวมไปหมด ทั้งพระสงฆ์ แม่ชี เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครช่วยงาน ทั้งหลายแหล่
เป็น มนุษย์ ที่คัดสรรมาแล้ว ได้รับการอบรมมาอย่างดี
ทั้งความรู้ ทั้งกริยาท่าทาง ทั้งการกระทำ โดยเฉพาะ...จิตใจ
ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงคงต้องยกย่องให้กับ...พระราชรัตนรังษี หน.ธรรมทูตอินเดีย-เนปาล
พระธรรมทูต ท่านเป็นมากกว่าแค่ เผยแพร่พุทธศาสนา เท่านั้น
เพราะเท่าที่พอจะเห็นในเวลาอันสั้น พวกท่านทำงานกันตั้งหลายอย่าง
เอาเรื่องแรกก่อนนะ บุคคลิก กริยา ท่าทาง...เยี่ยมยอด
แต่ละรูป มีท่าทางเป็นพระรุ่นใหม่ กระฉับกระเฉง กระตือรือร้น คล่องแคล่ว
ทั้งเรื่องความรู้ระดับปริญญา
ทางธรรมระดับนักธรรมเอกเป็นอย่างน้อย
ทั้งเรื่องปฏิบัติฯ ก็ต้องเป็นนักภาวนาด้วยนะ
เห็นว่าก่อนที่จะสอบผ่านมาเป็น พระธรรมทูต ที่อินเดียนี่ได้
ต้องฝึกงานด้านการก่อสร้าง และต้องลงมือ ลงแรง สร้างกุฎิให้เสร็จ 1 หลังซะก่อนถึงจะผ่าน
ทั้งยังต้องทำหน้าที่ ดูแล คนไทยที่ไปแสวงบุญให้มีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และยังทำหน้าที่ประสานความสัมพันธ์ระหว่าง คนไทย และ คนอินเดีย ให้สนิทสนมกลมกลืนกัน
หน้าที่อีกอย่างหนึ่งที่ผมเห็นว่า ยากเย็นแสนเข็ญ คือประสานความสัมพันธ์อันดี
ระหว่าง ศาสนาพุทธ กับ ศาสนาหรือลัทธิ อื่นๆ
เรียกว่าท่านจะต้องมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งไม่รู้จะไปหาจากที่ไหน...มนุษย์สัมพันธ์

ที่วัดไทยหลายแห่ง มีคลีนิครักษาคนอินเดียด้วยนะ
ดูเหมือนจะ ฟรี หรือเกือบฟรี โดยที่ทางวัดไทยเราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายสารพัด
ทั้งค่าจ้าง หมอ หมออินเดียเนี่ยแหละ ค่ายา ค่าอะไรต่อมิอะไรทุกอย่าง
มีคนไข้มารักษากันเยอะเลยเชียวแหละ คิวยาว..ว...ว
นอกจากนั้น พระธรรมทูตไทย ยังตั้งโรงเรียนอีกด้วย
เพื่อสอนพวกเด็ก ๆ อินเดีย
ยังไม่หมด...ยังจัดบวช สามเณร ให้กับเด็กอินเดียที่สนใจอยากจะบวช
แล้วเล่าเรียนกันจริงจัง จนถึงระดับปริญญาเอกโน่น..น...เลย
ผมมอง มองดูแล้วพวกท่านทำงานสารพัด ทุกมิติ ทุกรูปแบบ
ซึ่งหลายเรื่องที่พวกท่านกระทำมัน...แยบยล มาก
เช่น เมื่อเช้าผมเดินไปดูเห็นมี รูปหล่อทองเหลือง โคนันทิ ซึ่งก็คือวัวที่คนอินเดียเค้านับถือกัน
หรือ รูปเคารพ ในศาสนาฮินดู ไม่ใช่แค่ตั้งอยู่เท่านั้นนะ
แต่มีการจัดทำให้เห็นว่าเราเคารพสักการะ อีกต่างหาก
พอผมเห็นปุ๊ป ก็เกิดจิตใจชั่ว ตำหนิพระที่นี่ทันที
หันไปถาม พระหนุ่ม รูปหนึ่งที่ทำหน้าที่ดูแลอยู่แถว ๆ นั้น
ผมก็ถามด้วยหางเสียงไม่ใคร่พอใจนักว่า ทำไมต้องมีรูปเคารพพวกนี้ด้วย...เราเป็นพุทธ นะ
ท่านก็ยิ้มนิดๆ แล้วเล่าให้ฟังว่า...
รูปปั้น รูปหล่อ รูปเคารพพวกนี้ บางองค์ก็อยู่มาก่อนจะสร้างวัด
หลวงพ่อ ท่านก็ไม่ให้เอาไปทำลาย...เค้าอยู่มาก่อนเราจะมาซะอีก
เหตุผลที่สำคัญอย่างคิดไม่ถึง ท่านว่า...เรามาอยู่โดดเดี่ยว ท่ามกลางคนฮินดู คนศาสนาอื่น ๆ เราเป็นคนแปลกถิ่นมา
เราก็ต้องทำตัวให้กลมกลืน ไม่กล่าวร้าย แต่ก็ไม่งมงาย
การที่มีรูปเคารพของพวกเค้าตั้งวางไว้อย่างดี อย่างเอาใจใส่...
พวกเขาก็จะเห็นว่า เรา เป็นพวกเดียวกับ เขา
ความรู้สึกต่อต้าน คัดค้าน หรือความรู้สึกแปลกแยกกันก็จะไม่มี
มากกว่านั้น พวกเราซะอีกที่ต้องคิดกันให้ดีว่า ทำไมพวกเขาถึงเคารพสิ่งเหล่านี้กันมาเป็นพันปีแล้ว
มันต้องมีสิ่งดี..ดี..บางอย่างซ่อนอยู่บ้างน่ะ
อย่างเช่นการที่คนที่นี่เขาเคารพ วัว ก็เพราะชีวิตพวกเค้าขึ้นอยู่กับ วัว ก็ว่าได้
สิ่งแรกคือใช้ น้ำนมวัว เป็นอาหารหลัก
ใช้ แรงงานวัว ในการช่วยทำงาน ช่วยทำนา ทำเกษตรอย่างสำคัญ
ใช้ ขึ้วัว ในการก่อสร้างบ้าน
ใช้ในการทำเชื้อเพลิงหุงหาอาหาร และให้ความอบอุ่นในยามหน้าหนาว ที่หนาวจนตายได้
เราจะเห็นว่า คนอินเดีย กตัญญูต่อวัวมาก ดูแลเอาใจใส่ หาอาหาร สุมไฟไล่ยุง
หรือบางคนยัง สวดมนต์ให้วัวฟังด้วยซ้ำไป

อีกอย่างหนึ่งที่คนอินเดียให้ความเคารพอย่างมากคือ...เทพหนุมาน
เราจะเห็นศาล หรือรูปปั้นหนุมาน มากมายหลายแห่ง
มีร่องรอยการเซ่นสรวงบูชากันอย่างยิ่ง
ซึ่ง พระราชรัตนรังษี ท่านก็ให้มองว่า...
หนุมาน เป็นทหารเอกของ พระราม
มีชื่อเสียงในเรื่อง อิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช เก่งกล้าสามารถเหลือหลาย
แต่สิ่งหนึ่งที่เราน่าเคารพยกย่องที่สุด คือ...ความซื่อสัตย์
มีครั้งหนึ่ง หนุมาน ถูกใส่ร้ายว่ามีความคิดทรยศ
หนุมาน ได้แสดงความบริสุทธิ์ ด้วยการ...ผ่าอก ควักหัวใจให้เห็นว่า
ในหัวใจ...มีแต่พระราม และนางสีดา เท่านั้น
ตั้งแต่นั้นมาพระรามก็เชื่อในความซื่อสัตย์ของทหารเอกอย่างสนิทใจ
ถ้าใครได้คนอย่างนี้มาเป็น ลูกน้อง หรือญาติพี่น้อง ก็ถือว่าโชคดีอย่างที่สุด
เฮ้อ...ผมฟังแล้วอึ้ง แยบคายมาก
แล้วก็ให้เสียใจที่นึกปรามาสท่าน...บาปกรรม

เรื่องการสร้างคลีนิครักษา ฟรี
ก็เป็นการทำทาน ทำเมตตา เป็นการปรารถนาดีให้พวกเค้าพ้นทุกข์ และเป็นสุข
เรื่องการสร้างโรงเรียน และการบวชสามเณร
คือการสร้างคน สร้างพุทธศาสนิกชน สร้างพุทธบริษัท 4
ทั้งหมดทั้งปวงก็เป็นการทำตามแนวทางของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของเรา
เห็นหรือยังครับว่า งานของ พระธรรมทูต ท่านหนักหน้าสาหัสเหลือหลาย
พวกท่านทำงานต่างแดน ทำงานเบื้องหลัง ไม่ค่อยมีใครรู้
นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการดูแล นักแสวงบุญคนไทย ให้มีความสุข
พระไทยเรา มาสร้างวัดไทย ไว้ในจุดสำคัญต่างๆ ของสังเวชนียสถาน
เป็นที่พึ่งอันเป็นหลัก สิ่งก่อสร้างต่างๆ ต้องคำนึงถึงญาติโยมที่จะมาพัก
มาปลดทุกข์ บรรเทาความหนักใจ ความเหนื่อยอ่อน จากการเดินทาง
ต้องมีห้องพัก ที่สะอาด สะดวก ห้องน้ำ ต้องไม่น้อยหน้าโรงแรม
เรื่องอาหารการกิน ต้องเพียบพร้อม แต่ไม่ฟุ้งเฟ้อตามใจกิเลส
ยอมรับอย่างไม่อายเลยว่า แต่ก่อนนี้คำว่า พระธรรมทูต แทบไม่เคยรู้จัก
หรือพอได้ยินว่า พระบางรูปไปประจำอยู่ต่างประเทศ
ก็ให้นึกว่า ท่านมาสบาย มาท่องเที่ยว มาเสพสุขสนุกสนาน
ไม่เคยรู้เลยว่า พวกท่านมาเป็นเหมือน...ทหารแนวหน้า
มาเสี่ยงภัย มาแผ้วถางทาง มาสู้รบให้กับพวกเรา
ที่สำคัญเป็น...หลัก ยึดขวัญและกำลังใจ ให้คนไทยผู้ตามรอยพระพุทธองค์

แล้วก็อดคิดไม่ได้นะว่า ยังไงเสียท่านก็ต้องหาเงิน หาปัจจัย มาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานต่างๆ ให้ราบรื่น
ซึ่งเท่าที่เห็นผลงานอันมากมายก่ายกอง และประณีตบรรจง
โอ๊ย ท่านไปหาเงินเยอะแยะมาจากไหนกันนะ
ใครหนอที่มีใจศรัทธามาช่วยกันไม่ได้หยุดได้หย่อน
ไม่รู้แหละ ยังไงผมก็ขออนุโมทนา ในกุศลศรัทธาของพวกท่านเหล่านั้นด้วย เทอญ.

เอ๊ะ...วันนี้ไหน ๆ ก็เล่าเรื่อง พระไทยในต่างแดนมาแล้ว
ยังมีพระอีกมุมหนึ่ง ที่ผมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกในชีวิต
แต่ก่อนนั้น ผมก็คิดไปเองตามประสาคนไม่ค่อยรู้เรื่องศาสนา
ว่า พระสงฆ์ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ พระป่า กับ พระเมือง
คือ พระป่า ในความคิดของผม ก็ไปบุกป่าฝ่าดง ทำความเพียรปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน อย่างเอาเป็นเอาตาย
มีความตั้งใจมุ่งลัดตัดตรงไปสู่พระนิพพานโดยเร็วพลัน
ถ้าเปรียบกับกองทหาร ท่านเหล่านี้ก็คงเป็น พวกทหารแรงเยอร์ นาวิกโยธิน
ซึ่งออกจะดุเดือด และสร้างศรัทธากับผมมาก
ทางด้าน พระเมือง ผมคิดไปเองว่า ท่านก็ทำหน้าที่บริหารซะเป็นส่วนใหญ่
มีชีวิตอยู่ร่วมใกล้ชิดกับประชาชนคนธรรมดา ฆราวาสทั้งหลาย
อยู่เพื่อศึกษา พระธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้าในแบบปริยัติ
ด้านทฤษฎี เทคนิค วิธีสั่งสอนคนอื่นๆ ต่อไป
เปรียบแล้วก็เหมือนกับ ฝ่ายธุรการ เสนาธิการ นักคิดนักวิชาการต่าง ๆ
อย่างที่บอกนะ...เป็นความคิดแบบของผม คนไม่ค่อยรู้เรื่อง

แต่เที่ยวนี้ผมได้เห็น พระสงฆ์ ในอีกมิติ อีกรูปแบบ
พระอาจารย์วิทยากร พระนำทัวร์ หรือบางคนเรียกว่า พระไกด์
ก็คงจะมีแต่ประเทศอินเดีย นี่ละมั๊งที่นักท่องเที่ยวอยากได้ พระ เป็นไกด์ นำคณะทัวร์
แต่ก่อนผมก็พอรู้ว่ามีพระจัดทัวร์เหมือนกันนะ
แล้วก็คิดว่าเป็นเรื่อง ไม่เข้าเรื่อง เป็นพระดันมาจัดทัวร์ซะนี่
บางวัดมีการเชิญชวนกันเอิกเกริกซะด้วยแน่ะ
แต่พอได้มาประสบกับตัวเองในครั้งนี้..นี้..นี้
โอ๊ย...กระผมต้องขอขมาโทษ ขอได้โปรดงดโทษ ให้กับคนโง่ ๆ อย่างกระผมด้วยอย่างแรง ด้วยเถิด

ทัวร์ที่ผมไปนี่ชื่อ สังคมทัวร์
แต่มีคนที่แสวงบุญเกือบทั้งหมด มาจากนครปฐม
โดยมีพระอาจารย์วิทยาการ จาก...วัดพระปฐมเจดีย์
นำโดย...ท่านพระครูพิศาลเจติยาภรณ์
และมีพระอาจารย์อีก 4 รูปมาช่วยกันบรรยายความรู้ต่าง ๆ มากมายเหลือจะจดจำ
ตลอดเวลา 10 วัน พระทั้ง 5 รูปได้ช่วยกันดูแลเอาใจใส่พวกเราอย่างดีที่สุด
ผมเคยแต่ปรนนิบัติพระ แต่มาที่นี่ พระแทบจะปรนนิบัติเรา
นั่งรถบัสไปด้วยกันทุกวัน ท่านก็ผลัดเปลี่ยนกันสร้างบรรยากาศให้สนุกสนานไม่น่าเบื่อ
ผลัดกันเล่าเรื่อง พุทธประวัติ พระไตรปิฏ ความรู้เกี่ยวกับสถานที่สำคัญทั้งหลาย
ทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ชี้ชวนดูนั่นโน่นนี่ ไม่ได้หยุด
ตลอดหลายวันเหมือนกับมาเข้าคอร์สธรรมะ และปฏิบัติธรรม
ท่านพาสวดมนต์ นั่งปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน
ยิ่งตาม สังเวชนียสถาน แต่ละแห่งแล้วท่านก็พาเราสวดมนต์ เดินเวียนรอบ
พูดอธิบาย โน้มน้าวจิตใจพวกเราให้อ่อนนิ่ม ง่ายต่อการรวมจิต
นำการนั่งสมาธิภาวนา ณ.ตรงจุดที่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
ท่านพาเราย้อนเวลา กลับไป 2,500 กว่าปี
ให้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว ว่ามีความสำคัญ และเป็นมายังไง
พระอาจารย์ทุกรูป ท่านตั้งใจมากที่จะช่วยให้เราพ้นอบายภูมิให้ได้
พวกท่านเหนื่อยนะ ไม่ได้สนุก ไม่ได้สบายซักนิดเดียว
แว่บนึง ผมยังอดคิดไม่ได้ว่า...ท่านทำถึงขนาดนี้ไปทำไมกัน
พวกเราเป็นใคร ก็แค่คนธรรมดา ที่ไม่ได้รู้จักกับท่านซักกะหน่อย
แต่สิ่งที่เห็น ที่สัมผัสได้...พระอาจารย์ทั้งหลาย ท่านทำเต็มที่ เต็มกำลัง
เวลาที่นำสวดฯ ท่านใช้น้ำเสียงที่ออกมาจากจิตวิญญาณเลยหละ
น้ำเสียงที่มีความตั้งใจ มีความปารถนาดี ดึงดูดจิตใจเราให้ไปกับท่านด้วย
แล้วก็แปลกนะ สวดมนต์ที่อินเดีย ที่สังเวชนียสถาน แต่ละแห่งนี่ขลังชะมัด
ได้ปิติ ได้น้ำตา แทบทุกครั้ง
ยิ่งอีตอน แผ่เมตตา อุทิศบุญกุศล ให้คนที่เรารัก เรารู้จัก คนที่เราเป็นหนี้กรรมเวร
รู้สึกเลยว่า มีพลังบุญกุศลทะลักทะลายออกจากตัวเรา...แผ่ไป พุ่งไป ถึงเขาเหล่านั้น
เฮ้อ...ความรู้สึกเหล่านี้อะนะ ต้องมาลองเองถึงจะซาบซึ้ง
ต่อให้อธิบายหลายพันหน้ากระดาษมันก็ไม่เท่ากับมานั่งที่ตรงนี้ ด้วยตัวเอง
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ติ...จริง จริง

วันที่ผมไปเห็น รูปสลัก...พระธรรมจักร
อันเป็นแผ่นหินรูปวงล้อเกวียน ที่พิพิธภัณฑ์พาราณสี
ผมอดแว่บคิดถึงคำ ...พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ให้พวกเราช่วยกันเข็น กงล้อธรรมจักร
ใช่แล้ว ใช่เลย พระอาจารย์ทุกท่าน กำลังออกแรงช่วยกันเข็นกงล้อพระธรรมจักรกันอย่าง...สุดกำลัง
พวกท่าน เป็น พระ พระแท้ ๆ ไม่ต้องปลุกเสก แต่ท่านปลุกพวกเรา
ณ.วันนี้ ผมได้เข้าใจอีกหลายอย่างแล้วว่า
ไม่สำคัญอะไรเลยว่าจะเป็น พระป่า พระบ้าน คันถธุระ วิปัสสนาธุระ
เถรวาท มหายาน พระโพธิสัตว์
แต่การทำตามคำสั่ง คำสอน ของพระบรมศาสดา
นั่นก็เป็นมรรค เป็นหนทาง ทั้งนั้น
ต่างคนก็ต่างทำตามหน้าที่ ทำตามที่ตนถนัด
แต่สำคัญที่สุด...ทำให้เต็มแรง ทำให้สุดกำลัง
ขอกราบระลึกถึงพระคุณ ของ พระธรรมทูต และ พระอาจารย์วิทยากร
ทุกรูป ทุกท่าน ไว้ด้วยความเคารพ...อย่างสุดซึ้ง



อนณ 089-995-9377
tobeteam@yahoo.com



Create Date : 14 เมษายน 2555
Last Update : 14 เมษายน 2555 12:10:35 น. 2 comments
Counter : 3472 Pageviews.

 
อนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆ มาแบ่งปัน
ศาสนาพุทธยังดำรงอยู่ได้เพราะมีพระดีมากกว่าพระที่ออกนอกรีตนอกรอย
ในฐานะพุทธมามกะก็ต้องช่วยเหลือกันล่ะ


โดย: เพรางาย วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:17:39:18 น.  

 
ไปอินเดียมาแล้วเหมือนกันค่ะ คุณอนณเล่าได้ดีมากเลย เหมือนได้ไปด้วยอีกครั้ง และได้ให้ข้อคิดในแง่ต่าง ๆ ขออนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยค่ะ (เขียนต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ)


โดย: สุวรรณา IP: 61.90.46.197 วันที่: 15 เมษายน 2555 เวลา:7:59:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.