กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
วัดป่า...มหาสนุก 38

วัดป่า...มหาสนุก 38
( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

เรื่องนี้ คิดอยู่นานว่าจะเล่าดีมั๊ย เพราะมัน....เหลือเชื่อ
มันเกิดขึ้นหลังจากวันที่ ผมจุดธูปอธิษฐาน เพียง 2-3 วัน

ค่ำวันหนึ่ง ประมาณ 2 ทุ่ม ผมกำลังจะกลับบ้านที่ปากเกร็ด
วันนั้นผมค่อนข้างเหนื่อยมาก ทั้งกายทั้งใจ
ยืนเรียกรถแท๊กซี่ใกล้ๆ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เพราะวันนั้นเพิ่งจะขายรถไป
จำได้แม่นว่าฝนตกด้วยแต่ไม่หนักมาก รอเรียกอยู่นานพอควรก็ได้คันหนึ่ง
ผมขึ้นนั่งด้านหน้า ข้างคนขับ 
โชเฟอร์คันนี้ขับแปลก ๆ รถกระตุก ๆ กระชาก ๆ นิดหน่อย คิดว่าคงอาจเพราะฝนละมั๊ง
เมื่อแล่นมาได้ไม่ไกล คนขับคนนั้นก็ขออนุญาตแวะเข้าห้องน้ำ
เขาแวะจอดที่ปั๊ม ปตท.เล็กๆ เลยเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามาหน่อย
รถแล่นไปจอดหน้าห้องน้ำ ซึ่งคนขับพยายามจอดให้ใกล้ที่สุด ทำให้รู้สึกผมผิดสังเกตุ จึงระวังตัวมากขึ้น 
คนขับแท๊กซี่เปิดประตูลงไปจากรถอย่างทะลักทุเล ....แล้วกระโดดกระต่ายขาเดียวไปห้องน้ำ 
คงเคยเล่นกันนะครับ กระต่ายขาเดียวน่ะ

ผมก็ เอ๊ะ...ทำไมต้องทำอย่างนั้นล่ะ......ประหลาดดีว่ะ
ผมจับตาสังเกตุคอยดู ตอนเขาจะเดินกลับมา
ไฟหน้ารถส่องสว่างมาก ทำให้เห็นได้ชัดว่า คนขับแท๊กซี่คนนั้น....
กระโดดกระต่ายขาเดียวกลับมาที่รถ อย่างช้าๆ เพราะพื้นค่อนข้างลื่น
ตอนขึ้นกลับเข้ามาในรถก็ทุลักทุเลพอสมควร.....
ผมก็ถามไปว่า... ขาเจ็บเหรอ
เขาตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ว่า... เอ้อ..ครับ
ผมอดถามไม่ได้ว่า มันเป็นอะไรเหรอ
เขาก็อ้อมแอ้มตอบมาว่า....ขาหักครับ
ผมนึกว่าหมายถึง เพิ่งจะหาย เลยถามว่า...อ้าวเหรอ แล้วขับได้เหรอ
เขาว่า ...ได้ครับ ได้ครับ  ต้องขอโทษด้วยนะครับ
แล้วก็ค่อยๆ ถอยรถแล่นออกไป 

ด้วยคิดว่าคงจะ ขาหักมาแต่ถอดเฝือกออกแล้ว
หรือ อาจจะเคยหัก แล้วมันเกิดเจ็บขึ้นมาละมั๊ง......ไม่คิดมาก อยากกลับบ้าน
เมื่อรถแล่นมาเรื่อยๆ ซึ่งไม่เร็วนัก เพราะฝนตกถนนลื่น
แต่เขาขับได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เวลาเบรคจะหัวทิ่ม หัวตำ
ซึ่งผมสังเกตุดู เป็นเพราะเขาเหยียบเบรคด้วยเท้าซ้าย.....ซึ่งมันผิดปรกติมาก ๆ
ปรกติเท้าซ้าย เราจะใช้เฉพาะเหยียบครัช อย่างเดียว
เราจะใช้เท้าขวา เยียบคันเร่ง และเบรค......แต่นี่เขาใช้ขาขวา วางไว้ที่คันเร่งอย่างเดียวเลย
ไอ้ผมก็อดถามไม่ได้ว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น
ซึ่งคำตอบของเขาคือ ..... ขาหัก ครับ
ผมก็ถามว่ามันอักเสบเหรอ ที่คำตอบน่าตกใจมาก....ก.
.......ขาของผม มันยังหักอยู่ ครับ.

ผมไม่เข้าใจคำตอบ เขาเลยค่อยๆ จอดรถเข้าข้างทาง
แล้วเอามือ ประคองขาขวาให้ดู…………
ขามันหักจริง ๆ  ขาขวาท่อนล่างมันหักเป็นสองท่อนเลย
คือกระดูกข้างในมันหัก แต่มันอยู่ได้ด้วย กล้ามเนื้อเท่านั้น
ขาขวาท่อนล่าง มันขยับได้ มันห้อยต่องแต่ง เพราะกระดูกมันหักจากกันอ่ะ....
น่าสยองมาก....ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น

ผมอึ้งไปเลย...งง มาก แต่เขาก็ขับต่อไปหน้าตาเฉย
ผมสงสัยมากว่า ทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะ  เค้าก็เลยเล่าให้ฟังว่า
เขามีอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่แถวบ้าน แต่เกิดอุบัติเหตุรถล้ม
ทำให้กระดูกหน้าแข้ง ขาขวาหัก เพราะรถมันล้มทับ
ต้องใส่เฝือกประมาณ 4-5 เดือน แต่อยู่บ้านได้แค่ประมาณเดือนกว่า ๆ เงินที่มีอยู่นิดหน่อย ก็หมดแล้ว 
ซึ่งเขาเพิ่งจะมีลูกอ่อนอายุ 3 เดือนเอง
เมียเขาก็ไม่ได้ทำงานอะไร เพราะต้องเลี้ยงลูก 
หยิบยืมเงินเพื่อนฝูงมาจนเพื่อนก็ไม่มีจะให้แล้ว เป็นหนี้ไปทั่ว
 
ทนอยู่ได้อีกแค่ 1 เดือน เลยตัดสินใจกลับมาขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่วินอีก
แต่ไม่มีใครกล้าขึ้นเพราะ ...แกเล่นมาทั้งเฝือก ใครจะกล้าซ้อนท้าย
เขาคิดเองว่าขามันไม่เจ็บแล้ว ตั้ง 2 เดือน น่าจะหายแล้ว
เลยตัดสินใจผ่าเอาเฝือกเองเลย แล้วก็มาขับมอเตอร์ไซค์ต่อ
เพื่อนๆ ที่วินฯ ก็สงสารช่วยกันประคับประคอง ไม่ให้ผู้โดยสารสงสัย
ขับได้ไม่กี่วัน เจ้ากรรมเอ้ย เก้ ๆ กัง ๆ สุดท้ายรถล้มอีกจนได้........

กลับไปหาหมอ เอ็กซ์เรย์แล้ว คุณหมอบอกว่า ...เขาถอดเฝือกก่อนกำหนด กระดูกยังติดไม่สนิทดี 
แล้วยังไปออกแรงอีก ทำให้มันติดแบบเยื้องกัน ต้องผ่าตัดกระดูกใหม่ แล้วดามเหล็กยึดด้วยหมุด
ที่สำคัญกว่านั้น คือ ...อีทีนี้ต้องนอนนิ่ง ๆ ห้ามใช้ขาอย่างน้อย 3 เดือน
แล้วหมอก็ใส่เฝือกมาให้ใหม่ก่อนชั่วคราว
เขากลับมานอนคิดที่บ้าน
....แล้วจะเอาเงินที่ไหน .... จะเอาอะไรกิน
….เขาน่ะอดทนหิวได้ แต่ลูกกับเมียล่ะ...ยังดีที่ลูกกินนมแม่
สุดท้ายไม่รู้จะทำยังไง คิดไปคิดมาปรึกษากับเพื่อนที่เช่าขับแท๊กซี่ขับ
เพื่อนก็สงสารจับใจ เลยช่วยด้วยการเช่าแท๊กซี่แบบขับตลอดวัน... เพื่อนเขาจะขับตอนกลางวัน
แล้วแบ่งให้เขาขับตอนกลางคืน เพราะรถไม่ติด พยายามใช้ขาซ้ายให้มาก 
ขาขวาที่มีเฝือกเอาวางไว้ที่คันเร่งอย่างเดียวแต่เมื่อเอาเข้าจริง ขาที่มีเฝือกมันเหยีบคันเร่งไม่ได้
เลยตัดสินใจ เพื่อลูก เพื่อเมีย ....ผ่าเฝือกเองอีกรอบ.
แรกๆ ก็ค่อยๆ ขับได้อยู่ 

บังเอิญวันหนึ่ง....รับผู้โดยสารแล้วขึ้นทางด่วน ระหว่างทางมีรถขับตัดหน้า
ต้องเบรคกระทันหัน....ลืมตัวใช้ขาขวากระทืบเบรคอย่างแรง
ขาที่กระดูกติดกันไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว เลยหลุดออกมาเลย......
เจ็บปวดแสนสาหัสจนต้องเปิดประตู ลงมานอนดิ้นทุรนทุรายที่พื้นถนน.....ผู้โดยสารตกใจหนีไปเลย
ผมก็ถามว่า ...แล้วไม่ไปหาหมอเหรอ
เขาเล่าว่า ...กลับไปอีกครั้ง หมอด่าซะยกใหญ่ แล้วให้รีบมาผ่าตัดซะก่อนที่มันจะแย่ไปกว่านี้ 
ตอนนี้ทำได้แค่ใส่เฝือกอ่อนมาประทังให้ก่อน

แต่สุดท้าย ทนเห็นลูกเมียลำบากไม่ไหว.....เขายอมทนทรมานเอง
แล้วก็ถอดเฝือกออกมาขับรถแท๊กซี่อีก พอได้เงินบ้าง จะได้มีกิน...ไม่ขอมาก...ขอแค่ให้ลูกกับเมียมีกิน...
ถ้าต้องถูกตัดขาก็ถือว่าเป็นกรรมเก่า
ผมเห็นสภาพแล้วเศร้าเลย...
อาจเป็นเพราะ ผมเองก็กำลังอยู่ในช่วงลำบากเหมือนกัน....
กำลังนึกเป็นห่วงลูกเมียเหมือนกัน....
ทุกวัน ก็ทำงานไปผ่อนหนี้หัวหมุนอยู่เหมือนกัน
แต่ก็นึก.....เรายังโชคดีกว่าเขาเยอะนะ.....ยังมีมือมีเท้าครบ
เรายังมีโอกาส....ถึงมีหนี้ เราก็ยังพอมีแรงหมุนได้อีกหน่อย
.......แต่เขาล่ะ เพื่อลูก เพื่อเมีย...เจ็บปวดทรมานแทบตายก็ยอมสู้
ถ้าเป็นคนอื่น คงนอนรอโชคชะตา หรือยอมแพ้แล้ว....
เขาบอกว่า.... ทุกครั้งที่เหยีบคันเร่ง มันเจ็บถึงหัวใจเลย
 
คุยกันมาตลอดทาง ด้วยความรู้สึกสงสาร หดหู่ แต่ก็นับถือน้ำใจนะ
ตอนรถเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ผมก็ตัดสินใจถามว่า...ถ้ากลับไปผ่าตัด ต้องใช้เงินเยอะมั๊ย
เขาบอกค่าผ่าตัด ค่ารักษาน่ะฟรี คุณหมอจะทำโอนเป็นคนไข้อนาถาให้
แต่ค่าเหล็ก ค่าหมุด ค่าอุปกรณ์บางอย่าง ต้องจ่ายเอง ซึ่งก็ไม่มาก...ประมาณ 3,000 บาท
ที่สำคัญคือ หลังจากนั้นต้องนอนนิ่งๆ ไม่ใช้ขาเลยอีก 3 - 4 เดือน
แล้วตอนนั้น จะเอาอะไรให้ลูกเมียกิน อย่างน้อยวันละ 100 บาท

ผมคุยกันแล้วคำนวนว่า สรุปต้องใช้เงิน ประมาณ 15,000 – 20,000
แล้วตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเลย บอกเขาว่า.... ผมจะให้เงินคุณ 20,000 บาท
แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะไม่มีติดตัว และให้กลับไปคุยกับหมอให้แน่นอนก่อน 
ว่าไม่มีปัญหาแน่นะ เพราะแอบถอดเฝือกมาหลายวันแล้ว...เอาให้แน่ ๆ นะ
เขาก็มองหน้าผม....ถามว่า พูดจริงเหรอ
ผมก็ตอบเสียงดังเลย....จริงซิ...ผมถือว่าทำบุญ
เขาบอก....เขารู้สึกเหมือนถูกล๊อตเตอรี่เลย....
เหมือนต่อขาให้เขาเลย....

เหตุการณ์ก็เงียบไปหลายวัน จนผมลืมไปแล้ว
ที่ลืมก็เพราะทุกวันที่ตื่นมา ก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องเงินเฉพาะหน้าทุกวัน
แถมตอนนั้น สถานการณ์ของผม เข้าขั้นวิกฤตเลยเชียวแหละ
แล้วจู่ ๆ ก็มีผู้หญิงสาวคนหนึ่งมาหาผมที่บ้าน ภรรยาโทรตามให้รีบกลับมาด่วน
ปรากฏว่า เป็นเมียของคนขับแท๊กซี่ ที่ขาหัก
บอกว่า สามีให้มาหา มีคนจะให้เงินไปผ่าตัด....เรื่องจริงหรือเปล่า
ผมก็ถาม แล้วสามีทำไมไม่มา
เธอก็บอกว่า...มาไม่ไหว ตั้งแต่วันที่คุยกับผมแล้ว กลับไปขาก็อักเสบมาก 
นอนจับไข้ แต่ไม่กล้าไปหาหมอ ...กลัวถูกตัดขา

ตอนนั้นผมอึ้งไปเลย....
ที่อึ้งเพราะวันนั้น ผมไม่มีเงินเลย มัวแต่จ่ายหนี้ เข้าแบงค์ ซ่อมรถ ...ยุ่งไปหมด
แต่ก็นึกว่า ไม่เป็นไร เขาลำบากกว่าเราเยอะ.....อย่างดีเราก็เพิ่มหนี้อีกนิดหน่อย 
ค่อยๆ ผ่อนเอาก็ได้ แค่นี้คงไม่ตายหรอก
แต่เขาสิ.... อาจจะแย่ถึงตัดขาก็ได้
ภรรยาผมก็นั่งฟังอยู่ด้วย เพราะผมเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกแล้ว แต่เธอไม่ค่อยเชื่อ
ผมก็หันไปมองหน้า คุณหม่อง ภรรยา บอกว่าอยากช่วยเค้าน่ะ... พอจะมีสตางค์มั๊ย
ภรรยาก็บอก ไม่มี ....แต่มีสร้อยทอง
แล้วก็ไปหยิบสร้อยทั้งของลูก ของภรรยาผม รวมทั้งเงินที่พอมีอยู่อีกเล็กน้อย
คิดเป็นเงินได้ประมาณ 20,000 แน่ ๆ ใส่ถุงให้ไป
เมียของแท๊กซี่คนนั้น ก็ควักบัตรประชาชนของสามีมาให้ไว้ เป็นหลักฐาน
คุณหม่องบอกว่า ไม่เอาหรอก ไม่อยากรู้ชื่อด้วยซ้ำ ให้แล้วให้เลย ไม่ต้องมาตอบแทน......ให้เปล่า ๆ 
คืนนั้นผม กับภรรยาก็คุยกัน 
แล้วคุณหม่อง ก็บอกว่า ...เรื่องนี้คิดแล้วไม่น่าเชื่อ คิดยังไงก็ยิ่งไม่น่าเชื่อ
เหตุผลคือ
......ใน กทม. จะมีคนขาหักสักกี่คน
......คนที่ขายังหัก 2 ท่อนอยู่ แล้วมาขับแท๊กซี่ จะมีสักกี่คน
......โอกาสที่คนแบบนั้น จะขับมาเจอผม ในเวลานั้นพอดี จะมีสักแค่ไหน
ผมก็ถามว่า อ้าววว...เราถูกหลอกเหรอ แต่ผมเห็นกับตานะ.....
เห็นจริง ๆ เห็นใกล้ ๆ เลย เพียงแค่ไม่ได้จับดูเท่านั้น

คุณหม่อง มองหน้าผม แล้วบอกว่า
......... ไม่ใช่ถูกหลอก
......... แต่ถูก เทวดาลองใจ ต่างหากล่ะ..........

ผ่านมา 23 ปีแล้ว 
ผมกับภรรยา ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใคร ฟังเลย
กลัวคนฟังแล้ว...ไม่เชื่อ.

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564


Create Date : 29 กันยายน 2562
Last Update : 29 กันยายน 2562 14:16:52 น. 1 comments
Counter : 413 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณTurtle Came to See Me


 
อ่านทุกตัวอักษร... ยอดเยี่ยมมาก
.
.
ต้องขอบอกว่า... อนุโมทนาบุญด้วยจริงๆจากใจ


โดย: Turtle Came to See Me วันที่: 29 กันยายน 2562 เวลา:19:13:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.