กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
วัดป่า...มหาสนุก 24

วัดป่า...มหาสนุก 24

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถือเอา พระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถือเอา พระธรรมเจ้า เป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถือเอา พระสงฆเจ้าเจ้า เป็นที่พึ่ง ที่ระลึก ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี

พระสงฆ์ ผู้ที่ผมถือเอาเป็นที่พึ่งที่ระลึก เป็นพระอริยะ เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ มีอยู่มากมายหลายท่าน
แต่ที่ผมระลึกถึงอยู่ทุกวัน และวันละหลายครั้ง 
คือ หลวงตามหาฯ.....กมลาไสย
และหลวงพ่อ.....วัดป่าฯ 
ผมได้บวชเรียนอยู่กับท่าน 5 เดือนเต็ม ๆ และไปกราบท่านอีกปีละหลายหน
ได้เคยติดตามไปรับใช้ท่าน ที่ประเทศ อินโดนีเซีย และประเทศอินเดีย อีก 3 ครั้ง
ทั้ง ๆ ที่ หลวงตาฯ ท่านเป็น พระบ้าน มหานิกาย แต่หลวงพ่อ....ท่านเป็น พระป่า ธรรมยุติ
แต่ทั้งสองท่าน ก็รักในธรรม ของอีกฝ่ายอย่างยิ่ง ท่านเคารพรักกันเหมือน พ่อ กับลูก
เมื่อครั้งได้รับนิมนต์ จาก พระธรรมทูต ที่ไปเผยแพร่พุทธศาสนา ในประเทศอินโดนีเซีย ท่านก็รับนิมนต์ไปด้วยกัน
มีผม และทายก ติดตามไปรับใช้ท่านทั้งสอง

ที่ประเทศ อินโดนีเซีย นี้พวกเค้าเป็น...มุสลิม กันเกือบทั้งหมดทุกคน
ศาสนาอื่นสอดแทรกแข้าไปยากมาก ๆ แต่...ศาสนาพุทธ ก็มีคนสนใจนับถืออยู่บ้างไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์
แถมเป็น พุทธมหายาน แบบพระจีน อีกต่างหาก บรรดาคนที่นับถือก็เป็นกลุ่มพ่อค้านักธุรกิจ เชื้อสายจีน
ส่วน พุทธเถรวาท แบบบ้านเราเพิ่งจะเข้าไปเผยแพร่ประปราย โดยกลุ่มพระธรรมยุติ จากเมืองไทยเรา
คนที่สนใจอยากจะได้แนวทางปฏิบัติฯ ของเถรวาท ก็คือพวก พ่อค้านักธุรกิจที่นับถือ พุทธศาสนา แบบมหายานอยู่แล้ว
แต่สนใจแนวทางการ ทำสมาธิภาวนา สายหลวงปู่มั่น สาย...พระป่า
ผมเองพยายามหาเหตุผล แต่ก็ไม่ชัดเจน เนื่องจากภาษาที่พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เค้ามีภาษาถิ่นเหมือนเรามีภาษาไทย
แต่เค้าก็ใช้ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สอง แถมใช้เก่งด้วยเพราะเค้าใช้ตัวอักษรอังกฤษ เป็นตัวออกเสียงในภาษาอินโดฯ
มองไปแล้ว คนอินโดฯ รูปร่างหน้าตาเหมือนคนไทยเรานี่แหละ...ใครเดินเข้ามาหาเราก็คงดูไม่ออกว่าชาติไหนกันแน่
บ้านเมืองเค้าดู ๆ ก็คล้าย ๆ ของเรา ตึกรามบ้านช่องไม่ค่อยแตกต่างกัน ห้างสรรพสินค้าเหมือนกับบ้านเรานี่แหละ

กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจคนจีน ที่นับถือ พุทธมหายาน อยู่แล้วมีความสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับ พุทธเถรวาท มาก ๆ ๆๆๆ อย่างยิ่ง
ก็ไม่รู้ว่าทำไม...แต่ถ้าจะให้เดานะ คนพวกนี้เป็นพวก พ่อค้านักธุรกิจ ระดับค่อนข้างสูง มีความฉลาดหลักแหลม 
มีสติปัญญา และไหวพริบดีมาก แต่พวกเค้าก็มีความทุกข์มากเป็นธรรมดา
ยิ่งมีทรัพย์สินมาก การค้าวุ่นวายมาก ความโลภ ความวุ่นวาย ได้มาเสียไป ก็มากตามด้วยกัน
พวกเค้าแสวงหา หนทางดับความทุกข์อยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
ที่ได้เจอสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ คือ ศาสนาพุทธ 
แต่เป็น พุทธ ในแบบมหายาน ซึ่งผมเองก็ไม่มีความรู้ในด้านนี้
เท่าที่สังเกตุดู พวกเค้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการอย่างที่สุด ที่เค้าได้มามันก็พอประทังความทุกข์ไปได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
คนฉลาด มีไหวพริบ แถมมีเงินเยอะ เค้าสามารถหาข้อมูลไปได้ทั่วโลก และคงมาเจอแนวทางบางอย่างของ พุทธเถรวาท
เมื่อมี พระสงฆ์ ในสายธรรมยุต ไปเผยแพร่แนวทางการปฏิบัติฯ ภาวนา 
พวกเค้าก็สนใจใคร่รู้ ด้วยมีพื้นฐานมาจาก มหายาน อยู่บ้างแล้ว
แต่ปัญหาใหญ่ยิ่ง คือ...ภาษา การสื่อสาร
พระธรรมทูต ที่ไปอยู่ที่นั่นต้องไปหัดเรียนภาษาอินโดฯ อยู่นานเป็นปีเหมือนกัน ว่าจะพอพูดคุยกับพวกเค้าได้ดี
แต่ภาษาธรรม อันลึกซึ้งมันยาก.ก..ก...ก ยิ่งกว่าเข้าไปอีก

อีกประการหนึ่ง รัฐบาลของประเทศเค้าไม่สนับสนุนศาสนาอื่น แถมยังคอยแอบกีดกันด้วยซ้ำ ไป
อย่างเช่น จะสร้างเทวรูป หรือพระพุทธรูปขนาดใหญ่....ไม่ได้โดยเด็ดขาด
บางแห่งที่สร้างไปแล้ว เค้ายังฟ้องร้อง ให้ทำลายลงซะด้วยซ้ำไป ที่ยังมีคดีค้างคากันในศาลก็เยอะ
การขอตั้งวัด จัส เซย์..โน ท่าเดียว ไม่ต้องคิดหวัง
แต่ทว่ากลับมีเศรษฐีหลายคน อาสาให้บ้านและที่ดินส่วนตัวเค้ายกให้ พระธรรมทูต ได้ใช้เป็นที่เผยแพร่ 
แต่ก็ต้องทำกันเงียบ ๆ แบบปากต่อปาก ห้ามเอิกเกริก โฆษณาประชาสัมพันธ์โจ๋งครึ่ม ม่ายยย ด้ายยย
พระธรรมทูต ท่านได้รับการสนับสนุนมากมายจาก กลุ่มเศรษฐี นักธุรกิจคนจีน จนกระทั่งมีการมาชักชวน พระไทย ไปอยู่กันพอสมควร
แต่ส่วนใหญ่ จะอยู่ที่แถบเมืองหลวง ที่ค่อนข้างเจริญแล้ว ถ้าออกไปต่างเมือง ต่างจังหวัด จะมีแต่ อิสลาม มุสลิมทั้งนั้น

หลวงตามหา ฯ และ หลวงพ่อ.... ได้รับการเชิญชวนจาก พระธรรมทูตให้ไปกราบพระมหาเจดีย์ บุโรพุทโธ
สิ่งก่อสร้างทางพระพุทธศาสนา ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาทางตอนกลางของเกาะชวา
มีสัณฐานกว้างยาวเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านละ 123 เมตร และสูง 125 เมตร 
มี 10 ชั้น แต่ละชั้นมีภาพแกะสลักมากมายเป็น ปริศนาธรรม ที่ในชั้นต้น ๆ บอกถึง มนุษย์ ว่ายังเกี่ยวข้องกับกามคุณ 5
ในชั้นที่สูงขึ้น จะมีภาพบอกเล่าถึงคนที่เริ่มสนใจการบุญ ทาน และชั้นต่อ ๆ ไปกล่าวถึง ชาดก และพุทธประวัติ
ใน 3 ชั้นบนสุดจะมี พระพุทธรูป ที่ครอบไว้ด้วยเจดีย์ ทรงระฆังครอบไว้ถึง 72 องค์ 
และพระประธานองค์ใหญ่ที่สุด อยู่เป็นประธาน ของบุโรพุทโธ
พรพุทธรูปทุกองค์แกะสลักจาก หินภูเขาไฟ ที่แข็งแกร่ง และพุทธลักษณะ งดงามมากทีเดียว

พอไปถึง อินโดฯ แล้วจึงเข้าใจได้ว่า หลวงตาฯ และหลวงพ่อ...ถูกนิมนต์มาเพื่อให้ คนที่สนใจพุทธศาสนา เถรวาท
ได้ดูเพื่อระลึกไว้ว่า...พระอริยสงฆ์ ผู้ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาจนสามารถก้าวพ้นสังสารวัฏ นั้นยังมีอยู่จริง
ชาวพุทธ อินโดฯ ที่ได้ทราบข่าวต่างตื่นเต้น รอคอยวันที่จะได้เห็นตัวอย่างของมนุษย์ผู้ก้าวเข้าเส้นทาง...พระนิพพาน
คนที่ได้พบ ได้กราบท่านพากัน...ตื่นตา ตื่นใจ อยากรู้อยากเข้าถึงหลักธรรมอันเป็น หัวใจ แก่นแกนของ พระธรรมอันซับซ้อน
พวกเค้าอยากรู้ อยากค้นหาจริง ๆ ไม่ได้เสแสร้ง หรือศรัทธาแค่เครื่องรางของขลังเท่านั้น
แต่...น่าเศร้าที่การพูดจาสื่อสารกันมันติดขัดไปหมด
ถึงแม้จะมีพระธรรมทูต หลายท่านช่วยกันแปล ช่วยกันอธิบาย แต่มัน...ไม่ถึงใจ ไม่ถึงแก่นของความต้องการของพวกเค้า
อีกอย่างหนึ่งที่เหล่า พระธรรมทูต ไม่กล้าแปลให้ตรงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามคำพูดของ หลวงตา ฯ หลวงพ่อ.....
ก็เพราะกริ่งเกรงในบางเรื่อง ที่ไม่อยากให้ คนอินโดฯ เหล่านั้นได้ยิน ได้ฟัง

พระธรรมทูต ที่ไปอยู่ที่นั่น สามารถอยู่อาศัยด้วยศรัทธาของ พ่อค้านักธุรกิจที่ร่ำรวย
ยังต้องอิงอาศัย...กิเลสของพวกเค้า เช่นความโลภในการหาเงินทอง ต้องเอาเรื่องของการทำทาน การนับถือพระโพธิสัตว์กวนอิม
หรือเลยเถิดไปถึง การกราบไหว้พระพรหม เทพเทวา ไปโน่นเลย
ในตอนหลัง พอหลวงตาฯ และหลวงพ่อ...ท่านเข้าใจเรื่องราว ถึงกับเล่นงานพระธรรมทูตพวกนั้นซะยกใหญ่
ซึ่งพวกพระเหล่านั้นก็พยายามอธิบายว่า...อยู่ที่นี่ ออกไปบิณฑบาต ก็ไม่ได้ สั่งสอนอะไรโจ่งแจ้งก็ไม่ได้
ต้องอาศัยกิน อยู่ บนทรัพย์สิน ข้าวปลาอาหาร และเงินทองที่...ผู้ศรัทธาเอามาประเคนให้
บางอย่างพวกคนเหล่านั้น เค้าคุ้นเคยการกราบไหว้ บวงสรวงต่อ พระโพธิสัตว์ เทพเทวา ก็ต้องตามน้ำไปก่อน
หลวงตาฯ และหลวงพ่อ....ได้แต่ถอนหายใจ ด้วยความเหนื่อยหน่าย
แล้วบ่นกับผมว่า....นี่มัน คนตาบอด เดินจูง คนตาบอด ด้วยกันแท้ ๆ เลย...ฮ่วย.ย..ย

แต่ในบรรดา คนอินโดฯ ที่มาต้อนรับดูแลพวกเรา...ยังมีบางคนที่มีสติปัญญาหลักแหลม มองทะลุเห็นบางอย่าง
พยายามหาทางเข้าใกล้ หลวงตา ฯ กับหลวงพ่อ ในตอนที่ไม่มี พระธรรมทูตอยู่ด้วย
ได้พยายามสื่อสารผ่านผม ด้วยภาษาอังกฤษ แต่...ภาษาของผมก็จนด้วย ศัพท์เฉพาะทางธรรม
ในชีวิตก็ไม่เคยคิดสักนิด ว่าต้องมาเป็นล่ามอธิบาย...ธรรมะของพระพุทธองค์
ดีแต่ว่า...แก่นธรรม ที่หลวงตาฯ กับหลวงพ่อ...ต้องการให้กับพวกเค้า เป็นแนวทางปฏิบัติฯ ภาวนา ไม่ใช่...ปริยัติ
บางคนมากราบขอร้องให้ท่านทั้งสอง ได้โปรดไปที่บ้านของเค้าด้วยเถิด
ซึ่งท่านทั้งสอง พิจารณาแล้วก็ยินยอม

รายแรก เป็นหัวหน้ากลุ่มพ่อค้าที่นี่ ชื่อ....ป๋ายุง อายุราว 65 ท่าทางกร่าง ตามแบบคนเป็นหัวหน้า
ซึ่งเค้าเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของวัดจีนมหายานแห่งหนึ่ง เคารพนับถือพระจีน ที่นั่นมากมาย
คนนี้เจ้าตัวไม่ค่อยเข้าใจ หรือศรัทธาในตัว หลวงตาฯ กับหลวงพ่อ...เท่าไหร่นัก
แต่คุณ ซูซี่...เมียของเค้า ตั้งแต่ได้เห็นท่านทั้งสองตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว...ขอติดตามไปไหนไปด้วยตลอดเวลาที่อยู่ อินโดฯ เลยทีเดียว
แกรูปร่างเล็ก ๆ อ้วน ๆ แบบเถ้าแก่เนี้ย แววตาเข้มแข็งมีพลัง มองคนแบบรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมมนุษย์
ดูก็รู้ว่าธุรกิจของสามีที่รุ่งเรือง ยืนหยัดขึ้นมาได้ก็เพราะมีเจ๊แกค้ำยันอยู่เบื้องหลัง
แกกระซิบบอกผมว่า...พอเห็นท่านทั้งสองแล้วเกิด ปิติ น้ำหูน้ำตาจะไหลให้ได้ เห็นพวกท่านแล้วชื่นใจ อยากอยู่ใกล้ท่านให้มากที่สุด
ผมว่า อาเจ๊ซูซี่ แกคงสัมผัสได้ถึงรังสีแห่งความเมตตา ที่หลวงตาฯ และหลวงพ่อ...ท่านแผ่ออกมาสม่ำเสมอเป็นปรกติ
แกคงไม่เคยได้สัมผัสสิ่งนี้มาก่อน พลังความรัก ความอบอุ่น กระแสแห่งความเมตตาที่ท่านทั้งสองแผ่ให้สัตว์โลก
ตลอดเวลาที่ เจ๊ซูซี่ แกเดินตามพวกเรา....ดูแกมีความสุข 

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 25
https://pantip.com/topic/39219349


Create Date : 19 กันยายน 2562
Last Update : 19 กันยายน 2562 21:55:31 น. 0 comments
Counter : 267 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.