|
|
วัดป่า...มหาสนุก 31
วัดป่า...มหาสนุก 31
( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )
การที่เราได้อยู่ใกล้กับอะไร เราก็จะซึมซับเอาสิ่งนั้นเข้ามาในหัวใจของเราอย่างไม่รู้สึกตัว
เหมือนกับคำพูดของโบราณว่า....ใกล้ชาดก็แดง ใกล้ถ่าน ก็ดำ
พระพุทธเจ้า ท่านจึงประทานข้อแรกสุด ของความเป็นมงคลในชีวิต ว่า
... อะเสวะนา จะ พาลานัง
คือไม่ให้เข้าใกล้คบค้ากับคนพาลชั่ว
ตามด้วย...ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
คือให้เกาะติดใกล้ชิดกับ นักปราชญ์ ผู้รู้ พ่อแม่ครูอาจารย์
ชีวิตของผมเคยรับเอา คนชั่ว มาเป็นเจ้านาย เป็นผู้นำความคิด
จนพาตัว และครอบครัวลงนรกไปเกือบ 20 ปี
กว่าจะกลับหลังหัน ไต่ขึ้นจากหุบเหวแห่งความทุกข์ก็แสนสาหัสนัก
จากล้มละลายหนี้สินล้นพ้นเป็นล้านบาท
ด้วยอานิสงส์พลังแห่งการ...อธิษฐาน ต่อเทวดาฟ้าดิน
ด้วยข้อต่อรองแลกเปลี่ยนว่าจะ...ยึดมั่นในศีลห้า ไปตลอดชีวิต
แต่ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ นะครับ
ยังโดนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบ มาลองใจก็หลายครั้ง
เทวดามาชี้นำ มายืนให้กำลังใจต่อหน้าก็ยังเคยเจอมาแล้ว
ถ้าสนใจลองไปหาอ่าน...กรรมทันตา อธิษฐานหนีกรรม
และเรื่องอื่น ๆ ในซีรี่ส์นี้ เช่น...กรรมทันตา เทวดาของผม
เล่าเอาไว้เยอะเหมือนกันครับ
แต่การจะได้พบกับ พ่อแม่ครูอาจารย์ ที่แท้จริงของเรานั้น...จะรู้ได้ยังไง ล่ะ
ก็ให้สังเกตุง่าย ๆ คือ...เรื่องราวที่มันแสนจะยากเย็น เข้าใจได้ยากลำบากนักหนา
ทั้งค้นคว้า ทั้งหาคนมาอธิบายยังไงก็ยังไม่กระจ่าง
บางทียิ่งอธิบายกลับยิ่ง มืดมัวหนักกว่าเก่าอีก
แต่ถ้าเราเคย เป็นศิษย์ของใครมาก่อนแต่ชาติปางไหนมาไม่รู้เท่าไหร่
ท่านแค่ พูดสองสามคำ เราก็เข้าใจกระจ่าง สว่างแจ้งในความรู้สึกนึกคิดทันที
เพราะท่านรู้...จริต ของเรา อบรม สั่งสอนเรามานับชาติไม่ถ้วนแล้ว
ผม และครอบครัว มีบุญวาสนาเหลือเกินที่ได้มาพบกับ....หลวงตามหาฯ และหลวงพ่อ....วัดป่าฯ
ท่านช่วยชักจูง และผลักดันให้เราไปในเส้นทางที่ถูกต้อง และคอยกำกับไม่ให้ เกเร เป๋ไป๋ ไปเที่ยวนอกลู่นอกทาง
การได้อยู่รับใช้ใกล้ชิด หรือไปในสถานที่ต่าง ๆ กับพวกท่าน
ก็มักจะได้พบสิ่งอัศจรรย์ ให้ตื่นตา ตื่นใจอยู่เสมอ....อย่างเช่น
เมื่อครั้งที่ได้พา หลวงพ่อ...ไปที่ วัดพระพุทธบาท สระบุรี
วันนั้นเป็นวันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ แต่บังเอิญท่านมีกิจนิมนต์ไปแถวนั้นพอดี
หลวงพ่อ...ท่านยังไม่เคยไปที่นี่เลยสักครั้ง
ผมก็กราบเรียนท่านว่า...วันนี้เป็นวันหยุด คนทั่วไป และนักท่องเที่ยว คงจะเยอะมากเลยนะครับ
ท่านบอกไม่เป็นไร ไปกราบพระพุทธเจ้า คนจะมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
พอไปถึงที่นั้นแล้วโอ้โฮ...คนเยอะ จริง ๆ แต่เยอะเกินกว่าที่คาดคิดไว้ซะอีก ทั้งไทย และฝรั่งต่างชาติ
ผมพยายามแหวกนำทางท่านเข้าไปใน บริเวณมณฑป ที่มี รอยพระพุทธบาท ประทับอยู่
ภายในนั้น ออกจะชุลมุนวุ่นวายพอสมควร
แต่แปลกที่พอพวกเราอันมี หลวงพ่อ...ครูบาที่ติดตาม ผม และญาติธรรมอีก 2 ท่าน
เดินก้าวเข้าไปภายใน เขตมณฑป คนที่กำลังพลุกพล่านก็พากัน หลบให้เป็นช่อง เป็นทาง
ให้พวกหลวงพ่อ...และพวกเราเดินเข้าไปอย่างสะดวกสบาย
แถมเจ้าหน้าที่ประจำที่คอยดูแลอยู่ภายในนั้น รีบตรงเข้ามายกมือไหว้ แสดงอาการนอบน้อม
แล้วกั้นบริเวณส่วนด้านหนึ่งให้พวกเราโดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวก็เยอะแต่กลับสงบท่าทีอย่างประหลาด
บรรยากาศที่กำลังพลุกพล่านวุ่นวายกับการยื้อแย่งกัน ปิดทอง เบียดกันเข้าไปให้ถึงรอยพระบาท
เสียงสวดอธิษฐาน พึม ๆ พัม ๆ เซ็งแซ่...กลับพลันหยุด เงียบลง
แล้วพากันทำอาการ...ยอบตัวลง ด้วยความยำเกรงท่าน
พอหลวงพ่อท่าน นั่งลงสวดมนต์ ตั้งนะโม..........
นักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในนั้น ทุกคนรีบนั่งคุกเข่า และพับเพียบ ลงทันที แล้วพนมมือกันหมดทุกคนเลย
ผมเห็นแล้วอึ้งมาก เพราะปรกติวันหยุด ภายในมณฑปจะวุ่นวายมาก
หลวงพ่อ...ท่านสวดมนต์เสร็จ ก็ขึ้นบท ขอขมาพระรัตนไตร ...
ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ......... ไปจนจบ
แล้วยังนั่งสมาธิภาวนาอีกเกือบ 20 นาที....
ในวันนั้น ผมไม่ได้นั่งสมาธิด้วย เพราะคอยดูแลให้ความสะดวกกับ หลวงพ่อ...และพวกเรา
จึงเห็นบรรยากาศ ทั้งหมด
บางคน...ค่อย ๆ ย่องออกไปอย่างพยายามให้เงียบที่สุด ฝรั่งต่างชาติก็นั่งมองหลวงพ่อ ตาแป๋ว
แต่ก็มีหลายคนกระเถิบ เข้ามาใกล้พวกเรา แล้วนั่งสมาธิไปกับท่านด้วย
ผมและนักท่องเที่ยวในที่นั้นรู้สึกได้เลยว่า...บรรยากาศในพระมณฑป ถูกตัดขาดกับโลกภายนอกไปชั่วขณะ
ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียง ระฆังแขวนที่อยู่รอบชายคา แว่วกังวาลมาเบา ๆ
แต่ไม่มีใครสักคน ที่เดินเข้ามาเลย น่าแปลกมากจริง ๆ
คนที่อยู่ภายใน ก็นิ่ง สงบ สำรวมอย่างเข้าใจเลยว่า....สิ่งสำคัญที่สุดของช่วงเวลานั้นคือ ความสงบ สำรวม
ไม่ต้องพูดถึง อีกหลายคนที่ทำสมาธิภาวนา ตามหลวงพ่อไปด้วย พวกเค้าเหมือนหลุดเข้าภวังค์ไปเลย
พวกเค้าปล่อยให้ หลวงพ่อ....เป็นผู้นำจิตวิญญาณ ให้พวกเค้า
พอท่านออกจากสมาธิ สวดอภิวาท พระรัตนไตร แล้วก้มลงกราบ
ทุกคนก็ก้มลงกราบตามท่าน จับจ้องมองท่านทำอะไร ก็ทำด้วย
ก้าวออกมาภายนอก พระมณฑป แล้ว หลวงพ่อยังพาพวกเราเดินจงกรม เวียนรอบอีก 3 รอบ
ก็ยังมีคนเดินเวียนตามอีกด้วยเป็นแถว.ว..ว...ว
ระหว่างนั่งรถกลับมา หลวงพ่อ...ท่านเล่าให้ฟังว่า
สถานที่นี้ พระพุทธเจ้า ท่านเคยเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้จริง ๆ
ขณะที่นั่งสมาธิภาวนา ได้รับรู้ถึงพลังแห่งความเมตตาของ พระพุทธองค์ ท่านชัดเจน
เทวดา ผู้ดูแลรักษาก็ดีมาก เป็นเทพที่เป็น...สัมมาทิฐิ ชั้นสูงมากทีเดียว
แล้วท่านยังกล่าวถึง พระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ว่าความรู้สึกตอนที่ไปนั่งภาวนา เหมือนกับที่นี่ ไม่ผิดกันเลย....
เมื่อต้นปี 2561 ผมได้ซื้อบ้านใหม่ แถวบางแค ฝั่งธนบุรี
ก็ได้นิมนต์ หลวงตามหาฯ และหลวงพ่อ...มาฉันภัตตาหาร ที่บ้าน
และท่านยังเมตตา มานอนที่บ้านหลังนี้ 1 คืนเพื่อความเป็นสิริมงคลให้ด้วย
ช่วงที่พอมีเวลาเหลือ ผมกราบเรียนถามท่านทั้งสอง ว่าอยากไปสถานที่ไหนเป็นพิเศษ มั้ยครับ
ท่านบอกว่า อยากไปดูวัด........ที่มีเจดีย์ขนาดใหญ่ อยู่ถนน พระราม 2
อยู่ระหว่าง จ.สมุทรสาคร กับ จ.สมุทรสงคราม
พวกเราก็เลยพากันไปที่วัดแห่งนี้....
เมื่อไปถึงที่วัดแล้ว ก็พากันเดินเข้าไปใน พระมหาเจดีย์ ขนาดใหญ่มาก
ที่กำลังอยู่ระหว่างบูรณะปรับปรุง ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แต่ก็เหลืออีกไม่เท่าไหร่แล้ว
เมื่อเข้าไปภายในพระมหาเจีดีย์ ผมจำได้ว่ากว้างขวางมาก มีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์
แต่เมื่อเราไปที่องค์ประธานของพระเจดีย์ ก็พากันนั่งลงแล้ว หลวงตามหาฯ ท่านก็นำสวดมนต์
พร้อมทั้งคำสวดขอขมา ต่อพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นธรรมเนียมนิยมของ...วัดป่า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ,
ทวาระตะเยนะ กะตัง,
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต,
กรรมชั่วอันใดที่ข้าพเจ้า ได้กระทำล่วงเกินต่อคุณพระรัตนตรัย
ในอดีตก็ดีในปัจจุบันก็ดี ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี มีเจตนา หรือไม่เจตนา
ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ทั้งในที่ลับ และในที่แจ้ง
ซึ่งได้กระทำกรรมอันนั้นด้วยความประมาท
ขอพระรัตนตรัย จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เพื่อมิให้เป็นเวรภัย เป็นบาปอกุศล
และ เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม ของข้าพเจ้าด้วยเทอญ.....
เสร็จแล้วท่านก็นำพวกเรา ปฏิบัติฯ สมาธิภาวนา อีกประมาณ 20 นาที แล้วกราบลา
เมื่อลุกออกมาแล้วเดินชมภายใน พระเจดีย์ ได้พบ...แม่ชี ท่านเชิญชวนให้ทำบุญซื้อทรายที่แบ่งเป็นถุงเล็ก ๆ
เพื่อไปโรยถมบริเวณที่กำลังก่อสร้าง พวกเราก็ควักเงินซื้อกันถ้วนหน้า
แต่เมื่อจะซื้อถวายให้กับหลวงตามหาฯ และหลวงพ่อ ...คุณแม่ชี ท่านนั้นกลับขอซื้อถวายท่านทั้งสองเอง
พวกเราก็ร้อง..อ้าววว ทำไมล่ะครับ
คุณแม่ชี บอกว่า...ตั้งใจมาดัก เพื่อขอทำบุญกับท่านโดยเฉพาะตั้งแต่เช้าแล้ว...เจ้าค่ะ
พวกเราฟังแล้วทำหน้าไม่เข้าใจ
คุณแม่ชี ก็เล่าว่า....เมื่อคืนนี้หลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว จิตใจโปร่งเบาสบายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อลงนั่งปฏิบัติสมาธิ จิตก็บอกกับตัวเองว่า....วันพรุ่งนี้จะได้พบกับสิ่งที่ประเสริฐ สิ่งที่ควรแก่การเคารพบูชา
พอเช้านี้ จึงตั้งตามองหาอยู่ตลอดเวลา ว่าวันนี้จะได้พบกับสิ่งที่ประเสริฐ นั้น คืออะไรนะ
แต่เมื่อเห็น หลวงตาฯ หลวงพ่อ...เดินเข้ามาในพระมหาเจดีย์ ก็รู้ได้ทันทีว่า
ทั้งสองท่านนี่แหละ...สิ่งประเสริฐ ควรแก่การบูชา
ตั้งใจจะรีบออกไปต้อนรับ แต่กลับเห็นคณะพวกเราพากันไป ไหว้พระสวดมนต์ ต่อด้วยการขอขมา...พระรัตนไตร
ก็ให้รู้สึกทึ่งมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน
และท่านยังพาปฏิบัติ สมาธิภาวนา กันต่ออีกนานด้วยความสงบนิ่ง
พวกของเราคงไม่รู้หรอกว่า...ขณะที่สวดมนต์ และทำสมาธิอยู่นั้น
บรรยากาศ ภายในพระมหาเจดีย์....เหมือนถูกตัดขาดออกจากโลกปัจจุบัน
มันเหมือนกับ..เวลา ได้หยุดลงไปชั่วขณะ นานเท่าที่พวกเรายังอยู่ใน ภวังค์สมาธินั้นเลย
แม่ชี ยังบอกอีกว่า...ช่วงเวลานั้น ท่านสัมผัสได้ถึงความ สงบ เย็น และปิติสุข
แม่ชีท่านได้แต่ นั่งมองและเสพรับบรรยากาศแห่งความสุข ความสงบ นั้นเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
จึงตัดสินใจ มาดักคอยที่ตรงนี้...เพื่อขอทำบุญกับ พระผู้ประเสริฐ ทั้งสอง
ด้วยตั้งใจว่าบุญกุศลที่ได้ถวาย ทราย นี้ได้เป็นพละปัจจัย ให้ได้ก้าวเดินไปในเส้นทางธรรม ไปจนถึงที่สุดด้วยเถิด...
ซึ่งท่านทั้งสององค์ ก็โมทนาในบุญนี้ด้วยอย่างยินดีในศรัทธาเปี่ยมล้นของแม่ชีท่านนั้น
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินออกไปชมดูรอบ ๆ พระมหาเจดีย์
ระหว่างนั้นเดินผ่านแผงขายล๊อตเตอรี่ สลากกินแบ่งที่มีอยู่ 2 - 3 แผง แม่ค้าก็ร้องเชิญชวน
ผม กับภรรยา คือคุณหม่อง ก็หันไปมองดูไปเรื่อยเปื่อยตามเสียงร้องเรียก
หลวงพ่อ...ท่านเดินอยู่ใกล้ ๆ ท่านมองแล้วถามว่า....ไม่ซื้อเหรอ รางวัลใหญ่นะ
คุณหม่อง ก็กราบเรียนท่านว่า...ถ้าหลวงพ่อเมตตาหยิบให้กี่ใบ ก็จะซื้อ
หลวงพ่อ...ท่านหยุดยืนที่หน้าแผง แล้วหันมามองหน้า ถามว่า....เอาแน่หรือเปล่า ล่ะ
ในช่วงวินาทีนั้น ทั้งผม และภรรยารู้ว่า...ถ้าท่านหยิบให้ใบไหน ใบนั้น มันต้องถูกรางวัลใหญ่แน่นอนเลย
แต่...เราก็รู้ว่า ท่านไม่ส่งเสริมให้ยินดีในลาภ แบบนี้
คุณหม่อง หันมามองหน้าผม แล้วหันไปกราบเรียนท่านว่า....ไม่เอาหรอก ค่ะ ไม่โลภ ค่ะ
หลวงพ่อ...ท่านยังถามย้ำว่า ไม่เอาแน่เหรอ จะหยิบให้จริง ๆ นะ
เราสองคนก็ยืนยันว่า...ไม่เอาจริง ๆ
ท่านพยักหน้า อมยิ้มอย่างพอใจที่เราตัดสินใจแบบนี้.....
แต่บอกตรง ๆ นะว่าช่วงเวลานาทีนั้น ใจมันต่อสู้กันอย่างรุนแรงระหว่าง ความโลภ กับ คำสั่งสอนของท่าน
ผมละกัดฟันก้มหน้าเดินหนีแผงล๊อตเตอรี่ ไม่กล้ามอง ไม่อยากจำเลขที่ท่านจะหยิบให้เลย
กลัวว่าถ้ามันออกเลขนั้น แล้วหัวใจวายเพราะความเสียดายตายเลย.......
เมื่อเดินดู เดินชมจนพอใจแล้วนั่งพักใต้ร่มเงาแห่งหนึ่ง
ระหว่างที่นั่งมอง ความใหญ่โตและการปรับทางเดินรอบ ๆ พระเจดีย์
หลายคนก็แยกย้ายไปเข้าห้องน้ำ และซื้อน้ำดื่ม มีผมอยู่กับท่านทั้งสองเท่านั้น
เวลาที่ หลวงตามหาฯ กับ หลวงพ่อ...ท่านคุยกัน
บางเรื่องที่ได้ยินก็ทำเอาอึ้ง แต่บางเรื่องก็ทำให้ได้สติ ได้ปัญญาอย่างนึกไม่ถึง
อย่างเช่นในวันนั้น...
หลวงพ่อ...ท่านก็หันไปบอกกับ หลวงตามหาฯ ว่า....
เจดีย์นี้มี พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนโน้น ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าโคดม องค์ปัจจุบัน
ตอนที่นั่ง ทำสมาธิภาวนาอยู่ได้เห็นแสงสว่างของพระองค์ท่านด้วย
และท่านยังเห็น...เจ้าอาวาสองค์ก่อนที่ มรณะภาพ ไปตั้งนานแล้ว
แต่ท่านยังเดินวนเวียนอยู่แถวนี้เอง
หลวงตาฯ ท่านบอก นี่แหละถ้ายัง...ตัดไม่ขาด ก็ไปไหนไม่ได้
ต้องทิ้งให้หมด ทั้งชั่ว ทั้งดี
ผมกราบเรียนว่า....ก็การก่อสร้างพระเจดีย์ มัน...งานใหญ่ นี่ครับ
หลวงพ่อ...หันมาสอนผมว่า ท่องเอาไว้นะ
..... มโน ปุพพังคมา ธัมมา
..... มโน เสฏฐา มโน มยา
ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน
ทุกสิ่ง ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วย ใจ
ในโลกนี้ ไม่มีอะไรใหญ่กว่า...ใจ
แล้ว หลวงตาฯ ท่านหันมาสำทับใส่ผม ให้ระลึกอยู่เสมอ ว่า
... งานใหญ่ งานสำคัญของพวกเรา มีแค่งานเดียวเท่านั้น
คือ... ง า น ย ก ใ จ เ ข้ า พ ร ะ นิ พ พ า น
อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564
วัดป่า...มหาสนุก 32
https://pantip.com/topic/39260432
| Create Date : 27 กันยายน 2562 |
| Last Update : 27 กันยายน 2562 17:27:49 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 391 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [