กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
วัดป่า...มหาสนุก 30

วัดป่า...มหาสนุก 30
( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย อย่าอ่านเอาเรื่องนะครับ )
 
มีอยู่เรื่องหนึ่ง...คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเล่าดีมั้ย นะ
แต่มาคิดดูว่า น่าจะเป็นอุทาหรณ์กับคนที่อ่านได้อย่างดี
 
ญาติธรรมคนหนึ่ง ได้รู้จักกับผมเพราะอ่าน...กรรมทันตา โอ้..อินเดีย
ได้สนทนาธรรมกันในหลายเรื่อง...จนกระทั่งได้ทราบว่าผมไป บวช อยู่กับหลวงพ่อ...ที่วัดป่า ฯ
และดั้นด้นพา แม่ และน้องสาว ตามไปกราบหลวงพ่อ...ถึงที่วัดของท่านใน จ.กาฬสินธุ์
ยิ่งเมื่อได้พูดคุยสนทนาธรรม กับท่านแล้ว ยิ่งเกิดความศรัทธาอย่างมากมายทั้งครอบครัว
บ้านนี้ประกอบกิจการค้าใหญ่พอสมควรอยู่ใน อ.น้ำพอง
มีแม่ และลูกชาย ลูกสาวสวยอีก 2 คน ลูกทุกคนเป็นหนุ่มสาวยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว
ส่วนพ่อได้ถึงแก่กรรมไปหลายปีแล้ว
เมื่อสิ้นพ่อ ที่เป็นเสาหลัก พี่ชาย จึงต้องมาเป็นหัวหน้าครอบครัวแทน
แต่กิจการงานอันวุ่นวาย ก็ได้น้องสาวเป็นหัวเรื่ยวหัวแรง
ซึ่งสาวน้อยทั้งสองได้มีโอกาสเดินทางไปกราบ สังเวชนียสถาน ถึงประเทศอินเดีย
แล้วได้เกิดศรัทธาอย่างเต็มตื้น หันมาสนใจทางธรรม
ตั้งสัจจะอธิษฐาน ขอก้าวเดินไปในเส้นทางนี้ให้ถึงที่สุด
ส่วนตัวพี่ชายยังมีความชอบในเรื่อง เที่ยวกลางคืน คบเพื่อนสังสรรค์อยู่เป็นประจำ
เมื่อแม่ และน้องสาวได้ไปพบ พระอริยะ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ไกลจากกิเลสแบบตัวจริงสียงจริง
ก็ให้เกิดความปรารถนาอยากให้ ลูกชาย ได้มีดวงตาเห็นธรรมไปด้วยอีกคน
ปรึกษาหาวิธีที่จะพาเค้าไปพบหลวงพ่อ...ให้ได้
 
จนกระทั่งวันหนึ่งโอกาสดี แม่ได้ขอให้ลูกชายช่วยขับรถพาครอบครัวไปทำธุระ
และชวนกันเลยไปกราบหลวงพ่อ
แต่ด้วยความที่ลูกชายยังเป็นมิจฉาทิฐิ รักชอบในทางอบายมุข เที่ยวกลางคืน คบคนชั่วเป็นมิตร
จิตใจไม่ได้มีศรัทธาในทางธรรม แต่ก็ไม่อยากขัดใจแม่
เมื่อได้มากราบหลวงพ่อ... ท่านเพ่งมองแล้วเรียกให้เข้ามาใกล้ ๆ ลูบหัวลูบหลัง
ชวนพูดคุยด้วยเมตตา ว่า...ชีวิตคนเรามันสั้นนักนะ อย่ามัวเพลิดเพลินประมาทกับวันเวลา
อายุของแต่ละคนไม่เท่ากัน อาจจะหมดสิ้นลมหายใจไปเมื่อไหร่ นาทีไหนก็ได้
ตัวลูกชาย เป็นคนฉลาดเมื่ออยู่ต่อหน้าหลวงพ่อ ก็นอบน้อมทำท่าตั้งใจฟังดีอยู่หรอก
ตอนใกล้จะลากลับ...หลวงพ่อ ท่านชวนให้เค้ามา บวช
เพื่อจะได้มีโอกาสทำความดี ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายจนเกินไป
ท่านพูดไปพูดมา ก็วนเวียนอยู่กับคำว่า...จะทำอะไรให้รีบทำ ชีวิตมันสั้นนัก บุญ น่ะมีหรือยัง
 
พอกลับไปขึ้นรถ ขับออกจากวัดไปไม่ไกล....ลูกชาย ก็แสดงท่าทางไม่พอใจ แม่ และน้องสาว
ที่หลอกให้มาวัด มาฟังเรื่องอะไรที่เค้าไม่อยากจะฟัง...
แม่ก็พยายามบอกว่า...หลวงพ่อ ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ ที่เลิศประเสริฐ การที่ได้มากราบท่านถือว่าเป็นบุญตัว นะ
แต่ด้วยอารมณ์ที่กำลังหงุดหงิด และโมโหจึงได้กล่าวคำพูดรุนแรง กับแม่
 และเลยไปปรามาสหลวงพ่อ...ท่านอีกด้วย
ตัวน้องสาว มาเล่าว่าคำพูดที่ออกจากปากพี่ชายในวันนั้นไม่น่าฟัง และหยาบคายมาก
แต่คำพูดที่กล่าวถึงหลวงพ่อ กลับน่าตกใจยิ่งกว่าอีก
แม่ และน้องพยายามห้าม ว่าอย่าไปประมาท ปรามาสท่านจะเป็น บาปกรรมหนัก
แต่พี่ชาย กลับยิ่งโกรธ ยิ่งพูดแรงขึ้นไปอีก....
 
เวลาผ่านไปแค่ 7 วัน....จู่ ๆ ตัวลูกชายที่ดูแข็งแรงดี เกิดอาการ...หัวใจวาย เฉียบพลัน
แต่ยังโชคดีว่า ขณะที่เกิดเหตุมีคนอยู่ด้วยหลายคน และไม่ห่างจากโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง
รีบพาตัวส่งโรงพยาบาลแห่งนั้น ถูกช่วยปั๊มหัวใจขึ้นมา
และพาส่ง รพ.ศูนย์โรคหัวใจเอกชน ที่ทันสมัยที่สุดใน จ.ขอนแก่น
หมอ บอกกับญาติว่า...เค้าเฉียดความตายแค่ไม่กี่นาที หากช้าไปเพียงนิดเดียวคงตายไปแล้ว
ทั้งแม่ และน้องสาวตกใจกับเรื่องนี้มาก หลังจากมาดูอาการจนวางใจได้แล้ว
ก็เอาวัน เวลาเกิดไปให้...หมอดู ที่เชื่อถือตรวจสอบชะตา เคราะห์กรรม
แต่...หมอดู กลับบอกว่า อย่าว่าแต่ถึงกับความเป็นตายเลย
ดวงชะตาของเค้าไม่ได้มีอะไรบอกถึง วิบากกรรม การเจ็บป่วยอะไรสักนิดเดียว
 
เรื่องนี้ผมได้กราบเรียนให้ หลวงพ่อ...ท่านทราบ และขอถามท่านว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า
ท่านนิ่งไปนาน แล้วบอกกับผมว่า.....ท่านเห็นอะไรบางอย่าง
ถึงได้พยายามบอกเค้าให้รีบสร้างบุญ ทำความดีเอาไว้ก่อนที่จะสายเกินไป
พยายามชี้ให้เค้าเห็นว่า เวลามันเหลือไม่มากนัก อย่าได้ประมาทกับชีวิต
แต่ก็นึกไม่ถึงว่า เจ้าตัวเค้าจะออกปาก ปรามาส ท่านให้เป็นบาปกรรมหนักเข้าไปอีก...
ผมได้เล่าเรื่องนี้ให้ น้องสาวเค้าฟัง พวกเค้าจึงรีบไปกราบขอขมาหลวงพ่อ....
หลวงพ่อ...ท่านก็แสดงให้เห็นว่าท่านก็นึกเสียใจ และเป็นห่วงไปด้วย
ท่านว่า....ท่านไม่เคยโกรธเคืองแม้แต่นิดเดียว แต่เทวดาฟ้าดิน เค้าไม่ยอม เค้าลงโทษ
แต่ท่านก็พยายาม แผ่เมตตาอธิษฐานช่วยเต็มที่
หลังจากนั้นมาผมได้ข่าวว่า...รอดตาย ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว
แต่ทางบ้านก็ยังไม่กล้าพาเจ้าตัวเค้าไปขอขมาหลวงพ่อ ที่วัด
เพราะยังไม่ค่อยแน่ใจความคิดอันดื้อดึงของเค้านัก.....
 
ที่เล่าให้ฟัง เพื่อบอกว่า....การไปกราบไหว้พระอริยะสงฆ์ ผู้ประเสริฐ
คนที่มีจิตใจอ่อนน้อมเข้าสู่กระแสแห่ง ธรรม ก็จะได้สิ่งที่เป็นบุญกลับไป    
แต่คนที่ยังเป็น มิจฉาทิฐิ วนเวียนอยู่ในกระแสกรรม ไม่ยอมมองหาแสงสว่าง
หากเกิดพลาดพลั้งไปประมาท ปรามาสเข้า ...วิบากกรรม บาปหนักได้เกิดขึ้นแล้ว
เทวดาฟ้าดินไม่ยอมให้อภัย ท่านเอาโทษรุนแรงสาหัสสากรรจ์
พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านเมตตา...ไม่มีประมาณ
แต่ กฎแห่งกรรม ก็เที่ยงตรงไม่มีอ่อนข้อ ย่อหย่อนให้กับใคร
 
ผมเคยเรียนถาม หลวงตามหาฯ เรื่อง กฏแห่งกรรม และวิธีการลบล้าง หลบหนีออกจากกรรม
ท่านบอกว่า...กรรมชั่ว เมื่อได้กระทำแล้ว มันลบล้างไม่ได้หรอก
ทุกการกระทำของคนเรา มันเกิดผลขึ้นทุกอย่าง ไม่เคยหนีหายไปไหนทั้ง กรรมดี และกรรมชั่ว
แต่ผลจาก บาปกรรม ที่เราได้ผิดพลาดกระทำลงไปแล้ว ยังพอมีวิธีหนีมันได้
ท่านเปรียบว่า... ผลของบาปกรรมชั่ว เปรียบเหมือน...เกลือทะเล ที่รสเค็มจัด
กรรมชั่วที่เราทำไว้เปรียบเหมือน...เกลือ 1 ช้อน
ถ้าเรากินมันเข้าไปล้วน ๆ เพียว ๆ  เราคงตายเพราะพิษของมัน ตับ ไต คงพังหมด
แต่เราสามารถ ทำความดี สร้าง...บุญกุศล ที่เปรียบเหมือนน้ำใสบริสุทธิ์
ที่ไปเจือจางพิษความเค็มของ เกลือ
วิธีการวิ่งหนี กรรม พระพุทธเจ้าท่านบอกเอาไว้ตั้ง 2,600 กว่าปีแล้ว คือ...
ไม่ทำบาป ทั้งปวง......
ทำบุญ ให้ถึงพร้อม......
ทำจิตใจ ให้ผ่องใส.....
 
เราต้องหยุดทำ บาปกรรม หยุดเพิ่มเกลือเข้าไปอีก
เราต้องรีบทำ บุญกุศล รีบไปหาน้ำบริสุทธิ์มาเจือจาง
ถ้าทำกรรม เท่าเกลือ 1 ช้อน ...เราก็ต้องรีบไปหาน้ำมาเติมไปสัก 10 – 20 ลิตร มาเจือจาง
กินเข้าไปก็คงยังไม่ตาย...หรือถ้าจะให้ดี เติมน้ำเข้าไปสักตุ่ม สองตุ่ม
บาปกรรม มันล้างไม่ได้...เหมือน เกลือ ที่ยังคงอยู่ยังให้ผลให้พิษ ให้รสเค็ม
เพียงแต่มันเจือจางไป จนไม่สามารถทำร้ายเราได้
หรือเปรียบเทียบว่า..บาปกรรม ก็มีพลังของเค้าเปรียบเหมือน รถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งไล่ล่าเรา
ทางแก้คือ...ต้องวิ่งหนีให้เร็วกว่ามัน
ทำยังไง ก็เร่งสร้างพลังบุญกุศล ให้มีแรงกว่า ทรงพลังกว่า....ควบบิ๊กไบค์ หนีมอเตอร์ไซค์
ผมถามท่านว่า...แล้วต้องหนีไปถึงไหนล่ะครับ
ท่านบอก จนกว่าจะหลุดออกจาก วัฏสงสาร เข้าถึง... พระนิพพาน
 
ผมถามหลวงตามหาฯ...ว่า การทำบุญ สร้างกุศล ต้องทำยังไงถึงจะเป็นบุญใหญ่มีกำลังมาก
ท่านบอก...ใส่บาตร ถวายทานแก่พระสงฆ์ผู้ตั้งใจปฏิบัติอยู่ในพระธรรมวินัย
ผมว่าถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้เงินปัจจัยเยอะ อย่างนี้คนรวยก็ได้บุญเยอะ คนจนก็ได้บุญน้อย สิครับ
ท่านบอก...ไม่ใช่อย่างนั้น มันขึ้นกับเจตนา ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ
เช่น เศรษฐีมีเงินร้อยล้านพันล้าน การทำบุญครั้งละหมื่น สองหมื่น สำหรับพวกเค้ามันแค่นิดเดียว
ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องตัดใจ ก็ทำได้สบาย ๆ
แต่คนธรรมดา หาเช้ากินค่ำ การทำบุญสัก 100 บาท มันยังต้องคิดหนัก ตัดใจยาก
เพราะฉะนั้นจำนวนเงิน ไม่ใช่ตัววัดบุญกุศล...
แต่ใจที่ศรัทธา และความตั้งใจที่อยากจะทำต่างหากล่ะ
ผมถาม...แล้ววิธีการให้ได้บุญเยอะ แต่ไม่ต้องใช้เงินเยอะล่ะครับ
ท่านบอก...ไม่ต้องใช้เงินเลย แต่ได้บุญเยอะก็มีนะ
คือ...ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ตั้ง ที่พึ่งที่ระลึก
นำทางชีวิตให้เดินไปอย่างถูกต้องตลอดเวลา นี่ก็เป็นบุญมหาศาลยิ่งกว่า ทำทานมากมายนัก
ผมยังอยากรู้อีก ว่ามีอะไรที่ทำแล้วเป็นพลังบุญ เพื่อหนีกรรมได้มากกว่านี้อีกมั้ย
ท่านบอก...ก็การรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์
ถ้าจะเอาให้มากกว่านั้น ก็เพิ่มเป็น ศีล 8
ให้ได้มากกว่าอีก ก็บวชเป็น พระรักษาศีล 227 ข้อตามพระวินัยไม่ให้ด่างพร้อย
 
ผมบอกท่านว่า...การออกบวช มันยาก และเราจะทิ้งการงาน ครอบครัว ลูก เมีย ไปยังไง
ท่านบอกมีวิธีไม่ต้องออกบวช และทำให้ได้บุญมากกว่าอีกด้วย...เอามั้ยล่ะ
ผมว่ามีด้วยเหรอ...
ท่านบอก...การปฏิบัติสมาธิ ภาวนาให้...จิต สงบนิ่งเป็นปรกติอยู่เสมอ
จะได้บุญมากกว่าการ...บวชรักษาศีลซะด้วยซ้ำ
แล้วท่านยังบอกอีกว่า....การสร้างพลังบุญ ให้ได้มากกว่านั้นยังมีอีกนะ
คือ...เมื่อทำ จิตใจ ให้สงบนิ่งอยู่เป็นปรกติได้แล้ว
ก็ทำวิปัสสนา คือการขัดเกลา ให้ลด ละ เอากิเลสออกไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลา
นั่นแหละเป็นการสร้างบุญกุศล ที่ไม่ต้องใช้เงินสักบาท
แต่ได้กุศลผลบุญ...มหาศาลยิ่งใหญ่นัก
ผมคิดตามที่ หลวงตามหาฯ ท่านบอก
ถ้าอย่างนั้น ผมไม่ต้องทำอะไร ทำสมาธิภาวนาอย่างเดียวเลยก็ได้นี่ครับ
ท่านกลับว่า...ไม่ได้ มันต้องเริ่มจากหัดทำสิ่งง่าย ๆ มาก่อน แล้วค่อยฝึกทำในสิ่งที่ยากขึ้น
ต้องหัด ทำทาน เพื่อละ ลด ปลด วาง ทรัพย์สินที่เหลือเฟือ เหลือใช้แล้วซะก่อน
แล้วหัดรักษา ศีล เอาทีละข้อให้ได้แน่นหนา แล้วค่อยเพิ่มจำนวนศีล ที่ยึดถือให้มากขึ้น
เหมือนนักกีฬายกน้ำหนัก เมื่อเริ่มฝึกใหม่ ๆ ก็ไม่ได้ยกได้ทีละ 100 กิโลทันที
แต่เค้าต้องหัดสร้างกล้ามเนื้อ สร้างกำลังทีละน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มเข้าไป
ขืนยกทันที 100 กิโล ก็หลังหักเอาละสิ
ทาน....ศีล แล้วจึงฝึกสมาธิ ภาวนา
ถ้าไม่เคยทำทาน ไม่เคยลดความอยาก ความต้องการ มันก็รักษาศีลไม่ได้ หรอก
ถ้ามันยังโลภ มันก็จะโกง จะขโมย เลยไปถึงฆ่าฟันกัน เพื่อให้ได้มา
ถ้าศีลไม่มี จิตใจมันคอยแต่ระแวง คอยแต่วิ่งวุ่นหาช่องโกงคนอื่น มันก็ทำสมาธิไม่ได้
 
ผมบอกท่านว่า...ก็มันเสียดายทรัพย์สิน ที่เราหามาด้วยความยากลำบากจะให้เค้าง่าย ๆ ได้ยังไง
ท่านหัวเราะ...ก็หัดให้ในสิ่งที่ไม่ต้องใช้เงินทองก็ได้นี่นา
ผมฟังแล้ว งง ......
ท่านบอก ก็ให้ ทานด้วย กาย วาจา ใจ ยังไงล่ะ
เอาแรงกายไปช่วย เอาวาจาไปช่วย
และที่ยิ่งใหญ่ ถึงใหญ่หลวงเลย...คือ ให้ใจเป็นทาน
ก็...อภัย ทาน ยังไงล่ะ
เคยโกรธ เกลียด เคียดแค้นชิงชังใครมา ในชาตินี้ หรือแต่ชาติปางไหน
ก็ภาวนาให้ อภัยทาน
คลายเวร ถอนกรรม ซึ่งกันและกัน
ผมสนใจอันนี้มาก ถามวิธีการว่าต้องทำอย่างไรครับ
ท่านบอก....เริ่มด้วยการตั้งจิต อธิษฐานให้มั่นคง
แล้วประกาศตะโกนก้อง ร้องบอกออกไปให้ถึง เทวดา ฟ้าดิน
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ว่า
....กรรม ที่ข้าพเจ้าได้เคย ผูกอาฆาต จองเวร ไว้กับผู้ใดก็ตาม ทั้งในอดีตกาลภพก่อน
และในชาติปัจจุบันนี้
ข้าพเจ้าขอถอนเวร เลิกอาฆาต ขออโหสิกรรม ให้ทั้งหมดทั้งสิ้น ทุกผู้ทุกนาม
และ กรรมใด ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน กระทำผิดพลาดพลั้งไป ให้เกิดความเดือดร้อน อาฆาตแค้น
ไม่ว่ากับผู้ใด ไม่ว่าในชาติภพไหน ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ข้าพเจ้าเสียใจ และได้สำนึกตัวแล้ว
ขอให้ยกโทษ ได้โปรดอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้า ด้วย เทอญ.....
 
ให้อธิษฐานจิต อย่างจริงจังอย่างนี้ทุกวัน ๆ ๆ ๆ
จนกว่าเจ้ากรรม นายเวร เค้าจะใจอ่อน ยอมอโหสิ
และอภัยให้เรา....
 
 
 
อนณ นิศารัตน์
โทร – ไลน์
093-149-9564


Create Date : 22 กันยายน 2562
Last Update : 22 กันยายน 2562 17:01:46 น. 0 comments
Counter : 466 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.