กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
กรรมทันตา โอ้..อินเดีย 23

โอ้..อินเดีย 23

วันนี้พวกเราเดินทางไปถึง เมือง...สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา
เป็นสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 แต่เป็นแห่งสุดท้ายของคณะแสวงบุญของเรา
สารนาถ นั้นเป็นชนบทอันสงบเงียบชานเมือง...พาราณสี ที่เป็นศูนย์กลางของ ศาสนาฮินดู
เป็นอย่างนี้มากว่า 4,000 ปี แล้ว และก็ยังไม่มีใครหรือศาสนาใดมาแทนที่ได้

คณะ สังคมทัวร์ อันมีผู้แสวงบุญ 80 ชีวิต
แบ่งเป็น 2 รถบัสมีพระอาจารย์วิทยากร 5 รูป
นำโดยท่านพระครูพิศาล ฯ รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
คณะทัวร์ทรหดของเราเดินทางมาถึง บริเวณที่เคยเรียกว่า...ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ปัจจุบันนี้รัฐบาลอินเดีย ได้กำหนดเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา
มีการขุดค้นบูรณะ และดูแลอย่างดีพอสมควรทีเดียว
เรียกว่า...ธัมเมกขสถูป
สถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แสดงธรรมครั้งแรก โปรดปัญจวัคคีย์
บริเวณสังเวชนียสถานแห่งนี้ กว้างใหญ่มากทีเดียว
มากกว่าทุก ๆ แห่งที่ไปมาแล้ว
เพราะได้รวมเอาจุดที่เกิดเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างใน พุทธศาสนา
มีพระสถูปเจดีย์หลายองค์ คือ
เจาคันธีสถูป จุดที่พระพุทธเจ้า เดินทางมาพบกับปัญจวัคคีย์
ธัมเมกขสถูป พระเจดีย์อนุสรณ์สถานที่ทรงแสดงพระปฐมเทศนา
ธัมมราชิกาสถูป พระเจดีย์อนุสรณ์สถานที่ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร
ยสะสถูป หรือ ปัญจายตนเจดีย์ จุดที่พระองค์ท่านแสดงเทศนาต่อ พระยสะ
มูลคันธกุฎี จุดที่เป็นกุฏิที่ประทับของพระพุทธองค์ และเป็นที่ทำงานของท่านในพรรษาแรก
เจดีย์ราย ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิธาตุของพระอรหันต์อีกมากมาย
เสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศกที่หักเป็น 4 ท่อน
ซากอาคารกุฏิพระสงฆ์
และมีสวนกวาง ที่สามารถซื้ออาหารให้กวางได้ด้วย

อย่างที่บอกนะครับ ว่าสถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่มาก
มีร่องรอยว่าเคยมีสิ่งก่อสร้างที่แข็งแรงใหญ่โตอย่างดี
แม้แต่ มูลคันธกุฎี หรือที่ประทับของพระพุทธเจ้า ที่นี่ก็ไม่เหมือนที่อื่น ๆ
ใหญ่โตกว่า และมีการก่อกำแพงผนังสูงขึ้นมาร่วม 3 เมตร
เห็นถึงโครงสร้างห้องหับได้ชัดเจน
วันที่พวกเราไปถึงนั้น แดดค่อนข้างแรงทีเดียว
แต่ก็ดูแล้วสะอาดสะอ้านดี สนามหญ้าเขียวขจีตัดแต่งไว้ดีมาก
พระอาจารย์วิทยากร ท่านพาเดินพร้อมกับบรรยายความสำคัญของแต่ละจุด แต่ละแห่ง
แล้วก็พากันมาถึงสนามหญ้ารอบ ธัมเมกขสถูป ซึ่งเป็นจุดที่พระพุทธองค์ท่านแสดงธรรมเป็นครั้งแรก
จนกระทั่ง พราหมณ์โกณทัญญะ ได้เข้าใจบรรลุเป็น พระโสดาบัน
พร้อมทั้งขอบวชเป็นพระสงฆ์ในพุทธศาสนาเป็นคนแรก
ทำให้เกิดมี พระรัตนไตร ครบถ้วนขึ้น

พวกเรานั่งลงบนสนามหญ้าในตำแหน่งที่แดดร่ม สายลมพัดอ่อน บรรยากาศดีม๊าก..ก มาก
แล้วพระอาจารย์ก็นำสวดมนต์ ปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน
ขณะที่พวกเรากำลังรวมจิตให้เป็นหนึ่งได้กำลังดี...
ตุ๊ง...ตุ๊ง...ตุ๊ง ตุ๊ง ตุ๊ง..........
อีกแล้ว...เสียงนี้อีกแล้ว ผู้แสวงบุญน่าจะเป็นญี่ปุ่น หรือเกาหลี นี่แหละ
เดินเวียนสวดมนต์ พร้อมเคาะกลองเข้าจังหวะ เวียนรอบองค์พระเจดีย์
อย่างไม่เกรงใจใคร เล๊ย...
เฮ้อ...ศรัทธาของเค้า วิธีของเค้า เอ้า...ไม่ว่ากัน
แต่พวกเราก็ไม่ได้หยุดปฏิบัติกรรมฐาน ยังคงหลับตาสงบนิ่งกันทุกคน
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรวมจิตได้อีก แต่ก็ยังพิจารณาสิ่งที่มากระทบกาย ใจ
ได้รู้สึกถึงทุกสิ่งรอบกาย
ได้ยินเสียง นกแขกเต้า หรือนกแก้ว บินไปเกาะบนพระเจดีย์
ส่งเสียงดัง...แก๊กก แก๊กก แก๊กก คุยกันลั่น
ผมเองเคยได้ยินชาดกเกี่ยวกับนกแขกเต้า มาเหมือนกัน
แต่จำเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว...
เพิ่งจะได้เห็นตัวจริง ชีวิตจริงที่เป็นธรรมชาติไม่ใช่อยู่ในกรงก็ที่นี่แหละ

แล้วความคิดก็โลดแล่นไป...
นึกถึงเหตุการณ์ประมาณเมื่อ 2,600 ปีก่อนนั้น
พระบรมศาสดา ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง
ทรงเสวยวิมุตติสุข พิจารณาสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ค้นพบ
พิจารณา...ปฏิจจสมุทปบาท ธรรมที่อิงอาศัยกันแล้วเกิดขึ้น
พิจารณาย้อนทวนไปมาทั้งสายเกิด และสายดับ
ทรงพิจารณาแล้วว่า ธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้นั้น...
ลึกซึ้งเกินกว่าบุคคลทั้งหลายที่ยังยินดีในกามคุณ จะเข้าถึงได้
เป็นการยากยิ่งเกินไปที่จะทำให้คนทั้งหลาย เข้าใจในความซับซ้อนของความเป็นไปแห่ง เหตุ และผล ของสิ่งต่าง ๆ นั้น
แต่แล้วก็ยังทรงคิดได้ว่า ยังมีคนบางจำพวกที่พอจะสั่งสอนได้ เรียนรู้ได้
บางคนต้องใช้เวลามาก ความเพียรมาก แต่ก็ยังบรรลุธรรมได้
ด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ พระพุทธองค์ท่านตัดสินพระทัยว่าจะสั่งสอน...เวไนยสัตว์ทั้งหลาย

เมื่อพิจารณาว่าผู้ใดสมควรแก่การสั่งสอนก่อน ก็ได้พบว่าอาจารย์ที่เคยไปร่ำเรียนมานั้นได้ตายหมดแล้ว
เมื่อระลึกถึงเหล่าปัญจวัคคีย์ บุคคลทั้ง 5 ที่เคยปรนนิบัติพระองค์
คิดดูนะครับ...พระเมตตาของท่านช่างยิ่งใหญ่นัก
คนที่เคยละทิ้งท่าน ไม่เอาท่านแล้ว ทอดทิ้งท่านไปแล้ว
แต่ท่านก็ยังระลึกถึงบุญคุณที่เคยกระทำกันไว้
และปรารถนาให้พวกเขาได้พบ สัจจธรรมอันยิ่งใหญ่ด้วย
พระพุทธองค์ท่าน ต้องเดินด้วย...พระบาทเปล่า..เปล่า
เหยียบย่ำไปบนหินแข็ง ดินกระด้าง หนามไหน่ทิ่มตำ
บุกลุยฝ่าป่าดง ท้องทุ่งชนบทอันกันดาร...ในช่วงหน้าร้อน
ซึ่งในอินเดียนั้น ร้อนจนแม้แต่ควายยังตายเลย
คิดแล้วสงสารพระองค์ท่านจริง ๆ ...ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น
ระยะทางก็ไม่ใช่น้อย กว่า 250 กิโลเมตรเชียวนะครับ
ทรงเดินด้วยพระบาทเปล่าเป็นเวลาถึง 11 วัน
แสดงว่าต้องเดินทางไม่ได้หยุด ได้พักเลยทีเดียว
เพื่อโปรดสั่งสอน...คนที่หันหลังละทิ้งท่านมาก่อน
หลังจากนั้น แทนที่จะอยู่เสวยสุขให้สบาย...
แต่กลับทรงตรากตรำพระวรกาย เพื่อชักชวนชี้แจงให้เห็นสิ่งที่ขัดกับความเชื่อดั้งเดิมของชาว ฮินดู อย่างสิ้นเชิง
เหน็ดเหนื่อยหนักอยู่ถึง 45 ปี จนกระทั่งพระชนม์ถึง 80 พรรษา
สอนวิธีหลีกหนีออกจากสังสารวัฏ จนนาทีสุดท้ายของชีวิต
โอ้...น้ำพระทัยเมตตา พระกรุณาคุณที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ช่างมากมายยิ่งใหญ่อย่างสุดประมาณ

สถานที่นี้ ตรงหน้านี้แหละ...เคยเป็นที่คนธรรมดาหลายคน
นั่งลงตั้งใจฟัง ปล่อยจิตตามกระแสเสียงเทศนาของพระพุทธองค์
ฟัง ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร พระธรรมแรกที่ทรงสั่งสอน
ว่าด้วยเส้นทางสุดโต่ง 2 ทางที่ไม่ควรเดิน ไม่ควรปฏิบัติ
เพราะเป็นทางแห่ง...ทุกข์
ทุกข์ที่มีอยู่เดิม และทุกข์ที่แสวงหาเอง
ก็เพราะต้นเหตุคือ...กิเลส ตัณหา ความเพลิดเพลิน
แล้วยังทรงแนะนำเส้นทางที่ควรเดิน เพื่อไปสู่การดับแห่ง ทุกข์ ทั้งหลายนั้น
ซึ่งบุคคลแรกที่พิจารณาไตร่ตรองตามแล้วเข้าใจบรรลุธรรมอันลึกซึ้ง
คือ ท่านโกณทัญญะ ได้เข้าใจชัดแจ้งแห่งความเป็นจริง
...สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา...
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็แปรเปลี่ยนไป
ไม่มีสิ่งใดควรแก่การยึดถือทั้งสิ้น...
ในเวลาต่อ ๆ มา เหล่าปัญจวัคคีย์ที่เหลือก็ทยอยกันบรรลุถึงธรรมทั้งหลายอันเป็นที่สุดนี้ได้

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ
สถานที่แห่งนี้เอง ที่มีคนฟังธรรมจากพระโอษฐ์
ถึงความไม่เที่ยงแท้ของสังขาร ร่างกาย และสรรพสิ่งในโลกหล้านี้
กล่าวถึง ทาน ศีล สวรรค์ โทษแห่งกาม และการออกจากกาม
บริเวณรอบ ๆ นี้ ที่ผมและคณะฯ กำลังนั่งอยู่นี้
เคยมีคนได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ตาม ๆ กันถึง 60 องค์
แล้วพระบรมศาสดา โปรดให้แยกย้ายกันไปเผยแผ่สิ่งที่ประเสริฐสุดนี้ไปทุกสารทิศ
เป็นการเริ่มต้น...หมุนกงล้อพระธรรมจักรให้เป็นไป
เริ่มต้นบอกเล่าให้คนทั้งโลกได้เข้าใจ...อริยสัจ 4
ความจริงอันประเสริฐที่สุด ว่า
นี้คือ...ทุกข์ อันควรกำหนดรู้
นี้คือ...สาเหตุแห่งทุกข์ อันควรละ
นี้คือ...ความดับทุกข์ อันควรทำให้แจ้ง
นี้คือ...หนทางดับทุกข์ อันควรเจริญ

เมื่อพระอาจารย์ฯ เห็นว่าสภาวะจิตของทุกคนมีความสงบดีแล้ว
ก็นำพากันเดินสวดมนต์เวียนรอบองค์พระเจดีย์
ท่านพาพวกเรา...ก้าวเดินเข้าสู่กระแสแห่งธรรม
เดินตามคำสอน เดินตามแนวทางที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางไว้
ก้าวเดินตามรอยบาทพระองค์ท่าน
เดินออกจากสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้กี่แสนล้านชาติภพมาแล้ว
เดินทีละก้าว..ทีละก้าว
อีกแม้จะยาวนานไม่รู้สักเท่าไหร่ แต่ก็ตัดสินใจ...ก้าวเดินแล้ว
ขอปฏิญาณ...จะเดินตามไปไม่หยุด
เดินด้วยศรัทธา ด้วยวิริยะ ด้วยสติ ด้วยความเข้าใจ
จนกว่าจะไปถึงจุดหมาย ขอไปให้ถึงซึ่ง...
พระนิพพาน ด้วยเทอญ.
สา.......ธุ


อนณ 089-995-9377
tobeteam@yahoo.com



Create Date : 31 พฤษภาคม 2555
Last Update : 31 พฤษภาคม 2555 21:44:48 น. 0 comments
Counter : 3527 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.