กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 
วัดป่า...มหาสนุก 9

วัดป่า...มหาสนุก 9

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

ครั้งแรกที่รู้จัก วัดป่า คือ 2558 ตอนนั้นไปอยู่แค่ 1 เดือน
ความที่เป็นคนกรุงเทพ มาตั้งแต่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องซื้อหาเอาด้วยเงินสด ๆ 
แต่พอไปถึงวัดป่าฯ หนทางก็ไม่รู้จัก ร้านค้ามีอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ 
การพูดจากับชาวบ้านก็ลำบาก พวกเค้าพูดแต่ภาษาอีสาน ผมกับภรรยา เหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวหลงมาอยู่ที่นี่
พอตอนเช้าตาม พระ ออกไปบิณฑบาตเข้าไปหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 2 - 3 กม.
ประมาณ 100 หลังคาเรือน มีชาวบ้านมายืนรอใส่บาตรประมาณ 40 บ้านเลยเชียวนะ
เค้าไม่ได้ยืนรอหน้าบ้านใคร หน้าบ้านมันแบบใน กทม.นะ. แต่จะจับกลุ่มเข้าแถวเรียงกันหน้ากระดาน
ทุกคนมี กระติ๊บข้าวเหนียว ยืนรอพระ ...หลวงพ่อ...ท่านไม่ให้นั่งใส่บาตร เพราะว่า พระต้องก้มเยอะ
และอีกประการมารู้ทีหลังคือ ผู้หญิง นั่งในมุมต่ำมันมองลอดคอเสื้อแล้วมัน...โป๊ อย่างนึกไม่ถึง
หลวงพ่อ...ท่านเดินนำหน้า พวกครูบาเดินตามหลังเป็นแถว เรียงลำดับตามอวุโสพรรษา บวชก่อนหลัง
ชาวบ้านจะพาลูกเมียออกมายืนรอใส่บาตรกันอย่างแช่มชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส
พวกเค้าใส่บาตร แต่เฉพาะข้าวเหนียว มีเพียงไม่กี่คนที่มีอาหารประเภทกับข้าว และผลไม้
มารู้ทีหลังว่า ประเภทกับข้าว ต้มแกง ทอด ย่าง เค้าจะตามเอาถวายที่วัด เรียกกันว่า...จังหัน
ผมมองหาร้านค้าขายอาหาร ก็ไม่มี ตลาดก็ไม่เห็น เอาละสิเราสองคนผัวเมีย จะไปซื้ออะไรกินได้ที่ไหนกันล่ะ

เมื่อถึงเวลา...พระ ทั้งวัดจะขึ้นนั่งบนแท่นยกสูง เรียงตามลำดับอาวุโสพรรษา
หลวงพ่อสั่งให้ ผม กับภรรยา นั่งถัดออกไปต่อจากพระ....
ด้วยเหตุผลว่า มาถือศีล 8 ปฏิบัติธรรม เรียกว่ามีศักดิ์ศรี มีศีลที่ต้องรักษามากกว่าคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป
แต่ พระ ท่านฉันอาหารในบาตร อาหารทุกอย่างใส่ลงในบาตรทั้งข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ ผัด แกงเผ็ด น้ำพริก
ส่วนแกงจืด ขนมหวาน ผลไม้ จะมีจานแยกต่างหาก ...อ้าวแล้วเราทำยังไงล่ะ
หลวงพ่อ...ท่านสั่งให้ไปเอา ชามกะละมัง ขนาด 12 นิ้ว มาให้คนละใบ...ใช้แทนบาตร
แต่ต้องเอาทุกอย่างใส่ลงไปใน ชามกะละมัง เหมือนที่ พระ ท่านฉันในบาตร....เราต้อง ฉัน เอ๊ยยย กินในชามกะละมัง
แล้วข้าวเหนียว และอาหารทุกอย่าง รวมทั้งขนมกับผลไม้ ก็จะถูกลำเลียงมาบน ถาดที่มีล้อ

หลวงพ่อ...และ พระท่านจะตักทุกอย่างที่ต้องการ ใส่ลงในบาตร ไล่เรียงกันมา จนถึงเราสองคน
เราก็ต้องตักข้าวเหนียว และกับข้าวทุกอย่างที่อยากได้ลงในชามกะละมัง เหมือนกัน
คุณเอ๊ยยย วันแรก ๆ มันช่างขัดเขิน มั่วซั่ว อย่างที่สุด ยิ่งเวลาช้อนไปเคาะโดนกะละมัง มันช่างดังกังวาลดีจริง ๆ
ท่ามกลางสายตาชาวบ้านประมาณ 50 ที่คอยจับจ้องว่าเราจะตักอะไร ตักแค่ไหน กินของประเภทไหนกัน
วันแรก ๆ ผมเลือกอาหารไม่ค่อยถูก ได้แค่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ไก่ทอด ส้มตำนิดหน่อย เพราะกลัวท้องเสีย ไม่คุ้นกับอาหารอีสาน
จำความรู้สึกได้แม่นเลยว่า ...ขณะที่ตักอาหารคำแรกเข้าปาก 
ใจมันแว่บบบ คิด...เอ๊ะ อาหารพวกนี้เราไม่ได้ซื้อด้วยเงินของเรา
นี่เรามาขอข้าวชาวบ้านเค้ากิน เป็นครั้งแรกในชีวิต....ไปขอข้าวชาวบ้านกิน อ่ะ
คิดแล้วแทบกินไม่ลง แต่ก็ต้องฝืนจำใจ ไม่งั้นคงหิว แย่แน่ ๆ

เมื่อเสร็จจากเรื่อง การฉัน การกิน จบสิ้นกระบวนการแล้ว หลวงพ่อ...ท่านเรียกไปคุย เพื่อปฐมนิเทศ
ท่านถามว่า...ไปบิณฑบาต สนุกมั้ย เห็นอะไรบ้าง
ผมกราบเรียนท่านว่า...แปลกดีครับ ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย และก็เห็นหลายอย่างที่ตื่นตา ตื่นใจ
ท่านบอก...เห็นมั้ยเวลาที่เค้าใส่บาตร เค้ายกมือท่วมหัว...ตั้งจิตอธิษฐาน
ผมบอก...เห็นเหมือนกันครับ แทบทุกคนอธิษฐานก่อนใส่ บางคนก็หลังจากใส่บาตรแล้ว
ท่านยังว่า...รู้มั้ยของที่ชาวบ้านเอามาถวายพระ นั่นเป็นของ...ดี ที่สุด ที่เค้ามี เค้าหามาได้
ของบางอย่างเค้ายังไม่กล้ากินเองเลย มันแพง...แต่เค้าเต็มใจที่จะเอามาใส่บาตรให้เราได้กิน
เราสองคนฟังแล้ว อึ้งไปเลย...
ท่านพูดต่อ...รู้มั้ยข้าวทุกเม็ด มันไม่ได้มาเปล่า ๆ นะ  มันมาพร้อมกับ...คำอธิษฐาน
คำพูดนี้ของหลวงพ่อ.....มันช่างกระแทกใจ สุด ๆ 
เค้าให้เรากิน เพราะเค้าหวังให้พวกเรา มีแรง มีกำลัง ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา
ชาวบ้านที่ใส่บาตร ตั้งใจอธิษฐานท่วมหัว ท่วมหู เพราะเค้าหวังอานิสงส์ บุญที่เราจะแผ่อุทิศให้พวกเค้า
แล้วเราจะเอาบุญที่ไหนไปให้เค้า...ถ้าไม่ตั้งใจเดินจงกรม ปฏิบัติฯ ภาวนา
อีตอนนี้ เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างที่กินเข้าไป มันจุกอก...มันไม่ใช่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง
แต่มันคือ...คำอธิษฐาน ล้วน ๆ
ท่านสำทับต่อว่า...พวกเราที่กินของที่เค้าใส่บาตร. แล้วไม่ตั้งใจภาวนา...จะกลายเป็น เปรต
ห๊าาา.....เปรต เลยเหรอครับ
ใช่...ตายไปกลายเป็น เปรต เกิดใหม่ก็ต้องมาใช้หนี้เค้าอีก

ถึงไม่เล่า ก็คงรู้นะครับว่า....เราสองคน ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาแค่ไหน 
วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง...เพราะข้าวที่กินของชาวบ้านเข้าไปนี่แหละ

พอวันรุ่งขึ้น และวันต่อ ๆ เหตุการณ์มันก็วนเวียนซ้ำอีก....
ไม่รุ้จะไปหาซื้ออาหารที่ไหน ต้องจำใจขอข้าวชาวบ้านเค้ากิน....
กินแล้วมันก็...จุกที่ใจ ติดค้างอยู่ในความรู้สึก กลัวจะต้องเป็น....เปรต
เลยต้องตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาให้หนัก จะได้มีบุญกุศล แผ่ให้พวกเค้าได้
มันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้...ทู้กกกก วัน
ที่แย่กว่านั้นคือ...พอวันหลัง ๆ มันชักอร่อยขึ้นทุกที ไม่รู้เพราะเหนื่อย หรือหลงปลาร้าซะแล้ว
ที่นี่เค้าใส่ ปลาร้า แทบทุกอย่าง...เหมือนน้ำปลา
แต่เค้าต้องต้มทุกอย่างให้ สุก เพราะพระจะฉันอาหารดิบไม่ได้ ผิดพระวินัย
คนถวาย ถ้าทำไม่ดีจะบาปกรรมหนักหนา
ยิ่งอร่อยขึ้นทุกวัน อาหารแปลกใหม่มาทุกวัน ...กินมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุ้กกก วัน
มารู้ทีหลังว่า...ปลาร้า ที่เค้าทำถวายพระ เป็นสูตรพิเศษ ใส่พวกน้ำกระเทียมดอง และอะไรอีกหลายอย่าง
ทำอย่างสุดฝีมือ...มันถึงได้อร่อยเลิศเหลือหลาย
ขอสารพภาพเลยว่า...หลาย ๆ เดือนต้องไปวัด ไปกราบหลวงพ่อ 
และไปขอกินส้มตำ ที่เค้าทำถวายพระ ทุกวันนี้ไม่เคยกินส้มตำที่ไหนถูกปากอีกเลย อ่ะ

ทางฝ่ายชาวบ้าน พวกเค้าตั้งอกตั้งใจจับตามองดู เราสองคน
เพราะเหตุผลหลายอย่าง คือ...แปลกดีที่มีคนกรุงเทพ มาภาวนาที่นี่ ทำให้พวกเค้ามั่นใจว่า...วัด และหลวงพ่อ ของพวกเค้า ดีจริง ๆ  
พวกชาวบ้าน คิดแต่ว่าพวกเค้าเป็น...เจ้าบ้าน ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ คนที่มาเป็นแขก คนที่มาเอาบุญ
พวกเค้าอยากให้เรา ...กินได้ นอนหลับ จะได้มีแรงเดินจงกรม นั่งภาวนา
เค้าจะใส่ใจ จับตาดูว่าอะไรที่เรากินได้ อะไรที่เราไม่กิน...จะทำของที่เราชอบมาให้เป็นพิเศษ
บางอย่างถึงกับไม่ถวายพระ แต่แอบเอามาให้เรากิน ด้วยความรัก ความห่วงใยที่ออกมาจากใจจริง ๆ 
อึดอัดเหมือนกัน ที่ถูกจับตามองไปซะหมด คอยสอดส่องว่าเราจะอยู่ได้มั้ย สู้ไหวมั้ย
หลายครั้งที่เห็นเราสองคนเหนื่อยอ่อน ท้อ ...พ่อแก่ แม่เฒ่า ก็จะมาเมียง ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามไถ่พูดคุยด้วย
ถึงแม้จะสื่อสาร พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็จับความรู้สึกได้ถึง...ความห่วงใย เหมือนเราสองคนเป็น ลูกเป็นหลานของพวกเค้า
ทุกวันนี้ ผ่านมาหลายปีแล้ว กลับไปที่วัดทีไร...เหมือนได้กลับบ้าน
มีพ่อ มีแม่ มีพี่น้อง ที่รักเรา ดีใจทุกครั้งที่เห็นเรา....จะเข้ามายิ้ม มาหัวเราะ มาพูดคุยจับมือถือแขน โอบกอดก็มี

แต่เรื่องขำ ๆ ก็เยอะนะ
วันแรก ๆ ที่ไปอยู่ จะมีชาวบ้านใจกล้า แอบมาเมียง ๆ ถามว่า....นอนหลับได้ บ่ ฝันดี บ่
เราก็..เออ ๆ ครับ ๆ คะ ๆ ไป ว่านอนไม่ค่อยหลับ แปลกที่น่ะ
เค้าจะถามคำถามที่สุดอึ้ง....ผี มากวน บ่. ผีมาขอส่วนบุญล่ะ บ่
พอหลายวันเข้า มาถามกันอีก....นอนหลับฝันว่าอิหยัง ฝันเห็นเลข อิหยัง
ปั๊ดโธ่ เอ๋ยยยย เค้ามาถามหา...เลขเด็ด น่ะ
ผมไปเล่าให้หลวงพ่อ...ฟัง ท่านก็หัวเราะ บ่นว่า...เนี่ยะ มันก็อย่างเนี๊ยะแหละ หาแต่เลข หาแต่หวย 
ฟังเทศน์ไปจดไปว่าท่านเผลอหลุดเลขอะไรบ้าง ...ธาตุสี่ ขันธ์ห้า เราพูดอะไรกลายเป็นตัวเลขหมด
ยิ่งตอนก่อสร้างกุฏิ ศาลา เราสั่งซื้อหิน ปูน ทราย เท่าไหร่กี่กระสอบ กี่คันรถ มันตีเป็นหวย ไปหมด...เฮ้ออออ
แถมไปแทงเลขถูกซะอีก แน่ะ....อีทีนี้ตั้งใจฟังกันใหญ่ น่าเบื่อจริง ๆ 
แล้วท่านก็หัวเราะ พร้อมส่ายหน้า ระอาใจ

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 10
https://pantip.com/topic/39185769


Create Date : 04 กันยายน 2562
Last Update : 4 กันยายน 2562 18:10:47 น. 0 comments
Counter : 307 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.