• กรรมทันตา

วัดป่า...มหาสนุก 56 วัดป่า...มหาสนุก 56 ( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ ) เมื่อสองผัวเมีย ฝรั่งไทยได้ฟังเรื่อง....ไอ้เร รถเยอรมัน ไม่มีระบบป้องกัน...ตุ่ม หล่นใส่รถ แล้วหัวเราะ คิ๊ก.ก..ๆ ๆ ๆ  ชอบอก ชอบใจ แต่ มร.เบน ยังบ่นอุบอิบ....พระเครื่องราง ก็ยังช่วยให้รอดตาย ได้นี่นา แล้วถามว่า...พระ ที่หลวงพ่อท่านแจกกับคนอื่น ๆ จะมีพลังจิตของท่าน ใส่ไว้ด้วยมั้ย ผมบอก....แน่นอน ท่านเคยเล่าว่า เมื่อไหร่ที่ลูกศิษย์ของท่าน ตั้งสมาธิจิตระลึกถึงแล้ว .... หลวงพ่อเตี้ย ท่านจะรู้ได้ทันที  คงคล้าย ๆ กับว่า...พระเครื่องราง ที่ท่านให้ไว้นั้น ทำหน้าที่เหมือน เครื่องรับ - ส่งคลื่นวิทยุ นั่นแหละ ส่วนหลวงพ่อ ท่านทำหน้าที่เหมือน เรด้าห์ แม่ข่ายที่เปิดรอรับสัญญาณอยู่ตลอดเวลา เหมือนเรด้าห์ สนามบิน ที่ตรวจหาเครื่องบินอยู่ตลอด ยังไงยังงั้น มร.เบน ทำตาโต...ขนาดนั้นเลย เหรอ ผมเล่าว่า.... บางครั้ง หลวงพ่อยังเคยถามผมเวลาที่เจอหน้ากัน...ว่าในวันนั้น เวลานั้น คิดถึงท่านใช่มั้ย ทำให้พวกผม หรือลูกศิษย์ทั้งหลาย ไม่กล้าทำผิด คิดชั่ว เพราะกลัวท่านรู้เอา น่ะสิ คุณทิพย์ ถามว่า....ถ้าเอาไปใส่ตอนที่อยู่ อเมริกา จะใช้ได้มั้ย รัศมีทำการจะไปถึงมั้ย ผมบอก...น่าจะได้นะ เพราะลูกศิษย์คนหนึ่ง มีปัญหาตอนที่เข้าเมือง ในประเทศเกาหลีใต้ ขณะที่กำลังวุ่นวายอยู่ เค้าอธิษฐานจิต ระลึกถึงท่าน.... แล้วจู่ ๆ เจ้าหน้าที่ ที่กำลังเล่นงานเค้าอยู่ ก็ปล่อยผ่านไปเฉย ๆ จนใคร ๆ ก็แปลกใจ ทั้ง ๆ ที่คณะทัวร์ที่ไป เกาหลี เที่ยวนั้นติดปัญหาที่ด่าน ถูกส่งกลับหมดทุกคน ยกเว้น ตัวลูกศิษย์คนนั้น กับภรรยา ของเค้า และเค้าโทร.มาเล่าให้ผมฟัง แล้วฝากให้ผมไปกราบหลวงพ่อ แทนเค้าด้วย เรื่องนี้ผมถามท่าน... ท่านพูดว่า อำนาจจิต ไม่มีอะไรขวางกั้น  ไม่มีระยะทาง ไปได้ตามที่จิตคิด ถึงไหน ก็ถึงนั่นทันที มร.เบน ฝรั่งสามีพูดขึ้นว่า....ก่อนที่เค้าจะมาเมืองไทยครั้งนี้ เค้าคิดอยู่เสมอว่า... ต้องหาเงินทอง หาทรัพย์สินให้มากที่สุด เพื่อจะได้เอามาซื้อ ความสุข ให้มากที่สุด แต่ตอนนี้เค้า เริ่มคิดได้ใหม่แล้วว่า ความสุข มันไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง ซะแล้ว ผมบอกว่า....ความสุข ที่มาจากสิ่งเร้าภายนอก เข้ามากระตุ้นจิตใจของเรา ให้สนุก ให้ตื่นเต้น เร้าใจ พอได้มาแล้ว....ไม่นานมันก็ ชาชิน หรือหมดความตื่นเต้นเร้าใจแล้ว ต้องหาใหม่ หาเข้ามาอีก...เอาอีก....เอาอีก......เอามา อีกกก แต่...ความสุขอีกประเภท กลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ต้องการสิ่งภายนอกมากระตุ้นเรา คือ...ความสุขจาก ความสงบ ยิ่งสงบ เงียบ เท่าไหร่ก็ยิ่งมีความสุขที่...ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก ถึงตอนนี้ ทั้ง เบน และ ทิพย์ ก็จ้องหน้าผม อย่างพยายามทำความเข้าใจ ผมบอกว่า.... ลองนึกถึงเวลาที่คุณออกไป แค้มปิ้ง นอนดูดาวบนท้องฟ้า โดยไม่มีเสียงเพลงใด ๆ หรือ ความรู้สึกขณะที่คุณทั้งคู่ได้ลองทำ...สมาธิ ฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ตอนนั้นมีความสุข มั้ยล่ะ...นั่นแหละ ความสงบสุข ความสุข จากความ....สงบ ทั้งคู่นิ่งนึก แล้วพยักหน้ายอมรับ...แต่ถามว่า ในเมื่อไม่มีสิ่งอื่นมากระตุ้น ทำไม่ความสุขจึงเกิดขึ้นได้ ล่ะ ผมบอก.... คุณมีความสุข ก็เพราะ ใจ มันสงบ ที่เรียกว่า....สงบสุข ไงล่ะ ในเวลานั้น ใจ มันโล่ง เบา สบาย เพราะคุณ....ปล่อยวาง ให้ใจมันว่าง ไม่ยึด ไม่เหนี่ยวอะไร เปรียบเหมือนกับว่า คุณแบกก้อนหินไว้บนบ่า 3 ก้อนใหญ่ ๆ อยู่นานแล้ว ก้อนแรก คือ....ครอบครัว ก้อนที่สอง คือ....ทรัพย์สิน เงินทอง ก้อนที่สาม คือ.... หน้าที่การงาน  และยังมีอีกมากมายหลายก้อน เช่น ความสำเร็จ ชื่อเสียง ความโกรธแค้นใครบางคน การแข่งขันช่วงชิง ฯลฯ แล้วจู่ ๆ ผมก็สอนให้คุณ ทดลอง....ปล่อยวาง ก้อนหินทั้งหลายแหล่ ที่แสนหนักหนา คุณทั้งสองก็...วางมันลง ชั่วคราว ใจ มันเลยเบา สบาย....ใช่มั้ยครับ มร.เบน คนฉลาด ก็ถามขึ้น....แต่ยังไงพวกเค้าก็ยังต้องกลับไปแบก ก้อนหิน ทั้งหลายไว้อีก  เพราะมันเป็นโลกที่เค้าต้องอยู่กับมัน นี่นา ผมบอก... ก็ใช่ เพราะเราจะเอามันโยนทิ้งทันที ทันใดยังไม่ได้ แต่เราก็หัดวางบ้าง แบกบ้าง ปล่อยบ้าง ว่างบ้าง.... แล้วจะฉลาดมากขึ้นที่จะค่อย ๆ คิดได้ว่า จะโยนหินก้อนไหนทิ้งซะบ้าง ถ้ามากกว่านั้น ก็ต้องคิดพิจารณาให้เห็นว่า....ไอ้ทรัพย์สิน เงินทอง ที่เราแบกไว้ ยึดไว้มันกลับเป็น โทษ พอถึงตอนนี้ ทั้งคู่ส่ายหน้า ไม่เข้าใจ....ทรัพย์สิน เงินทอง มันจะเป็นโทษ ได้ยังไง  มันน่าจะเป็น คุณประโยชน์มากกว่า นะ ผมเลยต้องเล่านิทาน ให้ฟังอีกเรื่องนึง....ฝรั่งเค้าชอบฟัง นิทาน น่ะ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง อยู่ติดแม่น้ำ การเดินทางเข้าเมือง จะต้องใช้เรือในการเดินทาง แต่คนในหมู่บ้านนี้ ทั้งคนแก่ หนุ่มสาว หรือเด็กน้อย ทุกคนก็...ว่ายน้ำเก่งกันทั้งนั้น มีพ่อค้าหนุ่ม 3 คนออกไปค้าขาย จนมีกำไรมากมาย กำลังเดินทางกลับหมู่บ้านแห่งนี้ ระหว่างนั่งมาในเรือ อยู่กลางแม่น้ำ ปรากฏว่าเรือเกิดล่ม..... พ่อค้าหนุ่มทั้ง 3 คนต้องตะเกียกตะกาย ว่ายน้ำหนีตายขึ้นฝั่ง มี 2 ใน 3 คนว่ายไปจนเกือบจะถึงฝั่งอยู่แล้ว เกิดเอะใจ ว่าเพื่อนอีกคนหนึ่งหายไปไหน หันหลังไปดู ก็เห็นว่า...เพื่อนของเค้ากำลัง ตะกุยน้ำ กะป๋อมกะแป๋ม สถาพเหมือนลูกหมาตกน้ำยังไงก็ไม่รู้ ทั้งสองคนก็รีบตะโกนเรียกให้เพื่อนคนนั้น ให้รีบว่ายมาเร็ว ๆ ไม่อย่างนั้นจะหมดแรงจมน้ำ ไปซะก่อน เพื่อนพ่อค้าคนนั้นก็ตอบว่า...ไม่ไหวแล้ว จะหมดแรงแล้ว เพราะทองคำ กับเงินที่ไปค้าขายได้มา...มันหนัก มันถ่วงให้ ว่ายน้ำไม่ไหว เพื่อนทั้งสองคน ก็ตะโกนบอกให้เค้า ถอดกระเป๋า หรือถุงเงิน ถุงทองทิ้งไปซะ แต่พ่อค้าคนนั้น ที่อยู่กลางแม่น้ำ กลับไม่ยอมทิ้ง ทรัพย์สิน เงินทอง....เพราะความเสียดาย โธ่...มันหามาด้วยความยากลำบาก จะให้ทิ้งได้ยังไง ...เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็ยังเสียดาย อ่ะ แล้วเพื่อน ๆ ก็ได้แต่ตะโกนให้....ทิ้งไป....ทิ้งมันไป.....ทิ้งไปซะ......จะได้รอดตาย เพราะจะว่ายกลับไปช่วย ก็ไม่ไหว...จะหมดแรงแล้วเหมือนกัน แต่พ่อค้าที่กำลังจะจม อยู่ที่กลางแม่น้ำ ก็ไม่ยอมทิ้ง ทองคำ และทรัพย์สิน .... เพราะความเสียดาย ความยึดมั่น  โฮลด์ ออน หรือ แครี่ ออน .... ในสิ่งที่ผิด ในสิ่งของภายนอกกาย แล้วในที่สุด พ่อค้าคนนั้น ก็จมน้ำลงไปพร้อมกับ ถุงทอง กระเป๋าทรัพยสิน ที่แบกใส่หล้งเอาไว้ ต า ย ....เพราะความ.   ยึ ด มั่ น   ถื อ มั่ น   อ ย่ า ง โ ง่ เ ข ล า  อนณ นิศารัตน์ โทร. - ไลน์ 093-149-9564 วัดป่า...มหาสนุก 57 https://pantip.com/topic/39347273   Create Date : 29 ตุลาคม 2562     Last Update : 29 ตุลาคม 2562 21:47:22 น. Counter : 232 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วัดป่า...มหาสนุก 55 วัดป่า...มหาสนุก 54 ( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ ) เล่าเรื่อง...งานบุญกฐินที่วัดป่าอนุสรณ์ (หนองรัง) เมื่อปี 25611 หลวงพ่อ เตี้ย ( ประมัย เตชะธัมโม ) ที่เป็น พ่อแม่ครูอาจารย์ ที่ผมเคยไปบวช อยู่กับท่าน ได้บอกให้ผม พาครอบครัว สาวไทย ที่ได้สามีฝรั่ง ไปเดินทัวร์ให้ทั่ว วัดป่า เมื่อปล่อยให้ สองผัวเมีย ได้ลองทำ...สมาธิ อย่างง่าย ๆ  เริ่มด้วยการ บอกกับตัวเอง.... ขอเวลาให้กับความว่างในหัวใจ ไม่ห่วงหาอะไร แค่...แปปเดียว หายใจเข้า ออก ... ช้า ๆ แผ่วเบา ฟังเสียงหัวใจให้ได้ยิน จับความรู้สึกการเต้น ไปเรื่อย ๆ ผมตั้งใจว่าแค่ให้พวกเค้าลองทำนิดเดียว คิดว่าคงไม่ได้อะไรเท่าไหร่ แต่...กลับนั่งได้นาน เกือบ 20 นาที ในโบสถ์ไม้ หลังเล็ก ๆ มีแต่เรา สายลม และเสียงระฆัง แว่วมาเบา ๆ เท่านั้น บรรยากาศ เหมือนถูกจำกัดเขต ตัดขาดออกจาก...โลกภายนอก ไม่มีใครสักคน มีแต่...เรา  ผมคอยจับสังเกตุ ถึงได้เห็นว่า...เพียงแค่อึดใจ คุณทิพย์ มีน้ำตาไหลล  แล้วสงบลึกลงไปอีก คุณฝรั่ง เบน พอเริ่มต้น หายใจ ฝืด...ฝาด อยู่ไม่กี่ที พอให้ผ่อนลมหายใจ ก็ค่อย ๆ เงียบลง และ.....สงบ นิ่งไปเลย ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า เข้าใจได้ทันที...วาสนา บารมี ของพวกเค้าคงสะสมไว้พอสมควร แม้จะหลง ลืมไป แต่ในที่สุด...กำลังของกรรมดี ก็แสดงออกมา ผมบอกว่าพวกเค้าเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ ทำสมาธิ ครั้งแรกก็ได้...ความสงบ แล้ว คุณทิพย์ บอก...คงเป็นเพราะหัดเล่นโยคะ ฝึกหายใจมาตั้งแต่เริ่มตั้งท้องน้อง เกรซ แล้ว ผมถามว่า...รู้สึกยังไงบ้าง เธอบอก....ทีแรกก็เป็นห่วงกลัว น้องเกรซ จะตื่น เลยเอามือไปแตะไว้เบา ๆ แล้วเริ่มต้น หายใจเข้า ออก  บอกกับตัวเอง และน้องเกรซ ว่า...ขอเวลาแห่งความสงบให้ตัวเอง นิดหนึ่งนะ เพียงแค่ชั่วอึดใจ มันเกิดอาการ....ซ่านไปทั่วที่จมูก ที่ตา ลามไปทั้งตัว ความรู้สึกอิ่มเอิบ มันประเดประดังเข้ามา จนหยุดไม่ได้บังคับไม่อยู่....น้ำตา มาจากไหนก็ไม่รู้ ไหล ๆ ๆ ออกมา จนตัวเองก็ตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น.... ผมบอก....อาการอย่างนี้เรียกว่า ปิติ  คือ...จิต มันสั่นไหว สะเทือนไปด้วยความอิ่มเอิบ จนแสดงอาการออกมา พูดง่าย ๆ คือ...ใจ มันกระถูกความสุข ความสงบ ที่ใฝ่หามานาน จนแสดงอาการออกมาทาง...กาย น่ะครับ ถือว่ามาถูกทางแล้วนะครับ..ให้จำช่องทางนี้ไว้ แล้วค่อย ๆ เดินต่อไป คุณทิพย์ บอกอีก....พอปรับใจให้สงบได้แล้ว ก็ตามหาความรู้สึกการเต้น และเสียงของ หัวใจ เหมือนพยายาม..เงี่ยหูฟัง น่ะ พอจับได้ ทั้งการเต้น ทั้งเสียง ก็ตามไปเรื่อย ๆ ใจมันก็เลย...ว่ า ง ผมถามว่า....ว่างไปตลอดเลย เหรอ เธอบอก...บางช่วง มันแว่บ ห่วงลูก .......ความรู้สึกมันวิ่งไปที่มือ ที่แตะตัวน้อง เกรซ ไว้ แล้วก็ได้รู้สึกถึงของการเต้นของหัวใจ น้องเกรซ ด้วย เลยตามดู....หัวใจ ทั้งตัวเอง และของลูก จนกระทั่ง ช่วงหนึ่ง....จังหวะการเต้นของหัวใจ ทั้งสองดวง มันสอดคล้องกัน.... ผมถามว่า...เต้นพร้อมกัน เหรอ เธอบอก...ไม่ใช่ แต่มันเต้นสอดคล้อง ไปด้วยกัน ปรับเข้าหากัน.... แล้วก็ตามดู ตามฟังไปเรื่อย ๆ  ผมถามว่า....แล้วมันยังไง เหรอ เธอนึกแล้วบอก....เหมือนโลกมันดับไป ไม่มีใคร ไม่มีอะไร.... มีแค่หัวใจสองดวง เต้นไปด้วยกัน เท่านั้น ทางคุณเบน บอกว่า....ในตอนเริ่มหายใจแรก ๆ ยัง งง ๆ สงสัย แต่พอบอกกับตัวเอง ว่า....ขอความสงบ สักแปปนึงนะ ไม่ขออะไรมากกว่านี้ แล้วจู่ ๆ หัวใจของเค้าก็เต้น แรง ๆ ๆ ๆ ๆ ...ตุ๊บ..ตุ๊บ...ตุ๊บ....ขึ้นมาเลย ทั้งเสียง ทั้งการสั่นสะเทือน มันชัดเจนมาก เค้าเลย หันความสนใจไปที่...หัวใจอย่างเดียว ลืมหมดทุกอย่าง ลืมแม้แต่...หายใจเข้า ออกด้วย ความรู้สึกของ ชีพจร มันวิ่งไปตามข้อมือ ข้อเท้า ขึ้นที่หัว ไปทั่วตัว...สนุกมาก ผมถามว่า....สนุก เหรอ คุณเบน บอกว่า....ใช่แล้ว รู้สึกสนุกอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง แล้วก็เหมือน...หล่น วูบบบ ลงไป หรือ ลอยละลิ่ว อะไรสักอย่างนี่แหละ เลยตั้งสติ กลับมาที่หัวใจ อีกที ตอนนั้นเค้าได้ยินว่า....ความสงบสุข อยู่ในหัวใจ เค้าอยากจะหาทางเข้าไปให้ได้....แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่...จ้องดูมันเต้น จ้องดูว่าจะมี...ประตูเปิดออกมามั้ย แล้วเค้าก็หัวเราะ หันไปบอกกับคุณทิพย์ว่า....มีความสุข และสนุกด้วย นะ จะด้วยแสงที่ส่องมากระทบ หรือเปล่าก็ไม่รู้  แต่ผมเห็น....ความอิ่มเอิบ เลือดฝาดที่เป็นสีชมพูเต็มหน้าทั้งสองคน คุณเบน แกเป็นคนหน้าตาดี แต่ตอนนี้ยิ่งหล่อเพิ่มหนักขึ้นไปอีก คุณทิพย์ เธอสวยแบบสาวไทยอยู่แล้ว ก็ยิ่งดูสวยสง่า มีออร่าเพิ่มอีก เรานั่งคุยกันรอเวลาให้น้องเกรซ ตื่น ฝรั่งนี่เค้าไม่ค่อยอุ้มลูกไว้กับตัว เหมือนคนไทย แค่คอยดูให้อยู่ใกล้ ๆ ก็พอ คุณเบน ถามว่าที่นี่กำลังมีงานเฉลิมฉลองอะไรกัน ผมอธิบายว่า....การทอดกฐิน จะมีเพียงปีละครั้งเพื่อถวาย ผ้าไตร จีวร ยูนิฟอร์มของ... พระสงฆ์ เพราะจะหาซื้อเองไม่ได้ และมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น ในสมัยที่พระพุทธเจ้า เพิ่งเริ่มตั้งศาสนาพุทธ ท่านให้ไปหา ผ้า มาตัดเย็บเอาเอง โดยจำกัดเวลาการออกหาผ้าแค่ 1 เดือนหลังจาก ออกพรรษา แล้ว โดยไปเอามาจากที่ชาวบ้านเค้าทิ้งแล้ว หรือผ้าห่อศพ ตามป่าช้า พระพุทธเจ้า ท่านวางอุบายไว้ให้ พระสงฆ์ จะได้ไปใกล้ชิด พิจารณา...ซากศพ เพื่อให้ปลงอนิจจัง เกิดความสลด สังเวช ในร่างกายของเรา และให้พิจารณา ว่าวันนี้...ศพ นี้เป็นใคร คนจน คนรวย คนมีอำนาจ มีทรัพย์สิน  จะยิ่งใหญ่ นิสัยโอหัง อวดดี หรือใช้ชีวิตสุดขีดมาแค่ไหน แต่ในที่สุด ก็ต้องมานอน แน่นิ่ง อืดบวม เน่าเหม็น เหมือนกันหมด หรือให้พิจารณา หญิงสาว ที่แสนสวย ผิวกายเนื้อนวลน่าสัมผัส จริต มารยา รอยยิ้ม ทั้งรูปร่าง ที่ผู้ชายหลงไหลนักหนา พอกลายเป็น...ซากผี เปื่อยเน่า บวมพอง มันจะเป็นอย่างไร ยังน่ากอด น่าใคร่อยู่อีกมั้ย ซากศพ ซากผี พวกนี้...ล้วยเคยเป็นคน ที่อยากมี อยากได้ อยากเป็น แล้วพอถึงตอนนี้...สิ่งที่กอบโกย ไขว่คว้าหามาด้วยวิธีการต่าง ๆ นา ๆ มันอยู่ที่ไหน มันเอาอะไรไปได้บ้าง คุณเบน บอกว่า...ไม่มีอะไรเอาไปได้สักอย่าง ผมบอก...ผิดแล้ว สิ่งที่เค้าเอาติดตัวไป คือ...บุญ และ บาป ที่เค้าได้ทำเอาไว้ แล้วถามว่า เคยได้ยินคำ...ปริศนาแบบนี้มั้ย .... สี่คนหาม .... สามคนแห่ .... หนึ่งคนนั่งแคร่ .... สองคนตามไป ทั้งคู่ มองหน้ากันทบทวน แล้วให้ช่วยเฉลย...... ปริศนาธรรม ข้อนี้ พูดถึงคนเราเมื่อเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะ.... - สี่คน หาม....หมายถึง ร่างกาย เนื้อหนังมังสา ประกอบไปด้วย ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ กล้ามเนื้อทั้งหมด คือ ธาตุดิน เลือด หรือของเหลวอื่น ๆ คือ ธาตุน้ำ ลมหายใจ คือ ธาตุลม ความอบอุ่นในร่างกาย คือ ธาตุไฟ - สามคนแห่...หมายถึง เมื่อเราเกิดมาแล้ว เราจะทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ  ตามแรงกระตุ้นของ กิเลส ความ โลภ โกรธ หลง - หนึ่งคนนั่งแคร่....หมายถึง คนเราจะทำ ดี ทำเลว ทำตามที่ ใจ อยากจะทำ - สองคนพาไป....หมายถึง เมื่อถึงเวลาที่ชีวิตจบสิ้น ตายลง ไม่มีญาติพี่น้อง ผัว เมีย หรือคนที่เค้ารักสักคนยอมติดตามไปด้วย ดวงวิญญาณ ของเค้าก็ต้องเดินทางไปพบกับ พระยามัจจุราช เพื่อตัดสิน มีเพียง...บุญกุศล และบาปกรรม ที่คนนั้นทำเอาไว้ มาเป็นพยาน ความดี ชั่วของเค้า ถึงตอนนี้...คุณทิพย์ เข้าใจ ส่วนสามี เบน เม้มปาก ทำตาปริบ ๆ คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพยักหน้าว่าเข้าใจ เมื่อพระพุทธเจ้า ท่านวางอุบายไว้ให้ พระสงฆ์ ได้คิดพิจารณาถึง...ความตาย ต่อมาเกิดปัญหาบางอย่าง ทำให้ติดขัดในการหาผ้า ในช่วงเวลาดังกล่าว ท่านจึงอนุญาต ให้มีประชาชนหาผ้า มาถวายให้กับ พระสงฆ์ ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่อง เวลา....ให้อยู่ภายใน 1 เดือนหลังออกพรรษา แต่ละวัด จะรับผ้ากฐินได้แค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น พระสงฆ์ในวัดนั้น ก็ต้องมีมากถึง 5 รูปขึ้นไป และจะต้องเป็น พระ ที่อยู่จำพรรษาในวัดนั้นมาแล้วครบ 3 เดือน อีกด้วย แถมยังห้ามเจาะจงว่าจะให้ พระรูปใดโดยเฉพาะด้วย นะ แต่...บุญกุศล อานิสงส์ของการถวาย ผ้า ในงานกฐินนี้มีมากหลายอย่าง คือ...ทำให้ ทำมาหากินคล่อง ทรัพย์สินเพิ่มพูน ผิวพรรณผ่องใส มีปัญญา มีชื่อเสียง เป็นที่เคารพยกย่อง ที่สำคัญคือ...คนในครอบครัวจะเชื่อฟัง พอถึงตอนนี้ ทั้งผัวเมีย ตาโตสนใจขึ้นมาทันที ...คงอยากให้อีกฝ่ายอยู่ในโอวาท น่ะสิ ( อ้อ...ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะ ครับ ในปีนี้ ทางวัดป่าอนุสรณ์ หลวงพ่อเตี้ย ท่านกำหนดงาน กฐิน ในวัน เสาร์ อาทิตย์ ที่ 26 - 27 ตุลาคม 2562 นี้ ด้วยจุดประสงค์คือ จะนำเงินที่ได้จากการร่วมบุญกฐินนี้ ไปสร้าง เมรุ เตาเผาศพไฟฟ้า .... เพราะที่วัดป่า แต่เติมใช้วิธีการ เผาสด ไม่เคยมีการสร้าง เมรุ มาก่อนเลย ผู้ที่ร่วมบุญในครั้งนี้ ก็พลอยได้บุญถึง 3 เด้ง คือได้ร่วมทำกุศล กับ พระอริยะ  ได้บุญจากอานิสงส์ กฐิน  และบุญบารมีจากการสร้าง..เมรุ เป็นมรณานุสติ ขอเรียนเชิญ...ทู้กกก ท่านนะครับ วัดนี้อยู่ห่างจากตัวเมือง ขอนแก่น ไปเพียง 45 กม. เท่านั้นเอง  ไปมาสะดวกมาก ที่พักสะดวกสบาย ผมจะได้มีโอกาสพาทัวร์ให้ทั่ว.....วัดป่าอนุสรณ์  หรือถ้ามีโอกาส อาจจะพาไปกราบ หลวงตามหาอนันต์ นิมมโล... พระผู้ประเสริฐของผม ด้วยครับ  พระอริยะ ผู้ประเสริฐ .....เราเกิดมาไม่รู้กี่ภพชาติ ยังไม่มีโอกาสได้พบเจอ แต่ชาตินี้...ผมชี้ทาง พร้อมทั้งบอกใบ้ให้แล้ว เหลือเพียงแต่ ..... วาสนา...ของแต่ละคนแล้ว นะครับ ) อนณ นิศารัตน์ โทร. - ไลน์ 093-149-9564 วัดป่า...มหาสนุก 55 https://pantip.com/topic/39340722   Create Date : 29 ตุลาคม 2562     Last Update : 29 ตุลาคม 2562 21:45:28 น. Counter : 271 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วัดป่า...มหาสนุก 53 วัดป่า...มหาสนุก 53 ( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ ) หลังจาก มร.เบน และคุณทิพย์ เริ่มเข้าใจเรื่อง....วัฏสงสาร  การเวียนเกิด เวียนแก่ เจ็บ ตาย และเริ่มเข้าใจถึง ต้นตอของวงจรนี้แล้วว่า....กิเลส  ความชอบ ความพอใจ.....นี่เอง คือต้นตอของเรื่องราว แล้วสองคนผัวเมีย ก็ขอให้ผมเล่าเรื่องราวของ...เจ้าชายสิทธัตถะ ต่ออีกเถอะ .... หลังจาก เจ้าชาย ได้ค้นพบแล้วว่าตัวต้นเหตุของการเกิด คือ...กิเลส ท่านก็ยังค้นหาต่อไป ว่า...กิเลส มันอยู่ที่ไหน และจะใช้อะไรจัดการกับมันได้ พิจารณาค้นหาที่อยู่ของ กิเลส ตัณหา อุปาทาน จนพบเจอว่ามันแอบซ่อนอยู่ใน...ดวงจิต ของเราเอง คนหนึ่งคน จะมีหนึ่ง...วิญญาณ หนึ่งดวงจิต. โซลล์ จิต... ภาษา บาลี ใจ... ภาษา ไทย โซลล์... ภาษา อังกฤษ ตัวของเรา มี 2 ส่วน คือ...กาย กับ ใจ ใจ...เป็น นาย กาย...เป็น บ่าว หมายถึง ร่างกายทำงานภายใต้การควบคุมของ...ใจ เปรียบเหมือน รถยนต์ กับ คนขับ ผมหันไปถามพวกเค้าว่า....รถยนต์ มันพาเราไป หรือ เราพารถไป เค้าตอบว่า...เรา เป็นคนขับ บังคับพารถยนต์ไป รถยนต์ คือร่างกาย จิตใจคือคนขับ แต่ใน จิตใจ มันมี...กิเลส กับพรรคพวก แอบซ่อนอยู่ เมื่อเจ้าชาย รู้ที่ซ่อนของไอ้ตัวยุ่ง ตัวพาเกิด พาวนเวียนไม่รู้จบสิ้นแล้ว ท่านก็ใช้...ปัญญา วิสด้อมมม เป็นอาวุธฟาดฟัน กิเลส ตัณหา อุปาทาน  จนแตกกระเจิงหนีหายไปจาก....จิ ต ใ จ ของท่าน ฉับพลันนั้นเอง.... เมื่อใจ ที่บริสุทธิ์ หมดจด ทำให้เจ้าชาย ได้กลายเป็น..... พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือที่คนอีกครึ่งโลกเรียกท่าน ว่า....พุทธะ  ซึ่งมีความหมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน รู้แจ้ง.... คือ รู้จริงในทุกเรื่องราวทั่วจักรวาล รู้ความจริง และกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ รู้ตื่น.... คือ รู้ว่ามี อวิชชา คือความโง่เขลา รู้วิธีที่จะปฏิบัติต่อความจริงของธรรมชาติ  รู้เบิกบาน.... คือ สิ้นกิเลส และพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง หรือเรียกได้ว่า...พระองค์ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล เหนือกว่า เทพเทวา อินทร์ พรหม ทั้งมวล การเดินทาง วนเวียนเป็นวงกลม อยู่ใน...วัฏสงสาร ของพระองค์เป็นอันจบสิ้นแล้ว ท่านไม่ต้อง เกิด อีกต่อไปแล้ว..... ซื่งสิ่งที่พระองค์ได้รู้ ได้เข้าใจนั่นคือ....ยาวิเศษ ยาดับความทุกข์ ที่ออกตามหานั่นเอง หลังจากนั้น พระองค์ก็ใช้เวลารวบความรู้ที่ได้ทั้งหมด เอามาเรียบเรียง จัดระบบใหม่แยกเป็นหลายระดับชั้น  สำหรับคนที่ฉลาดมาก และคนที่ปัญญาน้อย เพื่อให้เหมาะกับการสอนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไปทุกอาชีพ ทุกชนชั้น ทุกเพศ ทุกวัย แต่ก็อย่างที่เคยบอกว่า...ท่านไม่ได้สอนทุกคน เลือกสอนเฉพาะบางคน สอนกับคนที่เหมาะสม ให้กับคนที่อยากได้เท่านั้น แล้วท่านก็เริ่มออกเดินทางไปบอกวิธีการดับความทุกข์ ให้กับคนทั้งหลาย เริ่มจากคนใกล้ชิด ที่เคยร่วมบำเพ็ญภาวนามาด้วยกัน ชนชั้นสูง ชั้นผู้นำ พระราชา มหากษัตริย์ พ่อค้า เศรษฐี ที่ต้องสอนชนชั้นสูง ชั้นผู้นำ ก็เพื่อสร้างความเชื่อถือ ศรัทธาให้กับคนทั่วไปซะก่อน แต่...ยาวิเศษ หรือ ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า นั้นลึกซึ้ง ละเอียดอ่อนมากเหลือเกิน มีหลายสูตร หลายสรรพคุณ ต้องปรุงให้เหมาะกับคนไข้แต่ละรายไป แต่มีฤทธิ์ประสิทธิผล เหมือนกันคือ....ลดความเร่าร้อน ดับความทุกข์  และในที่สุดก็ไม่ต้อง เกิด อีกต่อไปแล้ว ผมหยุดพักหายใจ และสังเกตุดูว่า....พวกเค้าสองคน เข้าใจสิ่งที่ผมพยายามบอกเค้ามั้ย แต่คุณ ทิพย์ ถามออกมาทันที.....แล้วพระองค์ได้เอายาวิเศษนี้ กลับไปให้ เจ้าหญิง กับลูกของท่านมั้ย ทันเวลามั้ย ผมรีบบอก....ท่านรีบเอาไปให้กับ คนในครอบครัว และประชาชนของท่านด้วย แต่....ก็ไม่ใช่ทุกคนนะ ที่ยอมกินยาวิเศษ หรือ ธรรมะ คำสอนของพระองค์ บางคนที่เชื่อท่าน กินเลย หายเลย....บางคนต้องให้กินตอนที่ เผลอตัว อ้าปากแล้วรีบหยอดเข้าไป บางคนได้ยาไปแล้ว เอาไปนั่งดูนอนดูอยู่ตั้งนาน กว่าจะยอมกิน และอีกมากมาย ที่ได้ยาไปแล้วไม่ยอมกิน...เพราะยังอยากเกิดมาอีก พวกเค้ากลัวไม่ได้เกิด คุณสามี มร.เบน หัวเราะชอบใจ แล้วค้นกระเป๋าหยิบสมุดโน๊ต กับปากกาออกมา แล้วถามว่า....ธรรมะ ยาวิเศษ ของพระพุทธะ มีตัวยาสำคัญ หรือเนื้อหาหลัก อะไรบ้าง ผมนั่งนึกแล้วบอกว่า....ผมเองก็มีความรู้น้อย มาเป็นลูกศิษย์ของ หลวงตา.....และ หลวงพ่อ....ได้ไม่นาน แต่ท่านสอนย้ำอยู่อย่างเดียว คือ....ใจ  มายด์ เมนทาลิตี้ ดวงจิต และ ใจ  มันอันเดียวกัน แต่คนละเรื่องกัน ....โซล์ แอนด์ มายด์ ตอนที่เรามาเกิด เราเอาวิญญาณ หรือ ดวงจิต มาหาร่างใหม่ เหมือน คนขับ มาหารถคันใหม่ คุณทิพย์ รีบแปล...เหมือน ยู ทำรถคันเก่าพัง แล้ว ยู ก็มาหาซื้อคันใหม่ น่ะ รถคันเก่า คือ ยู ชาติก่อน ... พอคันเก่าพัง ก็เท่ากับ ยู เดทท์ ไปชาติหนึ่ง.... ตัว ยู ก็มาหาซื้อคันใหม่ ก็เท่ากับ ยู เกิดใหม่แล้วในชาติภพใหม่ น่ะ..โอ เค๊ สามีพยักหน้า รีบจดโน๊ต ยิก ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วทบทวน......ถ้าอย่างนั้น ไอ ก็คือ....ดวงจิต โซล์ หรือ ใจ มายด์ อะสิ โอ้ววว เยส..เยสส.......เยสสสส เก่งจริง ๆ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะทำรถพังไปกี่คัน....หรือ ตายไปกี่ชาติ เราก็ยังวิ่งไปหาซื้อรถคันใหม่... หรือ กลับมาเกิดอีก ก็เพราะ...เราชอบ เราปรารถนา หลงไหล กับการได้ขับรถคันใหม่ ๆ ไปเรื่อย ถ้าเมื่อไหร่ เราหมดความชอบ ความหลงไหลในการรถรุ่นใหม่.... เราก็ไม่หาซื้อรถอีกแล้ว เท่ากับ....เราไม่ต้องเกิดอีกแล้ว แต่ในตัวเรา หรือ ดวงจิต นี้มี ใจ ที่เต็มไปด้วย....ความรัก ความเกลียดชัง ความโกรธ ความหลงมัวเมา หรือ กิเลส กับพรรคพวก คือ ตัณหา อุปาทาน เปรียบเหมือนกับ ตัวคุณเบน ไม่ว่าจะเปลี่ยนรถใหม่กี่คัน หรือ เกิดมาครั้งใหม่กี่ที กี่ชาติ ก็ยังพกเอา สิ่งที่ชอบ สิ่งที่เกลียด สิ่งที่หลงไหล มัวเมา นิสัยแย่ ๆ ทั้งหลายติดมาด้วยเสมอ ย้อนกลับมาที่ ธรรมะ หรือ ยาวิเศษ ของพระพุทธเจ้า มีเอาไว้เพื่อ....ขจัดกิเลส หรือลดทอนความรัก ความเกลียด ความมัวเมา ถึงตอนนี้..คุณทิพย์ บอกว่า....ถ้าอย่างนั้นน่าจะง่าย ผมรีบแย้ง....ไม่จริง หรอก ไอ้การไม่เกลียด ยังพอทำได้ แต่การไม่รัก....มันยากยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด เอาที่ง่าย ๆ ก่อน...คุณเบน เลิกชอบ รถตราดาว ทุกครั้งที่เห็นได้มั้ย ล่ะ เค้านิ่งคิด....คงยาก แต่ก็น่าจะหาวิธี หาเหตุผล ข้อเสียของมัน ให้เยอะ ๆ ก็คงจะพอได้ หรือไปชอบยี่ห้ออื่นแทน แล้วผมก็ชี้ไปที่ น้องเกรซ หนูน้อยที่นอนหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ พวกเค้า ถามว่า....คุณไม่รัก น้องเกรซ ได้มั้ยล่ะ ทั้งคู่ส่ายหัว ผมถามอีกว่า....รักเค้า ตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเค้ามองหน้ากัน.....รักตั้งแต่ยังไม่เกิด รักตั้งแต่อยู่ในท้อง เลย พวกเค้าถามว่า...พระพุทธเจ้า ท่านให้ทำยังไง ผมบอก....ท่านสอนให้ พิจารณา มองให้เห็นตามความเป็นจริงของมัน...ไร้ท์ วิว.  ไรท์ อันเดอร์สแตนด์ ยกตัวอย่าง...รถตราดาว อันที่จริงมันก็คือ...เหล็ก ยาง กระจก น้ำ น้ำมัน ไฟฟ้า ฯลฯ มาประกอบกันเข้า หรือ มันก็แค่เครื่องใช้ เอาไว้พาเราไป จากจุดหนึ่ง ไปถึงอีกจุดหนึ่ง....จุดเอ ไป จุดบี แค่นั้น ส่วนที่เหลือมันเป็นแค่...อารมณ์เข้ามาประกอบ หรือที่เรียกว่า...ปรุงแต่ง ทั้งรูปทรง สีสัน ความสะดวกสบาย ความหรูหรา... ถ้าคิดแบบนี้ พิจารณาแบบนี้บ่อย ๆ ทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่เห็นมัน วันนึงคุณคงบอกว่า เอายี่ห้ออื่น ที่มันถูกกว่าก็ได้ หรืออย่างที่ หลวงตามหา...ท่านสอนผมว่า...ให้มองเห็น โทษ ของมันอย่างแท้จริง นั่นแหละ เราจะหมดความรัก ความยึดติดกับสิ่งนั้นได้ และทั้งหลวงตา... กับหลวงพ่อ.... ท่านพูดเหมือนกันว่า ธรรมะ ยาวิเศษ ของพระพุทธเจ้า ทั้งหมดพูดอยู่เรื่องเดียว คือ.... ใ จ  มายด์ ใจ เป็นใหญ่ ใจเป็นที่สุด...แพ้ ชนะ ได้ก็ที่...ใจ มีนิทานอยู่เรื่องหนึ่ง บอกว่า ....มนุษย์เราเคยมี ความสุข มากมาย สุขมาก เลยหลงระเริงมาก...จนทำมันหายไป ตั้งแต่นั้นมา ความทุกข์ก็เข้ามาครอบงำแทน มนุษย์จึงมีแต่ความเครียด ความทุกข์ ความเกลียดชัง แต่บางคนสำนึกได้เร็ว จึงเริ่มออกตามหา...ความสุข ไปทั่วทุกแห่งหน หาไปทั่วทั้งพื้นพิภพ ในป่าใหญ่ ภูเขาสูง เหวลึก ในแม่น้ำ ทะเล มหาสมุทร ตามหาไปในท้องฟ้าอากาศ หาเท่าไหร่ ๆ ก็ไม่เจอ ในที่สุด เมื่อหาไปจนเหนื่อยอ่อน หมดแรงแล้ว....ลงนั่งพัก หายใจเบา ๆ ช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ  ทันใดนั้น เค้ากลับเดินทางเข้าไปภายในตัวเอง ไปจนถึง...หัวใจ ของเค้า พอแหวกเข้าไปดูข้างใน ถึงได้พบว่า.....ความสุข ที่เค้าทำหายไป และตามหาไปจนทั่วทุกแห่ง มาแอบซ่อนอยู่ที่นี่เอง แล้วตั้งแต่นั้นมา เมื่อมนุษย์ต้องการความสุข  เค้าก็จะเดินทางเข้าไปในหัวใจของตัวเอง..... แล้ว....ความสงบสุข ก็จะเกิดขึ้นทันที มร.เบน แกหัวไว ถามว่า....ความสุข อยู่ที่ใจ เหรอ ผมบอก... ความสงบสุข.  พีซซ์ ไม่ใช่ ความสุข  น๊อต แฮปปี้ คุณทิพย์ ถามว่า....การเดินทางเข้าไปในหัวใจ ด้วยการทำสมาธิ  เมดิเทชั่น ใช่มั้ย พอผมตอบว่า ใช่แล้ว พวกเค้าเลยขอให้ผมสอนให้หน่อย.... ผมบอกให้เค้านั่งตามสบายท่าไหนก็ได้... แต่ทั้งคู่สามารถ นั่งท่าขัดสมาธิได้สบาย ๆ  นั่งได้สวยกว่าผมอีก เค้าบอกว่า หัดเล่นโยคะ ด้วยกันมาสักพักแล้ว  เริ่มด้วยการหายใจ สบาย ๆ ตามปรกติไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ ให้ เบาลง....เบาลง......เบาลง.......เบา ลง ให้คอยจับสังเกตุดู....การเต้น ของหัวใจ พยายามให้รู้สึก ถึงการเต้นของหัวใจไปเรื่อย ๆ  พยายามฟังเสียง หัวใจ เต้น น..น...น ตุ๊บ...ตุ๊บบ.....ตุ๊บบบ ให้บอกกับตัวเอง.....เวลานี้ เป็นเวลาเดินทางเข้าไปภายในตัวเอง  เราจะเดินทางเข้าไปในหัวใจ.....ไปตามหา ความสงบ สุข บอกกับตัวเองว่า...ขอเวลานิดเดียว นะ ไม่ห่วงหาอะไร ขอความสงบ แค่....แปป เดียว คุณทิพย์ เธอเอามือข้างนึงวางที่ลูกน้อย อย่างเบา ๆ เพื่อให้รู้สึกถ้า น้องเกรซ ตื่น แต่ก็ยัง...หลับตา หายใจ เบา ๆ ไปเรื่อย ๆ ตามจับความรู้สึกการเต้นของ หัวใจ ไปเรื่อย ๆ พยายามจดจ่อ ฟังเสียงของ...หัวใจ ไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ ในโบสถ์ไม้ หลังเล็ก ๆ ชั่วขณะเวลานั้น... เหมือนกับตัดขาด ออกจากโลกภายนอก มีแต่เพียง กระแสลมพัดอ่อน ๆ กับเสียงระฆัง ที่ชายคาแว่วมาเบา ๆ คนอื่น ๆ หรือใครสักคน ก็ไม่มี เหลือแค่....เรา 4 คน ที่หายใจ...เบา ๆ ไปเรื่อย ๆ ผ่านไป 5 นาที เท่านั้นเอง...คุณทิพย์ เธอจมูกแดง ตาแดง....ขมวดคิ้ว แล้วน้ำตาปริ่ม ไหลลล ออกมา..... ส่วนคุณเบน กลับหลับตา นิ่ง หายเงียบไปเลย ผมหันไปมอง...พระประธาน อธิษฐานขอให้ท่านช่วยนำทางพวกเค้า ด้วยเถิด พวกเค้าหลงทาง..... เวียนตาย เวียนเกิดมานานแล้ว ขอให้พระพุทธองค์ ช่วยนำทางให้พวกเค้า ด้วยเถอะ ครับ.... อนณ นิศารัตน์ โทร. - ไลน์ 093-149-9564 วัดป่า...มหาสนุก 54 https://pantip.com/topic/39338405   Create Date : 29 ตุลาคม 2562     Last Update : 29 ตุลาคม 2562 20:46:15 น. Counter : 262 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วัดป่า...มหาสนุก 52 วัดป่า...มหาสนุก 52 ( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ ) พวกเราทั้งฝรั่ง และไทย พออิ่มหนำสำราญ และสนุกสนานกับการถูกขอถ่ายรูปแล้ว ผมนึกว่าพวกเค้าจะกลับกันเลย... แต่คุณ เบน ฝรั่งสามีกลับขอให้มาอธิบายให้เค้าฟังต่ออีก เลยต้องไปหาที่นั่งคุยกันต่อแบบสบาย ๆ เพราะลูกสาวตัวน้อยท่าทางเหนี่อยจนจะหลับอยู่แล้ว พากันขึ้นไปนั่งคุยกันที่ โบสถ์ไม้หลังน้อย มีลมพัดเย็นชื่นใจตลอดเวลา ส่วนหนูน้อย ก็นอนหลับไปบนพื้นไม้กระดานข้าง ๆ พวกเรา ผมเข้าไปในโบสถ์แล้ว ก็ก้มลงกราบพระประธานด้วยความเคยชิน แล้วทั้ง คุณเบน และคุณทิพย์ ก็ทำตาม แต่...ก้มลงกราบอย่างปราณีต อ่อนน้อม งดงามเท่าที่จะทำได้ พวกเค้ากราบเบญจางคประดิษฐ์ ด้วยส่วนทั้ง 5 คือ เข่า ฝ่ามือ และหน้าผาก...จรดพื้น ช้า ๆ 3 ครั้ง ผมมองแล้ว ทึ่งเลย.... คุณทิพย์ ถามว่า....นิทานเรื่อง เจ้าชายที่เล่าตอนแรก คือ พระพุทธเจ้า ใช่มั้ย ผมก็ตอบว่า...ใช่แล้วครับ เจ้าชายสิทธัตถะ  พวกเค้ามองพระพุทธรูปแล้ว ขอให้ผมเล่าให้ฟังต่ออีก เถอะนะ ผมก็จำไม่ได้ว่าเล่าอะไร ไปถึงไหนแล้ว พวกเค้าช่วยกันทบทวน....เจ้าชาย ไปเห็น คนแก่ คนป่วย คนทุกข์ทรมานรักษาไม่หาย และคนตาย ก็เลยกลุ้มใจ มานั่งคิดว่า....จะหาวิธีช่วยประชาชนของท่าน และคนที่รัก ทั้งพ่อแม่ เจ้าหญิง กับลูกที่เพิ่งเกิดได้ยังไง ก็ไปเจอกับ นักบวช ที่กำลังหาทางแก้ปัญหา ดับทุกข์อยู่เหมือนกัน เจ้าชาย คิดว่าท่านแข็งแรงกว่า ฉลาดกว่า เก่งกว่า ....น่าจะออกไปหา ยาวิเศษ ได้เร็วกว่านักบวชแก่ ๆ แน่นอน ท่านเลยรีบออกจากพระราชวัง ไปตามค้นหาในคืนนั้นเลย พวกเราช่วยกันไล่เรียง ทบทวนเรื่อง.... เจ้าชาย ได้ไปสอบถาม และขอเรียนรู้จากคนที่มีความสามารถที่สุดหลายคน..... ได้ทดลองทำตาม อย่างสาหัส ฮาร์ทคอร์ ยิ่งกว่าคนอื่น ๆ ทั้งหมด อยู่ถึง 6 ปีเต็ม ๆ ....แต่ ก็ไม่ได้ผลสักนิด เจ้าชายจึงเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยเอาความรู้ทั้งหมดมาจัดรูปแบบวิธีการใหม่ ผสมกับไอเดียวิธีการของท่านเอง ท่านใช้วิธี เห็น ผล แล้วย้อนขึ้นไปดู....เหตุ ปลายทางของ ผล คือความตาย...ย้อนขึ้นไปก็เพราะ เจ็บป่วย ก่อนเจ็บป่วย คือ...ความแก่ชรา ก่อนความแก่ คือ....การเกิด เจ้าชาย ไม่ยอมแพ้ ครุ่นคิดต่อไปว่า แล้วไอ้ที่ก่อนการเกิด มันคืออะไร เจ้าชาย ใช้วิธีนั่งลง สงบจิต ปรับอารมณ์ให้คงที่....หายใจเข้า และออก อย่างแผ่วเบาสม่ำเสมอ สงบ นิ่ง นานนนน แล้วมองย้อนเข้าไปใน...จิตใจ ของท่านเอง แล้วเอาสิ่งที่ค้างคาใจ หยิบยกปัญหาที่ติดขัดขึ้นมา พิจารณา ไตร่ตรอง ในฉับพลัน นั้น.....เจ้าชายก็ยิ่งค้นพบ ย้อนขึ้นไป....ย้อนขึ้นไป......ย้อนนน ขึ้นไปเรื่อย ๆ ท่านได้เห็น...อดีตภพชาติ ที่ผ่านมา หลายร้อย หลายพัน หลายหมื่น แสนชาติ เคยเกิดเป็น สัตว์เดรัจฉาน ทั้งสัตว์ป่า สัตว์บ้าน สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์น้ำ เกิดเป็นคน เศรษฐี ลูกเศรษฐี คนยากจน พ่อค้า ชาวนา โจร คนงาน ควาญช้าง หมองู นักยิงธนู ช่างตัดผม มือกลอง นักดนตรี นักกายกรรม คนขี้เหล้า  เกิดเป็น เจ้าชาย พระราชา มหาอำมาตย์ ราชครู ปุโรหิต บัณฑิต กูรู เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เคยเป็น เทวดาชั้นล่างสุด ชั้นกลาง ชั้นสูง ดูแลมหาสมุทร ดูแลอากาศ ไปจนถึงเคยเป็น พระอินทร์ และ พระพรหม  เรียกว่า....เป็นมาครบถ้วน ทุกระดับชั้นแล้ว ทั้งสัตว์ตัวน้อย ตัวใหญ่ เป็นคน เป็นเทวดา เจ้าชายได้พบว่า...ตัวท่านได้เวียนตาย เวียนเกิดมานับครั้ง นับภพชาติไม่หวาด ไม่ไหว หันไปมองดู ชาติภพ ของคนที่ท่านรัก คนที่ท่านห่วงใย ประชาชนคนทั้งหลาย.....ก็เหมือนกัน วนเวียน เกิด แก่ เจ็บป่วย ทุกข์ทรมาน แล้วก็ตาย....แล้วก็เกิด อีก. เกิด อีก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  แล้วอะไรหนอ....ที่เป็นตัวต้นเหตุให้มัวกลับมาเกิดอยู่นั่นแล้ว ต้นทางของ...วงเวียน อันวกวน มันอยู่ตรงไหน และมันคือ...อะไร เจ้าชายต้องการ ตัด วงจรของการ...เกิด แล้วในที่สุด ก็ได้ค้นพบว่า...ตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ที่ทำให้มีการ...เกิด มันคือ.... กิ เ ล ส แล้วตามมาด้วย..... ตั ณ ห า และ..... อุ ป า ท า น พอเล่าถึงตอนนี้....พวกเค้าทั้งสองคน จ้องหน้าผม ด้วยความตั้งใจฟัง และคิดตามอย่างที่สุด ถ้าไม่มี.... กิเลส ตัณหา อุปาทาน ก็จะมีการ....เกิด ไม่มีการ...แก่ชรา ไม่มีการ...เจ็บป่วย ทุกข์ทรมาน ไม่มีการ...ตาย ถึงตอนนี้ทั้งคู่ บอกขอเบรค เพื่อคิดนิดนึง และขอให้ยกตัวอย่างสักหน่อย เอาละสิ....ยังไงดี ล่ะวะ นึกแป๊ปปป นึงแล้วถามว่า....รถของ คุณเบน ตราดาว ใช่มั้ย ....ใช่  ทำไมถึงมีรถ ตราดาวล่ะ .... ก็ไปซื้อมา น่ะสิ ทำไมถึงไปซื้อยี่ห้อนี้ ล่ะ .... ก็เพราะชอบ น่ะสิ ถ้าไม่ชอบ ล่ะ จะซื้อมั้ย .... ก็ไม่ซื้อ สิ ถ้าไม่ชอบจะซื้อทำไม ผมยกมือบอก.....คิด ช้า ๆ นะ ซื้อเพราะ....ชอบ ใช่มั้ย เค้าทั้งสองคน ยืนยันว่า....ใช่ อะสิ ผมจ้องหน้า บอก....นั่นแหละ กิ เ ล ส ความชอบ ความปรารถนา แพซชั่น ดีแซร์ หรืออะไรนี่แหละ เพราะมัน...ชอบ มันถึงได้...ซื้อ ถ้าไม่ชอบ....ก็ ม่าย ซื้อ มร.เบน ย้อนถามว่า....การซื้อ หมายถึง...การเกิด เหรอ ผมว่า....ใช่ แล้ว  เกิดมีรถตราดาว ขึ้นมาในบ้านคุณนี่แหละ ความชอบ นี่คือต้นเรื่องให้ซื้อ ทั้งสองคน คิดตามอย่างเคร่งเครียด.... ผมชี้ไปที่หนูน้อย ที่นอนหลับอยู่.... แล้วถามว่า....น้อง เกรซ ลูกสาวที่น่ารักคนนี้ เกิดขึ้นมาเพราะอะไร ทั้งสองคนมองหน้ากัน...คิดว่าจะตอบผมในมุมไหน ด้วยหลักอะไร ผมรีบบอก เอาแบบง่าย ๆ แต่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ การปฏิสนธิ นะ อันนั้นผมเข้าใจอยู่แล้ว เค้าอมยิ้ม และคุณทิพย์ ตอบว่า....ก็เพราะอยากมีลูก ผมย้ำ....ก็เพราะ อ ย า ก ใช่มั้ย ความอยากมี นั่นแหละคือ...กิเลส หรือ...อยากมี ก็เพราะ ชอบ ใช่มั้ย เพราะ...ความชอบ นี่แหละต้นเหตุ ให้อยากมี พออยากมี ก็เลย....มี น้องเกรซ ขึ้นมา ใช่มั้ย ล่ะ ทั้งคู่พยักหน้า หงึก ๆ ไม่รู้ว่าเข้าใจยังไงบ้าง ผมรีบเล่านิทาน ต่อเลย..... พอเจ้าชาย ได้เจอต้นตอของ กระบวนการเกิด  ท่านก็หาวิธีจัดการกับมันด้วยอาวุธวิเศษ คือ....ปัญญา แล้วผมก็รีบยกมือห้ามถาม...รีบบอกว่า.....มันไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้ง่าย ๆ  ถ้ามันง่ายอะนะ...คงไม่มีตำราที่เรารวบรวมได้ถึง 45 เล่ม 20,000 กว่าหน้า ที่เรียกว่า...พระไตรปิฏก หรอกครับ ผมชวนเค้าลองสรุปกันดู.... เจ้าชาย พยายามหาต้นตอ ของ...การเกิด อันเป็นต้นทางของ ความแก่ เจ็บ ตาย แล้วได้พบว่า มันคือ....ตัวกิเลส นี่เอง แถมมันมีออพชั่นมาด้วยกัน คือ...ตัณหา และ อุปาทาน กิเลส.....ชอบ ตัณหา....อยากได้ อุปาทาน....ต้องเอามาเป็นของเราให้ได้ เห็น รถตราดาว แล้วเกิด....กิเลส ชอบ  ช๊อปปป. ชอบบบบบ ตัณหา.....ความอยากได้ ตามติดมาอย่างรวดเร็ว อุปาทาน....มันต้องเป็นของเรา เราต้องซื้อ เป็นตายยังไง ก็ต้องซื้อมาให้ได้ จ่ายสตางค์ไปแล้ว ได้มาจอดที่บ้าน....นั่นแหละ เกิด มีมันอยู่ในบ้านเรา แล้วก็ขับไป ขับมา ขับไปโน่น ขี่ไปนี่........ทุกวัน แล้วมันก็...เริ่มเก่า เริ่มต้องเข้าซ่อม ใช้ไปนาน ๆ มันก็เก่ามากขึ้น....ซ่อมมากขึ้น จนวันหนึ่งมัน....หมดสภาพ จากกันไป คุณ เบน พบกับ คุณ ทิพย์......ชอบกัน รักกัน นั่นแหละ...กิเลส เมื่อรักกัน ก็อยากอยู่ด้วยกัน....ตัณหา ทนไม่ไหวแล้ว ยังไงก็ต้องแต่งงาน มาอยู่ด้วยกัน ม่ายย งั้นขาดใจตาย......อุปาทาน ถึงแม้อุปสรรค ขวากหนามจะมากมาย แต่แล้วก็หาวิธีแต่งงานกันจนได้.....การเกิด อยู่มานาน ๆ ไปเห็นคนอื่น เค้ามีลูกน้อยน่ารัก เห็นเด็ก ๆ แล้วเกิดความ....ชอบ อีนี่แหละ ตัว....กิเลส แล้วอยากมีลูกของตัวเองบ้าง....ตัณหา ถ้าไม่มีเราก็คงทนไม่ได้.....อุปาทาน และแล้วก็ตั้งอกตั้งใจ ผลิต น้องเกรซ ขึ้นมา......การเกิด ทั้งสองคน ผัวเมีย ฟังไป คิดตามไป....ไม่โต้ ไม่แย้ง นิ่งไปพักหนึ่ง. ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ผม สิ....โค ตะ ระ เหนื่อย เลยครับ กิ เ ล ส     ตั ณ ห า    อุ ป า ท า น  อนณ นิศารัตน์ โทร. - ไลน์ 093-149-9564 วัดป่า...มหาสนุก 53 https://pantip.com/topic/39334420   Create Date : 29 ตุลาคม 2562     Last Update : 29 ตุลาคม 2562 20:44:53 น. Counter : 345 Pageviews.   0 comment Share Tweet

วัดป่า...มหาสนุก 51 วัดป่า...มหาสนุก 51 ( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ ) ปลายปี 2561 ที่วัดป่าฯ มีงานบุญกฐิน ซึ่งเป็นงานใหญ่ มีครอบครัวหนึ่ง พาลูกสาว ที่ไปมีครอบครัวอยู่ใน อเมริกา  ได้สามีฝรั่งชาวคานาดา และลูกสาว 2 ขวบ มากราบหลวงพ่อ.... และท่านมอบหมายให้ผมพาทัวร์ ทั่ววัด พาไปดูสถานที่ โบสถ์ กุฏิ ทางจงกรม สวนป่ารอบ ๆ ทั่ววัด ทั้งสามี ภรรยา ฝรั่งกับไทย ไม่มีใครรู้เรื่อง...พุทธศาสนาเลย ไปทำบุญที่วัดไทย ในอเมริกาหลายครั้ง แต่ก็ไปทำตามประเพณี และตามเพื่อนเท่านั้น พอมาเที่ยววัดป่าฯ ได้เห็นกิจกรรมที่ชาวบ้าน พากันจูงลูกหอบหลานมากันที่วัดเยอะแยะสนุกสนาน ได้เห็น...การกราบ การไหว้ การแสดงออกถึงจิตใจที่มีต่อ พระสงฆ์ ต่อหลวงพ่อ... เค้าจับได้ถึง ความรัก ความเคารพ ความยำเกรง และความสุขบางอย่างที่มันแผ่ออกมากระจายไปทั้งวัด ฝรั่งคานาดา คนสามี เกิดความอยากรู้ อยากเข้าใจใน พุทธศาสนา เลยขอให้ผมอธิบายให้ฟัง ฝ่ายภรรยา สาวไทยแท้ ก็เกิดอยากรู้ขึ้นมาด้วย เพราะทั้งชีวิต บอกใคร ๆ ว่าเป็น พุทธ แต่พุทธตามทะเบียนบ้านเท่านั้น ความรู้ ความเข้าใจอะไรก็ไม่มี  ผมเลยเล่าเรื่องของ เจ้าชายสิทธัตถะ แบบย่อ ๆ พอให้เข้าใจง่าย ๆ คุยกันถึง สิ่งที่เจ้าชายได้บำเพ็ญภาวนา จนย้อนไปเห็น....ชาติภพเมื่อหนหลัง ย้อนกลับไปหลายร้อย หลายพันชาติ เหมือนกับเรา นั่งดูหนังติดต่อกันหลายร้อยเรื่อง...จึงได้เห็นว่ามัน ซ้ำซ้อน มันมีแต่ความทุกข์แทบจะทั้งเรื่อง ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย คลายจาง เจ้าชาย ยังได้มองย้อนไปในอดีตชาติของ คนที่ท่านรัก คนที่ท่านรู้จัก รวมถึงบรรดาสัตว์โลกอื่น ๆ ก็พบว่า แต่ละชีวิต แต่ละดวงจิต มันมีอดีตชาติมากมาย ไม่จบไม่สิ้น....เกิด แล้ว แก่....แก่ แล้วป่วย ป่วย แล้วก็ทุกข์ทรมาน จนในที่สุดก็ ตายดับ....แล้วก็...เกิดใหม่อีกแล้ว แก่อีกแล้ว ป่วยอีกแล้ว ...อ้าว ตายอีกแล้ว อย่างนี้ซ้ำไป ซ้ำมา วนไป เวียนมา เหมือนทุกชีวิตเดินเป็นวงกลม เป็น วัฏจักร หลงทางอยู่ใน.....วัฏสงสาร เจ้าชายสิทธัตถะ ท่านเป็นอัจฉริยะที่ปราดเปรื่อง....ท่านมองหาต้นเหตุ ต้นตอของการหมุนวนนี้ ในที่สุดก็จับได้ว่า.....อะไรคือตัวพาให้เราเกิด จนตามกันไปเป็นวงกลม ไม่มีที่สิ้นสุด พวกเรา ฝรั่ง กับไทย คุยกันหลายเรื่อง.....เมื่อยมือไปหมด คุยกันเป็นชั่วโมง ๆ จนรู้สึกหิว ผมเลยพาเดินมาที่บริเวณลานกว้างหน้าวัด ที่จัดไว้ให้มีการ...ออกโรงทาน ปีนี้มีประมาณ 20 ร้านละมั้ง ทั้งของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม ข้าวขาหมู ก๋วยจั๊บ ข้าวเหนียว ไก่ทอด ไอศครีม กาแฟ น้ำหวาน ฯลฯ จำไม่หมด หนุ่มสาวทั้งคู่เกิดความงุนงงมาก เพราะเค้านึกว่ามีการออกร้าน...ขายอาหาร แต่พอรู้ว่า...ทุกอย่าง ทั้งหมดในบริเวณนี้...ฟรี. ฟรี.  ฟรี พวกเค้ากลับเกิดคำถามมากมาย เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า บรรยากาศมัน...สนุกสนาน ชุลมุนวุ่นวาย ชาวบ้าน คนแก่ หนุ่ม สาว ลูกเล็ก เด็กน้อย เดินวนหาของกินกัน วิ่งเล่นกัน พูดคุยหยอกล้อกัน ทักทายไหว้กัน ส่วนเจ้าของร้าน ก็สาละวนหยิบยื่น ตักใส่ให้กันท่าทางเหน็ดเหนื่อย เพราะชาวบ้านหลายร้อย หรือพันกว่าคนได้ละมั้ง คนรับไม่จ่ายเงิน แต่ยกมือไหว้ ยิ้มแป้นแสดงถึงความขอบคุณ คนให้ก็ไม่เอาเงิน แถมพยายามทำให้อย่างดีที่สุด หยิบยื่นให้พร้อมรับการไหว้ และรอยยิ้มแป้นนั้น  ด้วยในหน้าที่บานแดงไปด้วยความอิ่มเอิบ มีความสุข ยิ่งเห็นคนที่รับไปกินแล้ว...วนกลับมาขอรับอีก กลับยิ่งดีใจเพิ่มเข้าไปอีก พวกเราเดินหาของกินที่ถูกใจกันได้ครบ ทั้งของคาว ของหวาน และน้ำดื่ม อย่างสนุกสนาน มานั่งกินกัน ใต้ต้นไม้ไม่ห่างจากบริเวณนั้นมากนัก ฝรั่ง มร.เบน สามีหนุ่มรูปหล่อถามว่า....ของพวกนี้เค้าให้เรา ฟรี ๆ จริง ๆ เหรอ หรือว่าเราต้องไปหยอดเงินบริจาค ให้เมื่ออิ่มแล้วทีหลัง...... ผมบอก...ฟรี จริง ๆ ไม่ต้องวอรี่ กินให้อร่อยเถอะ แต่เค้ากลับ กินไม่ค่อยลง เพราะความระแวง...... ผมเลยต้องชี้ให้ดู พร้อมอธิบายว่า....ร้านทั้งหมดนี้ เกิดจากความต้องการทำบุญกุศล  ที่เรียกว่า... ทาน หรือ การให้ การแบ่งปัน ชาวพุทธ เชื่อในคำสอนของ พระศาสดา ว่า การแบ่งปันส่วนที่เกินความจำเป็นในชีวิต ให้กับคนอื่น ๆ ที่เค้าอยากได้นั้น จะทำให้เรามีความสุข ที่เรียกว่า...บุญ กุศล บุญกุศล นี้มันจับต้อง หรือหยิบเอาให้ดูไม่ได้....แต่คนที่เค้าทำ เค้าได้ เค้าจะรู้สึกด้วยตัวของเค้าเอง มร.เบน ทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจ ผมเลยบอกว่า...บุญ ก็เปรียบเหมือน....อ๊อกซิเจน หรือโอโซน กันบริสุทธิ์ น่ะ ถ้าใครได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์เข้าไป ก็จะเกิดความรู้สึกสดชื่น ดีต่อร่างกาย ส่งผลไปถึงจิตใจด้วยใช่มั้ย อีทีนี้ เค้าเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง ผมบอกต่อ...แต่ บุญกุศล มันกลับกันนะ ..... มันให้ความรู้สึกที่ จิตใจ แล้วไปส่งผลถึงร่างกาย ความสุขจาก...การให้ มันเป็นความสุขที่ทำได้ง่ายมาก ๆ  ดูตัวอย่างจากร้านพวกนี้ เจ้าของเค้าต้องเสียค่าใช้จ่าย ซื้อของมาทำอาหารแจก ประมาณ 5,000 - 10,000 บาทเท่านั้น แต่คุณมองดูพวกเค้าสิ มองเข้าไปในแววตา ของพวกเค้าขณะที่หยิบยื่นให้ น่ะ...มันเป็นยังไง เห็นความสุขของพวกเค้า มั้ย ...เห็นใบหน้าที่ บาน แดงไปด้วยความ..อิ่มเอิบ นั่นมั้ย คุณว่าช่วงเวลานั้น...จิตใจของเค้าจะเป็นยังไง มร.เบน มองตามแล้วบอก....เค้าคงจะมีความสุขมากนะ จากที่เห็น ผมถาม....แล้วคุณว่า หัวใจ เค้าจะเป็นยังไง มร.เบน...ก็คงพองโต สูบฉีดเลือดอย่างแรง ผมบอก...ใช่แล้ว ถ้าหัวใจเค้าพองโต เลือดวิ่งพล่าน สารอะดรีนาลีน หลั่งออกจากสมอง ทั่วร่างกายได้รับเลือดถึงกันหมดใช่มั้ย นั่นแหละ...สุขภาพของพวกเค้าก็จะดีขึ้นทันตาเห็น เพราะ....สารอะดรีนาลีน คือยาวิเศษ เค้าพยักหน้า บอกว่า...ใช่แล้ว เคยอ่านพบว่า... สารอะดรีนาลีน คือสารหลั่งความสุข จะออกมาจากสมองได้ ในช่วงเวลาที่ ออกกำลังกาย หรือ ทำสมาธิภาวนา ไปถึงจุดหนึ่ง ผมบอกว่า....ใช่แล้ว เราเรียกว่า ปิติสุข มันจะซาบซ่านไปทั่วร่างกาย แต่ต้องระวังเพราะมันเสพติดเหมือนกัน ผมถามต่อ....คุณว่า ระหว่างคนให้ กับคนที่รับ....ใครมีความสุขมากกว่ากัน คราวนี้สองผัวเมีย ปรึกษากัน....น่าจะคนให้นะ  เพราะคนรับมีเพียงคนเดียวต่อหนึ่งครั้ง อย่างมากทั้งขนมและเครื่องดื่มก็ 3 ครั้ง แต่คนให้ จะให้กับคนเป็นร้อย เป็นพันคน ....เค้าน่าจะได้รับความสุขเป็นร้อย ๆ เป็นพัน ๆ ครั้ง แล้วเค้าก็บอกว่าอยากจะทำบ้างเหมือนกัน แต่คงจะเสียเงินมากพอดู ผมเลยบอกว่า....คนที่เค้าให้ เค้าไม่ได้รู้สึกว่า เงินมันเสียไป สูญไปเปล่า ๆ นะ ชาวพุทธเราเชื่อกันว่า...เงินทอง ที่เราทำบุญให้ทานไป มันไปสะสมไว้ในที่แห่งหนึ่ง เหมือนเอาไปฝากธนาคารไว้ เมื่อถึงเวลา เงินทองพวกนั้น จะออกดอกออกผลอย่างมากมาย กลับมาตอบแทนให้เรา ผมยังบอกอีกว่า....บุญกุศล ของการทำด้วยเงิน 100 บาท กับ 1 ล้านบาท อาจจะเท่ากันก็ได้ ฝรั่งกับเมียไทย มองหน้ากัน...มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมบอก....ก็เพราะความสุข จากการให้ การทำบุญมันไม่ได้มีหน่วยวัดแบบสากล แต่...มันใช้ ความรู้สึกของ หัวใจ ที่เรียกว่า...เจตนา เจตจำนงค์ เป็นเครื่องวัดต่างหากล่ะ พวกเค้า นิ่งคิดตาม ผมย้ำว่า....คนที่มีเงิน 1,000 ล้าน แล้วบริจาค 1 ล้าน เมื่อเทียบกับคนที่มีเงินแค่ 1,000 บาทเท่านั้น แต่กล้าบริจาคถึง 100 บาท...ใครใจถึงกว่ากัน ล่ะ คราวนี้ทั้งสองคนผัวเมีย..ตาโต พยักหน้าหงึก ๆ ร้อง เยส ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เมื่อฝรั่งเข้าใจแล้ว ก็เลยกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย หมดแล้วยังเดินไปขออย่างอื่นเองเลย พวกชาวบ้านก็สนุก ที่เห็นมีเขยฝรั่งมาเดินขออาหาร เครื่องดื่ม พยายามทักทาย ฮัลโหลล ...ฮัลโหลลลล ส่วน มร.เบน กลับยิ่งสนุก ยกมือไหว้เค้าไปทั่ว ถึงจะฟังกันไม่รู้เรื่อง...แต่ จิตของผู้ให้ กับใจของผู้รับ มันถึงกันได้ ระหว่างนั้น คุณทิพย์ ภรรยาสาวของเค้าบอกกับผมว่า....ดูคุณ เบน แกชักสนุก ดูมีความสุขมากเลย อันที่จริง เค้าสนใจศาสนาพุทธของเรามานานแล้ว ถามบ่อย ๆ แต่ตัวเองก็ไม่มีค่อยเข้าใจ อธิบายไม่ถูก มาวัดครั้งนี้ ได้ความรู้ไปเยอะเลย ค่ะ..... มร.เบน เดินไปซะนาน กลับมาพร้อมของกินหอบใหญ่ เค้าหัวเราะร่า บอกกับเมียว่า....เหมือนซุปเปอร์สตาร์ เลยนะ มีแต่คนมาขอถ่ายรูป เจ้าของร้านต่าง ๆ ก็มาฉุดมือแย่งให้ไปชิมของร้านโน้น ร้านนี้จนอิ่มเลย อ่ะ.... แล้วยังมีคนหนุ่มสาว มายืนเมียง ๆ มอง ๆ พวกเราอีกต่างหาก...คงเพราะ เค้าหน้าตาดีมาก รูปร่างนักกีฬา หล่อล่ำ จนมีชาวบ้านที่สนิทกัน มาถามผมว่า....ฝรั่ง กับ อีนางเมีย เค้าเป็น ดารา เล่นหนัง...ใช่ บ่ ผมก็หัวเราะ ถามว่า...ไปเอาข่าวมาจากไหน ชาวบ้านคนนั้น บอกว่า....มีเด็กหนุ่ม ๆ สาว ๆ เค้าฟังภาษาอังกฤษออก เค้าได้ยินผมคุยกันเรื่อง....เล่นหนังมา 10 เรื่องแล้ว ผมยืน งง อยู่พักนึง แล้วก็นึกขึ้นได้ หัวเราะก๊ากก เลย ตอบว่า....ใช่ ๆ เล่นมาเป็นร้อย ๆ เรื่องแล้ว อีทีนี้เข้าใจแล้ว ว่าทำไมมีคนมายืนแอบมองพวกเรา หันไปเล่าให้ คุณทิพย์ เมียเค้าฟัง....เธอ หันไปแปลให้สามี เลยหัวเราะกันใหญ่ สนุกกันใหญ่ ป้าดโธ่ เอ้ยย...ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด แท้ ๆ แต่....ข่าวลือนี่มันไปเร็ว จริง ๆ   อนณ นิศารัตน์ โทร. - ไลน์ 093-149-9564 วัดป่า...มหาสนุก 52 https://pantip.com/topic/39332192   Create Date : 29 ตุลาคม 2562     Last Update : 29 ตุลาคม 2562 20:42:37 น. Counter : 283 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• tobeteam
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com