กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 

วัดป่า...มหาสนุก 11

วัดป่า...มหาสนุก 11

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

มาฟังเรื่องของ...หลวงตามหาฯ ต่อนะครับ

ท่านบวชเมื่ออายุ 20 ปี
ช่วง 3 ปีแรกก็อยู่ที่...อีสาน
หลังจากนั้นเข้ากรุงเทพ ไปเล่าเรียนจนได้ถึง เปรียญธรรม 8
แต่กลับพบว่า...เรียนไปเท่าไหร่ก็ยังไม่พ้นทุกข์ซะที ลองคิดใหม่ ทำใหม่
ไปชอบแนวทางของ....หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พ่อแม่ครูอาจารย์ สายพระป่า
จะเอามาปรับใช้ โดยวางการเรียนทาง...ปริยัติฯ หันมาเน้นทาง...ปฏิบัติฯ 
แต่ติดว่า...สถานทีไม่เอื้ออำนวย ไม่สัปปายะ
พอดีกับทางบ้านของท่าน อ.กมลาไสย ชาวบ้านกำลังต้องการ สมภารเจ้าวัด ที่เข้มแข็งและรอบรู้
ท่านจึงยอมรับนิมนต์กลับมาที่...วัดเกษมาคม. วัดที่ท่านบวช นี่เอง

แต่พอมารับหน้าที่อันหนักหนาแล้วก็ได้พบว่า....วัด มันไม่เป็น วัด
ท่านจึงต้องหาวิธีพัฒนาทั้ง สถานที่ และคนทั้งหมด
โดยเอา พระบรมศาสดา เป็นตัวอย่าง

ท่านเล่าให้ผมฟังว่า...พระ ในวัดแบ่งออกเป็นก๊ก เป็นแก็งค์ แย่งอำนาจและผลประโยชน์
ถึงแม้ท่านจะเป็น ลูกบ้านนี้ บวชที่วัดนี้....แต่ห่างหายไปถึง 25 ปี
วัตรปฏิบัติ ที่ทำกันอยู่ก็หย่อนยาน มั่วซั่ว  สถานที่ก็ รก สกปรก ไม่มีความเป็นระเบียบ
ท่านค่อย ๆ จัดการฟิตเครื่อง กระชับข้อวัตรปฏิบัติ เป็นตัวอย่าง....ทำให้ดู อยู่ให้เห็น
ถือหลักว่า...ทำให้ดู คือครูที่ดี
ในตอนแรก บรรดาพระเก่า พระแก่ ทั้งหลายเค้าก็คนที่นี่ หรืออยู่มานานจนเคยชินกับความสบาย และถือเอาพวกมากเข้าว่า
วัด...กลายเป็นที่ซ่องสุมของ นักเลงสารพัด ทั้งอบายมุข มหรสพ สารพัด
เจ้ามือไพ่ ไฮโลว์ อาศัย....งานศพ บังหน้า เปิดบ่อนอย่างเมามัน ทั้งเหล้ายาปลาปิ้ง เลี้ยงดูกันสนุกไป
งานบุญ งานเรี่ยไร เข้าย่ามใคร ย่ามมัน แถมเครื่องรางของขลัง รุ่นเราซู่ รุ่นกรูเจ๋ง
พระหมอดู คู่หมอเดา....เอ๊า ดวงตก ดวงแตก ดวงบิ่น ต้องไปที่กุฏินี้ เป่าน้ำหมาก รดน้ำมนต์ เรามีบริการวันสต๊อปเซอร์วิส
อยากร่ำ อยากรวย อยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น...ก็ต้องถวายถังเหลือง ไม่ต้องกลัวเปลือง เราใช้ถังวน เวียน
วันดี คืนดี เรามีมหรสพ ทั้งรำวง รำเดี่ยว หมอลำ ลูกทุ่งเถิดเทิง ลิเก ลำตัด สารพัดจะสรรหามาน้อมสนอง
มีแต่เรื่องเชิญชวนเที่ยว...ทำบุญปิดทององค์พระมาลัย ก่อพระเจดีย์ทรายร่วมกัน
แทะไหมฝัน ดูรถไต่ถัง หยอกเย้าบนชิงช้าสวรรค์ ถ่ายรูปร่วมกันกินขนมจีนข้างทางงงงงง

หลวงตามหาฯ ท่านเป็นพระ...รูปร่างสูงใหญ่ สง่า น่าเกรงขาม
ทั้งจิตใจก็หนักแน่น มีพระพุทธเจ้า มีพระวินัย อยู่เหนือหัวใจ
แต่...ไม่บุ่มบ่ามผลีผลาม
ท่านค่อย ๆ แซะตัด คัดแต่ง เอาสิ่งเหลวไหล อบายมุขออกไปทีละอย่าง สองอย่าง
งานศพ งานเมรุ ต้องมีเทศน์ ไม่มี...เหล้ายา การพนัน
งานบวช เอาแต่เนื้อหาพากันเวียนรอบโบสถ์ สวด...อิติปิโส ...ม่ายเอาแตรวง สิงโต นางรำ เถิดเทิง
บวชเข้ามาแล้ว ต้องเรียน ต้องทำกิจวัตร 10 อย่างไม่ย่อหย่อน ....ถ้าไม่ไหวกรุณาไปวัดอื่น
ผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่เคยยื้อแย่งกัน ท่านไปสรรหา....โยมที่มีบารมี มีคนเคารพ ครูใหญ่ ครูของคนแถวนี้มาช่วยดูแล
ไม่มีใครเคยชิน กับวิธีของ หลวงตามหาฯ ...แต่ขัดท่านไม่ได้ ท่านทั้งดุ ทั้งน่าเกรงขาม ความรู้ก็แน่นเปรี๊ยะ เถียงยังไงก็ไม่ชนะ
บรรดา พระ ที่เหลวไหลมั่วซั่ว อดทนไม่ไหว ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไป
ได้แต่หันมามอง แล้วรำพึง....ครั้งหนึ่ง ครั้งหนึ่งจำได้หรือเปล่า
วันนี้ไม่มีงานเหมือนเก่า งานวัดมีแต่ความว่างเปล่า .....หมดกัน

ในช่วงแรก ๆ ที่ท่านค่อย ๆ ปฏิวัติเงียบ ซึมลึก...ทีละนิดดด ทีละน้อยยยย ทำให้มันเป็นจริง
ชาวบ้านสายฮา สายเฮ สำมะเลเทเมาก็ไม่ชอบใจ มาบ่นมาว่า....วัดเป็นของ ประชาชน เอาความมันส์ของเรากลับมา
แต่หลวงตามหาฯ....ท่านมีความสามารถพิเศษ มีปาฎิหารย์ด้าน...อนุศาสนีปาฏิหาริย์
ฉลาดหลักแหลม มีวาจามหัศจรรย์ สอนแสดงความจริงให้ผู้ฟังรู้ เข้าใจ มองเห็นความจริงเป็นอัศจรรย์ สามารถนำมาทำ มาปฏิบัติตามได้
ท่านนำเสนอการสรรสร้างความสุข ความสนุก และความบันเทิง..ในรูปแบบใหม่
คือ...การฟังธรรม อย่างเพลิดเพลิน ฟังแล้วสนุก สุขในธรรม
คำเตือน...โปรดระวัง ฟังธรรมจากท่านแล้วมีอาการ...ติดงอมแงม ไม่อิ่ม ไม่พอ ขออีก..ๆๆๆๆ
ท่านใดไม่เชื่อ ไปลองหามาฟังดูเองแล้วจะเข้าใจ

หลวงตามหาฯ ... ณ กมลาไสย ท่านเป็นนักเทศน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
คิวยาว จนลูกศิษย์ใกล้ชิดพยามยามขอให้พักเสียบ้าง
โธ่ ก็เป็นห่วงสังขาร อยากจะรักษาเอาไว้ให้นาน.น..น...ที่สุด
แต่ท่านก็เมตตาไม่มีประมาณ ใครนิมนต์ไปเทศน์ที่ไหน ท่านก็ไปหมด
เป็นที่รัก ที่เคารพเทิดทูนของสาย....พระป่า ทั่วอีสาน

ท่านเล่าให้ฟังว่า ใช้เวลาเป็น 10 ปีเชียวนะ กว่าจะปรับเปลี่ยนให้เข้าที่เข้าทางที่ควรจะเป็น
กาลเวลาผ่านไป ทุกวัน ๆ ท่านก็ทำให้ดูว่า...การอยู่อย่างเรียบง่ายแบบนักบวชเป็นอย่างไร
เอาวิธีการธุดงควัตรของ พระป่า มาปรับใช้ ต้องบิณฑบาตทุกวัน
พายุฟ้าคะนอง ฝนตกฟ้าร้อง ยังไงถ้ายังเดินได้ ก็ต้องไป
การฉันแค่มื้อเดียว เรียบง่าย...ไม่มีพุทธพาณิชย์ หลงเหลือ
มีแต่...พุทธะ มีแต่ พระนิพพาน เป็นอารมณ์ตลอดเวลา

กุศโลบายบางอย่าง ...ท่านทำอย่างเฉียบขาด ดุดัน
ตัวอย่างเช่น วัดของท่านเป็นหัวใจของ อ.กมลาไสย
หน่วยงานราชการ จะมาขอใช้สถานที่เป็นประจำ สารพัดงานสารพัดเรื่อง
งานที่แน่ ๆ และวุ่นวาย คือ...การเลือกตั้ง ทั้งเลือกเล็ก เลือกใหญ่
ส ส . สว. สจ. อบต. อะไรอีกมากมาย ต้องระดมข้าราชการทุกฝ่ายทุกชั้นมาช่วยกัน
พวกเจ้าหน้าที่ กรรมการ ดูแลหีบบัตร ในรุ่นก่อนที่ท่านจะปฏิวัติเงียบ
มักจะได้แต่พวก...นักเลงหัวไม้ ขี้เหล้า ผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวาง ทั้งนั้น
มาใช้สถานที่ของวัดท่าน แต่เอาเหล้ายาปลาปิ้งมาเลี้ยงดูกันเอิกเกริกสนุกสนาน
ก่อนเลือกตั้ง ก็เลี้ยงเอาใจ  พอเลือกเสร็จก็เลี้ยงฉลอง
เลี้ยงกันในวัดนั่นแหละ....วัดเป็นของกลาง ของ กรู ผู้กว้างขวาง
เมื่อท่านมาเป็น สมภาร ผู้นำในที่นี้ ท่านไม่ยอมอ่อนข้อให้กับ..อบายมุข ประตูสู่นรก ทั้งหลาย
ถ้าเห็นเมื่อไหร่ ได้มีเอะอะ อาละวาดเอาเรื่องอย่างจริงจัง

ท่านจะเรียกหัวหน้า หน่วยงานที่ขอใช้สถานที่มา เฉ่ง...แถมเทศน์อีกชุดใหญ่ ๆ
....เป็นข้าราชการ คือข้าของแผ่นดิน เป็นคนที่ในหลวงท่านทรงไว้วางพระทัยให้มาดูแลทุกข์สุขชาวบ้าน 
คัดเลือกมาแล้วว่าเป็นคนดี คนที่นำพาสังคมไปสู่ความถูกต้อง 
เปรียบเหมือน พญาราชสีห์ ผู้เป็นจ่าฝูงนำพาพวกเค้าไปสู่ความเจริญ 
แต่นี่กลับมากินเหล้า เมายา ถึงในวัด....
คนเป็นผู้นำ..ต้องรับผิดชอบใน บริวาร ทุกคน ต้องเอาใจใส่ดูแลพวกเค้า ครอบครัวของเค้า 
ให้อยู่ดีมีสุข ชี้นำไปในทางที่เจริญขึ้น ไม่ใช่ถือว่าเป็นขี้ข้าบริวาร ใข้แต่งานไม่ต้องรับผิดชอบ
แถมยังมากินเหล้า ในวัด...อันเป็นที่อยู่ของ พระพุทธเจ้า
เอาสิ่งชั่วร้ายมาแปดเปื้อนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซะเอง
รู้บ้างมั้ยว่า...บริวารทำผิด เจ้านายต้องรับโทษที่หนักกว่า .................................. ฯลฯ
โอ๊ยยย. ใครโดนท่านเล่นงาน..ถือว่า ซวยสนิท
ท่านจะยกความผิด ทั้งทางโลก และทางธรรม ขึ้นมาให้ดู

เคยมีครั้งหนึ่ง เหตุการณ์คล้ายกันแบบนี้...หลวงตามหาฯ ท่านไล่ให้เก็บของออกไปทันที
มีไอ้นักเลงตัวแสบที่ดื่มในหน้าที่ กำลังมึน...ตะโกนสวนออกมาต่อหน้าคน
....เดี๋ยว กรูก็จะ ฆ่า พระให้ดูซะหรอก
พวกเพื่อน ๆ ที่อยู่ตรงนั้นรีบเอามืออุดปาก ห้ามปราม ....
หลวงตามหาฯ ท่าน รูปร่างสูงใหญ่ ตอนนั้นอายุก็ยังไม่มาก....ก้าวสามทีถึงตัว คว้ามือไอ้คนเมาปากดี
กระชากดึง และดันไปติดกำแพง.....
....จะฆ่าพระ เหรอ รู้จักนรกมั้ย รู้จักบาปบุญคุณโทษ บ้างหรือเปล่า............
เวลาท่านเอาจริง ลูกศิษย์ใกล้ชิดเคยบอกผมว่า....น่ากลัวมาก ถึงมากที่สุด
พลังจิต ของท่านเข้มแข็ง....อย่าว่าแต่คนอย่างเรา ๆ เลย แม้แต่ ผีสาง เทวดา ยังต้องกลัวท่าน เกรงในธรรมของท่าน
อย่าลึมนะครับ มนุษย์ คนไหนที่กล้าตัดสินใจ...ก้าวเดินเข้าหา พระนิพพาน อย่างไม่หยุดหย่อน
พลังจิต กำลังใจของมนุษย์พวกนี้....ฟ้าดิน ยังยอมหลบให้
แล้วนี่แค่...คนเมา นักเลงหัวไม้   พวกเพื่อน ๆ ขี้เหล้าตกใจหน้าซีด...
ส่วนไอ้เจ้าคนที่ ท่านกระโดดคว้าแขน กระชากไป กระชากมา...ถึงกับทรุดลงนั่งยอง ๆ ยอมกราบแล้ว กราบอีก
ท่านเล่าให้ฟังว่า...ตอนนั้นทนเห็นคนมากินเหล้า ต่อหน้าพระพุทธเจ้า ไม่ได้เด็ดขาด....ท่านยอมตายยยย

ไม่มีใครรู้ว่า หลวงตามหาฯ ท่าน ดำเนินการมากมายหลายอย่าง เพื่อปรับเปลี่ยน...วัด
บางอย่างอดทนทำไปทีละเล็กพลน้อย บางอย่างต้องทำอย่างรวดเร็ว จริงจัง ฉับไว
แต่บางอย่างท่านก็.......แอบทำ ไม่ให้ใครรู้

ที่วัดของท่านแต่โบราณกาล มีศาลผี ศาลปู่ตา ที่ชาวบ้านงมงาย นับถือ...ผี มากราบไหว้บูชาเป็นประจำ
ทุกปีจะมีการ จัดขบวนมาเส้นสรวง อัญเชิญไปแห่กันรอบอำเภอ กมลาไสย
หลวงตา ท่านขัดอกขัดใจ...ผี ผู้มีอิทธิพลตนนี้นักหนา. 
ท่านไปยืนพิจารณาอยู่หลายครั้ง แล้ววางแผนไว้ในใจ
ในที่สุดคืนนึง เมื่อปลอดคนดีแล้ว ท่านตรงเข้าไปอุ้มเอารูปปูนปั้นผี ที่น่าจะมีการฝังรูปฝังกระดูก เสกเป่าไว้
แล้วอธิษฐานจิต บอก...ไปผุดไปเกิดซะนะ อยู่อย่างนี้ไม่มีอะไรดี กับตัวเจ้าเลย
มันนำพาให้คนหลง...งมงาย ให้เป็นบาปกรรม กับเจ้าอีกด้วย
บอกเสร็จแล้ว ท่านก็เอาไป...โยนทิ้ง
จากนั้นก็เอา...พระพุทธรูป ปูนปั้นที่เตรียมไว้  ไปแทนที่
เอาผ้าแพร 5 สีมาพัน ผูกเป็นโบว์สวยงาม แล้วจัดแจงทำความสะอาด...ศาลปู่ตา 
ที่กลายสภาพเป็น พระ ไปแล้วให้เรียบร้อย สะอาดสะอ้าน เหมาะสมกับเป็นที่สถิตย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คนที่เคยมากราบไหว้ ก็แปลกใจ...หลวงตาสมภาร ท่านลงมือทำเองเลยนะเนี่ย
พอนานวันเข้า ผ้าแพรก็ค่อย ๆ หลุดออกทีละนิดละหน่อย ๆๆๆ ...ค่อย ๆ เผยพระพักตร์ของ...พระพุทธรูป
ไอ้พวกที่...งมงาย มันไม่เคยดู เคยพิจารณามาก่อนว่ากำลัง ไหว้อะไร
มีแต่ก้มหน้า ก้มตา ขอโน่นขอนี่ ไม่เคยรู้เลยว่า..ผี ที่เคยไหว้วอนบูชาน่ะ โดนไล่ไปซะนานนน แล้ว
ทุก ๆ ปี ก็ยังมีการมาบวงสรวง อัญเชิญไปแห่แหนรอบเมือง โดยไอ้คนที่มาทำพิธี ก็เปลี่ยนคน เปลี่ยนหน้ากันไปตามกาลเวลา
ไม่มีใครสักคนจำได้ ว่าเคยมาอุ้มอะไร ไปแห่...
แต่พอ รุ่นหลัง ๆ มาอัญเชิญเห็นเป็น พระพุทธรูป องค์งามดูเข้มขลัง
การแห่ การทำพิธี ก็ไปในทางที่เหมาะสมขึ้น นอบน้อมมากขึ้น
ชาวบ้านร้านตลาดที่ตั้งตาคอย เมื่อได้เห็น องค์พระ ที่เข้มขรึมงดงาม ก็ชื่นใจ น้อมจิตไปในทางสว่าง
พอมีใครสักคนเริ่มสวด...อิติปิโส ภควา...........
คนอื่น ๆ ก็สวดตาม..ค่อย ๆ ดังขึ้นทีละน้อย ๆ จนชัดเจน 
เอ๊ะ..คนอื่นเค้าสวด...อิติปิโส กันชั้นก็สวดเป็นนนน ชั้นสวด ด้วยยยยยยยย
สวดแข่งกันกระหึ่มไปตลอดเส้นทาง
ทุกปีที่เค้าแห่กัน หลวงตามหาฯ ก็จะอมยิ้มอยู่คนเดียว นึกถึงปฏิบัติการลับอันแยบยล ในคืนนั้นทุกครั้งเลย

วัดของท่านทุกวันนี้ มีแต่ความสงบ ร่มเย็น
ลูกศิษย์รุ่นใหม่ ๆ ที่เข้ามา ก็เป็นพวกมี ปัญญา  ส่วนรุ่นเก่า ๆ ที่มีแต่ปัญหา ก็ห่างหายล้มตายไปหมด
ตอนเช้าจะครึกครื้น ไปด้วยการถวายจังหัน ฟังท่านสวดมนต์เช้า แล้วออกไปทำมาหากินกันไป
คนที่มาวัด มาสวดมนต์น่ะ...ทำผิดบาป ไม่เป็น ทำไม่ลงแล้ว มีแต่ตั้งหน้าเดินไปในทางสุจริต มีแต่ความเจริญขึ้นทุกขณะ
ตอนเย็น จะมีพวกสายฮาร์ดคอร์ เอาจริงเอาจัง...ตั้งหน้าเดินตามกระแสพระนิพพาน
มารวมตัวกัน ให้หลวงตาท่าน พาสวดมนต์เย็น ปฏิบัติฯ สมาธิภาวนา อีก 1 - 2 ชั่วโมง จนดึก ทู้กกกกก วัน

หลวงตามหาฯ... ท่านเป็นพระ ที่ไม่ถือตัว ไม่ถือยศถือศักดิ์ ใคร ๆ ก็เข้ามากราบพบท่านได้ง่าย ๆ
ทั้งพระบ้าน และพระป่า ให้ความเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน
พระอริยะ พระผู้ปฏิบัติดี จะหาช่วงเวลามากราบท่านอยู่เสมอ
ใครที่ติดขัดปัญหา ข้อธรรมะ ต่อให้ยากแสนยาก ท่านก็ชี้แนะเฉลย ตีแผ่อธิบายให้เข้าใจได้อย่างง่ายดาย
เรื่องอิทธิฤทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์ ท่านบอก...ไม่มี๊..ม่ายมี
แต่...ผมได้เห็นกับตา รู้กับใจ โดนกับตัวเอง หลาย ๆๆๆๆ ครั้ง
เตือนไว้ก่อนนะครับ....พลังความเมตตาของท่าน แผ่ซ่าน เปล่งออกมาแรงมากจนเรารู้สึกได้
เวลาไปนั่งอยู่ต่อหน้าท่าน ให้ระวังจิต สงบใจให้ดีเชียวแหละ
ม่ายยย อย่างนั้น จะหลงรัก และรับท่านเข้าไว้...เต็มหัวใจ
โปรดฟังอีกครั้ง...นั่งต่อหน้าท่าน ต้องระวังใจให้ดี
มิฉะนั้นคุณจะทำบาปไม่ลง อีกต่อไปแล้ว......

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่ามหาสนุก 12
https://pantip.com/topic/39187928




 

Create Date : 04 กันยายน 2562    
Last Update : 4 กันยายน 2562 18:17:36 น.
Counter : 267 Pageviews.  

วัดป่า...มหาสนุก 10

วัดป่า...มหาสนุก 10

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

ต้องขอประทานโทษก่อนนะ
การเล่าเรื่องของผม ไม่ได้ตั้งพล๊อต ตั้งโครงของเรื่องเหมือนนักเขียนมืออาชีพเค้า
แค่นึกอะไรได้ ก็หยิบมาเล่าไป เหตุการณ์มันเลยมั่วซั่ว สาละวนไปนิดนึงนะครับ

ในตอนแรกเริ่มเลย เราสองคนผัวเมีย คิดว่าจะไป...บวชเนกขัมมะ ปฏิบ้ติธรรม ที่วัดใน อ.กมลาไสย
แต่วัดของท่านกำลังมีการก่อสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่ มันเลยพลุกพล่านวุ่นวาย
หลวงตาฯ ท่านเลยไม่ให้อยู่ภาวนา ที่นี่ และจับเราสองคนส่งไปหา หลวงพ่อ....ที่วัดป่าฯ

เคยเล่าเกริ่นไปแล้วว่า...หลวงตามหาฯ ... ท่านบวชเรียนในสาย...มหานิกาย หรือ วัดบ้าน
ในตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะบวชอยู่นานอะไรหร๊อกกก แต่โดนพ่อแม่ กึ่งบังคับให้บวช
ท่านเป็นลูกคนเล็ก พี่ชายเคยบวชให้พ่อ ให้แม่ ชื่นใจไปสองคนแล้ว
เลยยอมตามเพื่อไม่อยากให้ท่านทั้งสองบ่น เท่านั้นเอง
แต่มันมีเหตุการณ์ แปลกประหลาดก่อนจะบวช
แต่เดิมเลยท่านเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยดีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว
คือท่านล้มป่วย ปวดท้อง ปวดลำไส้ เหมือนดังกับว่าใครมาบิดท้องไส้ เลยทีเดียว
อาการปวดเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หมอที่มาดู ก็ไม่ค่อยจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญสักเท่าไหร่...หาสาเหตุไม่เจอ
ท่านเล่าว่า....มันปวดทุกข์ทรมาน เหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ทนอยู่กับมัน ปวดกับมัน ทนทรมานกับมัน
จนถึงที่สุด ของความอดทนแล้ว ท่านคิดว่า เอาล่ะ คงต้องตายแน่นอนแล้ว
ความเจ็บปวด มันมากมายซะเหลือเกิน แต่...ก็ได้แค่ดูมัน ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ
ในขณะที่บอกกับตัวเองว่า...คงจะต้องตายแน่แล้ว ใจมันเลยปลง ปล่อยวางนิ่งไป
ท่านว่าตอนนั้น...มันเจ็บปวด จนจิตของท่าน หนีออกจากร่างกาย 
ออกมายืนดู ตัวเองที่ทุกข์จนเกินทนอยู่ห่าง ๆ ....ไม่ใช่แค่ชั่วอึดใจ นะ
แต่นานถึง 30 - 40 นาทีเลยทีเดียว
ในขณะที่ดู ก็ให้ งง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้ว่า...นั่นคือกาย คือตัวเรา
แต่ที่ยืนอยู่นี่ คือจิต คือใจของเรา มันไม่ได้เจ็บปวดไปกับ กาย ของเรา
ขณะที่ดูไป ก็คิดไป...เราคงจะต้องตายแล้วล่ะ คราวนี้ คงไม่รอดแล้ว
เสียดายที่ไม่ได้...บวชให้พ่อ ให้แม่ ได้ชื่นใจ อุตสาห์ได้เกิดมาแล้ว 
น่าเสียดายที่ชีวิตนี้คงเสียเปล่า เราน่าจะรีบบวช ซะก่อนตาย เน๊อะ
แล้วก็ยืนมองร่างของตัวเอง ค่อย ๆ อ่อนแรง อ่อนลมลงไปทุกขณะ

หลวงตามหาฯ ท่านเมตตาเล่าให้ผมฟังว่า...ในตอนนั้นไม่ได้มีความกลัว หรือตระหนกตกใจอะไร
จะมีก็แค่เสียดาย ที่ยังไม่ได้บวช ให้พ่อแม่  เสียดายที่เกิดมาครั้งนี้....มันช่างเสียเปล่า
แล้วจู่ ๆ ...ท่านก็ วูบ.บบบบ ไปเลย
มารู้ตัวอีกที กำลังถูกเช็ดเนื้อเช็ดตัวอยู่ อาการเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสที่มีอยู่ ....ก็หายไปดังปลิดทิ้ง
หายไปเฉย ๆ ไม่ได้เจ็บได้ปวด ไม่ได้มีอาการผิดปรกติ อะไรเลย
หมอ ก็หาสาเหตุไม่เจอ ทั้งตอนที่เป็น และตอนที่หายแล้ว
จากนั้นไม่นานท่านก็ได้บวชที่...วัดใหญ่ประจำ อ.กมลาไสย
วัดที่ท่านไม่นึกว่า จะต้องกลับมาเป็น สมภารเจ้าวัด ในอีก 25 ปีข้างหน้า

พอบวชแล้วปีแรก ๆ ก็เรียน นักธรรมตรี โท เอก ไปตามที่อุปัชฌาย์สั่งให้เรียน
ท่านเล่าว่า พอบวชแล้วร่างกายกลับแข็งแรงดีมาก
ท่านได้นักธรรมเอก แล้ว ก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะลาสิกขา ทั้ง ๆ ที่ครั้งแรกคิดว่าจะบวช ให้พ่อแม่แค่ พรรษา เดียว
อุปัชฌาย์ ได้ให้เริ่มเรียนบาลี เปรียญธรรม ต่อไป และให้มาเรียนที่กรุงเทพโดยฝากให้มาอยู่ที่ วัดเทพ.....
มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับท่าน....คือเมื่อได้เรียนรู้เรื่องราวของ...องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วเกิดความซาบซึ้งใจนักหนา....โอ้หนอ พระคุณอันล้นพ้นเหลือประมาณที่ประทานให้กับสัตว์โลก
ความเมตตาที่มีต่อคนทุกคนเท่าเทียม สม่ำเสมอ ไม่เลือกว่าชนชั้นไหน
พระองค์ท่านยอมหันหลังออกจากความสุขสบาย ราชบัลลังก์ ทรัพย์สินเหลือประมาณ อำนาจอันเกรียงไกรล้นพ้น
หันหน้าหนี มเหสีเมียรักดังดวงใจ ที่เกิดเคียงคู่กันมาทุกภพทุกชาติ
ตัดใจจาก บุตรที่เพิ่งได้พบหน้า สุดห่วงหาเป็นดั่งแก้วตา หาอาลัยไม่
พระองค์เสียสละเอาตัวของท่านเอง เป็นเครื่องทดลองเพื่อค้นหายาวิเศษ ที่จะเอามาแก้...ความทุกข์

เมื่อได้ศึกษาไปถึง พระอัครสาวก แต่ละองค์ ก็ยิ่งซาบซึ้งถึงบารมีที่พวกท่านสร้างสม
ยิ่งเรียนล้ำลึก ขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ขั้นต้น ๆ ไปจนได้ถึง เปรียญธรรม 8 แล้ว
ความรู้ที่สะสมในพระธรรมคำสั่งสอน ก็ยิ่งลึกซึ้งกินใจของท่านเองอย่างเกินบรรยาย
บารมีธรรมของ พระพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งหลายมันจับใจเหลือเกิน
มันกระตุ้น มันกระแทกที่ใจให้ฮึกเหิม จนปฏิญาณกับตัวเองว่า...เราต้องไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม
เราต้องเดินตาม พุทธองค์ ...เราต้องทำ นิพพาน ให้แจ้ง

แต่สิ่งหนึ่งที่กลับยอกย้อนทิ่มตำหัวใจอยู่เสมอ คือ...เล่าเรียนมาอย่างหนักหนา บากบั่นมาขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่พ้นทุกข์สักที
มันผิดพลาดที่ตรงไหน...ปริยัติฯ ท่วมหัวท่วมหู ก็ยังทุกข์อยู่
ความคิดนี้...วนเวียนอยู่ไม่รู้จักหาย
เมื่อคิดไม่ตก หาคำตอบไม่ได้...แสดงว่าตัวเราคงมาผิดทางแล้ว
ปริยัติฯ ที่ทุ่มเทไปแทบล้มแทบตาย คงยังไม่เพียงพอ เราต้องการ...ผล  คือแจ้งในพระนิพพาน
อย่างนั้นต้องย้อนไปที่เหตุ...เหตุปัจจัย
องค์ประกอบที่จะทำให้ตัวเรา...พ้นทุกข์ เข้าถึง พระนิพพาน มันคงต้องมีมากกว่าปริยัติฯ แน่นอน
แล้วอะไรล่ะที่ขาดหาย ตกหล่นไป.... เมื่อปริยัติ แล้วต้องควบคู่...ปฏิบัติฯ
สองอย่างนี้ต้องไปด้วยกัน ต้องให้ได้สมดุลย์ทั้งสองฝั่งฝ่าย
ทุกวันนี้...สร้างบารมีทางความรู้ ในพระธรรม มากล้นแล้ว
แต่...ทางด้าน ปฏิบัติ ฯ ถึงจะตั้งใจทำอยู่ แต่คงยังไม่พอ ยังบกพร่อง ยังน้อยเกินไป ไม่ได้สมดุลย์กัน
การอยู่ในเมืองหลวง มันคงไม่เหมาะ ไม่...สัปปายะ

หลังจากคิดได้ดังนั้นแล้ว...หลวงตามหาฯ ท่านจึงขบคิดหาแนวทางในการ...ปฏิบัติฯ
ไปค้นพบเจอ...เรื่องราวของ พ่อแม่ครูอาจารย์.......หลวงปู่มั่น 
เอาแนวทาง วิธีการ วิธีคิด วิธีปฏิบัติ .......เอามาศึกษาอย่างหมกมุ่นจริงจัง
เทวดา ฟ้าดิน ท่านอาจจะรับรู้ถึงความคิด และบารมีที่ท่านสั่งสมมา จึงหาทางน้อมสนอง
ในปีนั้นเอง....วัดเกษมาคม วัดบ้านเกิดทางธรรม ของท่าน กำลังอลเวง
ชาวบ้านเริ่มมองหา...ผู้นำ ที่เก่งกาจ และแข็งแกร่ง
มองไปมองมา นึกขึ้นได้...ลูกบ้านเราไปสร้างบารมีถึง เปรียญธรรม 8 อยู่ในเมืองหลวง
ว่าแล้วยกพวกพากันไป หว่านล้อมขอนิมนต์ ท่านกลับมาเป็น...หลักใจ ให้พวกเค้าเถอะ
ด้วยเหตุผลทั้งปวง หลวงตามหาฯ ที่ขณะนั้นท่านอายุไม่ถึง 50 ปี เกือบ 30 พรรษา. 
ก็ยอมรับนิมนต์มาทำงานหนัก

ในปี 2535 ท่านมารับหน้าที่ สมภารเจ้าวัด ต้องเป็นผู้นำทางความคิด ทางการปฏิบัติ ให้กับคนใน กมลาไสย
แต่....มันไม่ได้ง่าย เลยสักนิด
ตอนที่ท่านกลับมาใหม่ ๆ วัด มันไม่ค่อยจะเป็น...วัด
ท่านไปอยู่วัดขนาดใหญ่ วัดหลวงของเมืองไทย ที่มีการดูแลจากทางราชการ และชาวกรุงเทพ
แต่ที่นี้ ถึงจะวัดของหลวง แต่คน...มันหลวม
พระลูกวัดที่มีอยู่เดิม...แตกเป็นก๊ก เป็นกลุ่ม แย่งกันเป็นใหญ่ แย่งกันหาผลประโยชน์
พระวินัย ไม่ต้องพูดถึง ปริยัติฯ สอบทานกันแล้วก็ให้อ่อนอก อ่อนใจ
วัดนี้เป็น...มหานิกาย แต่ความเป็นจริงมัน...มหาเลอะเทอะ มหาวุ่นวาย
เรียกอีกอย่างว่า....วัดบ้าน แต่มันใกล้คำว่าบ้าน มากกว่าวัดสกปรก รกรุงรัง หย่อนยาน และผิดเพี้ยน ผิดทาง 
ออกห่าง...ความเป็น พระสงฆ์ และที่อันสัปปายะ ไปไกลแล้ว
งานหนัก...งานนี้มัน งานหนัก
สถานที่ สิ่งก่อสร้าง ก็หนักหนา...แต่เรามาพัฒนากันใหม่ได้
แต่ คน...ทั้งคนที่เป็น โยม และ คนที่เป็น พระ....มันหนักกว่า ดูแล้วให้เหนื่อยหน่ายนัก
แล้วเรื่องแบบนี้ ปัญหาแบบนี้...พระพุทธเจ้า ท่านทรงทำอย่างไรนะ ท่านทำอย่างไรหนอออออ
พระองค์ท่าน ใช้....ปัญญา
ท่านหาเหตุ หาองค์ประกอบปัจจัย แล้วไปแก้ที่ต้นเหตุ .....
พระพุทธองค์ท่านไม่เคย...หักหาญน้ำใจ กับใคร
ไม่เคยว่าร้ายใคร แต่พระองค์ท่าน ทรงเป็น....ผู้นำ
ท่านทรงนำ ทั้งความคิด และการกระทำ

หลังจากใช้เวลาตั้งหลักอยู่พักนึง หลวงตามหาฯ ท่านจึงเริ่มดำเนินการ...ทำตาม องค์พระบรมศาสดา
ทำตามแผน ที่วางไว้ในหัว....ทำให้ดู อยู่ให้เห็น
การทำให้ดู คือครูที่ดี
ครู...ที่ทำให้เราดูไว้เป็นตัวอย่าง ที่จับต้องได้เราก็มี...หลวงปู่มั่น
ท่านทำอย่างไร เราจะทำตาม...เพื่อประโยชน์ของตน เพื่อทำ...นิพพานให้แจ้ง
และประโยชน์ท่าน คือชาวบ้านที่ฝากความหวังว่า ท่านจะมาเป็นผู้นำ เป็นหลักใจ
ที่นี่ก็บ้านเกิด วัดนี้ก็วัดที่เราบวช
ถ้าทำไม่สำเร็จ จะร่ำเรียนถึง...เปรียญธรรม 8 ไปทำไม
ถ้าทำไม่ได้ ไม่สำเร็จ...ก็อาย พระพุทธเจ้า 
คงไม่กล้าสบตาท่านอีกเลย.....

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 11
https://pantip.com/topic/39187231




 

Create Date : 04 กันยายน 2562    
Last Update : 4 กันยายน 2562 18:15:30 น.
Counter : 287 Pageviews.  

วัดป่า...มหาสนุก 9

วัดป่า...มหาสนุก 9

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

ครั้งแรกที่รู้จัก วัดป่า คือ 2558 ตอนนั้นไปอยู่แค่ 1 เดือน
ความที่เป็นคนกรุงเทพ มาตั้งแต่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องซื้อหาเอาด้วยเงินสด ๆ 
แต่พอไปถึงวัดป่าฯ หนทางก็ไม่รู้จัก ร้านค้ามีอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ 
การพูดจากับชาวบ้านก็ลำบาก พวกเค้าพูดแต่ภาษาอีสาน ผมกับภรรยา เหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวหลงมาอยู่ที่นี่
พอตอนเช้าตาม พระ ออกไปบิณฑบาตเข้าไปหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 2 - 3 กม.
ประมาณ 100 หลังคาเรือน มีชาวบ้านมายืนรอใส่บาตรประมาณ 40 บ้านเลยเชียวนะ
เค้าไม่ได้ยืนรอหน้าบ้านใคร หน้าบ้านมันแบบใน กทม.นะ. แต่จะจับกลุ่มเข้าแถวเรียงกันหน้ากระดาน
ทุกคนมี กระติ๊บข้าวเหนียว ยืนรอพระ ...หลวงพ่อ...ท่านไม่ให้นั่งใส่บาตร เพราะว่า พระต้องก้มเยอะ
และอีกประการมารู้ทีหลังคือ ผู้หญิง นั่งในมุมต่ำมันมองลอดคอเสื้อแล้วมัน...โป๊ อย่างนึกไม่ถึง
หลวงพ่อ...ท่านเดินนำหน้า พวกครูบาเดินตามหลังเป็นแถว เรียงลำดับตามอวุโสพรรษา บวชก่อนหลัง
ชาวบ้านจะพาลูกเมียออกมายืนรอใส่บาตรกันอย่างแช่มชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส
พวกเค้าใส่บาตร แต่เฉพาะข้าวเหนียว มีเพียงไม่กี่คนที่มีอาหารประเภทกับข้าว และผลไม้
มารู้ทีหลังว่า ประเภทกับข้าว ต้มแกง ทอด ย่าง เค้าจะตามเอาถวายที่วัด เรียกกันว่า...จังหัน
ผมมองหาร้านค้าขายอาหาร ก็ไม่มี ตลาดก็ไม่เห็น เอาละสิเราสองคนผัวเมีย จะไปซื้ออะไรกินได้ที่ไหนกันล่ะ

เมื่อถึงเวลา...พระ ทั้งวัดจะขึ้นนั่งบนแท่นยกสูง เรียงตามลำดับอาวุโสพรรษา
หลวงพ่อสั่งให้ ผม กับภรรยา นั่งถัดออกไปต่อจากพระ....
ด้วยเหตุผลว่า มาถือศีล 8 ปฏิบัติธรรม เรียกว่ามีศักดิ์ศรี มีศีลที่ต้องรักษามากกว่าคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป
แต่ พระ ท่านฉันอาหารในบาตร อาหารทุกอย่างใส่ลงในบาตรทั้งข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ ผัด แกงเผ็ด น้ำพริก
ส่วนแกงจืด ขนมหวาน ผลไม้ จะมีจานแยกต่างหาก ...อ้าวแล้วเราทำยังไงล่ะ
หลวงพ่อ...ท่านสั่งให้ไปเอา ชามกะละมัง ขนาด 12 นิ้ว มาให้คนละใบ...ใช้แทนบาตร
แต่ต้องเอาทุกอย่างใส่ลงไปใน ชามกะละมัง เหมือนที่ พระ ท่านฉันในบาตร....เราต้อง ฉัน เอ๊ยยย กินในชามกะละมัง
แล้วข้าวเหนียว และอาหารทุกอย่าง รวมทั้งขนมกับผลไม้ ก็จะถูกลำเลียงมาบน ถาดที่มีล้อ

หลวงพ่อ...และ พระท่านจะตักทุกอย่างที่ต้องการ ใส่ลงในบาตร ไล่เรียงกันมา จนถึงเราสองคน
เราก็ต้องตักข้าวเหนียว และกับข้าวทุกอย่างที่อยากได้ลงในชามกะละมัง เหมือนกัน
คุณเอ๊ยยย วันแรก ๆ มันช่างขัดเขิน มั่วซั่ว อย่างที่สุด ยิ่งเวลาช้อนไปเคาะโดนกะละมัง มันช่างดังกังวาลดีจริง ๆ
ท่ามกลางสายตาชาวบ้านประมาณ 50 ที่คอยจับจ้องว่าเราจะตักอะไร ตักแค่ไหน กินของประเภทไหนกัน
วันแรก ๆ ผมเลือกอาหารไม่ค่อยถูก ได้แค่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ไก่ทอด ส้มตำนิดหน่อย เพราะกลัวท้องเสีย ไม่คุ้นกับอาหารอีสาน
จำความรู้สึกได้แม่นเลยว่า ...ขณะที่ตักอาหารคำแรกเข้าปาก 
ใจมันแว่บบบ คิด...เอ๊ะ อาหารพวกนี้เราไม่ได้ซื้อด้วยเงินของเรา
นี่เรามาขอข้าวชาวบ้านเค้ากิน เป็นครั้งแรกในชีวิต....ไปขอข้าวชาวบ้านกิน อ่ะ
คิดแล้วแทบกินไม่ลง แต่ก็ต้องฝืนจำใจ ไม่งั้นคงหิว แย่แน่ ๆ

เมื่อเสร็จจากเรื่อง การฉัน การกิน จบสิ้นกระบวนการแล้ว หลวงพ่อ...ท่านเรียกไปคุย เพื่อปฐมนิเทศ
ท่านถามว่า...ไปบิณฑบาต สนุกมั้ย เห็นอะไรบ้าง
ผมกราบเรียนท่านว่า...แปลกดีครับ ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย และก็เห็นหลายอย่างที่ตื่นตา ตื่นใจ
ท่านบอก...เห็นมั้ยเวลาที่เค้าใส่บาตร เค้ายกมือท่วมหัว...ตั้งจิตอธิษฐาน
ผมบอก...เห็นเหมือนกันครับ แทบทุกคนอธิษฐานก่อนใส่ บางคนก็หลังจากใส่บาตรแล้ว
ท่านยังว่า...รู้มั้ยของที่ชาวบ้านเอามาถวายพระ นั่นเป็นของ...ดี ที่สุด ที่เค้ามี เค้าหามาได้
ของบางอย่างเค้ายังไม่กล้ากินเองเลย มันแพง...แต่เค้าเต็มใจที่จะเอามาใส่บาตรให้เราได้กิน
เราสองคนฟังแล้ว อึ้งไปเลย...
ท่านพูดต่อ...รู้มั้ยข้าวทุกเม็ด มันไม่ได้มาเปล่า ๆ นะ  มันมาพร้อมกับ...คำอธิษฐาน
คำพูดนี้ของหลวงพ่อ.....มันช่างกระแทกใจ สุด ๆ 
เค้าให้เรากิน เพราะเค้าหวังให้พวกเรา มีแรง มีกำลัง ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา
ชาวบ้านที่ใส่บาตร ตั้งใจอธิษฐานท่วมหัว ท่วมหู เพราะเค้าหวังอานิสงส์ บุญที่เราจะแผ่อุทิศให้พวกเค้า
แล้วเราจะเอาบุญที่ไหนไปให้เค้า...ถ้าไม่ตั้งใจเดินจงกรม ปฏิบัติฯ ภาวนา
อีตอนนี้ เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างที่กินเข้าไป มันจุกอก...มันไม่ใช่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง
แต่มันคือ...คำอธิษฐาน ล้วน ๆ
ท่านสำทับต่อว่า...พวกเราที่กินของที่เค้าใส่บาตร. แล้วไม่ตั้งใจภาวนา...จะกลายเป็น เปรต
ห๊าาา.....เปรต เลยเหรอครับ
ใช่...ตายไปกลายเป็น เปรต เกิดใหม่ก็ต้องมาใช้หนี้เค้าอีก

ถึงไม่เล่า ก็คงรู้นะครับว่า....เราสองคน ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาแค่ไหน 
วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง...เพราะข้าวที่กินของชาวบ้านเข้าไปนี่แหละ

พอวันรุ่งขึ้น และวันต่อ ๆ เหตุการณ์มันก็วนเวียนซ้ำอีก....
ไม่รุ้จะไปหาซื้ออาหารที่ไหน ต้องจำใจขอข้าวชาวบ้านเค้ากิน....
กินแล้วมันก็...จุกที่ใจ ติดค้างอยู่ในความรู้สึก กลัวจะต้องเป็น....เปรต
เลยต้องตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาให้หนัก จะได้มีบุญกุศล แผ่ให้พวกเค้าได้
มันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้...ทู้กกกก วัน
ที่แย่กว่านั้นคือ...พอวันหลัง ๆ มันชักอร่อยขึ้นทุกที ไม่รู้เพราะเหนื่อย หรือหลงปลาร้าซะแล้ว
ที่นี่เค้าใส่ ปลาร้า แทบทุกอย่าง...เหมือนน้ำปลา
แต่เค้าต้องต้มทุกอย่างให้ สุก เพราะพระจะฉันอาหารดิบไม่ได้ ผิดพระวินัย
คนถวาย ถ้าทำไม่ดีจะบาปกรรมหนักหนา
ยิ่งอร่อยขึ้นทุกวัน อาหารแปลกใหม่มาทุกวัน ...กินมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุ้กกก วัน
มารู้ทีหลังว่า...ปลาร้า ที่เค้าทำถวายพระ เป็นสูตรพิเศษ ใส่พวกน้ำกระเทียมดอง และอะไรอีกหลายอย่าง
ทำอย่างสุดฝีมือ...มันถึงได้อร่อยเลิศเหลือหลาย
ขอสารพภาพเลยว่า...หลาย ๆ เดือนต้องไปวัด ไปกราบหลวงพ่อ 
และไปขอกินส้มตำ ที่เค้าทำถวายพระ ทุกวันนี้ไม่เคยกินส้มตำที่ไหนถูกปากอีกเลย อ่ะ

ทางฝ่ายชาวบ้าน พวกเค้าตั้งอกตั้งใจจับตามองดู เราสองคน
เพราะเหตุผลหลายอย่าง คือ...แปลกดีที่มีคนกรุงเทพ มาภาวนาที่นี่ ทำให้พวกเค้ามั่นใจว่า...วัด และหลวงพ่อ ของพวกเค้า ดีจริง ๆ  
พวกชาวบ้าน คิดแต่ว่าพวกเค้าเป็น...เจ้าบ้าน ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ คนที่มาเป็นแขก คนที่มาเอาบุญ
พวกเค้าอยากให้เรา ...กินได้ นอนหลับ จะได้มีแรงเดินจงกรม นั่งภาวนา
เค้าจะใส่ใจ จับตาดูว่าอะไรที่เรากินได้ อะไรที่เราไม่กิน...จะทำของที่เราชอบมาให้เป็นพิเศษ
บางอย่างถึงกับไม่ถวายพระ แต่แอบเอามาให้เรากิน ด้วยความรัก ความห่วงใยที่ออกมาจากใจจริง ๆ 
อึดอัดเหมือนกัน ที่ถูกจับตามองไปซะหมด คอยสอดส่องว่าเราจะอยู่ได้มั้ย สู้ไหวมั้ย
หลายครั้งที่เห็นเราสองคนเหนื่อยอ่อน ท้อ ...พ่อแก่ แม่เฒ่า ก็จะมาเมียง ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามไถ่พูดคุยด้วย
ถึงแม้จะสื่อสาร พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็จับความรู้สึกได้ถึง...ความห่วงใย เหมือนเราสองคนเป็น ลูกเป็นหลานของพวกเค้า
ทุกวันนี้ ผ่านมาหลายปีแล้ว กลับไปที่วัดทีไร...เหมือนได้กลับบ้าน
มีพ่อ มีแม่ มีพี่น้อง ที่รักเรา ดีใจทุกครั้งที่เห็นเรา....จะเข้ามายิ้ม มาหัวเราะ มาพูดคุยจับมือถือแขน โอบกอดก็มี

แต่เรื่องขำ ๆ ก็เยอะนะ
วันแรก ๆ ที่ไปอยู่ จะมีชาวบ้านใจกล้า แอบมาเมียง ๆ ถามว่า....นอนหลับได้ บ่ ฝันดี บ่
เราก็..เออ ๆ ครับ ๆ คะ ๆ ไป ว่านอนไม่ค่อยหลับ แปลกที่น่ะ
เค้าจะถามคำถามที่สุดอึ้ง....ผี มากวน บ่. ผีมาขอส่วนบุญล่ะ บ่
พอหลายวันเข้า มาถามกันอีก....นอนหลับฝันว่าอิหยัง ฝันเห็นเลข อิหยัง
ปั๊ดโธ่ เอ๋ยยยย เค้ามาถามหา...เลขเด็ด น่ะ
ผมไปเล่าให้หลวงพ่อ...ฟัง ท่านก็หัวเราะ บ่นว่า...เนี่ยะ มันก็อย่างเนี๊ยะแหละ หาแต่เลข หาแต่หวย 
ฟังเทศน์ไปจดไปว่าท่านเผลอหลุดเลขอะไรบ้าง ...ธาตุสี่ ขันธ์ห้า เราพูดอะไรกลายเป็นตัวเลขหมด
ยิ่งตอนก่อสร้างกุฏิ ศาลา เราสั่งซื้อหิน ปูน ทราย เท่าไหร่กี่กระสอบ กี่คันรถ มันตีเป็นหวย ไปหมด...เฮ้ออออ
แถมไปแทงเลขถูกซะอีก แน่ะ....อีทีนี้ตั้งใจฟังกันใหญ่ น่าเบื่อจริง ๆ 
แล้วท่านก็หัวเราะ พร้อมส่ายหน้า ระอาใจ

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 10
https://pantip.com/topic/39185769




 

Create Date : 04 กันยายน 2562    
Last Update : 4 กันยายน 2562 18:10:47 น.
Counter : 303 Pageviews.  

วัดป่า...มหาสนุก 8

วัดป่า...มหาสนุก 8

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองคนเดียว นะครับ
ระหว่างวัดบ้าน และวัดป่า ก็เป็นวัดในพระพุทธศาสนาเดียวกัน
อันที่จริง คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
พระองค์ท่านสอนแค่เรื่องเดียว คือ ...ความทุกข์ และการดับทุกข์
ความทุกข์ มีทั้ง...ทุกข์กาย และ ทุกข์ใจ
ทุกข์กาย ก็เพราะเกิดมา แก่ไป โรคภัยรุมเร้า ทุกข์ทรมานจากความป่วยไข้ เจ็บปวดร่างกาย 
สุดท้ายก็ตายดับไป ก็แค่ดูมัน เข้าใจมัน อย่าไปฝืน อย่าไปเหนี่ยวรั้งเกินกว่าเหตุ มันต้องเป็นไปอย่างนั้นเอง

ทุกข์ใจ อันนี้ใหญ่หลวงไม่มีประมาณ โศกเศร้า เสียใจ อยากได้แล้วไม่ได้  แต่ไอ้ที่เกลียดกลัวนักหนา ไม่ยากได้ ก็ไปได้มา
ความคาดหวังสิ่งไดก็ไม่สมหวัง ทุกข์ใจเพราะความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น อยากอวด อยากในชื่อเสียง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
ไอ้ความทุกข์ ทั้งกาย ทั้งใจ จะดับมันให้สิ้นซากไปได้เพียงวิธีเดียว คือ....ต้องไม่เกิด
เพราะถ้าเกิดมาปุ๊บ มันจะตามมาด้วย แก่ เจ็บป่วย และตาย มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด ก็จะมีความรัก มีความอยาก....สารพัด
มันเป็นวงจร ที่หมุนวนเวียนลากพากันไปไม่จบไม่สิ้น
เพราะฉะนั้นต้องตัดมันที่ต้นตอ ต้นเหตุ ก่อนมันเกิด แต่วิธีการล่ะ
กาย...เราควบคุมมันไม่ได้ อย่างเก่งก็แค่ประคับประคองไป
แต่จิตใจ ...ถึงแม้มันจะควบคุมยาก แต่ยังหาวิธีจัดการจนได้ มีคนทำมาแล้ว

ในประเทศไทยของเรารับเอาธรรมะ ของ พระพุทธเจ้า มาในรูปแบบที่เรียกกันว่า...เถรวาท
เหมารวมหมดมาตั้งแต่สมัยแรกที่ พระพุทธศาสนา เข้ามาในเมืองไทยเราเลย สืบทอดปฏิบัติตามกันมาเรื่อย ๆ 
แต่อะไรที่ทำตาม ๆ กันมาถึงแม้จะคอยระแวดระวังไม่ให้ผิดเพี้ยนแค่ไหน
ก็คนเราสติปัญญา ความชอบ ความเห็นส่วนตัวไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน ....จริตต่างกัน
สัญชาติญาณของคนในแต่ละภูมิภาค ก็แตกต่างกัน...
คนทางเหนือ ชอบแบบหนึ่ง ทางใต้ก็อีกแบบ ทางอีสานไปอีกแบบ ภาคกลางไปอีกทางหนึ่ง
กฏกติกาที่เรียกว่า...พระวินัย ย่อมคลาดเคลื่อนไป...ทีละนิด ทีละน้อย คล้อยเคลื่อนไปอย่างไม่รู้ตัว
กาลเวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 4 แห่งรัตนโกสินทร์
พระองค์ท่านเคยบวชเรียน มาอย่างหนัก ทรงศึกษาพระธรรมคำสอนมาอย่างดีเยี่ยม
ทรงเห็นถึงความผิดเพี้ยน บิดเบือนที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจของ พุทธ ในบ้านเมืองเรา
แต่การที่จะจัดระเบียบไปทั้งประเทศ ในคราวเดียวกัน คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน
พระองค์จึงทรง จัดตั้งสงฆ์กลุ่มเล็ก ๆ ขึ้นมาเพื่อ...เคร่งครัดในพระธรรมวินัย
เรียกกลุ่มนี้ว่า....ธรรมยุต หรือ ธรรมยุติกนิกาย
พระสงฆ์ ที่เหลืออันมีจำนวนมากมายกว่า เรียกว่า...มหานิกาย

ต่อมาอีกหลายสิบปี ได้มีพระภิกษุผู้เคร่งใน ธุดงควัตร คือ...หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ท่านมีวัตรปฏิบัติ ที่เข้มแข็ง มีลูกศิษย์แตกขยายออกไปมากมาย 
ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า...พระป่า หรือ วัดป่า
ส่วนที่ไม่ได้สืบทอดมาจากหลวงปู่มั่น คนทั่วไปจึงเรียกว่า...พระบ้าน หรือ วัดบ้าน
อันที่จริงแล้ว ทั้งพระบ้าน พระป่า ก็มีพระวินัยปฏิบัติ 227 ข้อเหมือนกัน
เพียงแต่ใครจะเลือก เคร่งครัดจัดระเบียบเข้มงวด จริงจัง กันแค่ไหน

วัดบ้าน ท่านอยู่คลุกคลีกับชุมชน อยู่เป็นหลักใจที่ใกล้ชิด ชาวบ้านเข้าหา เข้าถึงได้ง่าย
พวกท่านจะเน้นเรื่องการเรียน การหาความรู้ในพระธรรมคำสอน และทฤษฎีวิชาการทางศาสนามากกว่า
ส่วนการปฏิบัติฯ ภาวนาท่านก็ต้องทำกันอย่างขยันขันแข็ง ไม่ให้ย่อหย่อน
แต่ก็ด้วยการอยู่คลุกคลีกับ โลกโลกีย์ ของชาวบ้านทั่ว ๆ ไปจึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาปฏิบัติอย่างจริงจัง
ว่าไปแล้วบ้านเมืองของเรามี พระบ้าน มหานิกาย ดี ๆ ทั้งเยอะ ท่านมีสติปัญญาอย่างล้ำลึก 
สามารถสั่งสอนคนทั่วไป จากที่มีกิเลสมาก ให้หูตาสว่างหันมาสนใจหนทางดำเนินชีวิตให้เป็น...ปรกติสุข ดับทุกข์ร้อนได้
อย่างที่บอกแล้วว่า พระบ้าน ท่านอยู่ใกล้ชิดรับใช้สังคม ทำให้มีคนมากมายเข้ามาอาศัยบวชเรียน
ถ้าเปรียบเป็นกองทัพ วัดบ้าน ก็เหมือนกับ...โรงเรียนเตรียมทหาร
คัดเลือกคนที่หน่วยก้าน สติปัญญาดี เอาเข้ามาฝึกหัดขั้นต้น 
ให้ออกกำลังกาย ออกกำลังใจ ใส่ความรู้เข้าไป ใส่ภาพกว้างให้ได้เห็นว่าภาพรวมของ พุทธศาสนา เป็นอย่างไร
แล้วตัดสินใจเอาเอง ว่าจะไปเรียนต่อ ฝึกหัดต่อในสายไหน จะเป็นเสนาธิการ เป็นกองเสบียงพลาธิการ หน่วยโยธาคอยกรุยทางให้
หรือจะเอาจริงเอาจังตั้งใจเป็น....นักรบแนวหน้า ฝ่าประจันห้ำหั่นข้าศึก ไล่ฆ่ากิเลสศัตรูหมู่มาร

จำนวนที่มากของคนที่เข้ามา ร้อยพ่อพันแม่ ก็ย่อมมีทั้งคนดี คนเลว ต่างอุปนิสัยสันดานดิบ
เหตุผลที่มาบวชก็แตกต่างกันไปมากมาย อย่างที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ....อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารโทรม
สมัยนี้ยังมีเพิ่มเข้าไปอีก...บวชแก้บน บวชอาศัยหากิน บวชหลบภัย บวชหน้าไฟ บวชแก้ซวย บวชชุบตัว ฯลฯ
วัดบ้าน ที่ไม่ค่อยเคร่งครัด ไม่ค่อยดี สกปรกรกรุงรัง เราก็เห็นมาเยอะ
แต่วัดบ้าน ที่ดี ๆ มีระเบียบวินัย มีการอุปถัมภ์ในการเรียน การหาความรู้ เป็นที่พึ่งในยามยาก เป็นที่พักพิงของคนที่หมดหนทาง
บอกได้เลยว่ามีอยู่เยอะแยะมากมาย
ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเห็นชัด ๆ ...สมภารเจ้าวัด เจ้าอาวาส นั่นแหละคือกุญแจ ของเรื่องราวทั้งหมดถ้า...หัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก
ถ้าสมภาร เป็นพระที่ดี เข้มแข็ง ทรงวินัย ทรงปัญญาเคร่งครัด รับรองว่า....วัดนั้นทั้งวัด ก็จะเป็นไปตามอย่างสมภาร
วัดไหน ที่หัวหน้า กลายเป็นหัวโจก มีเล่ห์กระเท่ จ้องหาแต่ผลประโยชน์ ขายเครื่องรางของขลัง ของไร้สาระมอมเมาเอาสตางค์ชาวบ้าน
ไปดูเถอะ ทั้งวัดมีแต่คนแบบนั้น ชาวบ้านที่เข้าหาวัดแบบนั้น ก็เพราะชอบเรื่องแบบอย่างนั้น....กิเลสมันสันดานเดียวกัน
หลวงพ่อ....ท่านเคยบอกกับผมว่า........ดีดูดดี. ขั่วดูดชั่ว
ท่านช่างใช้คำ ได้สั้นกระชับเหลือเกิน คนเหมือนกันย่อมดึงดูดเข้าหากัน

ส่วน พระป่า...ในความคิดเห็นของผมแต่เพียง...คนเดียว นะคร้าบบบบบ
พวกท่านเหมือน นักรบแนวหน้า หน่วยลุย เรนเจอร์ 
พวกท่านไม่ประนีประนอมกับ สันดานหมู่มารในจิตใจ ท่านไม่ยอมอ่อนข้อให้ แต่ไล่ฆ่าล้างผลาญ ตามราวีเพียรเผากิเลสอย่างเดียว
สถานที่อยู่ของพวกท่าน ที่เรียกกันว่า....วัดป่า ก็ไม่เน้นเอาสวยเอางาม แต่ต้องการประโยชน์ใช้สอยเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
ท่านต้องการความสงบ วิเวก เงียบสงัด ของธรรมชาติ ท่านจึงปลูกต้นไม้มากมายเป็นป่าอยู่ภายในวัด
ด้วยการที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ขนาดใหญ่ ก็ย่อมมีสัตว์ นก หนู กระรอก กระแต งู หมู่แมลง ต่างๆ นาๆ มาอยู่อาศัยด้วย
เพราะฉะนั้น ข้าวของที่อยู่ต้องเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้ามรกรุงรัง และต้องสะอาดสอ้านอย่างที่สุด
มิฉะนั้นแล้ว จะเกิดมีมดแมลงมาอาศัย ตามมาด้วย จิ้งจก กบ คางคก และที่ตามมากินมัน คือ แมงป่อง ตะขาบ หรือ งูพิษร้าย
กุฏิ ศาลา ทั้งหลายจึงต้องหมั่นขยันเช็ดถูปัดกวาด ของใช้ต้องน้อยชิ้น โปร่งโล่งให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้มี แมลง และสัตว์ร้ายมาอาศัย
บวกกับ จริต ความคิดความตั้งใจ ที่จะละลดปลดวาง ไม่เอาอะไรทั้งนั้น หมุนสวนทวนกระแสโลก
พวกท่านจึงไม่สะสม มีแต่จะขจัดออก ....ทำทุกอย่างสารพัดก็เพื่อ เอากิเลสออกจากใจ

แต่ก่อนนั้นผมไม่เคยรู้จัก หรือเข้าใจ...มหานิกาย ธรรมยุต พระป่า พระบ้าน
จนกระทั่งได้รู้จักกับ....หลวงตามหาฯ.....ผู้เป็นเสาหลักปักแน่น เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของคนใน อ.กมลาไสย
ท่านมีประวัติที่น่าสนใจมากมาย บวชเรียนเป็นพระบ้าน มหานิกาย อุทิศตัวตั้งใจศึกษาไปให้ถึงที่สุดของเส้นทางนี้
ได้ถึง...เปรียญ 8  แต่เมื่อจะไปต่อเปรียญ 9 อันเป็นขั้นสุดท้ายแล้ว
ท่านกลับยังรู้สึกว่า...ทำไม่ยังมี ความทุกข์ อยู่ในใจ
ความรู้ทางพระพุทธศาสนา ที่ร่ำเรียนสั่งสมมาอย่างเหลือคณานับ ยังไม่สามารถดับความทุกข์ทั้งหลายในใจได้เลย
หลวงตามาหาฯ....ท่านจึงมาไตร่ตรองตนเอง ถ้าเส้นทางนี้เราดับทุกข์ไม่ได้ ยังมีเส้นทางไหนอีกล่ะ
มาเจอแนวทางของ...หลวงปู่มั่น พ่อแม่ครูอาจารย์สายพระป่า 
จึงวางการศึกษาทาง...ปริยัติ มามุ่งสู่ทาง...ปฏิบัติ อย่างเอาเป็นเอาตาย จนดับสิ้นทุกข์ในสันดานหมดสิ้น
จากนั้นเอาความรู้ทั้ง...ปริยัติ บวก ปฏิบัติอย่างหนักหน่วง มาสั่งสอนลูกศิษย์ของท่าน คนรุ่นใหม่ที่มีมากมายในภาคอีสาน
ท่านมีความเป็นเลิศทาง..ปัญญา และเทศนาปาฏิหาริย์
เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ แต่ท่านกลับอธิบายด้วยถ้อยคำง่ายๆ แค่ไม่กี่คำ...คนฟังเกิดปัญญาแทงทะลุปรุโปร่งได้เลย
แต่คนที่เข้าไปกราบท่าน ต้องระวังตัว ระวังใจให้ดี......
คุยกับท่าน เหมือนถูก งูเหลือม ค่อย ๆ รัด จากแตะแผ่ว ๆ มาค่อย ๆ รัดรึงตรึงบีบเข้า คั้นเข้า
กว่าจะรู้ตัวเราก็...ตายสนิท หลงรักท่านเข้าเต็มหัวใจซะแล้ว

ท่านได้ทำการ แปลง...วัดบ้านของท่าน ให้กลายเป็น วัดป่า
เอาแนวทางปฏิบัติฯ ธุดงควัตรของหลวงปู่มั่น มาประยุกต์ให้เข้าได้กับ ชาวบ้านธรรมดา พ่อค้าแม่ขาย ข้าราชการ นักการเมือง ลูกศิษย์ของท่าน
อะไรที่หย่อนยาน ท่านก็จัดการฟิตเครื่องใหม่ แต่อะไรที่ตึงเกินกำลังของคนทั่วไป ท่านก็ยอมลดหย่อนผ่อนให้นิดนึง

ทุกครั้งที่ได้ไปกราบ ไปสนทนากับท่าน ผมไม่เคยเบื่อเลย มีแต่ความสนุก ความสุข ลืมโลก ลืมเวลา
ทั้งๆ ที่กำลังถูกท่านจูงจิต จูงใจให้เข้าหาเส้นทาง พระนิพพาน อันแสนยากเข็ญ
แต่พอฟังท่านพูดแล้วเหมือนมันง่าย ไม่ได้ยาก ไม่ได้ไกลเกินกำลัง ทั้งกระตุ้น ทั้งท้าทาย ทั้งให้กำลังใจ

ท่านบอกว่า ความเป็นพระ ไม่ได้อยู่ที่ศีล ที่เครื่องแบบ ที่นิกาย แต่อยู่ที่....ใจ
ไม่ต้องบวช ไม่ต้องเคร่งครัดพระวินัย 227 ข้อ ไม่ต้องโกนหัว ห่มผ้าจีวร
ขอเพียงให้ใจ...บริษุทธิ์สะอาด พากเพียร เวียนเผากิเลส 
ตั้งใจขยันดับไฟ 3 กอง โลภะ โทสะ โมหะ ที่มันลุกโชนอยู่ในใจ นั่นและ...พระ

มีเรื่องสนุกมากมายในวัดของท่าน ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังนะครับ....ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อน

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 9
https://pantip.com/topic/39182754




 

Create Date : 04 กันยายน 2562    
Last Update : 4 กันยายน 2562 18:09:18 น.
Counter : 379 Pageviews.  

วัดป่า...มหาสนุก 7

วัดป่า...มหาสนุก 7

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

ว่าไปแล้ว คนดี ๆ ที่มาขอปฏิบัติฯ ภาวนาที่นี่ก็มีหลายท่านเหมือนกัน
อย่างเช่น หญิงสาวอายุไม่น่าเกิน 30 รูปร่างหน้าตาธรรมดา ๆ แต่มีความพิเศษ แลดูสง่า และมีอำนาจอย่างบอกไม่ถูก
ฐานะดี มาก ๆ ๆๆๆ เป็นผู้บริหารดูแลด้านการเงินของบริษัทใหญ่ใน กทม.
แต่จะหาเวลาปลีกตัว ขอลางาน ลาสามีมา ภาวนา กรรมฐาน เป็นประจำ
สงบเสงี่ยม พูดน้อย ปฏิบัติฯ เข้มแข็งมาก
อ้อลืมบอกไปว่า...ที่วัดนี้หลวงพ่อ...ท่านเน้นนักหนา
เวลาเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ต้อง...ไม่ให้ใครเห็น และไม่เห็นใคร
คือต่างคนต่างทำ กุฏิทุกหลังมี ทางจงกรม และอยู่ห่างกันชนิดว่ามองไม่เห็นกัน แต่พอตะโกนหากันได้
ครั้งนึง ตอนเที่ยงคืน ผมจะลงไปที่...ทางจงกรม ประจำของผม
แต่เห็นแสงเทียน ซะก่อน เลยย่องไปดูว่า...ใครตัดหน้าลงไปเดินก่อนเรา นะ
ก็เห็นหญิงสาวคนนี้เอง ผมเลยหลบไปนั่งภาวนารอเวลาเค้าเลิก
คืนนั้นเธอเดินตั้งแต่ เที่ยงคืน ถึงหกโมงเช้าเลย
ดูเธอผ่องใส ไม่ยึดติดโลก ไม่ทุกข์กับหน้าที่การงาน เจอกันทีไร...ยิ้มอ่อน ๆ แต่สว่างไสวทุกครั้ง
หลวงพ่อ...ท่านบอกว่า คนที่มีศีลบริสุทธิ์ จะองอาจกล้าหาญ และสง่างาม เสมอ
ผีสาง ต้องกลัวเค้า แม้แต่เทาวดา ยังต้องเกรงใจเลย
ไม่ต้องบวช ไม่ต้องห่มจีวร ก็เป็น พระ ด้วยใจ ไม่ใช่เครื่องแบบ

หรืออีกพวกหนึ่ง อยู่สระบุรี
เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ ปรนนิบัติ ดูแลคุณแม่จันดี วัดป่าบ้านตาด
เรียนการภาวนา กรรมฐาน แบบ...ม่างกาย ทำลายขันธ์ พิจารณาอสุภะ
ได้แบ่งถวายที่ของครอบครัวออกมาแปลงหนึ่ง ให้กับหลวงพ่อ....
ในครั้งแรกท่านจะไม่รับ เพราะอยู่ไกลกันมาก ห่างวัดท่านตั้งเกือบ 500 กม.
แต่ก็มาขอรบเร้าให้ท่านไปดู ไปพิจารณาซักครั้งเถอะ
พอท่านไปเห็นที่ดิน...มันเป็นสวนส้มเก่า รกร้าง ปลูกอะไรก็ไม่ได้ผล
เต็มไปด้วยรกชัฏ ต้นไม้ที่มีหนามสารพัด แถมยกร่องสวน ไม่ได้ปรับให้ราบเรียบซะด้วยซ้ำ
หลวงพ่อ...ท่านเห็นแล้วเกิดมีความรู้สึกแปลก ๆ กับสถานที่แห่งนี้ คืนนั้นท่านเลยขอพักในที่นั้น

ตอนกลางคืน ท่านนั่งภาวนาแล้วรู้ว่า....ที่ตรงนี้เคยเป็น วัด เก่าแก่นานมากแล้ว
มีพระเจดีย์อยู่ข้างใต้พื้นดิน และ...ท่านเคยเป็น สมภารเจ้าวัดที่นี่มาก่อน
สถานที่นี้ยังมี...พญานาค คุ้มครองอยู่ แถมมาขอให้ท่านพัฒนาขึ้นเป็นวัดอย่างเดิม
และยังบอกอีกด้วยว่าชื่อเดิม คือวัด ...วังโพธิ์นาคาราม
นั่นแหละท่านจึงยอมรับเป็น ประธานการพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็น...สำนักปฏิบัติธรรม
คนกลุ่มนี้ เกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง มีความตั้งใจในการ ภาวนากรรมฐานอย่างแข็งขัน
พากันมาขอนิมนต์หลวงพ่อ ให้ลงไปเทศน์แนะนำการปฏิบัติฯ เป็นประจำ
คนดี ๆ ที่ขยันภาวนากรรมฐาน ไปๆ มาๆ ที่วัดป่า....แห่งนี้บ่อย ๆ มีมากหน้าหลายตา
แต่ไม่เอิกเกริก มากับเงียบ ๆ เรียบร้อย สงบเสงี่ยมสำรวม
ชาวบ้านก็รัก และเคารพคนแบบพวกนี้มากเหมือนกัน จะคอยดูแลทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี
พอตอนค่ำ จะสวดมนต์ทำวัดเย็นกัน...กระหึ่ม มีพลังมาก
อันที่จริง ทั้งหลวงพ่อ... และชาวบ้านก็ชอบให้มีคนต่างถิ่นมาปฏิบัติฯ ภาวนามากเลย
มันได้บรรยากาศ ได้อารมณ์แปลกใหม่ดีจริง ๆ 

กลุ่มคนนักปฏิบัติธรรม ที่สระบุรี นี้ ขอเรียกว่ากลุ่ม..วังโพธิ์ฯ ก็แล้วกันนะ
มีหัวหน้าเป็นผู้หญิง ที่เคยรับใช้ดูแลคุณแม่จันดี
ท่านชื่อ ครูอร เพราะเคยเป็นครูมาก่อน
พวกวังโพธิ์ฯ เค้าชอบไปปล่อยปลากันที่วัด หลวงพ่อสำเร็จ ใกล้ ๆ บ้านพวกเค้า
โดยการเรื่ยไรเงินกันคนนะนิดละหน่อย ครั้งนึงประมาณ 3 - 4 พันบาท
แล้วไปซื้อปลาในแผงตลาดสดช่วยชีวิตมัน เอาไปปล่อยที่ท่าน้ำ หน้าองค์หลวงพ่อสำเร็จ
มันแปลกมาก...ทุกครั้งที่ปล่อยปลา จะมีฝนตกปรอย ๆ แต่ตกเฉพาะแค่ในคลองเท่านั้น...ตกให้พวกเราดู
ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อ...ท่านไปร่วมปล่อยปลาด้วย ผมก็ตามไปด้วย
เออ...มีฝนตกจริง ๆ ด้วยแหละ แถมตกปรอย ๆ แค่ในน้ำเท่านั้น
พอขึ้นมาแล้ว ท่านบอกกับผมว่า...พญานาคเค้ามาอนุโมทนาบุญด้วย
เอาหัวมาพาดที่ท่าน้ำเลย แต่เสียดายที่พวกเราไม่สามารถเห็นได้.......

พูดถึงเรื่อง...พญานาค แล้วขอเล่านิดนึง
วัดป่าฯ.....ของหลวงพ่อ.... ที่บันไดหน้าโบสถ์มีรูปหล่อ พญานาค 2 ตนซ้าย ขวา
ทำด้วยทองเหลืองอย่างดี มีชื่อติดอยู่ด้วย งานฝีมือละเอียดสวยเชียวแหละ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่กำลังเหมาะสม
ผมเคยถามหลวงพ่อ....ว่าทำไมมีชื่อติดอยู่ด้วย ท่านตั้งเองเหรอครับ
ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า....เมื่อหลาย ๆ ปีก่อน วันหนึ่งมี พญานาค 2 ตน มาหาท่าน
แล้วกลายเป็นคน ทั้งผัว ทั้งเมีย ต่อหน้าท่านเลย แนะนำตัวว่า ชื่อ สมโณ และ รูปิณะ
มากราบ ขอมาอาศัยอยู่ ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม ที่นี่ด้วย ซึ่งท่านก็อนุญาต
แต่...เค้าขอให้ช่วยทำรูปพญานาคไว้ที่บันไดโบสถ์ ด้วยเถิด
หลวงพ่อ...ท่านก็เลยไปจ้างช่างทำด้วยไฟเบอร์ เพราะมันไม่แพงมาก น้ำหนักก็เบาดี
แต่ยังไม่ทันได้ปั้นแบบ พญานาคสมโณ กับรูปิณะ 2 ผัวเมียมากราบท่าน บอก....ไม่เอาไฟเบอร์ ขอเป็นสีทอง
ท่านบอก ทองคำไม่ไหวหรอก แพงเกินไป เดี๋ยวขโมยมางัดเอาไปหร๊อกกก
เลยต้องไปหาช่างทำออกมาเป็น...ทองเหลือง พอเสร็จออกมสวยงามมากทีเดียว
ชาวบ้านพากันตื่นเต้น กันใหญ่...เอาผ้า 5 สี และะพวงมาลัยมาคล้อง เตรียมบวงสรวงใหญ่โต
หลวงพ่อ...ท่านกลับห้ามไว้ ไม่ให้ทำเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ถ้าจะบูชา ต้องบูชา...พระพุทธรูป พระประธาน ซึ่งเป็นองค์แทน. สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ก็ให้ทำแต่พองาม เท่านั้น เพราะการบูชาที่แท้จริงที่ท่านสรรเสริญ คือ...การปฏิบัติบูชา
ไม่ใช่...งมงายบูชา
ท่านเคยบอกผมว่า...ไม่ต้องไปบูชาเค้า
เราอยู่ในภพภูมิ ที่ดีกว่า เหมาะสมกับการบรรลุธรรม มากกว่าพวกเค้า
เค้ามีฤทธิ์ เราก็มีเหมือนกัน ...แต่คนละแบบ
พวกเค้าสิ...อิจฉามนุษย์ ที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม ภาวนาจนหลุดพ้นได้
แต่พวกนาค ก็มีทั้งดี ทั้งร้าย เหมือนกันหมด
พวกที่ดี เค้าเลื่อมใสศรัทธา ชอบฟังธรรม ชอบมาอยู่ใกล้ ๆ ผู้ปฏิบัติดี มีศีล
ท่านว่า...ที่เมืองลาว นั่นมีอยู่กันเยอะมาก เพราะคนที่นั่นยังยึดมั่นในศีลเคร่งครัด
ท่านเคยไปเที่ยว ได้พบเห็นด้วยตัวเองหลายครั้ง

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 8
https://pantip.com/topic/39180966




 

Create Date : 04 กันยายน 2562    
Last Update : 4 กันยายน 2562 18:07:42 น.
Counter : 370 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.