กรรมทันตา อนณ 093-149-9564 tobeteam@yahoo.com Line : anon.nisarut
Group Blog
 
All Blogs
 

กรรมทันตา ถึงฆาต

ถึงฆาต

คุณ พรเทพ พรประภา เคยพูดไว้...
...เราต้องเดินไปหาภูเขา ไม่ใช่ให้ภูเขามาหาเรา...

สมัยที่เป็นเซลส์ นิสสัน ผมก็ชอบออกไปหาลูกค้ามากกว่า รอให้ลูกค้ามาหา
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ลูกค้ารายแรกๆ ที่ออกไปพบ คือหลังโชว์รูม หรือใกล้ๆ ที่สุด
และที่ตลกมาก คือไม่เคยมีเซลส์คนไหนเคยไปหาเขาเลย เข้าข่ายหญ้าปากคอกทั้งนั้น
ทำให้ผมได้ลูกค้าง่ายๆ ประเดิมก่อนเลย เซลส์ที่อยู่เก่าพอรู้เข้าก็เขกหัวตัวเอง หรือไม่ก็โวยวายไม่เข้าเรื่อง

คำว่าหญ้าปากคอก...แต่ก่อนผมก็ไม่เข้าใจ จนมีผู้รู้อธิบายว่า
ฝูงม้า ฝูงวัวที่เขาเลี้ยง เมื่อเวลาเปิดคอกให้ออกไปหากิน
ตัวผู้นำก็จะออกไปก่อน ที่เหลือก็จะตามกันไป...ดันกันไป
ขากลับก็เหมือนกัน ตามกันเข้าคอก ดันกันไปหยุดไม่ได้
ไม่ว่าตัวไหนก็ไม่สามารถหยุดกินหญ้าที่อยู่ริมรั้ว หรือริมคอกได้เลย
หญ้าตรงนั้นก็จะเจริญงอกงามดี

พอมาเป็นผู้จัดการที่ พระประแดง ก็ยังชอบออกพบลูกค้าอยู่เสมอ
วันหนึ่ง ผู้จัดการศูนย์บริการ...ฝ่ายช่าง ชื่อ คุณนิมิตร กระจ่างวัฒนะ
มาปรึกษาว่า จะเพิ่มยอดลูกค้าเข้าศูนย์บริการได้ยังไง
ผมก็บอกว่า น่าจะไปพบปะลูกค้าที่เคยมาซ่อมที่เรา แล้วหายไปเพื่อถามเขาว่าทำไม...โกรธเคืองอะไร
หรือไปพบลูกค้าที่ยังรักเราอยู่ เพื่อขอบคุณเขามั่ง
โดยเฉพาะที่เป็นหน่วยงานบริษัทต่างๆ จะได้พบเจ้าของหรือผู้บริหารโดยตรง....
พี่นิมิตร ก็เห็นด้วยแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
คือ ฝ่ายช่างเขาก็จะเก่งในเรื่องของเขา แต่เรื่องไปทำการตลาด กวาดต้อนลูกค้าอะไรแบบนี้...ทำไม่เป็น

เลยตกลงกันว่า ช่วงเช้าเราเคลียร์งานในออฟฟิซ
ช่วงบ่ายพยายามหาเวลาออกเยี่ยมลูกค้า
วางไอเดียว่า...ทำเหมือนไปจีบสาวก็แล้วกัน
ไปเยี่ยมเยียน...ซื้อขนมไปฝาก...ขอบคุณที่ยังรักกันอยู่...
บางครั้งก็เอาช่างไปด้วย เพื่อตรวจสภาพรถให้ถึงที่เลย ให้ความรู้การใช้รถเบื้องต้น

ยิ่งพอมีผู้จัดการตั้งสองคนมาเยี่ยม เขาก็รู้สึกว่าเราให้เกียรติ และเอาใจใส่เขา
หลายรายที่เปลี่ยนใจซื้อยี่ห้ออื่น ผมกับพี่นิมิตร ก็ไม่เคยไปพูดให้ร้ายคู่แข่ง
แถมยิ่งให้ความสนใจ เอาใจใส่ยิ่งขึ้นไปอีก...คิดว่าเหมือนมีคนมาแย่งคนรักเราไป ยิ่งต้องสู้ตาย
บางบริษัทที่มีรถขนส่งหลายคัน เราก็จัดคอร์สอบรมพนักงานขับรถ ในการดูแลรักษา เบื้องต้นให้เลย
ทำอย่างนี้อยู่สัก 2 เดือน ผลตอบรับดี...ลูกค้าพอใจมาก
โธ่...คนแถวพระประแดง ยังมีนิสัยคนต่างจังหวัด...น่ารัก ซื่อๆ เกรงอกเกรงใจ
แถวนั้นมีบ่อปู บ่อกุ้งอยู่เยอะเหมือนกัน ผมก็ถือโอกาสหนีเที่ยวไปในตัว
มีร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้าน...พูดแล้วคิดถึง ปูหลน อร่อยม๊าก..ก..มาก

พอคิดถึงปู ก็นึกได้...มีลูกค้าที่ทำบ่อปูอยู่คนหนึ่ง
เขาจะทำบ่อขุดเอาไว้ใหญ่มาก แล้วปล่อยน้ำซึ่งเป็นน้ำกร่อยเข้ามา
มันจะมีปูทะเลเข้ามาด้วย แล้วก็ให้อาหาร เลี้ยงให้มันโต
เห็นว่าโตเต็มที่ตัวหนึ่งเกือบสองกิโลฯ...ตัวใหญ่มาก
เขาบอกเป็นปูคัดพิเศษ ปรกติส่งตามภัตตาคาร
ผมก็นึก...เฮ้อ...สัพเพ สัตตา ฯ
ทีนี้พอซื้อขนมไปฝาก เค้าก็ดีใจ เกรงใจอย่างยิ่ง
วันหนึ่งใจดีให้...ปู ชนิดคัดพิเศษ...มาตั้ง 3 ตัว....ยังเป็นๆ อยู่เลย
ผมก็ไม่เอา...เค้าก็คะยั้นคะยอ
ผมก็ปฏิเสธอีก...สุดท้ายแอบใส่รถมาให้ ผมละพูดไม่ออก
ในใจก็นึก เอาไปปล่อยดีกว่าได้บุญดี...
แหม..ไอ้สามตัวนี้มันโชคดี ได้ต่อชีวิตไปอีก

ตั้งใจจะเอาไปปล่อยที่ป้อมพระจุลฯ ซึ่งเลยโชว์รูมไป 2 กิโลเมตร...เป็นปากอ่าวไทยด้วย
ยังไม่ทันถึง เซลส์โทรมาตามต้องกลับด่วน...ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปตอนเย็นก็ได้
เข้าโชว์รูมจอดรถเรียบร้อย เรียกลูกน้องให้หาถังมาให้หน่อย
จะใส่ปูไปไว้ในโชว์รูม ในรถมันร้อน...เดี๋ยวตายซะก่อน
แถมมันดิ้น พากันเดินวุ่นวาย เพราะผมตัดเชือกที่มัดมันออก...สงสารมัน

ไอ้เจ้าเซลส์ลูกน้องทั้งหลายสนใจกันใหญ่ บอกไอ้นี่อย่างคัดพิเศษเลยนะพี่
ตัวละเป็นร้อยเลยนะ...อร่อยนะ...น่ากินนะ
พอดีงานก็ยุ่งจนลืมสนิทเลย
แต่ลูกน้องไม่ลืม มีคนมาถามว่า...พี่จะทำยังไงกับมัน จะเอากลับบ้านหรือเปล่า
ผมก็ไม่ได้เงยหน้ามัวแต่ยุ่งกับเอกสาร ปากก็บอก
...ว่าจะเอาไปที่ป้อมพระจุลฯ แต่ยังไม่ว่างเลยว่ะ...เอ็งไปจัดการให้หน่อยซิ...
ไอ้เจ้าพวกนั้น ก็หน้าตื่นถามว่า...พี่จะแบ่งไปบ้านซักตัวมั๊ย
ผมก็ว่า...ไม่เอา เอ็งเอาไปทั้งหมดนั่นแหละ
พอสั่งเสร็จ พวกลูกน้องที่แสนดีรีบไปจัดการกันใหญ่...หายไปกันสามคนได้มั๊ง คงหนีเที่ยวซะมากกว่า

จนกระทั่งเย็น มีเซลส์ผู้หญิงมาบอก...
...พี่หนูจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะ ตัวนึงตั้งแพง แล้วนี่ตั้ง 3 ตัวเลย...พี่ใจดีจัง...
ผมก็ เออ..เออ...ขอบใจนะ
หายไปสักพัก กลับมาบอกอีก
...พี่ เสร็จแล้ว...เนื้อหว๊าน...หวาน.น...
ผมตกใจมาก...ห๊า...เอาไปจัดการยังไง...
ปรากฎว่า ไอ้พวกนี้มันเอาไปจัดการต้มที่ร้านข้าวแกงข้างโชว์รูม
แถมยังมีหน้าบอกอีกว่า...หนูช่วยเขาปรุงกับมือเลย...รับรองอร่อย
ผมฟังแล้วหมดแรง อึ้งไปพักนึง สุดท้ายก็ถอนใจ
...สัพเพ สัตตา ฯ โธ่...ไอ้ปู เอ๊ย.ย..ดวงเอ็งนี่มันถึงฆาตจริง...จริง

ผมกลับบ้าน ไปสวดมนต์เลย...เฮ้อ.

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 11:37:55




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:01:33 น.
Counter : 1109 Pageviews.  

กรรมทันตา ตัวเงินตัวทอง

ตัวเงินตัวทอง

รู้จัก ตัวเงินตัวทอง หรือ ตัวเอี้ย มั๊ยครับ
แล้วรู้สึกอย่างไรกับมัน...สัญญลักษณ์แห่งความซวย หรือเปล่าครับ
เมื่อครั้งที่ผมยังเป็นเซลส์ที่ นิสสัน พระประแดง
แถวๆ โชว์รูม จะเป็น คู คลองเล็กๆ มีต้นจาก ขึ้นประปราย
ถึงแม้จะมีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ แต่ก็ยังมีบ้าน มีสวน บ่อปู บ่อปลา อีกมาก

มีอยู่วันหนึ่งผู้จัดการไปประชุม ผมก็ไปทำงานแต่เช้า
กำลังปัดฝุ่น ดูเตรียมรถให้เรียบร้อย
พวกเซลส์ผู้ชายก็นั่งดื่มกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์
ผู้หญิงก็แต่งหน้า ทาปากไปตามเรื่อง...
ทันใดนั้น
เสียงวี๊ดว้าย...เอะอะ โครมคราม...
ผมตกใจหันไปดู เซลส์ผู้หญิงปีนขึ้นไปบนโต๊ะทำงาน
ส่วนผู้ชายก็ทำหน้าไม่ถูก ชี้โบ้ ชี้เบ๊ กันใหญ่
พอหันไปดู...
โอ้..แม่เจ้า...ตัวเอี้ย...ขนาดกำลังวัยรุ่น ยังไม่โตเต็มที่
กำลังยืนก๋า เอียงคอ แลบลิ้นแพร่บๆ อยู่กลางโชว์รูมเลย...ไม่รู้ขึ้นมาตอนไหน
แล้วขึ้นมายังไงละเนี่ย...สงสัยใครเปิดประตูหลัง แล้วลืมปิด

พอคนร้องกันเอะอะ วิ่งกันวุ่นวาย...คุณเอี้ย ก็ตกใจวิ่งวุ่นไปกับเขาด้วย
ตัวสีดำเมี่ยม เกล็ดเป็นเงา ลายสีน้ำตาลทองชัดเจนมาก
แถมว่องไว วิ่งเร็วซะด้วยนะ...
ดูแล้วตัวนี้สมบูรณ์มาก กล้ามเป็นมัด สวยเชียว...เสียแต่กำลังตกใจ
ทีนี้ พอเซลส์ผู้หญิงบางคน กระโดดลงมาจากโต๊ะ จะหนีเข้าห้องแคชเชียร์ ที่เป็นห้องกระจก ประตูกระจก
หารู้ไม่ แคชเชียร์ ถึงจะแก่...แต่ตาไว พอรู้ว่ามี คุณเอี้ย ขึ้นมาก็ล็อคประตูก่อนเลย
ไอ้คนที่วิ่งไปก็เข้าไม่ได้ ยืนเต้น ยืนร้องอยู่หน้าประตู
เลยยิ่งวุ่นกันใหญ่

ผมน่ะ...แมนมาก ขอบอก ถืออาวุธคือไม้ปัดขนไก่
ปีนขึ้นไปดูสถานะการณ์บนท้ายกระบะก่อนเลย
ก็มันน่ากลัว อ่ะ...คุณเอี้ย แลบลิ้นแผล่บ ๆ วิ่งส่ายไปมาทั่วโชว์รูมเลย
ผมก็กลัวมันกัดเอาเหมือนกัน
ที่จริงมันก็คงตกใจ อยากกลับลงไปแต่หาทางไม่เจอ
แถมเป็นกระจกทั้งหมด มันก็เลยยิ่งงง ชนกระจกดังโครม...โครม
สถานะการณ์ยิ่งน่าตื่นเต้น เข้าไปใหญ่

ในขณะที่ทุกคนกำลังวิ่งหลบหลีก คุณเอี้ย ที่วิ่งพล่านมั่วไปหมด
ผมก็กระโดดไปเปิดประตูใหญ่ หวังให้มันเห็นทางวิ่งลงไป
แต่กำลังตกใจ วิ่งไปซ่อนซะนี่...
อีทีนี้ ยุ่งละ...ต้องตามหา แต่ไม่มีใครยอม แถมยังมีหน้าบอก
...พี่อาวุโสที่สุด พี่ก็ต้องเป็นคนทำซิ
ผมก็เรียกให้มาช่วยกัน ทุกคนสั่นหัวหมด...ไม่เอ๊า..กลัวซวย
ไอ้ผมไม่กลัวซวย แต่กลัวมันกัด
สุดท้ายผมก็ต้องถือไม้ปัดขนไก่ตามหาไป ร้องเรียกมันไป
...คุณทอง ออกมาหน่อยครับ...ออกมาเร๊ว.ว...ออกมา...
หาไปก็ร้องเรียกไปตลอด ไปเจอกำลังจะปีนขึ้นใต้ท้องรถเชียว...กระบะคันที่แพงที่สุดซะด้วย
เลยต้องค่อยๆ ต้อน ค่อยๆ อ้อนวอน ให้ออกมา
กว่าจะชวนลงจากโชว์รูมได้เล่นเอาเหนื่อย...ผมเหนื่อยคนเดียว
คนอื่นยืนลุ้นกันคนละทิศละทาง

ตลอดช่วงเช้าไม่เป็นอันทำอะไร วิจารณ์กันวุ่นวาย
ซวย...ซวย...อย่างนี้ซวยแน่...ต้องทำบุญโชว์รูม...สารพัดจะบ่นกัน
เซลส์ที่เป็นเวรรับลูกค้าหนีกลับไปเลย บอกแต่...วันนี้ซวย ต้องรีบไปรดน้ำมนต์ สะเดาะห์เคราะห์

พอตอนบ่ายเหตุการณ์ปรกติ มีลูกค้าขึ้นมาดูรถ...
เป็นคุณลุงคนหนึ่ง ท่าทางโทรมเชียว สะพายกระเป๋าแบบคนต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ น่ะ
มาดูรถกระบะ...ดูรุ่นท๊อป แพงที่สุดซะด้วย
คนอื่นเมินหน้าหนีหมด...ผมเห็นเลยเดินเข้าไปต้อนรับ
ไม่ได้คิดอะไรมาก ใครมาดูรถ เราต้องต้อนรับให้ดีที่สุด...เป็นหน้าที่
คุณลุงแกก็..เก้ๆ กังๆ...ไม่ค่อยรู้เรื่องรถ
ถามแต่ราคาเท่าไหร่
ผมก็บอก...ดูรถก่อน ดูให้ชอบใจ มันดียังไง ชอบแบบไหน
แกก็ดูไม่รู้เรื่อง คอยถามแต่ราคา...
สุดท้ายเชิญไปนั่ง...ถามคุณลุง ชอบคันไหนครับ...ชอบไอ้คันที่แพงที่สุด
ผมก็เอา...ตามใจ แต่ก็นึกจะไหวเหรอ...
ถามว่าจะดาวน์เท่าไหร่ดี…มีคนค้ำประกันหรือยัง
แกก็หน้าเครียดเลย...ไม่พูด อึกๆ อักๆ
เอ...เอางี้แล้วกัน วันนี้จองไว้ก่อนซัก 5,000 เดี๋ยวผมจะเอาคันใหม่
เอี่ยมมาให้
ถามอีก...ไม่ต้องจองได้มั๊ย
ผมนึก...สงสัยไม่มีสตางค์
แกก็ถามอีก...เมื่อไหร่จะได้รถ วันนี้ไม่ได้เหรอ...แล้วก็กอดกระเป๋าใบโทรมไว้แน่น
ผมก็อธิบายว่า ต้องจัดการเรื่องทำไฟแนนซ์ ให้เขาอนุมัติก่อน

เห็นสีหน้าพิลึก...เลยถามตรงๆ ว่าคุณลุงมีปัญหาอะไรเหรอ ครับ
แกก็ทำหน้าเครียด ท่าทางแปลกๆ
สุดท้าย.ย..ก็พูดออกมา....
...เบิกเงินมา 700,000 ธนาคารก็ปิดแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงกับเงินนี่
ว่าแล้วก็ยกกระเป๋าใบโทรมขึ้นมาบนโต๊ะ เปิดออกมา...เงินสด..สด.
ผมก็อ้าว...ผ้าขี้ริ้วห่อทอง ก็ไม่บอก
คุณลุงเล่าให้ฟังว่า เบิกเงินจากธนาคารมาตั้งแต่เช้า
ไปดูมาตั้งสองโชว์รูมแล้ว เขาไม่สนใจต้อนรับ จนนั่งรถเมล์เลยมาถึงที่นี่...โถ น่าสงสาร

สรุปว่าต้องให้แคชเชียร์ มานั่งนับ...รับเงินไปเก็บไว้ในเซฟ ส่วนที่เกินขอฝากไว้ด้วย
ส่วนรถก็ให้มารับพรุ่งนี้...เพราะต้องตรวจเช็คให้เรียบร้อยก่อน
แหม เลือกคันไหนไม่เลือก...เลือกคันที่ คุณเอี้ย พยายามปีนขึ้นไปซ่อนน่ะแหละ

รุ่งขึ้น คุณลุงมารับรถ...มากันทั้งบ้าน เสียงลั่นโชว์รูมเลย
คือ...เวลาที่ลูกค้ามารับมอบรถ ผมจะสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น เฮฮา...
มันจะเป็นความทรงจำที่ดีต่อลูกค้า ต่อรถคันนั้นไปตลอดชีวิต...
ผมกับเมียคุณลุงคุยกันสนุก ถึงได้รู้ว่า...ทำอาชีพเก็บถุงพลาสติกใช้แล้วมาล้างทำความสะอาด...ตากให้แห้ง
แล้วรวบรวมส่งให้โรงงานรีไซเคิ้ล
แกเคยถูกโกง เลยตั้งปณิธานไว้
...ต่อไปนี้ ทั้งชีวิต...จะซื้อแต่เงินสด ไม่ยอมผ่อนอะไรทั้งนั้น...
รถคันนี้กว่าจะซื้อได้ พยายามอดออมเก็บเงินมาตั้งหลายปี...

ผมก็เตรียมพวงมาลัยดอกกุหลาบ อย่างสวยไว้ให้
พร้อมอวยพรเสียงดัง...เอาไปทำมาค้าขึ้น...ให้เงินไหลนอง ให้ทองไหลมา นะครับ...
เมียคุณลุงชอบใจควักแบงค์ 500 ให้ผมต่อหน้าคนอื่นเลย...บอกถูกใจ
เซลส์คนที่หนีกลับบ้าน...หน้างอหงิกเลย บ่นแต่...ซวย...ซวย จริงๆ ...

หลังจากนั้นมา ไปลือกันว่าผมมีคาถาอาคม สามารถพูดกับเอี้ยได้...
แต่ผมว่า คุณเอี้ยให้โชคมากกว่า...เพราะมันเอียงคอหันมามองผมตั้งหลายครั้ง ก่อนลงจากโชว์รูม
ต่อมาอีกไม่กี่เดือน สำนักงานใหญ่ก็เรียกให้ไปขึ้นเป็น ผู้จัดการฝ่ายลูกค้ารายใหญ่ อยู่ 6 เดือน
แล้วย้ายให้มาเป็นผู้จัดการที่ พระประแดง นี่แหละ...

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 10:04:36




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 23:00:25 น.
Counter : 1248 Pageviews.  

กรรมทันตา ผี...เหรอ

ผี...เหรอ

มีคนอยากฟังเรื่อง...ผี
อันที่จริงผมไม่เคยเจอ..ผี...แบบจังๆ นะครับ
และก็ขอไม่เจอดีกว่า
แต่มานึกดู ก็เคยแบบเฉียดๆ นะ

ตอนเป็นเด็กซัก 7 ขวบมั๊ง
ที่บ้านเป็นบ้านสองชั้น ครอบครัวผม พ่อ แม่ ลูก 4 คน นอนชั้นล่าง
ชั้นบนก็มี คุณย่า และ อาอีก 3 คน
ทีนี้คุณย่า ซึ่งท่านเลี้ยงผมมา ได้ตายลง
ด้วยความเป็นเด็ก ก็กลัวผีอยู่แล้ว ยิ่งผู้ใหญ่แกล้งพูดกันให้ได้ยินว่า
พอครบ 3 วัน 7 วัน วิญญาณจะกลับมาบ้าน
พอคืนวันที่ 3 ได้เรื่องจริงๆ
กลับจากงานสวดศพก็ดึกมากแล้ว ทุกคนก็เข้านอนกันหมด
ผมก็นอนรวมๆ กับน้องๆ พื้นเป็นไม้กระดาน
ราวๆ สองยามเห็นจะได้...ไม่รู้ตื่นขึ้นมาทำไม อาจเป็นเพราะได้ยินเสียง....
เสียงคนเดิน...เสียงรองเท้าแตะ...แช๊ก...แช็ก...แช็ก...
คนเราแต่ละคนจะมีจังหวะเดินไม่เหมือนกัน ยิ่งใส่รองเท้าแตะ เสียงยิ่งมีเอกลักษณ์
คุณย่า ท่านเลี้ยงผมมาตั้งแต่เล็ก ทำไมผมจะจำเสียงเดินของท่านไม่ได้
เสียงมันชัดเจนมาก...แน่นอนอย่างที่สุด....คุณย่าผม
ได้ยินแค่คืนเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินอีกเลย...คิดถึงท่านเหมือนกัน

หลังจากนั้นอีกซัก 5 ปี
อา คนเล็กของผม เป็นผู้ชาย ปัจจุบันเป็นใหญ่เป็นโตมาก.ก.. ในหน่วยงานที่ดูแลระบบราชการ ที่เรียกว่า ก.พ.
แฟนของคุณอา ก็ภรรยาท่านปัจจุบันนี้แหละ และเดี๋ยวนี้เป็นอาจารย์สอนกฏหมาย ที่ ม.รามคำแหง
ได้เล่าให้ที่บ้านผมฟังว่า บ้านที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านท่าน ลูกชายเสียชีวิตจากรถคว่ำ น่าสงสารมาก
แต่พอตายครบ 7 วัน คืนวันนั้น แฟนคุณอาผมท่องหนังสืออยู่จนดึก ยังไม่นอน ได้ยินเสียงหมาทั้งเห่า ทั้งหอน
ก็มองไปที่บ้านตรงข้าม เห็นชัดๆ...ลูกชายบ้านนั้น
คนที่ตายไปแล้วน่ะ...มายืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง เข้าบ้านไม่ได้
ท่านเล่าว่า กลัวก็กลัว แต่มีสติรีบวิ่งไปตามน้องสาวมาช่วยกันดู
...อีทีนี้...ชัดเจน เห็นชัดทั้งสองคนเลย...ลูกชายบ้านนั้น ยืนหน้าประตู เข้าบ้านไม่ได้

อีกเรื่องที่แปลก
ผมมีน้าชายหลายคน แสบๆ ทั้งนั้น
แต่น้าเกษม ที่จะเล่านี่ชอบกินเหล้า เล่นการพนัน ถูกตำรวจจับในวงไฮโลไม่รู้จะกี่ครั้ง
ต่อมาอายุประมาณ 45 เป็นมะเร็งตับ
ก้อนมะเร็งมันโตขึ้นตลอดเวลา...ตอนที่ตายก้อนเท่าลูกมะพร้าวโตเต็มที่
รักษาอยู่นาน สุดท้ายโรงพยาบาลให้มาตายที่บ้าน
ผมเลยได้พิจารณาการตายอย่างใกล้ชิด...ได้เห็นคนค่อยๆ ตาย
แต่แกคงห่วงลูก เมีย ตายตาไม่หลับจริงๆ
ผมพยายามปิดเปลือกตาให้ แต่ก็ไม่สนิท...ได้แค่เหมือนคนหรี่ตา เท่านั้น
น้าเกษม คนนี้มีนิสัยชอบดูฟุตบอล มาก.ก...ที่สุด
พอแกตาย เมียก็พาลูกไปอยู่ที่อื่น
หลังจากนั้นหลายเดือน กลางดึกคืนวันหนึ่ง คุณยายของผมท่านก็ลุกจากที่นอนขึ้นมาเปิดทีวี
ผมก็ถามว่า ดึกมากแล้วเปิดทีวีทำไม
ท่านบอก...ไอ้เกษม มันมาขอให้เปิดทีวีช่อง 3 ให้หน่อย บอกว่ามีถ่ายทอดฟุตบอลอังกฤษ...ให้รีบเปิดด้วย มาเรียกตั้งหลายครั้ง
ผมก็งง เปิดมาก็มีจริงๆ ด้วย...แปลก

อีกเรื่อง
จากนั้นอีกหลายปี คุณยายของผมท่านแก่มาก เสียชีวิตที่จังหวัด ระยอง
คุณแม่ของผม และน้าๆ ก็นำศพมาเผาที่กรุงเทพฯ
พอวันที่ 3 ตอนบ่ายๆ
อยู่ดีๆ ก็มี...นกเค้าแมว...ตัวโตเต็มที่ สีเทา ๆ ตัวใหญ่มาก
บินมาเกาะต้นไม้ ที่อยู่ในบ้าน...เกาะอยู่แบบไม่กลัวคน เกาะกิ่งเตี้ยๆ ด้วย
ผมรีบไปเรียกคุณแม่ ให้มาดู ท่านก็มายืนดูห่างกับนกเค้าแมวไม่ถึง 3 เมตร
แล้วคุณแม่ผมก็พูดว่า...แม่เหรอ...แม่มาหาเหรอ...ไม่ต้องห่วงอะไรหรอกนะ
แต่นกตัวนั้นก็ไม่ไปไหน เกาะกิ่งไม้มองนิ่งอยู่อย่างนั้นซักชั่วโมงนึงได้ ถึงได้บินหายไป
ผมยังไปยืนจ้องดูใกล้ๆ นกตัวนั้นก็ไม่กลัวคน หรือใครทั้งนั้น...เป็นไปได้ยังไง

อีกเรื่อง แม่ยายของผม ท่านตายไปซักปีกว่าๆ
วันหนึ่ง พ่อตา หรือพ่อภรรยานี่แหละ เกิดอยากกินน้ำปลาหวานสูตรที่แม่ยายเคยทำให้ เลยวานให้ภรรยาของผมทำให้หน่อย
แต่ภรรยาผมทำไม่เป็น เคยแต่กิน...ไม่รู้สูตร
บ่ายวันนั้น อยู่ดีๆ เค้าก็ง่วงมาก หลับไป
พอตื่นมา ภรรยารีบไปทำเลย...ออกมาเป๊ะ เหมือนกัน
พ่อตาผมกินไปก็สงสัย...ไหนว่าทำไม่เป็นไง นี่เหมือนกันเลย
ภรรยาผมก็เล่าให้ฟัง ตอนที่หลับไป...ฝันว่าแม่มาหา บอกสูตร บอกวิธีทำน้ำปลาหวานให้
แปลกมั๊ย...

เรื่องสุดท้าย
ตอนที่คุณพ่อตาของผมท่านเสียชีวิต...ภรรยาผมเสียใจมาก
ทั้งๆ ที่ท่านก็แก่มากแล้ว สองปีสุดท้ายก็เดินไม่ได้ ต้องอยู่แต่บนเตียง...บ่นแต่อยากไปเที่ยว
แต่ผมกับภรรยา ก็ดูแลหาของอร่อยๆ มาให้ท่านเสมอทุกอาทิตย์
ของที่ไหนอร่อย ที่ไหนดี ไปหาให้หมด
แต่ท่านก็บ่นไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลย
ตอนท่านตาย ภรรยาของผมเสียใจมากจนไม่เป็นอันทำอะไร
แทบจะไม่กินข้าวเลย
งานศพของท่าน...พวกผม มีพี่สาว พี่เขย ผมกับภรรยา น้องชายภรรยาและสะใภ้ ก็มาคุยปรึกษากัน...จะทำแบบไหนดี
แต่ทุกคนก็ให้ผมตัดสินใจ แล้วแบ่งงานกันทำ
สรุปได้ว่า ธีมของงาน...เรียบง่าย แต่ไม่เศร้า
เพราะท่านเป็นคนที่ทำบุญ ทำกุศลเยอะมาก เฉพาะพระประธานก็ถวายกว่า 10 องค์ละมั๊ง
ไม่นับให้ทุนการศึกษา ปีละ 2 – 3 ทุน ไปทำสังฆทานกันทุกเดือน
ใส่บาตรแทบทุกเช้า วันละ 3 รูป
พวกเรามั่นใจว่าท่านต้องไปดี...ไปในภพภูมิที่สูงแน่นอน

แต่ทีนี้...ท่านเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่...จะให้แต่งตัวท่านยังไง
จะใส่เครื่องแบบ หรือชุดขาว
ผมก็บอก อย่าเลย...ท่านมีความสุขที่สุดตอนได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับพวกเรา
เรามักจะไปเที่ยวไป หาที่ทำบุญ ทำสังฆทานกันไป เป็นประจำ
ผมว่า น่าจะใส่ชุดที่ท่านชอบที่สุด...ชุดใส่ไปเที่ยว
เป็นกางเกงขายาวสบายๆ เสื้อคอกลม มีเสื้อซาฟารี ทับอีกตัว ใส่รองเท้าแตะสานรัดส้น
ซึ่งเป็นชุดเก่งเวลาเราไปเที่ยวกัน
ท่านจะต้องมีกระติกน้ำชา ยาดม ยาหม่อง แผนที่ ทิชชู่ ในกระเป๋าสะพายคู่มือด้วย

พวกเราก็เลยแต่งตัวให้ท่านตามนั้น
แถมยังชงน้ำชา ใส่อุปกรณ์ ทั้งกระเป๋าคู่มือพร้อม
ตอนรดน้ำศพ แขกที่มาก็แปลกใจถามกันทุกคน ต้องอธิบายกันยุ่ง
แต่พอเข้าใจทุกคนก็เห็นด้วยอย่างมาก...บอกถ้าตอนเขาตาย ก็อยากให้คนที่บ้านทำอย่างนี้บ้าง

ตอนใส่โลง ก็ไม่ต้องมัดตราสัง ไม่ต้องเอาเหรียญใส่ปาก ไม่ต้องมีพิธีการวุ่นวาย
ใส่แต่อุปกรณ์การไปเที่ยว...ธีมคือ ท่านได้ไปท่องเที่ยวอีกครั้ง...
พวกผมมั่นใจ...ท่านได้ไปสวรรค์แน่นอน
เสร็จงานศพ...ผมบอกไม่ต้องไว้ทุกข์ แค่ไม่ใส่สีฉูดฉาดก็พอ
เพราะเราไม่ทุกข์ ท่านไปดีจะทุกข์ทำไม ต้องดีใจถึงจะถูก
ภรรยาของผม พอเข้าใจก็หายโศกเศร้า

วันเก็บกระดูก ลอยอังคาร
พวกผมก็มานึกดูว่าท่านชอบที่ไหน...อ๋อ..ท่านชอบทะเล
มักจะไปนั่งเตียงผ้าใบชายหาด กินส้มตำ ปลาหมึกย่าง...
ก็เลยตกลงเอากระดูกทั้งหมด...ไปลอยในทะเล
ระหว่างระยอง กับเกาะเสม็ด นั่งเรือไปบริเวณที่ดำน้ำดูปะการัง
หาที่สงบๆ น้ำใสแจ๋ว ปะการังสวย...โปรยเถ้ากระดูกท่านลงไป
ภรรยาผมบอก...ดีจัง ที่นี่สวย สงบ พ่อคงชอบ...
พอกลับมาบ้าน คืนนั้น
ประมาณ ตีหนึ่ง...จู่ๆ ประตูห้องนอนก็เปิดผาง ออกมา
เห็นหมาที่บ้าน มันทำท่าดีอกดีใจ...เหมือนเวลาเรากลับมาบ้าน
ซึ่งแปลกมาก ผมกับภรรยานอนชั้น 3 และมันก็ไม่เคยขึ้นมา
มันกระดิกหางอย่างแรง ทำท่าพัวพันกับใคร...ที่เรามองไม่เห็น
ภรรยาผม น้ำตาไหล บอก
...คุณพ่อท่านคงมาขอบใจ ที่ได้ไปเที่ยวอีกครั้ง...

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 09:42:09




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 22:58:42 น.
Counter : 1175 Pageviews.  

กรรมทันตา ดูคน

ดูคน

เมื่อตอนเรียนในโรงเรียน หรือระดับมหาวิทยาลัย
เราก็เรียนเรื่องต่างๆ มากมาย
บางเรื่องก็เรียนไปงั้นๆ คิดว่าชีวิตจริงไม่ได้ใช้...เช่น วิชาศิลปะ วาดเขียน การพูด เรียงความ งานฝีมือ เย็บปักถักร้อย ฯลฯ
แต่ในการทำงานของผม กลับได้ใช้อย่างมากโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่อง ศิลปะ เรื่ององค์ประกอบศิลป์ เรื่องของสี แสงเงาซะเลย
ผมคงเป็นผู้จัดการโชว์รูมไม่ได้ เพราะไม่สามารถจัดวางโชว์รถ จัดแสงให้สวยงามน่าดูได้
หรือก็คงช่วยภรรยา ออกแบบ ขายชุดบาร์บี้ไม่ได้ หรือได้ก็ไม่ดี คงเจ็งไปแล้ว

แต่มีวิชาหนึ่งที่คิดว่าไม่ได้เรียน...วิชา ดูคน
พอมาเป็นลูกน้องเฮียเฮง ถึงแม้แกจะร้ายกาจ แต่แกก็สอนผมหลายเรื่อง หลายอย่างที่เขาไม่สอนกัน
เรื่องหนึ่ง คือการดูคน...การหาจุดอ่อน จุดแข็ง ข้อเสีย นิสัยใจคอ
ของคนที่เราต้องสัมผัส ต้องสัมพันธ์กับเขา...อย่างรวดเร็ว
เพื่อหาประโยชน์ หรือ ป้องกันตัว
เมื่อคนๆ หนึ่ง เดินมาหาเรา หรือยืนตรงหน้า เราต้องรีบอ่านและทำความเข้าใจคร่าวๆ ให้ได้ใน 10 วินาที
คนเรามีสัญชาติญาณ การจับผิดคนคนอื่นอยู่แล้วเป็นธรรมชาติ
ไอ้นี่ขี้เหล่ นังนี่อ้วน เด็กคนนี้แร่ด ....แต่เราไม่ได้ฝึกอ่านให้เข้าใจ เอาแต่ข้อเสีย จุดอ่อนอย่างเดียว
เฮียเฮง แกจะสอนให้ทำความเข้าใจ หาจุดอ่อนทั้งร่างกาย และจิตใจของคนนั้นให้ได้
เช่น คนที่เดินมาเป็นผู้ชาย ท่าทางกร่าง อวดดี ใส่เครื่องประดับเยอะๆ แบรนด์เนมทุกอย่าง
แสดงว่า...เป็นพวกขี้อวด โง่ ไม่มั่นใจตนเอง จิตใจลึกๆ อ่อนแอ ต้องซ่อนอยู่หลังเครื่องประดับ แบรนด์เนมทั้งหลาย
แถมยังเป็นพวกขาดความอบอุ่น ขาดการยอมรับ ต้องโชว์ออฟเพื่อเรียกร้องความสนใจ
หรือผู้หญิงที่สวย ทำหยิ่ง เชิด มั่นอกมั่นใจ ใส่เสื้อผ้าฟิตรูปร่าง ออกแนวสั้น
แสดงว่า...พวกนี้ ว้าเหว่ ขาดที่พึ่งทางใจ อยากให้ผู้ชายสนใจอย่างแรง...อยากได้ซะมีสักคน เป็นการด่วน.
พวกที่มีน้อย ก็พยายามแสดงว่ามีมาก
พวกที่มีมาก ก็ทำตัวว่ามีน้อย

ประกายตา ก็สำคัญ...ดวงตา เป็นหน้าต่างของหัวใจ
บอกชัด คนนี้มีพลัง หรือท้อถอย อ่อนแรง
จิตใจดีงาม หรือ เลวร้าย

พวกที่น่ากลัว และดูยากที่สุด...คือพวกนิ่ง..นิ่ง...แต่งตัวธรรมดา แต่สะอาด เรียบร้อย ยิ้ม..ยิ้ม หรี่ตานิดหน่อย งำประกาย
เวลาอยู่ท่ามกลางคนอื่น จะดูกลืนไปได้กับเขาหมด ไม่แสดงตน
พวกนี้อ่านยาก มีดีอยู่ข้างใน อาจจะแอบหัวเราะเราอยู่ก็ได้...ที่จริงเขาอ่านเราขาดไปตั้งแต่ 5 วินาทีก่อนแล้ว
ผมละกลัวพวกนี้ที่สุด...ประเภทซ่อนดาบในรอยยิ้ม
รู้ตัวอีกที มีดปักอกเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว...หันไปดู มันยังยิ้ม..ยิ้ม อยู่เลย...

ต่อมาทำงานที่ นิสสัน พระประแดง ยังเป็นเซลส์เล็กๆ
เอ็ม.ดี. ท่านหนึ่ง ชื่อ คุณสมศักด์ ฉันทานุศาสน์
ท่านจะมาตรวจสาขา ทุกเดือน มาแต่เช้า..มาก ไม่มีการบอกล่วงหน้า
บ่อยครั้งที่ท่านจะมาถึงก่อนใครๆ เลย...ให้ยามเปิดประตูให้
แล้วสิ่งแรกที่ท่านทำ...เข้าไปดูในห้องน้ำ...ดูในส้วม
ผมมักจะเป็นคนพบท่านคนแรกเสมอ...แรกๆ คิดว่าท่านปวดท้อง เข้าส้วมแต่เช้า ก็ไม่กล้ารบกวน
หลายครั้งเข้าถึงได้รู้ว่า...ท่านเข้าไปตรวจ
พอต้อนรับท่านแต่เช้าบ่อยๆ เข้า ท่านก็สอน...ในส้วมนั่นเลย
ถ้าจะดูคนให้ง่าย...ให้ดูที่ส้วมของเขา มันจะบอกทุกสิ่งทุกอย่าง
เป็นคนละเอียด หรือหยาบ เอาใจใส่ หรือปล่อยปละละเลย จิตใจสะอาด หรือสกปรก ขยัน หรือขี้เกียจ
ส้วม บอกหมด...รายงานท่านหม๊ด..ด...
หลังจากนั้น ผมแทบจะขัดส้วมด้วยตัวเองเลย

มีครั้งหนึ่ง ลาออกจากนิสสันแล้ว บ.ซูบารุ ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
เรียกให้ไปทำงานด้วย...ผมก็ไป
สิ่งแรกผมเข้าส้วมก่อนเลย...สกปรกพอสมควร ไม่เอาใจใส่ ทั้งๆ ที่นายใหญ่ก็เป็นญี่ปุ่น
พอตอนคุยกัน กับนายญี่ปุ่น ผมบอกขอบคุณที่เรียก แต่ไม่ทำที่นี่หรอก
เขาถามทำไม ผมบอกก็คุณถอดใจแล้วนี่ครับ
...แต่ในใจก็นึก ที่นี่อีกไม่นานเจ็งแน่...
ญี่ปุ่นมองหน้า นึกว่าผมเป็นหมอดู...โธ่..ประกายตามันอ่อนแรงมาก
แล้วหลังจากนั้นซักปีได้...เจ็งจริง ๆ...ส้วม มันบอก
จากนั้นไม่นาน บ.รถยนต์ ซาบบ์ มาเรียก
ผมทำแบบเดิม...โอ้โฮ...ส้วมสุดยอดสะอาด พิถีพิถัน เอาใจใส่อย่างดี
ผมรับทำงานที่นี่เลย...แล้วก็จริง เป็นบริษัทที่ดีม๊าก..มาก...
ที่อื่นเขาทำ 5 ส. แต่ที่นี่ ทำ 7 ส. ...เพิ่ม สวยงาม และ สร้างสรรค์
ที่จริงมันต้องอีก ส. คือ ...สุดยอด
แต่เสียดาย ทำได้ไม่นาน บ.แม่ที่สวีเดน ยกเลิกการขายซะนี่

ตอนไปเป็นผู้จัดการ ที่นิสสัน หนองแขม ผมให้นโยบายแรก
ส้วมต้องสะอาด และกลิ่นหอมด้วย......ทุกคนว่าผม...บ้า...

ผมสอนลูกสาวทั้งสองคน บ่อยๆ...ถ้าเราจะรู้จักใครสักคนให้ง่าย
ให้ดูจาก...เรื่องที่เขาคุย...เพื่อนที่เขาคบ...หนังสือที่เขาอ่าน...เพลงที่เขาฟัง...หนังที่เขาดู...
แต่ภรรยาผม บอกให้ดูตอนมันเหนื่อย ตอนมันหิว มันแสดงออกยังไง
เพราะผมชอบโมโหตอนหิว...งอแงตอนเหนื่อย...

สุภาษิตฝรั่งอันหนึ่ง ที่ผมชอบมาก
เขาบอกถ้าจะอ่านคนให้เร็วที่สุด...ให้ดูจาก...รองเท้า.
ผมได้ยินเมื่อซัก 6 ปีก่อน จากนั้นคอยดูมาเรื่อย
เออ...จริงแฮะ...คนเรานี่ดูที่รองเท้าได้ จริงๆ ด้วย
พวกที่รองเท้าเนี๊ยบ...เนี๊ยบ นะ ไม่ใช่แพง
สะอาด เป็นมัน ไม่มีฝุ่นเกาะ...เป็นพวกที่น่าสนใจที่สุด
เป็นคนละเอียด รอบคอบ มีวิสัยทัศน์ ออกจะฉลาดล้ำ
พวกที่รองเท้า แฟชั่น สีแปร๊ด หวือหวา
ไปดูเหอะ ทั้งตัว ทั้งนิสัยใจคอ เหมือนรองเท้านั่นแหละ
ที่แย่ที่สุด...พวกใส่รองเท้าโทรมๆ ไม่เอาใจใส่
รับรองได้...ชีวิตล้มเหลว ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว...เหมือนรองเท้า

วันก่อน ไปเจอนักศึกษา ม.เกษตร เดินชักชวนทำบุญ ทอดกฐิน 9 วัด
มองดูมีอยู่ 7 – 8 คน อุ้มกล่องคนละใบ คนหัวหน้าถือโทรโข่งพูด...
...เชิญมาทำบุญทอดกฐินกันนะค๊ะ...เป็นกาละทาน มีโอกาสทำได้เฉพาะเวลาเท่านั้น...
เป็นบุญที่ทำยากนะค๊ะ...รีบมาทำบุญกันค่ะ...
คนที่ได้ยิน ก็ควักใส่กันทุกคน เห็นแล้วดีใจ
เด็กแต่ละคนแต่งชุดนักศึกษา เรียบร้อย ผิวพรรณผ่อง...ไม่ใช่ขาวนะครับ แต่ผ่องจากข้างใน
ประกายตาสุกใส หน้าตาดี...ไม่ใช่หล่อ สวย แต่หน้าตาโหงวเฮ้งดีทุกคน
ยิ่งดู ยิ่งมอง ยิ่งประหลาดใจ...เฮ้ย...เด็กพวกนี้ ลักษณะดีทู๊ก.ก..คน
ผมรีบควักเงินทำบุญ หมดตัวเลย...100 บาท
ก็ภรรยาให้ติดตัวไว้แค่นี้

ดูไปดูมา นึกขึ้นได้...อ๋อ...เด็กพวกนี้ ไม่ใช่คน...ธรรมดา
เป็น มนุสสเทโว ...เทวดา ที่เกิดมาสร้างบารมีนี่เอง
เห็นแล้วปลื้มใจ จริง...จริง.
ดีใจที่ได้ทำบุญกับท่าน อย่างที่สุด

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 13:01:57




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 22:57:08 น.
Counter : 1170 Pageviews.  

กรรมทันตา บาร์บี้

บาร์บี้

คุณหม่อง ภรรยาของผม เธอผลิตชุดตุ๊กตาบาร์บี้ ส่งสำเพ็ง
มันเริ่มมาจากที่เคยเล่าไปแล้วว่า เค้าชอบขายของเล่น
…ตอน กรรมทันตา ภรรยาของผม...
จากแผงเล็กๆ ที่คลองถม...จนกลายมาเป็นผู้ค้าส่ง แบ่งให้พ่อค้าด้วยกัน
จนโรงงานทั้งหลาย ย้ายไปเมืองจีนหมดแล้ว
เลยไปหาอย่างอื่นขายต่อไปเรื่อยๆ...สนุกดี

ซัก 4 - 5 ปีก่อน ขณะนั้นตุ๊กตาบาร์บี้กำลังบูม
คุณหม่อง ก็ไปกว้านซื้อตามห้างที่ลดราคา ขอซื้อจากตัวแทนจำหน่าย
และหาจากแหล่งอื่นๆ มาขาย ต้นทุนเฉลี่ยตัวละ 300 บาท
ชุดเสื้อผ้าตุ๊กตาของแท้ เฉลี่ยชุดละ 100 บาท
ต่อมาเมืองจีน เล่นผลิตตัวปลอมออกมา แรกๆ ก็ไม่ค่อยสวย
แต่ต่อมาสวยมาก...จนสวยกว่าของแท้บางรุ่นซะอีกแน่ะ
ราคาน่าตกใจ สุดท้ายเหลือตัวละ 30 บาท...30 บาท เอง
ชุดจากเมืองจีนราคาถู๊ก.ก..ก..ถูก แต่ไม่สวย 20 บาท
คนไทยเราตัดชุดบาร์บี้สวยกว่าเยอะ...แต่ราคา 30-200 บาท

อยู่มาวันหนึ่ง...คุณ หม่อง กับลูกสาว และพี่เลี้ยงที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
นั่งดูหนังเรื่อง...สุริโยไท...
หนังสนุก ดูกันไป วิจารณ์กันไป...แล้วจู่ๆ
ลูกสาวคนโตตอนนั้นเรียน ธรรมศาสตร์ มาร์เก็ตติ้ง ปี 1
ก็พูดว่า ทำไมเราไม่ทำชุดไทย แบบในเรื่อง สุริโยไท มั่งล่ะ...น่าจะดีนะ
อ้อ...ลูกสาวคนนี้ ชื่อ...กัสจัง...คือผมชอบดูอาราเล่ อ่ะ
เค้าจะไปช่วยแม่ขายที่คลองถมตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ทุกอาทิตย์...
เลยเก่งเรื่องการตลาด การดูคน เล่ห์เหลี่ยมมนุษย์
ภรรยากับลูกๆ ก็ถกเถียง หาวิธีกัน...ทีแรกก็คิดว่าลองทำไว้เล่นเอง

พอได้ไอเดีย พี่เลี้ยงที่เลี้ยงกันมาเกือบ 20 ปี เค้าเก่งเรื่องตัดเย็บ
ก็ไปหาซื้อผ้าที่พาหุรัด...ซื้อกันสนุกสนาน
ต้นแบบคือ ตัวละครในเรื่อง สุริโยไท...
พอลองตัดออกมา...มันน่ารัก สวยดี เก๋ไม่เหมือนใคร
ตัดเสียมั่งดีมั่ง หมดผ้าไปเยอะเหมือนกัน
คุณหม่อง เธอเสียดาย เลยเอาชุดที่ไม่ค่อยสวยไปวางขายเล่น ๆ
ปรากฏว่า ขายหมดก่อนเพื่อน...พวกชุดราตรี ชุดลำลอง มีเยอะ คนเบื่อแล้ว
เลยจ้างให้เด็กพี่เลี้ยง ช่วยตัดมาหลายๆ แบบ
อู๊ย.ย...ทีนี้สนุกกันใหญ่...หาแบบ ออกแบบ ซื้อผ้า งานบ้านไม่ทำเลย

พอวันอาทิตย์ มีแต่คนซื้อชุดไทย โดยเฉพาะสุริโยไท
พอหลาย..หลาย...อาทิตย์เข้า มีลูกค้าอยากได้ที่เป็นผ้าไหมแท้...ราคาไม่เกี่ยง
อีทีนี้ ต้องตั้งหลักกันใหม่...แบบต้องหรู ผ้าต้องเนี๊ยบ ฝีเข็มต้องปราณีต ผ้าต้องไหมแท้
ทำออกมาสวยมาก แต่มันใช้เวลา และความตั้งใจสูง
พอวันอาทิตย์ ทุกเช้าก่อนตั้งร้าน...ลูกค้ามายืนรอ ตรึม
มีทั้งซื้อไปเล่น ซื้อไปขาย ซื้อไปแก้บน ซื้อไปถวายแม่ตะเคียนขอหวย
ปัญหาคือ...หาช่างไม่ได้...มีแต่ช่างเสื้อที่ตัดชุดคน ไม่ยอมตัดชุดตุ๊กตา
เหตุผลสำคัญ คือ ตัวมันเล็ก...ตัดยาก เย็บลำบาก
ออร์เดอร์ยาวเหยียด...คุณหม่อง ปวดหัว อยากได้สตางค์

ค่อยๆ หาช่างเพิ่ม จนได้ 3 คน ค่อยยังชั่ว
แต่กว่าจะฝึก กว่าจะเข้ามือ...เหนื่อยแทบขาดใจ
ช่างพวกนี้ ทีหลังไม่ยอมไปตัดชุดคนอีกต่อไปแล้ว...บอกคนมันเรื่องมาก
อ้วนไป ผอมไป บ่นว่าช่างสารพัด
แต่บาร์บี้ มีไซส์เดียว ไม่อ้วนขึ้น ไม่ผอมลง...มีแค่บางรุ่น อกใหญ่ อกเล็ก
บาร์บี้ปลอมจากจีน...จะอกใหญ่
บาร์บี้แท้ของฝรั่ง...อกเล็ก....ฮิ..ฮิ...

ผลิตขายไม่ทัน ทั้งผ้าไหมแท้ ไหมเทียม
แล้วก็มีลูกค้าคนหนึ่ง มาถามว่าจะไปลงขายในงาน โอทอป มั๊ยจะจัดการให้
คุณหม่องบอกไม่เอาละค่ะ... ค่าที่แพง
เขาเลยขอซื้อไปขายจะได้มั๊ย...โอเค ยินดียิ่ง
เขาก็ขอทำแบรนด์เอง ขึ้นโอทอป...ติดอันดับต้นๆ ของงานเลย
แต่ก็มีปัญหาตามมา
ชุดเปล่าๆ ก็สวยดีอยู่แล้ว...แต่ลูกค้าอยากได้เครื่องประดับอีก
พวก ทับทรวง กำไล กรองคอ กรรณเจียก ต้นแขน.....ไปถึง มงกุฏ ชฎา ฯลฯ
ลูกค้าเรียกร้อง รีเควสมา...คุณหม่อง ก็อยากขาย

คิดกันแทบตาย ลองกันหลายอย่าง...
เอาตุ้มหูคน มาดัดแปลงก็พอได้ แต่ไม่ไฮโซ
ไปเดินดูงานแสดงสินค้า ไปสนใจพวกทำหัวโขน หุ่นละคร
สุดท้ายได้เจอคนเก่ง...ครูเล็ก...พิรุณ ศรีเอี่ยมสะอาด
ท่านเมตตา คุณหม่อง อย่างมาก ถือเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

ครูเล็ก ถนัดงานศิลปไทย งานปั้น โดยใช้ดินญี่ปุ่นปั้นขึ้นแบบ ขึ้นลาย
แล้วลงรัก ปิดทอง ติดพลอยสี ง๊าม.ม..งาม
ทั้งที่ท่านจบทางวิศวะ สถาปัตย์...แต่ชอบทางศิลปะ
ท่านทำชุดตุ๊กตาบาร์บี้ ดัดแปลงตัว ดัดแขนขา ให้รำได้อย่างไทย
ปั้นขาบาร์บี้ เป็นหางเงือก ตั้งเกล็ดระเอียดยิบ ปิดทองคำแท้
...ตัวละเป็น หมื่น...
นอกจากท่านจะทำ เครื่องศิราภรณ์ ให้แล้วยังเมตตา สอนเทคนิคการดีไซน์ ปรับปรุงชุดที่เราทำให้อีก
ชุดเดิมว่าสวยแล้ว...แต่พอ ครูเล็ก ปรับปรุง ฟิตติ้งให้ใหม่...โห..มันคนละเรื่องเลย
มีความอ่อนช้อยขึ้นมาทันที

ยอดขายจาก โอทอป ถือว่าน่าพอใจมาก
แต่พอ โอทอป มีปัญหา ยอดก็ตกลงทันที...
อีทีนี้ สต๊อคที่เราเตรียมไว้ รวมทั้งช่างที่ปั้นขึ้นมา จะทำยังไงล่ะ
คุณหม่อง นอนก่ายหน้าผากอยู่หลายวัน
ผมเลยบอกว่าแหล่งขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก็สำเพ็งไงล่ะ
คุณหม่อง บอกเคยไปดูเหมือนกัน แต่มีคนทำส่งแล้ว ราคาถูกมาก
...แต่สวยสู้ของเราไม่ได้ คนละเกรดกัน คนละราคา
ผมยุให้ไปลุยเลย...นำเสนอทั้งสองเกรด ทุกแบบ
สุดท้าย เธอก็ถือชุดไปหาร้านที่น่าสนใจ
ก็เข้าไปคุยกันตรงไปตรงมา บอกที่มาที่ไปของเรา
ทางร้านบอก...หามานานแล้ว อยากได้แบบไฮโซบ้าง...อ้าว

ทดลองส่งเข้าสำเพ็ง ทั้งสองเกรด...แต่สุดยอดเขี้ยว กดราคาแหลกราน
คุณหม่อง สุดยอดเค็มเหมือนกัน ขอเงินสด งดเช็ค งดเครดิต...สำเพ็งบอกโอเค๊...
ภายหลังเจ้าประจำ ลงทุนแยกร้านออกมาต่างหาก ขายเกี่ยวกับบาร์บี้อย่างเดียว
มีทุกแบบ ทุกเกรด ทั้งไฮโซสุดแสน จนถึงจากเมืองจีน ถูกสุดๆ
ใช้ชื่อร้าน...ทา ทา ด้า...

ปัญหาบ้าๆ บอๆ ก็มีนะ...มีคนชอบก๊อปปี้ชุดของเรา ไอเดียเรา
ทั้งชุดซานต้า นางเงือก แฟนตาซี ...เยอะแยะ
ทั้งเหมือน ทั้งดัดแปลง แต่ที่น่าโมโหที่สุด...มีหน้าบอก ออกแบบเอง...
หน๊อย...บางทียังว่าเราก๊อป มันอีกแน่ะ
เชื่อมั๊ย...เคยมีคนดักเดินตาม คุณหม่อง
เราซื้อผ้าร้านไหน...มันซื้อด้วย
เราซื้อวัตถุดิบที่ไหน...มันเอาด้วย
สงสัยเวรกรรม ชอบซื้อเทปผี ซีดีเถื่อน

ปัญหาการค้า ก็คงจะเหมือนกันหมด...
ช่วงพีค ทำไม่ทัน...ช่วงเงียบ ของเหลือ สต๊อคบาน
แต่สงสารช่าง ทุกวันเขาต้องมีรายได้ ไม่งั้นแย่
มีคนคอยก๊อปปี้ คอยเสียบแทน ตัดราคา
ผม กับคุณหม่อง ก็ต้องเอาธรรมะ มาประคับประคองจิตใจ
ช่วงดี อย่าเหลิงต้องระวัง พอช่วงเงียบ ก็อย่าวิตกมาก
ทุกอย่าง...เกิดขึ้น...ตั้งอยู่...ดับไป...หมุนเวียนตลอดเวลา
โลกธรรม มีให้เห็น วันนี้สุข...วันหน้าไม่แน่ อาจทุกข์ ถึงทุกข์มาก
ต้องแก้ด้วยการไม่โลภ เอากำไรแค่ตัวละ 10 – 15 บาท
ใครอยากเลียนแบบก็ตามใจ ถือว่าเป็นวิทยาทาน
...ทีนี้เลยสบายใจ...

ผมไม่สน อิทธิฤทธิ์...เอาแต่ อิทธิบาท
ฉันทะ...ทำแต่ที่ชอบ ทำแล้วสนุก
วิริยะ...ยิ่งทำก็ยิ่งสนุก ยิ่งขยัน ลุยมันเข้าไป...ยิ่งได้เงิน
จิตตะ...คิดจดจ่อกับมันตลอดเวลา ถือคติ...จดจ่อกับอะไร สิ่งนั้นยิ่งขยายผล
วิมังสะ...ทำไปคิดไป หยุดวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ปัญหาต่างๆ แก้ไข แล้วลุยกันต่อ ไม่ท้อไม่ถอย

วันข้างหน้า ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง
แต่วันนี้ ทำแล้วมีความสุข มีความสบายใจ ทำสิ่งที่ชอบ ทำแล้วสนุก
มีกินมีใช้ ไม่เหลือเฟือ ประหยัด ไม่ผ่อนอะไรทั้งนั้น
คีย์สำคัญ...หมั่นสวดมนต์ ปฏิบัติฯธรรม
ข้อสำคัญ....เคร่งครัดในศีลห้า...เทวดาช่วย.
เชื่อเหอะ ผมทำมาแล้ว

อนณ 089-995-9377
จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 09:26:30




 

Create Date : 04 มกราคม 2554    
Last Update : 4 มกราคม 2554 22:54:57 น.
Counter : 2832 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

tobeteam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add tobeteam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.