"อยากฟังเทศน์ฟังธรรมนี้เป็นมรรค"
ถาม : การที่เราอยากไปฟังธรรมพระอาจารย์มาก
แต่ติดที่ว่าไกล ถือว่าเรามีตัณหาหรือเปล่าคะ
พระอาจารย์ : คือการอยากที่จะไปทำ
สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเรา ทางจิตใจนี้
ไม่เรียกว่าตัณหา เรียกว่า มรรค
เป็นทางดำเนินสู่การดับความทุกข์
เช่นความอยากฟังเทศน์ฟังธรรมนี้เป็นมรรค
เป็นเหตุที่จะทำให้เราดับความทุกข์ต่างๆ ได้
เพราะถ้าเราไม่ฟังธรรมเราก็จะไม่รู้จักวิธี
ที่จะดับความทุกข์ เราก็ต้องไปฟังธรรม
เพียงแต่ว่าถ้าเราอยากแล้วเราไปไม่ได้
เราก็ต้องหยุดความอยากไว้
ถ้าปล่อยให้ความอยากนั้นเกิดอยู่
มันก็จะเป็นกิเลสขึ้นมาได้
เพราะว่าเมื่อมันอยากแล้วมันไม่ได้ไป
ตามความอยากมันก็จะทุกข์ได้
ในเมื่อเรารู้ว่าเราจะทุกข์กับความอยากอันนี้
เราก็ต้องหยุด เราต้องใช้เหตุผล
ว่าตอนนี้เราอยากไปแต่เราไปไม่ได้
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปก็ได้ เดี๋ยวนี้เรามีธรรมะมาหา
ถึงในมือถือเราเลย เปิดมือถือขึ้นมา
ก็สามารถที่จะฟังธรรมได้ตลอดเวลา
ทั้งสดทั้งของที่อัดไว้บันทึกไว้ได้ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นความอยากทำความดีนี้ไม่ได้เป็นกิเลส
แต่ถ้าอยากทำแล้วไม่ได้ทำ แล้วยังอยากอยู่ นั้น
ถึงจะเรียกว่ากิเลส คือถ้าอยากแล้ว
มันทำให้เราเกิดความทุกข์ขึ้นมามันก็เป็นกิเลส
แต่ถ้าอยากแล้วมันไม่ได้ทำให้เราเกิดความทุกข์
อยากแล้วเราก็ไปทำตามที่เราอยากทำ
อยากไปฟังธรรมแล้วเราได้ไปฟังธรรม
เราก็ทำไป อยากจะนั่งสมาธิเราก็ไปนั่งสมาธิ
ได้นั่งมันก็เป็นประโยชน์
แต่ถ้าอยากนั่งสมาธิแล้วไม่ได้นั่ง
แล้วยังอยากอยู่ แล้วทุกข์
อันนี้เราก็ต้องหยุดไว้ชั่วคราวก่อน
หยุดความอยากที่จะนั่งสมาธิไว้ชั่วคราว
เช่นต้องไปทำงานแต่อยากจะนั่งสมาธิ
อย่างนี้ก็ต้องหยุดความอยากนั่งสมาธิไว้ชั่วคราว
ไม่ใช่ว่าความอยากนั่งสมาธิไม่ดี
ดี แต่ต้องมีกาลเทศะ ต้องมีเวล่ำเวลาของมัน
ถ้าตอนนี้อยากนั่งสมาธิยังนั่งไม่ได้
ก็หยุดไว้ก่อนแขวนไว้ก่อน
ไปทำสิ่งที่เราต้องทำก่อน
เมื่อเราว่างแล้วทีนี้เรานั่งสมาธิได้เราก็มานั่งต่อ.
อาจารย์สุชาติ อภิชาโต
.........................
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๐
ขอบคุณที่มา fb.. พระอาจารย์สุชาตื อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ