Group Blog
All Blog
<<< "หมั่นเจริญไตรลักษณ์อยู่เรื่อยๆ" >>>











“หมั่นเจริญไตรลักษณ์อยู่เรื่อยๆ”

คำถามข้อที่ ๑. นิพพิทานั้นจะเกิดขึ้นได้

ในเฉพาะจิตใจของพระอริยบุคคลใช่ไหมครับ

พระอาจารย์ : อันนี้เราก็คือ

 คำว่านิพพิทาแปลว่าเบื่อนายใช่ไหม

มันก็มีเบื่อแบบชั่วคราว เบื่อแบบถาวรเนี่ย

 ถ้าหมายถึงเบื่อแบบถาวรก็ต้องเป็นพระอริยบุคคล

คำถามข้อที่ ๒. มีอุบายวิธีใด

ที่จะสงเคราะห์นิพพิทาให้เกิดขึ้นในใจ

ของปุถุชนคนธรรมดาอย่างถาวร

 เพราะปุถุชนทั่วไปมีอาการเบื่อๆ อยากๆ

 ที่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพาน

พระอาจารย์ : ก็นั่นแหละ

ก็ต้องหมั่นเจริญไตรลักษณ์อยู่เรื่อยๆ

พิจารณาไตรลักษณ์อยู่เรื่อยๆ

 พระพุทธเจ้าสอนให้เราพิจารณา

ความแก่ความเจ็บความตาย

 ความพลัดพรากจากกันอยู่เรื่อยๆ

ว่าเกิดมาแล้วต้องแก่เป็นธรรมดา

 ล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้ เกิดมาแล้วต้องตาย

ต้องเจ็บตายไปเป็นธรรมดา

ล่วงพ้นความเจ็บความตายไปไม่ได้

 ต้องมีการพลัดพรากจากกันเป็นธรรมดา

 ล่วงพ้นไปไม่ได้ ถ้ามันเห็นความจริงแล้ว

ความอยากมันก็จะน้อยลงไป พอความอยากน้อย

มันก็จะเกิดความเบื่อหน่ายกับสิ่งต่างๆที่มีอยู่

 เพราะจะเห็นว่ามันเป็นของชั่วคราว

มันจะต้องมีวันจากกันไป

 ต้องพยายามหมั่นเจริญอนิจจังอยู่เรื่อยๆ

 พิจารณาความไม่เที่ยงของสิ่งต่างๆ

 ที่เราไปยึดไปติดไปรักไปชอบ

ว่ามันเป็นของไม่แน่นอน เป็นของชั่วคราว

 แล้วมันก็จะทำให้เราเบื่อมัน

 เพราะว่าเราพึ่งมันไม่ได้ไง

หรือว่าพึ่งมันได้ชั่วคราว

 เดี๋ยวเกิดวันดีคืนดีมันก็หายไปอย่างนี้

งานทำไปวันดีคืนดีเขาเอาเราออกอย่างนี้ เป็นไง

มีใครมารับประกันว่าเขาจะให้เราทำงานไปตลอด

 วันดีคืนดีบริษัทเจ๊งขึ้นมา

 บริษัทต้องปลดคนงานขึ้นมา เขาก็ปลด

 ให้คิดอย่างนี้ คิดถึงความไม่แน่นอนของสิ่งต่างๆ

 ที่เราไปอาศัยเป็นที่พึ่งของเรา

 ว่าวันวันดีคืนดีอาจจะพึ่งมันไม่ได้

 แม้แต่ร่างกายเรานี้เราก็พึ่งมันไม่ได้

วันดีคืนดีมันจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บขึ้นมา

เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 เนี่ยให้คิดถึงความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของสิ่งต่างๆ

 ที่เราใช้เป็นสรณะเป็นที่พึ่งตอนเนี้ย

ตอนนี้เราใช้อะไรเป็นที่พึ่ง ก็ใช้ร่างกายนี้

ใช้ลาภยศสรรเสริญ ใช้รูปเสียงกลิ่นรสเป็นที่พึ่ง

แต่ของพวกนี้มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน

 มันมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปได้ทุกเวลานาที

ให้คิดอย่างนี้บ่อยๆ แล้วมันก็จะไม่เอาดีกว่า

ไม่เอาลาภยศสรรเสริญ ไม่เอาร่างกาย

ไปหาความสุขจากการปฎิบัติธรรมดีกว่า

 อันนี้เป็นของถาวรถ้าเราปฏิบัติธรรมได้

เราเจริญสมาธิได้เจริญสติได้เจริญปัญญาได้

 เราจะทำให้ใจเราสุขได้ตลอดเวลา

โดยไม่ต้องมีร่างกายเป็นที่เป็นเครื่องมือ

ไม่ต้องมีลาภยศสรรเสริญสุขเป็นเครื่องมือ.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

..............................

สนทนาธรรมบนเขา

วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๑








ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภ ิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2561 11:14:35 น.
Counter : 344 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ