ถาม : ขณะที่ใจอยู่กับลมหายใจสติก็เกิด
แล้วบุญเกิดตอนไหนครับ
พระอาจารย์ : อ๋อ ตอนนี้กำลังสร้างบุญอยู่ยังไม่เกิด
เกิดตอนที่จิตสงบนิ่ง เหมือนกับปลูกต้นไม้
ตอนที่เราดูลมเรามีสติ
ดูลมนี่เหมือนกับเรากำลังปลูกต้นไม้
กำลังรดน้ำ พรวนดินต้นไม้อยู่
แต่ต้นไม้ยังไม่ออกดอกออกผล
ต้องหมั่นพยายามพรวนดินรดน้ำไปเรื่อยๆ
จนกว่าต้นไม้โตแล้วก็ออกดอกออกผลขึ้นมาถึงจะได้ผล
การเจริญสติเป็นเหตุ บุญคือความสงบ
จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อจิตสงบนิ่ง มีสติเต็มที่
ฉะนั้นเรากำลังเจริญเหตุอยู่ยังไม่ได้ผลคือบุญ
...........................
ถาม : แล้ววิญญาณเกิดดับตอนไหนครับพระอาจารย์
พระอาจารย์ : วิญญาณมี ๒ ชนิดด้วยกัน
วิญญาณที่เกิดดับก็คือวิญญาณในขันธ์ ๕
ในนามขันธ์ วิญญาณที่ไปเกาะติด
อยู่กับตา หูจมูกลิ้นกาย อันนี้ก็จะเกิดดับไป
พร้อมกับรูปเสียงกลิ่นรสที่มาสัมผัส
พอมีรูปมาสัมผัสกับตา
วิญญาณทางตาก็จะเกิดขึ้นมา
มารับรู้รูปแล้วส่งรูปนี้ไปที่ใจ
พอปิดตาหรือพอรูปนั้นหายไป
วิญญาณตัวนั้นก็หายไป
แล้วมีวิญญาณตัวใหม่โผล่ขึ้นมา
เห็นรูปใหม่ เห็นภาพใหม่ ก็เกิดดับๆ ไปอย่างนี้
อันนี้เรียกว่าวิญญาณในขันธ์ ๕ เกิดดับๆ
ตามการสัมผัสของตากับรูป ของหูกับเสียงไป
ถ้ามีรูปมาสัมผัสตา จักขุวิญญาณก็เกิดขึ้นมา
วิญญาณทางตาก็เกิดขึ้นมา พอมีเสียงมากระทบหู
มันก็มีวิญญาณที่รับรู้เสียงปรากฏขึ้นมา
อันนี้พอไม่มีเสียง วิญญาณที่รับรู้เสียงก็หยุดทำงานไป
เช่น หูหนวกอย่างนี้ หูหนวก
วิญญาณทางหูก็ทำงานไม่ได้
ส่วนวิญญาณอีกตัวหนึ่งที่เราเรียกเวลาร่างกายตายไป
จิตนี้ที่อยู่กับร่างกายก็เปลี่ยนชื่อจากจิตเป็นดวงวิญญาณ
ดวงวิญญาณนี้ก็ไม่ได้ดับไปกับการดับของร่างกาย
ดวงวิญญาณก็ไปรับผลบุญผลบาปที่ได้ทำไว้
ในขณะที่มีชีวิตอยู่ แล้วพอมีร่างกายอันใหม่
ก็ไปเกาะติดกับร่างกายอันใหม่
แล้วก็จะไปเรียกเป็นจิตใจต่อไป เป็นผู้รู้ผู้คิดต่อไป.
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
........................
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ