Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
11 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
●ม่านตาอักเสบ ตาแดง มัว ไม่มีขี้ตา ระวัง - X - Ray สุขภาพ





▶▷ม่านตาอักเสบ ตาแดง มัว ไม่มีขี้ตา ระวัง - X - Ray สุขภาพ


พูดถึง “ม่านตาอักเสบ” หลายคนอาจจะไม่รู้จัก อย่างเมื่อเร็ว ๆนี้คุณแม่ของน้องนักข่าวคน หนึ่งมีอาการตาแดงก่ำ ปวดตามาก ไปหาหมอถึงได้รู้ว่าเป็นโรคนี้ คนในครอบ
ครัวก็วิตกกังวลว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ รักษาหายแล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้มั้ย ไปฟังคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญกันเลย

>>>รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ แห่งประเทศไทย และหัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายว่า ม่านตาเป็นส่วนประกอบของลูกตาทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแสงเข้าไปในดวงตา จึงมีความสำคัญ ต่อการมองเห็นภาพที่ชัดเจน

>>>ม่านตาอาจมีการอักเสบเกิดขึ้นได้ สาเหตุมาจากการ ติดเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา แต่ที่พบบ่อย คือ ม่านตาอักเสบมักเกิดร่วมกับภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น เป็นโรคเอสแอลอี หรือโรคข้ออักเสบ

นอกจากนี้ยังพบว่า ม่านตาอักเสบอาจเกิดขึ้นเองโดยไม่ได้มีสาเหตุอื่นร่วมด้วย โดยคนไข้กลุ่มนี้พบได้เกินครึ่ง

ม่านตาอักเสบมักพบในวัยทำงานอายุระหว่าง 20-50 ปี คนหนึ่งเป็นซ้ำได้หลายรอบ โดยเฉพาะคนที่เคยเป็นอยู่บ่อย ๆ

อาการ คือ ตาแดง ตามัว ปวดตา บางคนอาจเป็น 2 ข้างพร้อมกัน บางคนเป็น 2 ข้าง แต่เป็นทีละข้าง ใครก็ตามที่เป็นตาแดง ตามัวโดยไม่มีขี้ตา ให้สงสัยก่อนเลยว่าเป็นม่านตาอักเสบ

>>>ในการตรวจวินิจฉัยของจักษุแพทย์อาจตรวจพบการมองเห็นของคนไข้ลดลง การส่องกล้องอาจพบว่ามีเซลล์อักเสบอยู่บริเวณม่านตา บางครั้งอาจเห็นเป็นหนองในตาดำ กรณีที่มีการอักเสบรุนแรงเป็นหนองอาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้

>>>คนไทยเป็นม่านตาอักเสบกันเยอะมาก อย่างตัวหมอเองตรวจคนไข้วันหนึ่งพบคนไข้ม่านตาอักเสบประมาณ 1-2 ราย บางคนเป็นซ้ำก็มี แต่ตอบยากว่าปีหนึ่งพบได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไม่มีการรวบรวมสถิติที่ชัดเจน

>>>วิธีที่ดีที่สุด คือ ถ้ามีอาการผิดปกติ ตาแดง ตามัว โดยไม่มีขี้ตาควรรีบไปพบจักษุแพทย์ การรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะได้ผลดี หากปล่อยให้มีการอักเสบเป็นเวลานาน การมองเห็นจะกลับมาไม่เหมือนเดิม บางรายอาจเกิดต้อหินแทรกซ้อน เพราะการอักเสบจะทำให้ความดันตาสูงขึ้น ยิ่งทำให้การมองเห็นแย่ลง

>>>การรักษา ในกรณีที่เป็นม่านตาอักเสบครั้งแรกจักษุแพทย์อาจให้ยาหยอดและยาไปรับประทานลดการอักเสบ แต่ถ้าเป็นซ้ำหรืออักเสบรุนแรง แพทย์อาจตรวจเลือดดูภูมิคุ้มกัน หรือเอกซเรย์ปอดร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุของการเป็นม่านตาอักเสบ อย่างคนไข้เป็นวัณโรคปอดก็อาจมีอาการอักเสบที่ม่านตาได้

>>>ปกติการรักษาจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน คนไข้ได้รับยาอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น จากนั้นจะค่อย ๆ ลดยาลง เพราะถ้าลดยาเร็ว หรือหยุดยากะทันหัน อาจทำให้กลับมาเป็นซ้ำได้อีก คนไข้จะต้องมาติดตามการรักษาตามนัด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่หลายคนกินยาอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มาพบแพทย์ตามนัด หายไปเลย หลังจากนั้น 1-2 เดือนกลับมาอีกเพราะเป็นซ้ำก็มี

>>>สำหรับคนที่เป็นบ่อย แนะนำว่า เวลาพบจักษุแพทย์ควรแจ้งด้วยว่าเคยเป็นมาแล้ว เพราะแพทย์อาจตรวจเลือด หรือ เอกซเรย์ปอด เพื่อหาสาเหตุอื่นร่วมด้วย

>>>จะบอกว่าม่านตาอักเสบการรักษาไม่ยาก แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ ดังนั้นคนที่เป็นบ่อย สงสัยว่าจะเป็น ควรรีบมาพบจักษุแพทย์ ไม่แนะนำให้ไปซื้อยากินเอง ควรมาตรวจให้แน่ใจว่าเป็นม่านตาอักเสบจริง ๆ เนื่องจากยาที่ใช้รักษาส่วนใหญ่เป็นสเตียรอยด์ อาจเกิดผลข้างเคียงได้.

credit : dailynews


Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 6:27:07 น. 0 comments
Counter : 3264 Pageviews.

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.