|
●ม่านตาอักเสบ ตาแดง มัว ไม่มีขี้ตา ระวัง - X - Ray สุขภาพ
▶▷ม่านตาอักเสบ ตาแดง มัว ไม่มีขี้ตา ระวัง - X - Ray สุขภาพ
พูดถึง “ม่านตาอักเสบ” หลายคนอาจจะไม่รู้จัก อย่างเมื่อเร็ว ๆนี้คุณแม่ของน้องนักข่าวคน หนึ่งมีอาการตาแดงก่ำ ปวดตามาก ไปหาหมอถึงได้รู้ว่าเป็นโรคนี้ คนในครอบ ครัวก็วิตกกังวลว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ รักษาหายแล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้มั้ย ไปฟังคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญกันเลย
>>>รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ แห่งประเทศไทย และหัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายว่า ม่านตาเป็นส่วนประกอบของลูกตาทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแสงเข้าไปในดวงตา จึงมีความสำคัญ ต่อการมองเห็นภาพที่ชัดเจน
>>>ม่านตาอาจมีการอักเสบเกิดขึ้นได้ สาเหตุมาจากการ ติดเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา แต่ที่พบบ่อย คือ ม่านตาอักเสบมักเกิดร่วมกับภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น เป็นโรคเอสแอลอี หรือโรคข้ออักเสบ
นอกจากนี้ยังพบว่า ม่านตาอักเสบอาจเกิดขึ้นเองโดยไม่ได้มีสาเหตุอื่นร่วมด้วย โดยคนไข้กลุ่มนี้พบได้เกินครึ่ง
ม่านตาอักเสบมักพบในวัยทำงานอายุระหว่าง 20-50 ปี คนหนึ่งเป็นซ้ำได้หลายรอบ โดยเฉพาะคนที่เคยเป็นอยู่บ่อย ๆ
อาการ คือ ตาแดง ตามัว ปวดตา บางคนอาจเป็น 2 ข้างพร้อมกัน บางคนเป็น 2 ข้าง แต่เป็นทีละข้าง ใครก็ตามที่เป็นตาแดง ตามัวโดยไม่มีขี้ตา ให้สงสัยก่อนเลยว่าเป็นม่านตาอักเสบ
>>>ในการตรวจวินิจฉัยของจักษุแพทย์อาจตรวจพบการมองเห็นของคนไข้ลดลง การส่องกล้องอาจพบว่ามีเซลล์อักเสบอยู่บริเวณม่านตา บางครั้งอาจเห็นเป็นหนองในตาดำ กรณีที่มีการอักเสบรุนแรงเป็นหนองอาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
>>>คนไทยเป็นม่านตาอักเสบกันเยอะมาก อย่างตัวหมอเองตรวจคนไข้วันหนึ่งพบคนไข้ม่านตาอักเสบประมาณ 1-2 ราย บางคนเป็นซ้ำก็มี แต่ตอบยากว่าปีหนึ่งพบได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากไม่มีการรวบรวมสถิติที่ชัดเจน >>>วิธีที่ดีที่สุด คือ ถ้ามีอาการผิดปกติ ตาแดง ตามัว โดยไม่มีขี้ตาควรรีบไปพบจักษุแพทย์ การรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะได้ผลดี หากปล่อยให้มีการอักเสบเป็นเวลานาน การมองเห็นจะกลับมาไม่เหมือนเดิม บางรายอาจเกิดต้อหินแทรกซ้อน เพราะการอักเสบจะทำให้ความดันตาสูงขึ้น ยิ่งทำให้การมองเห็นแย่ลง >>>การรักษา ในกรณีที่เป็นม่านตาอักเสบครั้งแรกจักษุแพทย์อาจให้ยาหยอดและยาไปรับประทานลดการอักเสบ แต่ถ้าเป็นซ้ำหรืออักเสบรุนแรง แพทย์อาจตรวจเลือดดูภูมิคุ้มกัน หรือเอกซเรย์ปอดร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุของการเป็นม่านตาอักเสบ อย่างคนไข้เป็นวัณโรคปอดก็อาจมีอาการอักเสบที่ม่านตาได้
>>>ปกติการรักษาจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน คนไข้ได้รับยาอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น จากนั้นจะค่อย ๆ ลดยาลง เพราะถ้าลดยาเร็ว หรือหยุดยากะทันหัน อาจทำให้กลับมาเป็นซ้ำได้อีก คนไข้จะต้องมาติดตามการรักษาตามนัด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่หลายคนกินยาอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มาพบแพทย์ตามนัด หายไปเลย หลังจากนั้น 1-2 เดือนกลับมาอีกเพราะเป็นซ้ำก็มี
>>>สำหรับคนที่เป็นบ่อย แนะนำว่า เวลาพบจักษุแพทย์ควรแจ้งด้วยว่าเคยเป็นมาแล้ว เพราะแพทย์อาจตรวจเลือด หรือ เอกซเรย์ปอด เพื่อหาสาเหตุอื่นร่วมด้วย
>>>จะบอกว่าม่านตาอักเสบการรักษาไม่ยาก แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ ดังนั้นคนที่เป็นบ่อย สงสัยว่าจะเป็น ควรรีบมาพบจักษุแพทย์ ไม่แนะนำให้ไปซื้อยากินเอง ควรมาตรวจให้แน่ใจว่าเป็นม่านตาอักเสบจริง ๆ เนื่องจากยาที่ใช้รักษาส่วนใหญ่เป็นสเตียรอยด์ อาจเกิดผลข้างเคียงได้.
credit : dailynews
Create Date : 11 มีนาคม 2555 |
Last Update : 11 มีนาคม 2555 6:27:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3264 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |