Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
1 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
หิวจริงป่ะ หรือเเค่อยาก??

คุณเคยเริ่มลดน้ำหนัก แล้วต้องเผชิญกับความหิว ที่ทำให้การกินของคุณผิดไปหมดไหมคะ? ทั้งๆ ที่คุณก็ได้ยินมาว่าคนอื่นเขาทำกันได้และ “ไม่รู้สึกหิวเลย” เราทุกคนเคยรู้สึกหิว ไม่แปลกอะไร ความหิวก็มีข้อดี คือ ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อนั้น และได้รับรู้มีสติว่าตนเองหิว แต่ก็จริงอยู่ที่ความหิว โดยเฉพาะหิวเกินอาจ ทำให้กินเกิน และกินบ่อยซึ่งทำให้ได้รับพลังงานเกินกว่าจำเป็นได้ง่าย อย่าเพิ่งวิตกกังวลว่าตนเองจะลดน้ำหนักไม่ได้ค่ะ

ก่อนอื่นมารู้กันก่อนว่าความหิวจริงๆนั้นเกิดจาก การที่น้ำตาลในเลือดของเราลดลง ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นให้กระเพาะอาหารเกิดการเกร็งตัวและเกิด อาการหิวขึ้นมา ขณะที่บางคนเกิดความสับสนระหว่าง “ความหิว” กับ “ความอยากกิน” แต่เราสามารถแยกความหิวออกจากความอยากได้ไม่ยาก เพียงแค่สังเกตว่าความหิวเริ่มต้นจากการรับรู้ความรู้สึกหิวของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อมีระดับความหิวปานกลางจนพอที่รู้สึกได้ว่า “ถึงเวลากินแล้ว” และหยุดกินเมื่อร่างกายรู้สึกอิ่มพอดีๆ ซึ่งไม่ใช่ความอยากกิน

สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็ คือ ผู้ที่ประสบผลสำเร็จในการลดน้ำหนักลงได้และคงน้ำหนักนั้นไว้ได้ ก็เพราะเขาสามารถแยกแยะระหว่างความหิวชนิดต่างๆ ดังนี้

ความหิวที่เกิดจากธรรมชาติของร่างกาย

ความหิวโดยธรรมชาติจะเกิดจากความต้องการของร่างกายในยามที่ร่างกายมีปริมาณ พลังงานและน้ำตาลลดลง โดยส่วนใหญ่มักเกิดหลังจากกินอาหารไปอย่างน้อยหกชั่วโมง (อาจน้อยกว่านั้นในคนที่มีระบบเผาผลาญเร็วช่วง 3-4 ชั่วโมง) ซึ่งนอกจากรู้สึกหิวแล้วร่างกายจะส่งสัญญาณให้เรารู้ว่าต้องการพลังงาน สารอาหาร และวิตามินเป็นการด่วน เช่น อ่อนเพลีย หน้ามืด มือสั่น ท้องร้อง เป็นต้น

ความหิวที่เกิดจากอารมณ์ (ความอยาก)

มักเกิดเมื่อมีสิ่งมาเร้า เช่นงานเลี้ยง การเห็นหรือได้กลิ่นอาหาร หรือเกิดจากอารมณ์ต่างๆเช่นความเบื่อ เศร้า เหงา โกรธ เครียด หรือการทานระหว่างมื้อจนเป็นนิสัยทั้งๆที่เพิ่งทานมื้อหลักไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว แม้กระทั้งความรู้สึกว่าจะต้องมีของหวานหลังทานของคาวเป็นต้นเหล่านี้ล้วนเป็นความหิวที่เกิดจากอารมณ์ทั้งสิ้น

เมื่อทราบเช่นนี้แล้วลองถามตนเองว่า หิวจริงหรือไม่? ถ้าใช่ คุณก็ควรหาอาหารที่ดีมีประโยชน์ กินช้าๆ และเพลิดเพลินกับอาหารทุกคำ แต่ถ้าหิวไม่จริง อาจลองคิดนิดหนึ่งถึงความรู้สึกที่เป็นอยู่ อาจจดความรู้สึกนั้นไว้ ดื่มน้ำเปล่าเย็นๆแก้วใหญ่ๆและเบี่ยงเบนความสนใจไปทำอย่างอื่นดู เรา สามารถวัดความหิวได้โดยใช้เกณฑ์ 1-10 ง่ายๆ โดย 1 คือหิวจัด หิวโซ และ 10 คือ อิ่มมากๆ อิ่มแปล้ พยายามอย่าให้ความหิวตกลงไปต่ำกว่า 3 และอย่ากินเกินความอิ่มที่ระดับ 8 ฝึก การกินช้าๆ และหยุดเมื่ออิ่มพอดี

กลยุทธ์ที่จะช่วยลดความหิวบ่อยมีดังนี้

นอนให้พอ การพักผ่อนไม่เียงพอจะส่งกระทบฮอร์โมนที่ควบคุมความหิว-ความอิ่ม
ดื่มน้ำให้มาก คนที่กระหายน้ำอาจเข้าใจผิดว่า “หิวข้าว” ออกกำลังกายช่วงเช้าบ้าง พบว่าช่วยลดความหิวไปตลอดทั้งวัน
อย่างดมื้ออาหาร กินโปรตีนให้พอ เช่นเนื้อสัตว์ไม่มัน ไม่ทอด ไข่ เต้าหู้ กินขนาดเท่าๆฝ่ามือในแต่ละมื้อ นอกจากนี้ เนื้อปลาก็สามารถช่วยให้อิ่มนานขึ้น เพราะเนื้อปลามีโปรตีนสูงและไขมันต่ำกว่าเนื้อสัตว์ขนิดอื่นๆจึงทำให้บำบัดความหิวได้ดีกว่า
กินแป้งไม่ขัดสีบ้าง ถั่วเมล็ดแห้ง และผักเยอะหน่อย ถ้าต้องการกินอาหารว่าง ก็ควรเลือกประเภทผัก ผลไม้ และ อาหารโปรตีนสูงเข้าไว้ เช่น ซุบผัก เกาเหลา ยำ ส้มตำ ลูกชิ้นลวก ผลไม้สด นม นมถั่วเหลืองไม่หวาน ถั่วต้ม เป็นต้น
ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ธัญพืชต่างๆ บล็อกโครี่ เพราะอาหารที่มีกากใยสูงจะช่วยให้อิ่มนานขึ้น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ
ลองทำดูนะคะ คุณอาจลดน้ำหนักลงได้โดยไม่จำเป็นต้องไปทำตามแบบแผนการกินใดๆ เลยก็ได้เมื่อใช้การฝึกสติเวลากินแบบนี้ ถ้าลองแล้วช่วยคอมเมนท์ให้ทราบด้วยนะคะว่าเป็นอย่างไร

Credit: komchadluek.com, หนังสืออยากผอมให้ไวทำไงดี, goodfoodgoodlife.in.th
Credit : lovefitt


Create Date : 01 กันยายน 2556
Last Update : 1 กันยายน 2556 20:33:56 น. 0 comments
Counter : 1300 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ying_pul501
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ying_pul501's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.