เมื่อต้องเลือกโรงเรียนอีกแล้ว ป.1
ตั้งใจเขียนบล็อกนี้ขึ้น เพราะ มีคนเข้ามาทักหลายคนเลยทีเดียวว่า ขอบคุณสำหรับข้อมูลการเลือกโรงเรียนที่เคยเขียนไว้ เลือกโรงเรียนนี้เพราะน้องซี
โอ้โห.....โรงเรียนน่าจะมีเปอร์เซ็นต์ให้น้องซีนะเนี่ย
ดีใจที่บล็อกเล็กๆ มีประโยชน์นะคะ ข้อมูลในตอนนั้นก็เป็นข้อมูลเก่าเขียนแบบว่ายังไม่เคยได้เข้าไปเรียน ปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วในเรื่องของราคาค่าเทอม และหลักสูตรที่เพิ่มขึ้นของตึกอนุบาล ตอนนี้ก็มีห้อง EP แล้วด้วย
3 ปี สำหรับชีวิตอนุบาล โรงเรียนยอเซฟอุปถัมภ์สามพราน เป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับน้องซี(แต่ก็มีบางคนที่ไม่ปลื้มเช่นกันค่ะ) โรงเรียนมีกิจกรรมเยอะดีค่ะ(แต่ก็ไม่ใช่บางคนได้ทำนะคะแล้วแต่ความชอบของเด็ก) สำหรับคนที่ไม่เน้นเรื่องการเรียนในวัยอนุบาลมากเกินไป เปรียบเทียบกับเด็กข้างบ้านเรียนที่อื่น น้องซีอ่านออกเขียนได้น้อยกว่าค่ะ
ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ขึ้น ป.1 จำได้ว่าเพิ่งปวดหัวกับการเลือกโรงเรียนอนุบาลเอง ต้องเลือกอีกแล้ว เรามี 2 ตัวเลือกค่ะ
1. เรียนที่เดิม ย้ายตึก แต่ต้องเลือกแผนก 2. ย้ายไป โรงเรียนสุคนธีรวิทย์ มาแรงในช่วงนี้เลยค่ะ ไกลจากโรงเรียนเดิมไปนิดหน่อย
ลองมาสรุปกันดู
โรงเรียนสุคนธีรวิทย์ 1. เรียนเก่ง มีการันตีเรื่องเข้ามหาวิทยาลัย เรียนวันเสาร์ด้วยไม่ต้องไปเรียนพิเศษที่ไหน 2. มีรถตู้รับส่งเหมือน รร.เดิม 3. พื้นที่โรงเรียนเล็กกว่า
โรงเรียนยอเซฟอุปถัมภ์สามพราน (รร.เดิม) 1. กิจกรรมเยอะ การเรียนอาจสู้ไม่ได้ 2. น้องซีอยากเรียนที่เดิม
สุดท้ายคนที่เลือกโรงเรียนก็คือลูกค่ะ ตามข้อ 2. ฮ่าๆ
ทีนี้เราก็ต้องมาเลือกแผนการเรียน
1. หลักสูตรสามัญ รุ่นซีเป็นรุ่นสุดท้ายค่ะที่เปิดสอน 2. หลังสูตร Intensive เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษเข้ม (แยกเรียนชายหญิงคนละตึก) ค่าเทอมประมาณ 2 หมื่นกว่า 3. หลักสูตร EP เรียนไทยและอังกฤษ (เรียนรวมชายหญิง) ค่าเทอมประมาณ 6 หมื่นกว่า
เด็กผู้ชายที่เลือก Intensive ก็จะมีกลัวๆ หน่อย เพราะเรียนแต่ชายล้วน คงจะซนกันน่าดู เห็นแม่ๆ เด็กชายแอบบ่น
ส่วน EP ก็คงต้องขยันน่าดู คงต้องท่องศัพท์เยอะหน่อย
เราเลือก Intensive ค่ะ เลือกเพราะราคาค่าเทอมเลย อิอิ
หวังว่าการตัดสินใจของน้องซีที่เลือกเรียนโรงเรียนเดิม คงทำให้น้องซีมีความสุขกับการเรียนนะคะ ประถมแล้ว กระเป๋าใบใหญ่ หนังสือเยอะเลยทีเดียว
แล้วเจอกันใหม่ ในการติดสินใจครั้งหน้า ม.1 ค่ะ
เรียนตึกหญิงมาได้ ถึง ป.2 ถือว่ากิจกรรมเยอะมากพอสมควร เวลาเรียนดูมีน้อยเมื่อเทียบกับที่ต้องสอบ แต่ก็เรียนอย่างมีความสุขมาก
พอ ป.3 ก็ได้รับคัดเลือกให้ไปเรียน ห้อง Gifted ยังไงก็ติดตามกันต่อไป
Create Date : 17 มิถุนายน 2559 |
|
20 comments |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2560 14:04:06 น. |
Counter : 22606 Pageviews. |
|
|
|
เห็นชุดอนุบาลแล้วน่ากอดมากกกกก หลานป้า! หูยค่าเรียนต่อเทอมแพงเหมือนกันนะคะ
ที่เยอรมันรัฐบาลจัดให้เด็กเรียนฟรีจนจบ ม.ปลายทุกคนค่ะ มีค่าใช้จ่ายก็แค่ค่าหนังสือเรียนอื่นๆจิปาถะ ซึ่งอันนี้เด็กเยอรมันจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐทุกเดือนๆละน่าจะประมาณ 190Euro (7529บาทไทย) เงินนี้เด็กทุกคนจะได้รับตั้งแต่เกิดจนกว่าจะอายุ 18ปี หรือ หากเรียนมหาลัยก็จะได้รับต่อไป (คิดว่างั้นนะคะ ข้อมูลแน่นๆเราไม่มี ฮ่าๆๆๆ)
หากฉลาดก็สนับสนุนให้เรียนต่อมหาลัย ตอนเรียนมหาลัยอาจจะมีค่าเทอมเล็กๆน้อยๆ เทอมละหมื่นกว่าบาทไทย บางทีก็ค่าเทอมน้อยกว่านั้น
และ หากไม่ค่อยฉลาดมาก เรียนไม่ไหว....หรือพ่อแม่ไม่มีปัญญาส่งให้ไปเรียนมหาลัย ก็จะต้อง ย้ายสาขามาเรียนสายอาชีพ เรียนไปทำงานฝึกงานไปด้วยค่ะ มีรายได้ทันตาเห็น รัฐก็ชอบเพราะได้เรียกเก็บภาษีคืนไวขึ้นมาหน่อย...นึง...
เรื่องค่าเทอม คนที่นี่เค้าจะไม่มานั่งกลุ้มกันค่ะ เพราะเรียนฟรีจริงๆ
และกฏหมายบังคับว่า เด็กจะต้องไปโรงเรียน หากไม่ไป พ่อแม่จะต้องถูกส่งฟ้องศาลและโดนเรียกเก็บค่าปรับที่ไม่ส่งลูกไปโรงเรียนอีกด้วยนะคะ
มีพ่อแม่เยอรมันบางคู่ถึงกับหอบลูกย้ายประเทศไปอยู่แคนาดา เลยทีเดียว 555 เพราะลูกเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ได้ และไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ชอบครู พ่อแม่ก็เลยยอม บอกลูกไม่ต้องไปโรงเรียน ผลคือ... หมายศาลปลิวมาหาถึงบ้าน แถมค่าปรับหลายพันยูโรเลยค่ะ ... ระบบ Home School เรียนเองที่บ้าน ในเยอรมันไม่มี ...แต่ที่แคนาดา หรือ อเมริกา สามารถทำได้ นี่คือเหตุผลทำให้ครอบครัวนี้ ย้ายบ้านทันที... เนอะ... นี่ขนาดได้เรียนฟรียังมีปัญหาเลย