พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงยืนยันความเป็นมหาบุรุษ
.
วัสสการพราหมณ์ ได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทูลว่า :-
พระโคดมผู้เจริญ ! พวกข้าพเจ้าย่อมบัญญัติบุคคลที่มีธรรม ๔ ประการว่าเป็นมหาบุรุษมหาปราชญ์. ธรรม ๔ ประการเหล่าไหนเล่า ?
พระโคดมผู้เจริญ ! คือคนในโลกนี้ .. - เป็นพหุสูต มีเรื่องที่ควรสดับอันตนได้สดับแล้วมาก. - เป็นคนรู้เนื้อความแห่งข้อความที่มีผู้กล่าวแล้วนั้น ๆ ว่านี้เป็นความหมายแห่งภาษิตนี้, - เป็นคนมีสติระลึกสืบสาวการที่ทำคำที่พูดแล้วแม้นานได้, - และเป็นคนฉลาดในกิจการของคฤหัสถ์ที่ต้องจัดต้องทำ .. - - ขยันไม่เกียจคร้านในกิจการเหล่านั้น - - มีปัญญาพิจารณาสอบสวนอันเป็นอุบายวิธีที่จะให้กิจการนั้นสำเร็จได้ด้วยดี - - สามารถทำเอง และสามารถที่จะจัดให้ผู้อื่นทำ ในกิจการเหล่านั้น,
พระโคดมผู้เจริญ ! พวกข้าพเจ้าบัญญัติบุคคลผู้มีธรรม๔ ประการเหล่านี้แล ว่าเป็นมหาบุรุษ มหาปราชญ์. ถ้าคำของข้าพเจ้าควรอนุโมทนา ก็ขอจงอนุโมทนา, ถ้าควรคัดค้านก็ขอจงคัดค้านเถิด.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสตอบว่า :-
พราหมณ์ ! เราไม่อนุโมทนาของท่าน, เราไม่คัดค้านของท่าน. เราเอง ก็บัญญัติบุคคลที่มีธรรม ๔ ประการ ว่าเป็นมหาบุรุษ มหาปราชญ์.
ธรรม ๔ ประการเหล่าไหนเล่า ?
พราหมณ์ ! คือคนในโลกนี้ เป็นผู้ปฏิบัติเกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อความสุขของมหาชน ยังประชุมชนเป็นอันมากให้ประดิษฐานอยู่ในอริยญายธรรม คือความเป็นผู้มีธรรมงาม มีธรรมเป็นกุศล.
อนึ่ง เขาเป็นผู้จำนงจะตรึกเรื่องใด ก็ตรึกเรื่องนั้นได้, ไม่จำนงจะตรึกเรื่องใด ก็ไม่ตรึกเรื่องนั้นได้, จำนงจะดำริเรื่องใด ก็ดำริเรื่องนั้นได้, ไม่จำนงจะดำริเรื่องใด ก็ไม่ดำ ริเรื่องนั้นได้เพราะเขาเป็นผู้มีอำ นาจเหนือจิต ในคลองแห่ง ความตรึกทั้งหลาย.
อนึ่ง เขาเป็นผู้ได้ตามต้องการได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำ บากซึ่งฌานทั้ง ๔ อันเป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในภพปัจจุบันนี้ อันเป็นธรรมเป็นไปในทาง จิตขั้นสูง.
อนึ่ง เขานั้นย่อมกระทำให้แจ้งได้ ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะเพราะสิ้นอาสวะแล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงแล้วและอยู่ในวิหารธรรมนั้นในภพอันเป็นปัจจุบันนี้.
พราหมณ์ ! เราไม่อนุโมทนาของท่าน, เราไม่คัดค้านของท่าน, แต่เราบัญญัติบุคคลที่มีธรรม ๔ ประการนี้แล ว่าเป็นมหาบุรุณ มหาปราชญ์.
วัสสการพราหมณ์ ได้อนุโมทนาสรรเสริญคำของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นอันมาก ในที่สุด
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสคำนี้ว่า :-
พราหมณ์ ! ท่านกล่าวคำพาดพิงถึงเรา. เอาเถิดเราจะพูดให้แจ้งชัดทีเดียวว่า เราและเป็นผู้ปฏิบัติเกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อความสุขของมหาชน ยังประชุมชนให้ตั้งอยู่ในอริยญายธรรม กล่าวคือความเป็นผู้มีธรรมงาม เป็นผู้มีธรรมเป็นกุศล. เราแล เป็นผู้ .. - จำนงจะตรึกในเรื่องใด ก็ตรึกในเรื่องนั้นได้ - ไม่จำนงจะตรึกในเรื่องใด ก็ไม่ตรึกในเรื่องนั้นได้, - จำนงจะดำริในเรื่องใดก็ดำริในเรื่องนั้นได้ - ไม่จำนงจะดำริในเรื่องใด ก็ไม่ดำริในเรื่องนั้นได้ เพราะ .. - เราเป็นผู้มีอำนาจเหนือจิต ในคลองแห่งความตรึกทั้งหลาย. - เราแล เป็นผู้ได้ตามต้องการได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้ง ๔ อันเป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในภพเป็นปัจจุบันนี้ อันเป็นธรรมเป็นไปในทางจิตขั้นสูง. - เราแล เป็นผู้ทำให้แจ้งได้ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะ เพราะสิ้นอาสวะแล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง เข้าถึงแล้วและอยู่ในวิหารธรรมนั้น ในภพอันเป็นปัจจุบันนี้ ดังนี้. . . . บาลี จตุกฺก. อํ. ๒๑/๔๕/๓๕. ตรัสแก่วัสสการพราหมณ์ที่เวฬุวัน ใกล้เมืองราชคฤห์.
Create Date : 01 สิงหาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 1 สิงหาคม 2555 6:09:29 น. |
Counter : 1171 Pageviews. |
|
|
|