เกจ์ความร้อน
ผมก็นึกได้ถึงคำถามของ คุณสันติพะโล ที่มีข้อสงสัยว่า จากคำแนะนำที่ได้รับในแหล่งต่างๆ มักจะบอกว่า ช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัดเช่นทุกวันนี้ ให้ผู้ขับขี่ทุกคนทำการสำรวจ หรือหมั่นเหลือบตาลงไปมองที่เกจ์วัดความร้อนดูบ่อยๆ หากพบความร้อนสูงผิดปรกติ ก็ให้ผู้ขับขี่ตัดสินใจหยุดรถหรือดับเครื่องยนต์ลงทันที แต่ปัญหาของ คุณสันติพะโล คือรถยนต์ในปัจจุบันจำนวนมากไม่มีเกจ์วัดความร้อน แล้วจะให้ผู้ขับรถทำตัวอย่างไรจึงจะถูกต้อง
กรณีอย่างนี้ถือว่าเป็นคำถามที่ถามมาได้ตรงใจผมเป็นอย่างยิ่ง ผมขอแยกคำถามออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนแรกเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบว่า เมื่อไม่มีเกจ์วัดความร้อนแล้วจะให้ทำอย่างไร คำตอบก็คือรถยุคใหม่ปัจจุบันนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ขนาดเล็กทั้งหลาย เช่น โตโยต้ายาริส, วีออส, ฮอนด้าซิตี้ , แจ๊ซ, มาสด้า 2 ซีดาน และแฮทช์แบค รวมไปถึง นิสสันมาร์ช ล้วนแล้วแต่ไม่มีเกจ์วัดความร้อนด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ขับรถทั้งหลายดังกล่าว จึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น นอกเหนือไปจากต้องคอยเหลือตาดูไฟเตือนระดับความร้อน ถ้าไฟเตือนระดับความร้อนติดขึ้นมา ก็ต้องดับเครื่องยนต์หรือจอดรถเท่านั้น ส่วนปัญหาที่ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด เมื่อไฟเตือนระดับความร้อนติดขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กับวิศวกรผู้ออกแบบตั้งระดับความร้อน ที่ต้องการเตือนเอาไว้ตรงไหน
ซึ่งเรื่องนี้ผู้จำหน่ายรถยนต์ควรเป็นผู้ออกมาบอกกับผู้ซื้อ ถ้าไม่บอกผู้ซื้อก็สามารถร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลได้ หรือไม่อย่างนั้น ก็ต้องร้องถึงศาลที่เกี่ยวกับกระบวนการคุ้มครองผู้บริโภค อยู่ที่ว่าใครจะเปิดเกมเป็นคนแรกและยี่ห้อใดจะเป็นหนูที่ถูกทดลองยา ซึ่งคนที่จะร้องเรื่องนี้ได้ต้องเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย กับการที่รถไม่มีเกจ์วัดความร้อนเท่านั้น แปลแบบไทยๆ ชาวบ้านทั่วไป คือต้องเป็นเจ้าของรถที่ไม่มีเกจ์วัดความร้อนเท่านั้น
กรณีที่สองในความเห็นของผม ก็คือผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในปัจจุบันนี้ เอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป เพราะการติดเกจ์วัดระดับความร้อนเข้าไป แม้ว่าจะเพิ่มต้นทุนขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่มากจนถึงขั้นทำให้ราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่วิศวกรที่คิดส่วนใหญ่อยู่ในประเทศเขตหนาว จึงคิดว่าปัญหาความร้อนสูงของเครื่องยนต์ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เกจ์วัดระดับความร้อนจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นของคนใช้รถ ในขณะที่ผู้ใช้รถยนต์ในเมืองไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพนั้น ปัญหาเครื่องยนต์มีความร้อนสูงมากกว่าปรกติหรือโอเวอร์ฮีท เป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงมาก เพราะเกิดขึ้นเมื่อใดความเสียหายทางเทคนิค และค่าเสียหายสำหรับการซ่อมบำรุงจะสูงมาก จนใกล้เคียงกับการซื้อรถยนต์คันใหม่ทีเดียว
เกจ์ความร้อนจึงเป็นความจำเป็นของคนใช้รถในเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้รถต้องเรียกร้องให้ผู้ผลิต หันมามองประเด็นนี้อย่างจริงจังครับ
เรื่องโดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ที่มา: //www.bangkokbiznews.com ภาพจาก: //www.istockphoto.com
สารบัญรู้เรื่องรถ
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 18:04:29 น. |
Counter : 2979 Pageviews. |
|
|
|