ข้อมูลมีประโยชน์เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพตา เพื่อให้สายตาอันคมชัดอยู่กับเราไปได้อีกนาน
โดย...
อณุศรา ทองอุไรดูแลสุขภาพตาให้มีคุณภาพยาวนานคนไทยอยู่ในช่วงสูงวัยเป็นส่วนใหญ่ ปัญหาที่ตามมาก็คือสายตาที่พร่ามัวที่มาคู่กับวัยที่มากขึ้น คนยุโรปจะมีปัญหาสายตายาวเมื่ออายุ 45 ปี แต่คนไทยเริ่มเมื่ออายุ 41 ปี ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะต้องพกแว่นตาตลอดเวลา อาการท็อปฮิตคงต้องยกให้กับปัญหาสายตายาวตามวัย และต้อกระจก ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง มีผลต่อการอ่านหนังสือ หรือการขับรถในเวลากลางคืน
อายุเพิ่มขึ้นเลนส์แก้วตาจะมีความยืดหยุ่นลดลง ทำให้ความสามารถในการปรับระยะภาพลดลง ไม่สามารถปรับโฟกัสภาพให้ชัดเหมือนเดิม ที่พบบ่อยคือ ภาวะสายตายาวตามวัย สังเกตได้จากอาการเมื่อยล้าดวงตาเวลาอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือระยะใกล้ไม่ชัดเจน ทำให้เลนส์แก้วตาเริ่มหนาและแข็งขึ้นที่จุดกึ่งกลาง จะมีผลโดยตรงต่อการปรับสายตา ต้องอาศัยแว่นสายตาช่วยในการมองระยะใกล้ ในการอ่านหนังสือพิมพ์ หรือเย็บปักถักร้อย
ขณะที่ต้อกระจก เป็นการเสื่อมที่เกิดขึ้นตามวัย จากภาวะที่เลนส์แก้วตาของคนเรา ซึ่งปกติจะมีลักษณะใสเหมือนกระจกเริ่มขุ่นมัวขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงและรบกวนการปฏิบัติภารกิจประจำวัน หากทิ้งไว้นานโดยไม่รักษา อาจเกิดโรคต้อหินเฉียบพลันแทรกซ้อนทำให้ตาบอดในที่สุด
อาการเบื้องต้นปัญหาสายตานพ.นพรัตน์ สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการแพทย์ ศูนย์เลสิคและรักษาสายตารัตนินกิมเบล กล่าวว่า ที่เห็นได้ชัดเจน คือ ตาไม่สู้แสง สายตาพร่ามัว ซึ่งมองเห็นไม่ชัดเจน เหมือนมีอะไรมาบังภาพบางส่วนไว้ ซึ่งจะเกิดขึ้นช้าๆ สาเหตุของต้อกระจกยังเกิดขึ้นจากผลของยาบางชนิด เช่น การหยอดตาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์ติดต่อกันนานๆ โรคแทรกซ้อนทางตาอย่าง ต้อหิน ต้อกระจก ความผิดปกติทางพันธุกรรม
กรณีสายตายาวก็มีเทคโนโลยีในการผ่าตัดแบบใหม่เรียกว่า
Supracor คือ การเจียเลนส์ตาทั้งอันแบบพิเศษ ทำได้ทั้งสองข้าง ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตในการมองเห็นให้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง การอ่านหนังสือพิมพ์ ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ และขับรถได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้แว่นสายตาอีกต่อไป
การดูแลสุขภาพตาเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี ปัญหาสายตาย่อมตามมา ทั้งต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก ต้อหิน น้ำวุ้นตาละลาย ความดันลูกตาสูงเกินไป เกิดขึ้นได้ทั้งหญิงและชาย ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจจะรุนแรงถึงตาบอดได้ การใส่แว่นตากันแดดเป็นประจำยังเป็นตัวช่วยที่ดีในการรักษาสายตาและเพื่อป้องกันแสงยูวีกระทบสายตา ทำให้ตาแห้ง ตาบอดในที่สลัว เส้นเลือดตาจะแดงก่ำทำให้เส้นเลือดเยื่อบุตาขาวหนาตัวขึ้น เพราะแสงยูวีเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดต้อลมและต้อเนื้อได้ มีอีกหลายวิธีที่ถนอมสายตาให้ยืนยาว
1.ปรับช่องแอร์ในรถให้ต่ำลง อย่าให้ลมเย็นพ่นเข้าตาโดยตรง เพราะลมเย็นจะเป็นสาเหตุให้ตาแห้ง ถ้าปล่อยไว้นานๆ กระจกตาก็อาจจะถลอกจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังได้
2.อย่าขี้เกียจเดิน เพราะผลการวิจัยบอกว่าเดินอย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 ครั้งจะช่วยลดความดันในกระบอกตา ทำให้สายตาเป็นปกติ
3.ตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำทุกเดือน ความดันที่ผิดปกติมีผลโดยตรงต่อสายตามาก จึงไม่ควรมองข้ามการวัดความดัน ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้รักษาได้ทันท่วงที
4.ทำความสะอาดดวงตาด้วยน้ำยาล้างเครื่องสำอางทุกคืน เพื่อป้องกันไม่ให้มาสคาราที่อาจจะเหลือตกค้างอยู่เข้าไปหมักหมมอยู่ในดวงตาจนเกิดการติดเชื้อ เปลี่ยนมาสคาราขวดใหม่ทุกๆ 3 เดือน เพื่อสุขอนามัย
5.หมั่นซักผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ เพื่อให้ผ้าส่วนตัวของคุณสะอาด ปราศจาก เชื้อโรค ที่สำคัญไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับใคร เพราะในผ้าพวกนั้นอาจจะมีเชื้อโรคตาแดงซ่อนอยู่
7.อย่าเพ่งมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานเกินไป แม้การอ่านหนังสือก็ควรถอนสายตามองออกไปที่ไกลๆ ทุกๆ 30 นาที เพื่อพักสายตาไม่ให้เพลียหรือล้าถาวร
8.รักษาความสะอาดของคอนแทคเลนส์ เพราะถ้าไม่สะอาดหรือใส่ทิ้งไว้ทั้งคืนจะเป็นอันตรายกับดวงตา
อาหารบำรุงสายตาวิตามินเอ ที่มีมากในผักสีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอต ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รีต่างๆ
หัวหอมแดง มีสารต้านอนุมูลอิสระ เคอร์ซิทินในหอมแดงจะช่วยป้องกันต้อหินให้คุณ
โอเมก้า3 ก็ดีสำหรับบำรุงสายตา ควรกินปลาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ผักใบเขียวเป็นแหล่งรวมของสารลูเทอินและซีอาแซนธิน ที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจกและยิ่งซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในกระบอกตาได้ด้วย
ผักบีตสดๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องหลอดเลือดในกระบอกตา ทำให้ตามีเลือดไปเลี้ยงอย่างสมบูรณ์ ทำให้ตาสวยและใส
เลิกกินอาหารที่เค็มจัด เพราะมีโอกาสเป็นโรคต้อกระจกมากกว่าคนที่ชอบอาหารรสจืด
กินผักโขมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะมีสารลูเทอิน จะช่วยป้องกันต้อกระจกและภาวะศูนย์กลางประสาท
Credit : โพสต์ทูเดย์ 27 กันยายน 2554สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์H O M E