ขั้นตอนที่ 1

วางเฟอร์นิเจอร์ไม่บังลม วิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีการตกแต่งที่เหมาะสมสำหรับบ้านทุก ๆ หลัง ถือเป็นพื้นฐานทางการออกแบบที่ควรกระทำ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตู้หรือชั้นวางของแบบปิดทึบนั้น หากนำไปตั้งวางขวางทางลมแล้ว ก็จะก่อให้เกิดพื้นที่อับทึบและขาดการหมุนเวียนอากาศที่ดี ดังนั้นการวางเฟอร์นิเจอร์ไม่บังลมจึงช่วยให้กระแสลมสามารถพัดผ่านเข้า - ออกได้มากและสะดวกที่สุดเมื่อมีการถ่ายเทและหมุนเวียนอากาศที่ดี ก็จะลดความอบอ้าวและความอึดอัดภายในห้องได้มาก โดยไม่ต้องอาศัยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ

ขั้นตอนที่ 2

เลือกขนาดและชนิดของอุปกรณ์ไฟฟ้าให้เหมาะสม ควรพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวก และสร้างความสบายในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม เครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า ดวงโคม ฯลฯ ให้สอดคล้องและเหมาะสมต่อการใช้งาน ทั้งนี้ต้องอาศัยการออกแบบกำหนดจุดติดตั้งที่เหมาะสมและอยู่ในจำนวนที่พอเหมาะอีกด้วย เพื่อควบคุมให้มีการใช้ปริมาณไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น

ขั้นตอนที่ 3

ทาสีบ้านในโทนอ่อน สีและวัสดุตกแต่งอื่น ๆ ที่เลือกใช้ควรเป็นสีในโทนอ่อนเพราะสามารถสะท้อนแสงที่มาตกกระทบได้มากกว่าสีโทนเข้ม โทนสีที่แนะนำคือขาว ครีม หรือสีอื่น ๆ ที่เป็นสีในโทนอ่อนสดใส เพราะนอกจากจะช่วยให้บรรยากาศของบ้านดูสว่างและไม่อึดอัดแล้ว ยังช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากดวงโคมในช่วงกลางวันได้อีกด้วย

ขั้นตอนที่ 4

ป้องกันความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ไม่ควรเจาะช่องหน้าต่าง ๆ ในด้านที่แสงแดดโดยตรงส่องผ่านเข้ามาได้ แต่ในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ นั้นก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการตกแต่งภายในแทน โดยการติดผ้าม่าน มู่ลี่หรือบานเกล็ดปรับมุม เพื่อควบคุมปริมาณแสงที่ส่องผ่านเข้ามาภายในบ้าน

ขั้นตอนที่ 5

ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเรียบ ๆ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ควรมีรูปทรงที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่มีซอกมุมอับเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ทั้งนี้เพื่อลดภาระในการดูแลรักษาและทำความสะอาด การจัดวางเฟอร์นิเจอร์บางลักษณะก็ช่วยสกัดกั้นความร้อนที่จะส่งผ่านมาทางผนังบ้านได้เช่นกัน อย่างเช่น ตู้เก็บของที่นำวางชิดผนังหรือตู้เก็บของแบบ Built in สำหรับวัสดุที่ใช้ทำตู้นั้นควรเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติไม่สะสมความร้อน

ขั้นตอนที่ 6

บ้านสว่างด้วยกระจก กระจกเงา กระจกใสสามารถนำมาใช้ในการตกแต่งบ้านประหยัดพลังงานให้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะช่วยให้ห้องดูกว้างขวางขึ้นแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงที่ดีอีกด้วย ดังนั้นควรนำมาตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม จะช่วยกระจายแสงได้มากขึ้นนั่นเอง สำหรับบ้านที่มีบานหน้าต่างมากเพื่อเปิดรับลมชมทิวทัศน์นั้น กระจกที่ใช้ในด้านที่ไดัรับแสงแดดโดยตรงควรเป็นกระจกชนิดพิเศษที่ยอมให้แสงเข้ามาได้มากแต่ความร้อนเข้ามาได้น้อย อย่างกระจกฮีตมิเรอร์ และฮีตสต็อป เป็นต้น


ขอขอบคุณ
ที่มา : www.homedecorec.com


สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E