"วัยรุ่นไทยกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม" มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนประเด็นนี้กำลังถูกผลักให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะแต่ละปีจะมีเด็กทารกประมาณ 1 แสนคนที่เกิดจากแม่อายุต่ำกว่า 20 ปี

นั่นเป็นเพราะทำให้มีปัญหาสังคมตามมา เช่น เด็กที่เกิดจากแม่อายุน้อยเมื่อคลอดออกมาจะไม่แข็งแรง บางรายอาจพิการ ปัญญาอ่อน เมื่อไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูก็อาจจะนำเด็กไปทิ้ง หรือไปทำแท้งจนเกิดอันตรายตามที่เป็นข่าว

ปัจจุบันมีวัยรุ่นที่ไปทำแท้งเถื่อนแล้วถูกส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลภาค รัฐมีถึงร้อยละ 28.5 โดยมีการทำแท้งเถื่อนทั่วประเทศประมาณวันละ 1,000 ราย ที่สำคัญมากกว่าร้อยละ 25 ของเด็กกลุ่มนี้จะกลับมาตั้งครรภ์ซ้ำภายในเวลา 2 ปี

นอกจากนี้ ยังทำให้พ่อแม่วัยรุ่นขาดโอกาสในการเรียนต่อ บางรายครอบครัวอาจแตกแยกเพราะไม่มีความพร้อมทั้งในเรื่องการหาเลี้ยงชีพ ไม่มีความพร้อมในการดูแลลูก

เมื่อสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับเครือข่ายทางเลือกสำหรับผู้หญิงท้องไม่พร้อม เครือข่ายภาคประชาสังคมและภาครัฐ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟัง"ปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยรุ่น" ณ สถาบันนารายณ์ เพื่อการพัฒนาจังหวัดลพบุรี พบข้อมูลที่น่าตกใจทีเดียว

นางสาวโบว์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เปิดเผยว่า ตนเองตั้งครรภ์ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.3 เทอมสุดท้าย ตอนนั้นอายุเพียง 14 ปี ส่วนแฟนอายุ 19 ปี เมื่อแม่รู้แม่ก็อยากให้เอาเด็กออกโดยการให้กินเหล้าดองยา เพราะเชื่อว่าจะทำให้เด็กหลุดออกมา แต่ตอนนั้นอายุครรภ์มากกว่า 2 เดือนแล้วจึงไม่เป็นผล และทั้งตนเองกับแฟนก็ไม่อยากเอาเด็กออก ประกอบกับเป็นช่วงใกล้จะปิดเทอมตนจึงต้องอุ้มท้องไปโรงเรียน แต่ไม่มีใครรู้เพราะเป็นท้องแรก ท้องจึงไม่ใหญ่จนผิดสังเกต จนเมื่อเรียนจบชั้น ม.3 แล้วประมาณเดือนพฤษภาคมจึงคลอดลูกออกมา

"อยากฝากเตือนเพื่อน ๆ วัยรุ่นว่า ถ้ายังไม่พร้อม หรือยังเรียนหนังสืออยู่อย่าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ หรือถ้าจะมีก็ต้องหาทางป้องกัน เช่น ให้แฟนใช้ถุงยางอนามัย เพราะถ้าท้องขึ้นมาต้องออกจากโรงเรียน ทำให้เสียอนาคต จะไปทำงานก็ไม่มีใครรับ เพราะไม่มีวุฒิการศึกษา เมื่อไม่มีงานก็ไม่มีเงินมาเลี้ยงลูก ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวขึ้นมาอีก"นางสาวโบว์กล่าว

ด้านนางสาวน้อย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เปิดเผยว่า ตนเองตั้งท้องตอนเรียนอยู่ระดับชั้น ปวช.ปีที่ 3 ที่โรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี พ่อแม่มารู้ว่าตั้งท้องเมื่ออายุครรภ์ได้ 6 เดือนแล้ว แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าและไม่ได้บังคับให้เอาเด็กออก ตนต้องลาหยุดเรียนเพื่อเตรียมตัวคลอด ส่วนแฟนก็เรียนไม่จบชั้น ปวส.เพราะต้องลาออกมาทำงานเลี้ยงดูครอบครัว

"ที่สำคัญคือครอบครัว พ่อแม่ต้องเข้าใจเด็ก ไม่ใช่ดุด่าหรือขับไล่ หรือบังคับให้ทำแท้ง เพราะอาจเกิดอันตรายเหมือนที่เป็นข่าวได้ ส่วนหนูได้กำลังใจจากเพื่อน ๆ บางคนก็ซื้อของกินมาให้ ตอนนี้ลูกชายหนูอายุได้ 9 เดือนแล้ว ตายายก็รักหลาน ทำให้หนูไม่เครียด และตั้งใจว่าเปิดเทอมนี้จะกลับไปเรียนต่อให้จบชั้น ปวช. เมื่อจบแล้วก็จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรี"

นางสาวจันทร์ศิริ บัวต๋า นักวิชาการสาธารณสุข สถานีอนามัยตำบลชอนสมบูรณ์ อ.หนองม่วง กล่าวว่า ปัญหาการตั้งท้องในวัยเรียนหรือวัยรุ่นเกิดขึ้นได้ในทุกสังคม จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการเฝ้าระวังการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม อ.หนองม่วง ดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2552 เช่น มีการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน การให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิด มีการจัดอบรมแกนนำเยาวชนเพื่อให้ความรู้และขยายเครือข่ายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ซึ่งหน่วยงานในท้องถิ่นได้เข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วม เช่น อบต. ให้งบประมาณในการจัดฝึกอบรมกลุ่มเยาวชนหรือกลุ่มเสี่ยง ขณะที่วัดก็มีบทบาทสำคัญเช่นเดียวกัน ทำให้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นลดน้อยลง

โดยในปี 2551 ก่อนที่จะมีโครงการมีวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปีใน ต.ชอนสมบูรณ์ ตั้งครรภ์จำนวน 11 ราย เมื่อมีโครงการในปี 2552 มีวัยรุ่นตั้งครรภ์จำนวน 8 ราย และในปี 2553 จำนวน 8 ราย ลดลงคิดเป็นร้อยละ 23.52 และ 17.22 ตามลำดับ จากจำนวนหญิงตั้งครรภ์ทั้งตำบลเฉลี่ยปีละ 40 ราย

เช่น พระครูใบฎีกาทรงพล ชยนฺนโท เจ้าอาวาสวัดศรีรัตนารามกล่าวว่า ทางวัดได้นำปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียนมาจัดกิจกรรมเพื่อป้องกันปัญหา เพราะถือว่าเป็นปัญหาของสังคมและเป็นปัญหาของชุมชน หากเด็กเกิดมาไม่มีความพร้อมหรือเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่ไม่มีคุณภาพก็จะกลายเป็นปัญหาของสังคมขึ้นมาอีก

"ทุกภาคส่วนในท้องถิ่นต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่ถือว่าตัวเองไม่เกี่ยว ทั้งโรงเรียน อบต. และวัดก็ต้องร่วมกัน ที่ผ่านมาได้จัดค่ายครอบครัวคุณธรรม ปลูกฝังเรื่องจริยธรรมและความดีงามแก่เยาวชน ไม่ล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ตลอดจนการ ′บวชเณรภาคฤดูร้อน′ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมศิลปะ กิจกรรมเดินป่า ร่วมปลูกต้นไม้ การรีไซเคิลขยะ การแข่งขันกีฬา ฯลฯ เพื่อดึงเยาวชนออกจากสื่อยั่วยุทางเพศ"

มันเป็นปัญหาที่ต้องร่วมมือกันแก้ไข มิฉะนั้นจะมีปัญหาตามมาอีกมากมาย

Credit : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์
H O M E