โดย...
นิตยสารบ้านและสวนสําหรับหลายๆ คนที่ต้องทนอยู่ในบ้านที่ร้อนระอุ คงเป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำเท่าไร ดังนั้นถ้าอยากให้บ้านเย็นสบายขึ้น ลองทำตาม 7 ไอเดียที่
บ้านและสวน นำมาแนะนำดู
1.
ระวังเรื่องการวางผัง● หลีกเลี่ยงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์บังช่องเปิดที่เป็นทางเข้าออกของลม
● เฟอร์นิเจอร์ที่มีมากเกินความจำเป็น จัดวางให้ลงตัวได้ยาก และยังดูอึดอัดอีกด้วย
● คลายอารมณ์ร้อนๆ ด้วยการวางของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
● วางชุดเฟอร์นิเจอร์หลบแสงแดด และเว้นระยะแต่ละตัวให้มีช่องว่างเพื่อช่วยระบายอากาศ
● รื้อผนังบางส่วนออก เชื่อมพื้นที่แต่ละส่วนให้ต่อเนื่องถึงกัน จะทำให้บ้านดูโปร่งและน่าอยู่
2.
ทิศทางลมและช่องเปิด● เจาะช่องเปิดให้กว้างในทิศที่ลมพัดผ่านเข้า-ออกได้สะดวก ได้แก่ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้
● เพื่อให้ลมพัดเข้ามาแล้วรู้สึกสบายอยู่ตลอดเวลา ควรเจาะช่องออกให้ตรงกัน แล้ววางพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการไว้ระหว่างนั้น และถ้าอยากให้ลมพัดแรง ก็ควรเปิดช่องลมเข้าให้เล็กกว่าช่องลมออก
● เปลี่ยนมาใช้ประตูบานเปิดหรือบานหมุนขนาดใหญ่ จะช่วยรับเอาลมเย็นจากภายนอกเข้ามาได้
● เปิดรับแสงธรรมชาติด้านทิศเหนือ แต่ปิดรับแสงด้านทิศตะวันตกและใต้ เพื่อกันแสงแดดและความร้อน
● ปลูกต้นไม้ทรงพุ่มเตี้ยไว้รอบตัวบ้าน ช่วยบังคับทิศทางให้ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างได้ดีขึ้น
3.
เลือกเฟอร์นิเจอร์เป็น ช่วยได้เยอะ● ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขาโปร่งๆ หรือที่มีรูปทรงเรียบๆ ดูไม่ทึบตัน ลมจะได้พัดผ่านได้ดี
● การได้นั่งเก้าอี้สบายๆ ทำให้เราสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ช่วยคลายอารมณ์ที่ร้อนๆ หุ้มบุเฟอร์นิเจอร์ด้วยผ้าฝ้ายที่คายความร้อนได้ดีแทนการใช้วัสดุประเภทหนังสัตว์ หรือผ้าใยสังเคราะห์หนาๆ
● เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ได้แก่ ประเภทไม้หรือหิน จะไม่สะสมความร้อนเอาไว้
● ตู้บิลต์อินที่มีบานปิดมิดชิดและอยู่ในมุมอับ จะสะสมความร้อนไว้มากกว่าตู้แบบลอยตัวหรือชั้นวางของแบบโปร่งๆ
4.
มองหาตัวช่วยอื่นๆ● ระบายความร้อนให้หลังคาด้วยสปริงเคลอร์ที่ฉีดละอองน้ำรดบนหลังคา
● ติดพัดลมระบายอากาศบนหลังคาหรือที่ผนัง จะดูดเอาความร้อนที่ลอยขึ้นผ่านออกไปได้รวดเร็วขึ้น
● เลือกและติดตั้งฉนวนกันความร้อนให้เหมาะกับบ้านหรือจะพ่นโฟมป้องกันความร้อนที่โครงหลังคาก็ได้
● ก่อผนังด้วยคอนกรีตมวลเบา เนื่องจากมีรูพรุนอยู่ภายใน จึงช่วยลดการสะสมของความร้อนได้ดี
● ติดตั้งแผงกันแดดภายนอกอาคารในบริเวณผนังหรือช่องเปิดด้านที่รับแดดจัดๆ ก็ช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาสะสมภายในได้เช่นกัน
5.
สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย● จัดสวนทำบ่อน้ำเพื่อเพิ่มไอเย็นและความชุ่มชื้นให้บ้าน
● ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงากับตัวบ้าน หรือบริเวณที่โดนแดดจัดๆ ส่องตลอดเวลา เช่น ผนังและพื้นปูนด้านทิศตะวันตก
● แปลงโฉมรั้วเสียใหม่จากรั้วที่ทึบๆ ให้ดูโปร่งขึ้น อากาศจะได้ถ่ายเทสะดวก
● ปลูกไม้กระถางบริเวณระเบียงหรือรั้ว ก็ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้เช่นกัน
● ปลูกหญ้าหรือพืชคลุมดินเอาไว้ลดความร้อนที่มาจากลมพัดผ่านพื้นดินเข้าสู่ตัวบ้าน
6.
วัสดุต่างๆ อย่ามองข้าม!● บริเวณพื้นที่ที่โดนแดดตลอดทั้งวัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุประเภทคอนกรีตเปลือย ซึ่งจะคายความร้อนออกไปได้ช้า หากเป็นพื้นด้านนอกบ้าน อาจลดพื้นที่ดังกล่าว แล้วปลูกหญ้าแทน
● ยื่นชายคาออกไปให้ยาวขึ้นเพื่อช่วยบังแสงแดด แล้วตีระแนงไม้ไว้ด้านล่างเพื่อช่วยระบายอากาศใต้หลังคา การออกแบบโดยยกหลังคาให้สูงขึ้น ให้มีช่องระบายอากาศใต้หลังคา และมุงด้วยกระเบื้องมุงหลังคาสีอ่อน ก็ช่วยลดความร้อนได้เหมือนกัน
● ปูพื้นด้วยวัสดุที่ไม่อมความร้อน ได้แก่ หินอ่อน หินขัด หรือไม้ปาร์เกต์ และหลีกเลี่ยงการใช้พื้นประเภทยางสังเคราะห์
● ติดตั้งมู่ลี่ปรับแสงหรือม่านที่เป็นผ้าโปร่งๆ แทนชนิดที่เป็นม่านทึบเพราะจะทำให้บ้านยิ่งร้อนขึ้นไปอีก
7.
มีดีที่โทนสี● ใช้สีโทนอ่อนทาผนังภายนอกจะช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดี จึงไม่เกิดการสะสมความร้อน
● ทาสีภายในด้วยสีโทนเย็น ได้แก่ สีขาวอมฟ้า สีฟ้าอมเขียว ที่ให้ความรู้สึกสงบและเย็นสบาย
● เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีอ่อน จะทำให้บ้านดูโล่ง สบายตา แต่ถ้าในบ้านใช้เฟอร์นิเจอร์สีเข้มอยู่แล้ว ด้วยโทนของสีจะทำให้รู้สึกเย็น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดได้เหมือนกัน ดังนั้นให้แก้ปัญหาโดยหาของตกแต่งที่มีสีอ่อนมาวางเข้าไปแทน
● หาของตกแต่งที่มีสีอยู่ในกลุ่มสีโทนเย็น หรือหาต้นไม้มาวางเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน
Credit : www.posttoday.com สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์H O M E