bloggang.com mainmenu search
     รอบียะ กอดีร์ (Rebiya Kadeer) ได้นัดพบกับกลุ่มนักวิจัยของสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาในฤดูร้อนของปี พ.ศ. 2542 ขณะนั้นกลุ่มนักวิจัยดังกล่าวได้เดินทางมายังอูหลู่มู่ฉี (อุรุมชี) เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง เพื่อไต่สวนชะตากรรมของชนชาติส่วนน้อยอุยกูร์ของจีน

ระหว่างเดินทางไปพบกลุ่มนักวิจัยดังกล่าว กอดีร์ถูกสะกดรอยตาม ขณะนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ ก็มีรถคันใหญ่สีดำวิ่งพุ่งเข้าใส่ แต่คนขับก็หักเลี้ยวได้ทันอย่างหวุดหวิด รถคันที่วิ่งไล่ล่าเหยื่อนั้นพุ่งชนรถอีกคันแทน มือของคนขับที่ไร้วิญญาณห้อยออกมานอกหน้าต่างรถ

รถคันดำไล่กวดเหยื่อต่อไปโดยไม่สนใจผู้บาดเจ็บ วิ่งสกัดรถแท็กซี่ไว้ เจ้าหน้าที่ถือปืนกลอัตโนมัติเข้ามา จากนั้นกอดีร์ก็ถูกจำคุก 6 ปี ในข้อหา “ทำความลับของชาติรั่วไหล” ที่นั่น เธอมักเห็นเจ้าหน้าที่ทุบตีนักโทษหญิงที่ถูกเปลื้องเสื้อผ้าออก


กอดีร์ได้เล่าเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ในหนังสือ “Dragon Fighter: One Woman's Epic Struggle for Peace with China” โดยสำนักพิมพ์อเมริกัน Kales Press บริษัทในเครือของ W.W.Norton ซึ่งเป็นฉบับภาษาอังกฤษที่เพิ่งถูกเผยแพร่ในสหรัฐฯ อังกฤษ และกลุ่มชาติที่พูดภาษาอังกฤษ โดยมีองค์ทะไล ลามะ เป็นผู้เขียนคำนำให้ด้วย

ทั้งนี้ กอดีร์ได้เขียน “Dragon Fighter” โดยความช่วยเหลือจากผู้ช่วยเขียน Alexander Cavelius ซึ่งเป็นฉบับดั้งเดิมนี้ตีพิมพ์ในภาษาเยอรมนี โดยสำนักพิมพ์ Random House เมื่อปี 2550

     กอดีร์ วัย 62 ปี ได้เล่าชีวิตอันพลิกผันโลดโผน หลายบทบาทหลากรสชาติของเธอ นับจากชีวิตคุณแม่ของลูกๆ 11 คน นักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าของบริษัทการค้า และห้างสรรพสินค้าใหญ่ กอดีร์บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในประเทศจีน แต่ชีวิตของเธอก็ได้หักมุมกลายเป็นผู้ที่มีความคิดไม่ลงรอยกับรัฐบาลที่โดดเด่นที่สุด จนได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลโนเบลไพรซ์ในปี 2549 นอกจากนี้ ยังได้เล่าชีวิตของเธอและชนชาติอุยกูร์ซึ่งเป็นมุสลิมที่พูดภาษาเตอร์กิค

กอดีร์ได้รับการปล่อยตัวจากคุกอย่างกะทันหันเมื่อปี 2548 ก่อนหน้าที่รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศแห่งสหรัฐฯสมัยนั้นคือ นางคอนโดลิซซา ไรซ์ มาเยือนกรุงปักกิ่ง ขณะนี้กอดีร์เป็นผู้นำกลุ่มรณรงค์สิทธิอุยกูร์พลัดถิ่นอยู่ในกรุงวอชิงตัน

     กอดีร์เล่าว่าสายลับจีนได้แกะรอยบ้านของเธอและดักฟังโทรศัพท์ และกดดันเธอด้วยวิธีการต่างๆ โดยขณะนี้ลูกของเธอ 5 คน ยังอาศัยอยู่ในซินเจียง โดยที่สองคนอยู่ในคุก

เจ้าหน้าที่จีนได้ระบุ กอดีร์ เป็น “ปิศาจลัทธิแบ่งแยกดินแดน” และกล่าวหาว่า เธอใช้วิธีการลัทธิก่อการร้ายในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของซินเจียง

กอดีร์ก็กล่าวหาจีนว่าได้ใช้เหตุการณ์โจมตีในวันที่ 11 กันยายน 2544 เป็นข้ออ้างในการโจมตีชาวอุยกูร์ กอดีร์ ยังเล่าชีวิตระหว่างอยู่ในคุกที่ซินเจียงว่า เธอถูกส่งไปอบรมการศึกษาใหม่ ซึ่งครูเจ้าหน้าที่ที่นั่น บอกให้นักโทษเลิกเชื่อในพระเจ้า และตะโกน 50 ครั้ง “พวกเราไม่ต้องการแยกตัวจากจีน!”

“รัฐบาลจีนได้ทำลายชาวอุยกูร์อย่างเป็นระบบ มา 60 ปี ดังนั้น ชาวโลกจึงไม่ค่อยได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเราดีนัก”

“ดังนั้น ความหวังของดิฉันคือ ผู้คนในโลกจะได้รู้สถานการณ์ของพวกเราผ่านหนังสือเล่มนี้” กอดีร์ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีที่สำนักงานของเธอ ซึ่งอยู่ใกล้กับทำเนียบขาว

     กอดีร์ยังหวังด้วยว่าหนังสือของเธอจะได้รับการแปลฉบับภาษาจีน เธอเล่าว่าจีนได้ให้เธอสัญญาว่าระหว่างใช้ชีวิตพลัดถิ่น จะไม่กระทำการใดๆที่ทำลายชาวจีน ซึ่งเธอยืนยันว่าเธอยังรักษาสัญญา

“ดิฉันไม่ได้ต่อต้านชาวจีน เพียงต่อสู้เพื่อรัฐบาลที่มีพื้นฐานประชาธิปไตย และคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชน” กอดีร์เขียนในหนังสือของเธอ

ขอขอบคุณ
ที่มา :
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2552


H O M E
Create Date :08 กรกฎาคม 2552 Last Update :5 กุมภาพันธ์ 2553 18:30:04 น. Counter : Pageviews. Comments :0