พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. การสนทนาเรื่องที่สุดโลก
.
ภิกษุ ท. ! เมื่อคืนนี้ ราตรีล่วงไปมากแล้ว, เทวบุตรชื่อ โรหิตัสส์ มีวรรณะอย่างยิ่ง ส่องเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างอยู่, ได้เข้ามาหาเราถึงที่อาศัย ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ ที่ข้างหนึ่ง. ได้กล่าวกะเราว่า
"พระองค์ ! ในที่สุดโลกแห่งใด ซึ่งสัตว์จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัตินั้น ใคร ๆ อาจ เพื่อจะรู้ จะเห็น จะถึงที่สุดโลกแห่งนั้น ด้วยการไป ได้หรือไม่ ?"
ภิกษุ ท. ! เทวบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว, เราได้ตอบว่า
"แน่ะเธอ ! ที่สุดโลก ซึ่งสัตว์จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัตินั้น เรากล่าวว่า ใครๆ ไม่อาจรู้ ไม่อาจเห็น ไม่อาจถึงที่สุดโลกนั้น ด้วยการไปได้เลย".
ภิกษุ ท. ! เรากล่าวดังนี้แล้ว เทวบุตรนั้นได้กล่าวสืบไปว่า
"พระองค์ ! อัศจรรย์จริง, ไม่เคยมีเลย คือคำที่พระองค์ตรัสนี้.
ข้าแต่พระองค์ ! ในกาลก่อนข้าพระองค์เป็นฤาษีชื่อโรหิตัสส์ ผู้โภชบุตร มีฤทธิ์ไปได้โดยอากาศ. ความรวดเร็วของข้าพระองค์ เช่นเดียวกับลูกธนูของอาจารย์ผู้คล่องแคล่วลือชาในการยิงธนูขนาดหนัก สามารถยิงถูกขนทรายได้ในระยะอุสุภหนึ่ง ที่ยิงตลอดเงาแห่งตาลโดยขวาง ด้วยลูกศรอันเบาปลิวฉะนั้น. การก้าวเท้าของข้าพระองค์ (ก้าวหนึ่งมีระยะไกล) ประมาณเท่า จากสมุทรฟากตะวันออก ถึงสมุทรฟากตะวันตก.
(บาลี = ติริยํ ตาลจฺฉายํ, น่าจะเป็นเงาต้นตาลตามพื้นดิน?)
ข้าแต่พระองค์ ! เมื่อประกอบด้วยความรวดเร็ว และการก้าวไกลถึงเช่นนี้ ข้าพระองค์เกิดความปรารถนาว่า เราจักถึงที่สุดโลก ด้วยการไปให้จงได้.
ข้าพระองค์จึงงดการบริโภค การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม งดการถ่ายอุจจาระปัสสาวะงดการหลับ อันเป็นเครื่องบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเสีย, มีอายุ มีชีวิต ๑๐๐ ปี ก็เดินทางทั้ง ๑๐๐ ปี, ยังไม่ถึงที่สุดแห่งโลกเลย ได้ตายเสียในระหว่าง.
ข้าแต่พระองค์ ! อัศจรรย์จริง, ไม่เคยมีเลย, คือคำที่พระองค์ตรัสว่า
"เรากล่าวว่า ใคร ๆ ไม่อาจรู้ อาจเห็น อาจถึงที่สุดโลก ด้วยการไป ได้เลย," ดังนี้
ภิกษุ ท. ! เราได้กล่าวกะเทวบุตรนั้นว่า
"แน่ะเธอ ! ที่สุดโลกแห่งใด อันสัตว์ไม่เกิดไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ, เราไม่กล่าวการรู้ การเห็น การถึงที่สุดโลกนั้น เพราะการไป.
แน่ะเธอ ! ในร่างกายที่ยาววาหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยสัญญา และใจนี่เอง เราได้บัญญัติโลก, เหตุเกิดของโลก, ความดับไม่มีเหลือของโลก และทางให้ถึงความดับไม่มีเหลือของโลกไว้" ดังนี้.
(หมายเหตุ จขบ
"โลก" ที่พระพุทธองค์บัญญัตินี้ คือขันธ์ 5 นั่นเอง .. และไม่ใช่"โอกาสโลก"อย่างที่บรรยายในไตรภูมิพระร่วงแต่อย่างใด
และโลกในร่างกายนี้ .. ย่อมมีแต่ปัจจุบันเท่านั้น .. ไม่มีโลกในอดีตหรือโลกในอนาคต .. และโลกในกายนี้เองที่เป็นไปตามไตรลักษณ์ คือ เป็นทุกข์ เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นตัวตนอะไร
สิ่งที่พระพุทธองค์ไม่พูดถึง .. แปลว่าไม่มีประโยชน์ต่อการดับทุกข์ .. จะมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องหยิบยกมาคิด พิจารณา ) . . . บาลี ปฐมปัณณาสก์ จตฺก. อํ. ๒๑/๖๒/๔๖. เล่าแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่เชตวัน ในวันรุ่งขึ้นจากคืนที่ทรงสนทนา
Create Date : 01 ธันวาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2555 5:22:42 น. |
Counter : 1109 Pageviews. |
|
|
|