Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 
1 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. การสนทนาเรื่องที่สุดโลก

.





ภิกษุ ท. !
เมื่อคืนนี้ ราตรีล่วงไปมากแล้ว, เทวบุตรชื่อ โรหิตัสส์ มีวรรณะอย่างยิ่ง ส่องเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างอยู่, ได้เข้ามาหาเราถึงที่อาศัย ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ ที่ข้างหนึ่ง. ได้กล่าวกะเราว่า

"พระองค์ ! ในที่สุดโลกแห่งใด ซึ่งสัตว์จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัตินั้น ใคร ๆ อาจ เพื่อจะรู้ จะเห็น จะถึงที่สุดโลกแห่งนั้น ด้วยการไป ได้หรือไม่ ?"

ภิกษุ ท. !
เทวบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว, เราได้ตอบว่า

"แน่ะเธอ !
ที่สุดโลก ซึ่งสัตว์จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัตินั้น เรากล่าวว่า ใครๆ ไม่อาจรู้ ไม่อาจเห็น ไม่อาจถึงที่สุดโลกนั้น ด้วยการไปได้เลย".

ภิกษุ ท. !
เรากล่าวดังนี้แล้ว เทวบุตรนั้นได้กล่าวสืบไปว่า

"พระองค์ !
อัศจรรย์จริง, ไม่เคยมีเลย คือคำที่พระองค์ตรัสนี้.

ข้าแต่พระองค์ !
ในกาลก่อนข้าพระองค์เป็นฤาษีชื่อโรหิตัสส์ ผู้โภชบุตร มีฤทธิ์ไปได้โดยอากาศ. ความรวดเร็วของข้าพระองค์ เช่นเดียวกับลูกธนูของอาจารย์ผู้คล่องแคล่วลือชาในการยิงธนูขนาดหนัก สามารถยิงถูกขนทรายได้ในระยะอุสุภหนึ่ง ที่ยิงตลอดเงาแห่งตาลโดยขวาง ด้วยลูกศรอันเบาปลิวฉะนั้น. การก้าวเท้าของข้าพระองค์ (ก้าวหนึ่งมีระยะไกล) ประมาณเท่า จากสมุทรฟากตะวันออก ถึงสมุทรฟากตะวันตก.

(บาลี = ติริยํ ตาลจฺฉายํ, น่าจะเป็นเงาต้นตาลตามพื้นดิน?)

ข้าแต่พระองค์ !
เมื่อประกอบด้วยความรวดเร็ว และการก้าวไกลถึงเช่นนี้ ข้าพระองค์เกิดความปรารถนาว่า เราจักถึงที่สุดโลก ด้วยการไปให้จงได้.

ข้าพระองค์จึงงดการบริโภค การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม งดการถ่ายอุจจาระปัสสาวะงดการหลับ อันเป็นเครื่องบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเสีย, มีอายุ มีชีวิต ๑๐๐ ปี ก็เดินทางทั้ง ๑๐๐ ปี, ยังไม่ถึงที่สุดแห่งโลกเลย ได้ตายเสียในระหว่าง.

ข้าแต่พระองค์ !
อัศจรรย์จริง, ไม่เคยมีเลย, คือคำที่พระองค์ตรัสว่า

"เรากล่าวว่า ใคร ๆ ไม่อาจรู้ อาจเห็น อาจถึงที่สุดโลก ด้วยการไป ได้เลย," ดังนี้

ภิกษุ ท. !
เราได้กล่าวกะเทวบุตรนั้นว่า

"แน่ะเธอ ! ที่สุดโลกแห่งใด อันสัตว์ไม่เกิดไม่แก่ ไม่ตาย ไม่จุติ ไม่อุบัติ, เราไม่กล่าวการรู้ การเห็น การถึงที่สุดโลกนั้น เพราะการไป.

แน่ะเธอ !
ในร่างกายที่ยาววาหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยสัญญา และใจนี่เอง เราได้บัญญัติโลก, เหตุเกิดของโลก, ความดับไม่มีเหลือของโลก และทางให้ถึงความดับไม่มีเหลือของโลกไว้" ดังนี้.

(หมายเหตุ จขบ

"โลก" ที่พระพุทธองค์บัญญัตินี้ คือขันธ์ 5 นั่นเอง .. และไม่ใช่"โอกาสโลก"อย่างที่บรรยายในไตรภูมิพระร่วงแต่อย่างใด

และโลกในร่างกายนี้ .. ย่อมมีแต่ปัจจุบันเท่านั้น .. ไม่มีโลกในอดีตหรือโลกในอนาคต .. และโลกในกายนี้เองที่เป็นไปตามไตรลักษณ์ คือ เป็นทุกข์ เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นตัวตนอะไร

สิ่งที่พระพุทธองค์ไม่พูดถึง .. แปลว่าไม่มีประโยชน์ต่อการดับทุกข์ .. จะมีอยู่หรือไม่ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องหยิบยกมาคิด พิจารณา
)
.
.
.
บาลี ปฐมปัณณาสก์ จตฺก. อํ. ๒๑/๖๒/๔๖.
เล่าแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่เชตวัน ในวันรุ่งขึ้นจากคืนที่ทรงสนทนา




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2555
0 comments
Last Update : 1 ธันวาคม 2555 5:22:42 น.
Counter : 1109 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.