อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. อุปาทานสี่
.
ภิกษุ ท.! อุปาทานมี ๔ อย่าง เหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ :- ๑. กามุปาทาน ความถือมั่นใน กาม ๒. ทิฏฐุปาทาน ความถือมั่นใน ทิฎฐิ ๓. สีลัพพตุปาทาน ความถือมั่นใน ศีลพรต ๔. อัตตวาทุปาทาน ความถือมั่นใน วาทะว่าตน.
ภิกษุ ท.! เหล่านี้แล คือ อุปาทานสี่อย่าง. . . . มหาวาร. สํ. ๑๙/๘๘/๓๓๗.
(คำอธิบายตามนัยแห่งคัมถีร์ธัมมังสังคณี อภิธัมมปิฎก ๓๔/๓๐๖/๗๘๐ มีดังนี้:-)
ธรรมทั้งหลายชื่อ อุปาทาน เป็นอย่างไร ? อุปาทาน สี่ คือ .. - กามุปาทาน - ทิฏฐุปาทาน - สีลัพพตุปาทาน - และอัตตวาทุปาทาน.
ในอุปาทานสี่นั้น, กามุปาทาน เป็นอย่างไร ? - กามฉันทะ (ความพอใจในกาม) - กามราคะ (ความยินดีในกาม) - กามนันทิ (ความเพลินในกาม) - กามตัณหา (ความทะยานอยากในกาม) - กามสิเนหะ (ความเยื่อใยในกาม) - กามปริฬาหะ (ความเร่าร้อนในกาม) - กามมุจฉา (ความสยบในกาม) - กามัชโฌสานะ (ความเมาหมกในกาม) ในกามทั้งหลายใด ๆ. นี้ เรียกว่า กามุปาทาน
ในอุปาทานสี่นั้น, ทิฏฐุปาทาน เป็นอย่างไร ? - ของที่ให้แล้วไม่มี, - ของที่บูชาแล้วไม่มี, - ของที่บวงสรวงแล้วไม่มี, - ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่วไม่มี, - โลกนี้ไม่มี, - โลกอื่นไม่มี, - มารดาไม่มี, - บิดาไม่มี, - สัตว์ผู้โอปปาติกะไม่มี, - เหล่าสมณพราหมณ์ผู้ไปถูก ปฏิบัติถูก คือผู้ที่ทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้วจึงประกาศให้รู้ ไม่มีในโลก
ความเห็นมีลักษณะดังกล่าวนี้ ใด ๆ .. - เป็นทิฎฐิ, - ไปแล้วด้วยทิฎฐิ, - รกชัฏด้วยทิฏฐิ, - กันดารด้วยทิฎฐิ, - เป็นข้าศึกด้วยทิฏฐิ, - โยกโคลงด้วยทิฎฐิ, - รึงรัดไว้ด้วยทิฎฐิ, - การจับ, การจับยึดไว้, การยึดถือไว้อย่างแน่นหนา, - การลูบคลำ, มรรคที่ชั่วช้า, ทางที่ผิด, ความเป็นที่ผิด, - การสืบต่อลัทธิที่ผิด, ถือการแสวงหาในด้านที่ผิด.
นี้ เรียกว่า ทิฎฐุปาทาน.
ยกเว้น สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทานเสียแล้ว แม้ทั้งหมด เป็นมิจฉาทิฎฐิสิ้น ชื่อทิฎฐุปาทาน.
ในอุปาทานสี่นั้น, สีลัพพตุปาทาน เป็นอย่างไร ? - ความสะอาดด้วยศีล, - ความสะอาดด้วยวัตร - ความสะอาดด้วยศีลพรต ของเหล่าสมณพราหมณ์ ในภายนอกแต่ ศาสนานี้
ความเห็นมีลักษณะดังกล่าวนี้ใด ๆ .. - เป็นทิฏฐิ, - ไปแล้วด้วยทิฏฐิ, - รกชัฎด้วยทิฎฐิ, - กันดารด้วยทิฎฐิ, - เป็นข้าศึกด้วยทิฏฐิ, - โยกโคลงด้วยทิฏฐิ, - รึงรัดไว้ด้วยทิฏฐิ, - การจับ, การจับยึดไว้, การยึดถือเอไว้อย่างแน่นหนา, - การลูบคลำ มรรคที่ชั่วช้า, ทางที่ผิด, ความเป็นที่ผิด, - การสืบต่อลัทธิที่ผิด, ถือการแสวงหาในด้านที่ผิด.
นี้ เรียกว่า สีลัพพตุปาทาน.
ในอุปาทานสี่นั้น, อัตตวาทุปาทาน เป็นอย่างไร ? บุถุชนผู้ไม่ได้ยินได้ฟังในโลกนี้ .. - ไม่ได้เห็นเหล่าพระอริยเจ้า - ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า - ไม่ถูกแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้า, - ไม่ได้เห็นเหล่าสัตบุรุษ - ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ - ไม่ถูกแนะนำในธรรมของสัตบุรุษ; - ย่อมเห็นเนื่องอยู่เสมอซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ว่าเป็นอัตตาก็ดี, - ย่อมเห็นเนื่องอยู่เสมอ ซึ่งอัตตา เป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณก็ดี, - ย่อมเห็นเนื่องอยู่เสมอ ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ว่ามีอยู่ในอัตตาก็ดี, - หรือว่า ย่อมเห็นเนื่องอยู่เสมอ ซึ่งอัตตาว่ามีอยู่ ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณก็ดี.
ความเห็นมีลักษณะดังกล่าวนี้ใด ๆ .. - เป็นทิฏฐิ, - ไปแล้วด้วยทิฏฐิ, - รกชัฏด้วยทิฏฐิ, - กันดารด้วยทิฏฐิ, - เป็นข้าศึกด้วยทิฏฐิ, - โยกโคลงด้วยทิฏฐิ, - รึงรัดไว้ด้วยทิฏฐิ, - การจับ. การจับยึดไว้, การยึดถือเอาไว้อย่างแน่นหนา, - การลูบคลำ, มรรคที่ชั่วช้า, ทางที่ผิด, ความเป็นที่ผิด, - การสืบต่อลัทธิที่ผิด, ถือการแสวงหาในด้านที่ผิด.
นี้เรียกว่า อัตตวาทุปาทาน.
เหล่านี้ คือ ธรรมทั้งหลาย ชื่อ อุปาทาน.
Create Date : 25 กรกฎาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 25 กรกฎาคม 2556 6:07:38 น. |
Counter : 731 Pageviews. |
|
|
|