Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 
19 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. วิญญาณเมื่อทำหน้าที่เป็นพืช

.





ภิกษุ ท.!
สิ่งที่ใช้เป็นพืชมีห้าอย่างเหล่านี้. ห้าอย่างเหล่าไหนเล่า ?

ห้า อย่างคือ
- พืชจากเหง้า (มูลพืช ),
- พืชจากต้น (ขนฺธพีช ),
- พืชจากตา (ผลุพีช),
- พืชจากยอด (อคฺคพีช),
- และพืชจากเมล็ด (เช่นข้าวเป็นต้น)
เป็นคำรบห้า (พีชพีช).

ภิกษุ ท.!
ถ้าสิ่งที่ใช้เป็นพืชห้าอย่างเหล่านี้ ที่ไม่ถูกทำลาย ยังไม่เน่าเปื่อย ยังไม่แห้งเพราะลมและแดด ยังมีเชื้องอกบริบูรณ์อยู่ และอันเจ้าของเก็บไว้ด้วยดี, แต่ดิน น้ำ ไม่มี.

ภิกษุ ท.!
สิ่งที่ใช้เป็นพืชห้าอย่างเหล่านั้น จะพึงเจริญงอกงามไพบูลย์ ได้แลหรือ ?

"หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !"

ภิกษุ ท.!
ถ้าสิ่งที่ใช้เป็นพืชห้าอย่างเหล่านี้แหละ ที่ไม่ถูกทำลาย ยังไม่น่าเปื่อย ยังไม่แห้งเพราะลมและแดด ยังมีเชื้องอกบริบูรณ์อยู่ และอันเจ้าของเก็บไว้ด้วยดี, ทั้งดิน น้ำ ก็มีด้วย.

ภิกษุ ท .!
สิ่งที่ใช้เป็น พืชห้าอย่างเหล่านั้นจะพึงเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้มิใช่หรือ ?

"อย่างนั้น พระเจ้าข้า !"

ภิกษุ ท.!
วิญญาณฐิติ สี่อย่าง (รูป เวทนา สัญญา สังขาร) พึงเห็นว่าเหมือนกับดิน.

ภิกษุ ท .!
นันทิราคะ พึงเห็นว่า เหมือนกับน้ำ.

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ ซึ่งประกอบด้วยปัจจัย (คือกรรม) พึงเห็นว่าเหมือนกับพืชสด ทั้งห้านั้น.

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ ซึ่งเข้าถือเอา"รูป" ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็นอารมณ์ มีรูปเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิเป็นที่เข้าไปส้องเสพก็ถึงความเจริญ งอกงามไพบูลย์ ได้;

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ ซึ่งเข้าถือเอา"เวทนา" ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, เป็นวิญญาณที่มีเวทนาเป็นอารมณ์ มีเวทนาเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิเป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถือความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้;

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ ซึ่งเข้าถือเอา"สัญญา" ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, เป็นวิญญาณที่มีสัญญาเป็นอารมณ์ มีสัญญาเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิเป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้;

ภิกษุ ท.!
วิญญาณ ซึ่งเข้าถือเอา"สังขาร" ตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้, เป็นวิญญาณที่มีสังขารเป็นอารมณ์ มีสังขารเป็นที่ตั้งอาศัย มีนันทิเป็นที่เข้าไปส้องเสพ ก็ถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ได้.

ภิกษุ ท.!
ผู้ใดจะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ..

"เราจักบัญญัติ ซึ่งการมา การไป การจุติ การอุบัติ ความเจริญ ความงอกงาม และความไพบูลย์ ของวิญญาณ โดยเว้นจากรูป เว้นจากเวทนา เว้นจากสัญญา และเว้นจากสังขาร"

ดังนี้นั้น, นี่ไม่ใช่ฐานะที่จักมีได้เลย.
.
.
.
ขนฺธ. สํ. ๑๗/๖๗/๑๐๖-๑๐๗.k



หมายเหตุ จขบ.
นี่คือพุทธวจนะที่ชัดเจนแจ่มแจ้งที่สุด ที่แสดงว่า วิญญาณ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีเหตุจาก รูป เวทนา สัญญา สังขาร ..

รูป คือสิ่งที่มองเห็นได้
เวทนา คือ การรู้รสของอารมณ์ หรือ ความรู้สึกชอบ ชัง อย่างใดอย่างหนึ่ง
สัญญา คือ ความจำได้หมายมั่น
สังขาร คือ อำนาจแห่งการปรุงแต่งในจิตที่เต็มอยู่ด้วยอวิชชา

แปลต่อได้ว่า ..
วิญญาณ เกิด เพราะการสัมผัสผ่านทวารทั้ง 6 กับคู่ของมันหมายนอก

1.ตา กับ รูป - จักขุวิญญาณ
2.หู กับ เสียง - โสตวิญญาณ
3.ลิ้น กับ รส - ชิวหาวิญญาณ
4.จมูก กับ กลิ่น - นาสิกวิญญาณ
5.ผิวหนัง กับ การสัมผัสลูบไล้ - กายวิญญาณ
6.ใจ กับ เรื่องราว - มโนวิญญาณ

วิญญาณชนิดนี้คือ วิญญาณ 6 เป็นประเภท เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และไม่เป็นตัวตนสืบเนื่องข้ามภพข้ามชาติ (สัสสตทิฏฐิ - แบบวิญญาณแม่นาค) แต่อย่างใด




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2556
0 comments
Last Update : 19 กรกฎาคม 2556 6:37:15 น.
Counter : 789 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.