Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
▶▶รักด้วย "หัวใจ"... โดย : บุษกร ภู่แส



▷▷ความพิการไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตคู่ เมื่อเราเรียนรู้ด้วยหัวใจ



▷▷การใช้ชีวิตคู่รักที่พิการเพียงสายตา แต่ ชีวิตรักไม่บอด
สะท้อนให้เห็นว่า ความพิการไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตคู่ เมื่อเราเรียนรู้ด้วยหัวใจ"ไม่ใช่"แค่สายตา



ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ อดีตอาจารย์สอนกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าย้อนไปถึงภาพความทรงจำแรกของการพบกันระหว่าง ตนเอง และภรรยา ซึ่งตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เป็นระยะเวลาร่วม 24 ปีแล้วที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกัน ถึงแม้จะมีความต่างเรื่องความพิการทางสายตา และอายุที่ห่างกันถึง 10 ปี ไม่ใช่ปัญหา

ศาสตราจารย์วิริยะ ให้ความเห็นเรื่องหลักในการใช้ชีวิตคู่ไว้ว่า การที่ตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องของความรัก แต่ไม่มีอะไรสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะพื้นฐานครอบครัวของแต่ละคนต่างกันต้องรู้จักปรับตัวเข้าหากัน


“ถึงแม้ว่าผมจะมองไม่เห็นแต่ผมใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร ภรรยาไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ”



จากประสบการณ์การเรียนรู้ที่ใช้ชีวิตในโลกมืดจากโรงเรียนสอนคนตาบอด ทำให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเป็นการอาบน้ำแต่งตัว หรือการรีดผ้า ทำกับข้าว

“ทุกอย่างมันมีเทคนิค เวลาเจียวไข่เราใช้เตาไฟฟ้า แล้วเปิดความร้อนระดับพอเหมาะอาจมีคนช่วยบอก เอาน้ำมันใส่ลงไป ใส่ไข่ลงไปแล้ว กดไทม์เมอร์ ครึ่งนาที พลิก อีกครึ่งนาทีพลิก แทนที่จะให้คนอื่นทำเราลงมือทำเอง แต่หลังจากแต่งงานผมไม่ได้ทำเอง”


ขณะเดียวกันในส่วนของภรรยา คุณมณี เล่าว่า ปกติไม่เคยทำกับข้าวก็ต้องหันมาทำ แม้ไม่ได้ชอบการทำกับข้าวมากนัก แต่อยากทำอาหารให้สามีรับประทานมากกว่าซื้อรับประทานทุกมื้อ “จากเคยดูแม่ทำกับข้าว ซื้ออาหาร มันอยู่ในสมองอยู่แล้ว พอมาอยู่กับอาจารย์ เห็นอะไรในตู้เย็นพอทำกับข้าวหยิบเอามาทำ ช่วยเลือกเสื้อผ้าให้”

เมื่อถามถึงว่าความรักของคนพิการทางสายตาต่างจากคนทั่วไปอย่างไรบ้างหรือไม่ ศ.วิริยะ บอกว่า
ไม่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญการใช้ชีวิตคู่ คือ ความอดทน หรือขันติ เหมือนกับการปลูกต้นไม้ รากแก้วที่แข็งแรงก็คือ “สัจจะ” ลำต้นและกิ่งก้านก็คือ “วิริยะ” หรือความพยายาม น้ำเหมือน “จาคะ” การรดน้ำต้นไม้ให้เกิดความงอกงามคือ “ธรรมะ” หากฝึกสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วชีวิตคู่ก็ไม่มีปัญหา



ศาสตราจารย์วิริยะ เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อภรรยาว่า คุณมณี เป็นคนที่มีน้ำใจ และสิ่งที่สำคัญคือเข้าใจชีวิตคนพิการว่า อาจทำอะไรไม่เหมือนคนปกติ เช่น ถามอะไรซ้ำๆ ซากๆ ทำให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกรำคาญ แต่ความที่มองไม่เห็น ต้องการคำตอบหลายครั้งเพื่อให้มั่นใจ ถ้าคนเข้าใจก็ดีไป แต่ไม่เข้าใจคงลำบาก

“ภรรยาผมเป็นคนใจดี ไม่รังเกียจคนพิการ ไม่เฉพาะตัวผม เท่านั้น ผมว่าเป็นเรื่องที่ดี ผมเชื่อว่าทุกคนรับรู้ สัมผัสได้”

ศาสตราจารย์วิริยะ บอกว่า ก่อนแต่งงานไม่เคยคิดวาดฝันไว้เรื่องครอบครัว เพียงแค่คิดว่าถ้ามีภรรยาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก็พอแล้ว และถ้าเราอยู่อย่างมัธยัสถ์มีเงินเหลือกินเหลือใช้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใครมาให้ลำบากเราอยู่ได้อย่างมีความสุข

ส่วนการประคับประคองชีวิตคู่ นั้น ยึดหลักการให้ เพราะมีความเชื่อว่า ชีวิตครอบครัวจะมีความสุขได้ ถ้าต่างฝ่ายต่างคิดจะให้อีกฝ่ายหนึ่งในทุกด้านเท่าที่จะให้ได้

“เราช่วยกันทำงานบ้าน ถ้าไม่มีผู้ช่วยผมช่วยเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ถูบ้าน ป้อนนมลูกตอนดึก เปลี่ยนผ้าอ้อม กรณีทะเลาะกันจะไม่ปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนต้องเคลียร์ ไม่ให้ค้างคาใจกัน”

ส่วนคุณมณี เล่าความประทับใจสามีว่า เป็นผู้ชายที่อยู่ในอุดมคติ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี กับลูกๆ ไม่ใช่แค่เรียนอย่างเดียว แต่ยังตอบแทนสังคมด้วยถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง

"ในชีวิตไม่เคยถูกลอตเตอรี่ แต่ครั้งนี้คิดว่าถูกยิ่งกว่าลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพราะได้สามีใจเย็นเป็นคนที่มีเหตุผล ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เอะอะโวยวายด่าลูกเมีย ใช้จ่ายมัธยัสถ์จนลูกๆ มักแซวว่า ดีจังลูกจะได้มีเงินใช้"

ชีวิตครอบครัว ในความคิดของคุณมณี ถือว่ามาไกลเกินฝันแล้ว เพราะนอกจากเธอมีสามีดีแล้ว ลูกๆ ก็ยังดีด้วยลูกสาวคนโตและคนกลาง เรียนบัญชีที่ธรรมศาสตร์ ลูกชายคนเล็กเรียนแพทย์ที่ศิริราช ถือเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

ศาสตราจารย์วิริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า บทสรุปของชีวิตคู่ คือ ต้องปรับตัวเข้าหากัน รู้จักสังเกต ใช้เวลาเข้าใจธรรมชาติของคู่ชีวิต อดทน ให้เกียรติ ให้อภัยกัน จะช่วยให้ครอบครัวอบอุ่นและมีความสุขได้

credit : bangkokbiznews


Create Date : 02 มีนาคม 2555
Last Update : 2 มีนาคม 2555 13:00:33 น. 0 comments
Counter : 1434 Pageviews.

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.