|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ตาสีเลิกกำสรวล●คอลัมน์ วัฒน์ วรรยางกรู●กำสรวล คือ โศกเศร้า คร่ำครวญ ร้องไห้
●ตาสีเลิกกำสรวล คอลัมน์ วัฒน์ วรรยางกรู กำสรวล มีความหมายคล้าย กำสรด ●กำสรวล คือ โศกเศร้า คร่ำครวญ ร้องไห้
กำสรวล มีความหมายคล้าย กำสรด
กำสรด คือ สลด แห้ง เศร้า
กำสรวล คือ โศกเศร้า คร่ำครวญ ร้องไห้
แต่ทั้งกำสรด และกำสรวล ไม่มีอะไรเกี่ยวกับ กำขี้ กำตด ในสำนวนไทยโบราณ
ก็แหม...คนซื่อทางภาษาไทยเขาบ่นว่า "กำขี้ดีกว่ากำตด"จะดีได้ไง
>>>มันไม่ดีทั้งสองอย่างนั่นแหละ กำตดก็เหม็น ส่วนกำขี้นั่นเปื้อนมือ-ฮา
มีเพลง ตาสีกำสรวล ในราวหกสิบปีที่แล้ว แต่งโดย ครูไพบูลย์ บุตรขัน ร้องโดย คำรณ
สัมบุณณานนท์ เป็นเพลงสะท้อนชีวิตชาวนา ชื่อตาสี ตาสา "ผมเป็นตาสีตาสา
อยู่บ้านนาน้ำตก ที่เมืองนครนายก มาเสียภาษีค่านา?
>>>เช่นเดียวกับอีกเพลงในยุคเดียวกัน คือเพลง กลิ่นโคลนสาบควาย (พ.ศ. 2496) แต่งโดย
ครูไพบูลย์ เช่นกัน ร้องโดย ชาญ เย็นแข "อย่าดูหมิ่น ชาวนาเหมือนดั่งตาสี
เอาผืนนาเป็นที่พำนักพักพิงร่างกาย?
ภาพของตาสีตาสา ยายมายายมี ตาดีมือแป ฯลฯ คือภาพคนรากหญ้าไทยสมัยก่อน
เป็นภาพของชาวนาล้าหลัง อ่านหนังสือไม่ออก ทำการเกษตรแบบดึกดำบรรพ์
ไม่ใช้เครื่องจักร ฐานะยากจน ไม่มีปากเสียง ยอมจำนนต่ออำนาจภายนอก อยู่ในโลกแคบๆ
ของหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ ขาดการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ไม่มีวิทยุ โทรทัศน์
ไม่มีไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ฯลฯ
หกสิบปีผ่านไป ถ้านับจากเพลง กลิ่นโคลนสาบควาย เป็นที่ยอดนิยมเมื่อ พ.ศ.2496
วันนี้ยังมีตาสีตาสา ยายมายายมี ตาดีมือแป ตาหวังหลังโกง อยู่ในท้องทุ่งบ้างไหม
น่าจะหายากเต็มทน หายากเหมือนกับจะหาหมู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
ชาวไร่ชาวนาวันนี้ อ่านหนังสือออก พอมีการศึกษา ใช้เครื่องจักร ฐานะอยู่ในระดับ
ธนาคารยินดีให้กู้เงิน มีปากเสียง ไม่ยอมจำนน
อยู่ในโลกกว้างของยุคสมัยที่การคมนาคมสะดวกรวดเร็ว มีไฟฟ้า มีประปา (หมู่บ้าน)
มีโทรทัศน์จอแบน มีเครื่องเล่นดีวีดี มีโทรศัพท์มือถือ และมีคอมพิวเตอร์
มีอินเตอร์เน็ต มีอีเมล์ มีเฟซบุ๊ก
ตาสีที่เคยกำสรวลครวญคร่ำ ลำบากยากจน น้อยเนื้อต่ำใจสมัยหกสิบปีที่แล้ว
น่าจะไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ในโลกยุคปัจจุบัน ตาสีจึงต้องเลิกกำสรวล
หากแต่ต้องรู้จักใช้เครดิตธนาคาร รู้จักเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงแหล่งทุน
และการใช้ทรัพยากรส่วนรวม รู้จักต่อรอง ซึ่งก็ต้องมีข้อมูลจากโลกกว้าง
อันหาได้จากอินเตอร์เน็ต (หาเองไม่เป็นก็ให้รุ่นลูกที่เรียนมัธยม เรียนปวช. ปวส.
ราชภัฏ และเรียนมหาวิทยาลัย ช่วยค้นข้อมูลให้)
การจะเข้าถึงแหล่งทุน หรือทรัพยากรได้นั้น
ย่อมมาจากการมีสิทธิทางการเมืองเท่าเทียมคนอื่น
โลกเปลี่ยนไป ตามกาลเวลาที่เคลื่อนไป ตาสีย่อมเปลี่ยนไปตามโลก ตาสีจึงจะอยู่รอดได้
โดยไม่ต้องสูญพันธุ์อย่างไดโนเสาร์
น่าแปลกที่ผู้ลากมากดี นักวิชาการ คนมีความรู้สูงจำนวนไม่น้อย
กลับมองตาสีเหมือนกับที่เป็นเมื่อหกสิบปีที่แล้ว
ไม่ยอมเลิกดูถูกเหยียดหยาม
credit : khaosodnews
Create Date : 18 มีนาคม 2555 |
|
3 comments |
Last Update : 18 มีนาคม 2555 11:23:07 น. |
Counter : 1145 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: pantawan 18 มีนาคม 2555 12:43:46 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |
พักผ่อนอย่างมีความสุขนะคะ