วัดชิเทนโนจิเป็นวัดพุทธแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น
วัดชิเทนโนจินี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 593 โดยเจ้าชายโชโทกุ (Shotoku) เป็นผู้นำศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น วัดนี้สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สี่กษัตริย์ผู้ปกป้อง หรือ ชิเทนโน (Four Guardian Kings) วัดนี้ตามประวัติศาสตร์ถูกทำลายหลายต่อหลายครั้งอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ แต่ด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้าน วัดนี้ก็ได้รับการบูรณะกลับมาทุกครั้งที่มีการเสียหายครับ นอกจากวัดนี้ยังเป็นสถานที่จัดพิธีสำคัญๆ ของชาวญี่ปุ่น พร้อมทั้งเป็นที่เก็บสมบัติเก่าระดับตำนานมากมายไม่ว่าจะเป็น ดาบของเจ้าชายโชโทกุ (ดาบเฮชิโชิรินเคน) สมบัติระดับชาติ เซมเมนโฮเคเคียวซาสชิ หนังสือที่อยู่ในรูปของพัด สมบัติเหล่านี้มีอายุมากกว่า 1,400 ปีครับ เอาละครับ เกริ่นถึงประวัติซะนาน เรามาพูดถึงวีธีการเดินทางกันดีกว่าครับ
การเดินทางโดยการเดินสั้นๆ จากสถานี Shitennoji-mae-Yuhigaoka Station โดยรถไฟใต้ดินสาย Tanimachi หรือเดินเพียงสิบนาที โดยเดินขึ้นมาทางเหนือของสถานี JR Tennoji คราวนี้เรามาดูแผนที่ของวัดกันดีกว่าครับว่ามีสถานที่น่าสนใจอะไรบ้างครับ
ค่าเข้าชม 300 เยน
เวลาเปิดปิด 8.30 น. - 16.00 น.
วัดหยุด เปิดทุกวันไม่มีวันหยุดครับ
สวนภายในวัดประกอบไปด้วยต้นซากุระมากมายซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ในช่วงของซากุระบาน นอกจากนี้สวนแห่งนี้ยังสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงปลายพฤศจิกายน
วัดชิเทนโนจิเคยถูกทำลายทั้งจากภัยธรรมชาติและสงครามมาแล้วหลายครั้ง อาคารและโบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันถูกบูรณะขึ้นใหม่ให้เหมือนกับตัววัดเดิมเมื่อปี ค.ศ.1963 ด้านในของวัดนี้มีอาณาบริเวณที่ค่อนข้างจะกว้างขวาง จุดที่น่าสนใจนอกจากจะมีเจดีย์ 5 ชั้นตามแบบฉบับของวัดญี่ปุ่นแล้ว ด้านในยังมีร้านนํ้าชา มีนํ้าชาและขนมมันจูขายให้แวะมาลองชิม ภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของสวนญี่ปุ่นที่มีต้นซากุระและเมเปิลปลูกอยู่ด้านใน เป็นจุดชมซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
วัดชิเทนโนจิ (Shitenno-ji) เป็นวัดในพุทธศาสนาแห่งแรกของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อราว 1400 ปีที่แล้ว ในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิ์ Suiko
เชื่อกันว่าเจ้าชาย Shotoku เป็นผู้สร้างเพื่อประดิษฐานพระโพธิสัตว์ 4 องค์ (Shitenno) หลังจากได้อธิษฐานให้รบชนะในสงครามระหว่าง Morinobe No Moriya กับ Soma No Umako เพื่อนำพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น
การจัดตำแหน่งโบสถ์และวิหารได้รับการถ่ายทอดมาจากวัดพุทธในประเทศจีนสมัยโบราณ โดยจัดวางประตูกลาง (Nakamon) เจดีย์ห้าชั้น (Goju-to) หอทอง (Kin-to) และโบสถ์ (Ko-do) เรียงรายเป็นเส้นตรงจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือ
อาคารแต่ละแห่งถูกห้อมล้อมด้วยระเบียง ซึ่งนับเป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งในญี่ปุ่น เมื่อเริ่มสร้างวัดใหม่ๆ เจ้าชาย Shotoku ได้ทรงสร้างอโรคยสถานขึ้นทางทิศเหนือของวัดด้วย 4 แห่ง ได้แก่สถานที่สำหรับเรียนรู้พระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เภสัชสถานสำหรับจ่ายยาให้แก่ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย โรงพยาบาลสำหรับดูแลผู้ป่วย และสถานพักฟื้นคนชรา
ตัววัดและอาคารดั้งเดิมสูญหายและถูกทำลายไปหมดสิ้นจากสงครามหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาสตร์ อาคารและโบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันถูกบูรณะขึ้นใหม่ให้เหมือนกับตัววัดเดิมเมื่อปีค.ศ.1963
ภายในบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลของวัด นอกจากตัวโบสถ์และอาคารข้างต้น ยังสถานที่สำคัญอื่นๆอีกเช่น เรือน Taishiden ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของเจ้าชาย Shotoku วิหาร Kamei Fudou-to และสวน Gokuraku ซึ่งมีดอกซากุระและใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีสวยงามให้ชมตามฤดูกาล
ทุกวันที่ 14 มกราคม จะมีเทศกาล Doya-doya ซึ่งบรรดาชายฉกรรจ์ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยพากันมาแย่งเครื่องลางของขลัง และทุกวันที่ 22 เดือนเมษายนซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของเจ้าชาย Shotoku จะมีการฟ้อนรำ Shoryo-e ซึ่งเป็นระบำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของประเทศ
หลังจากทราบประวัติเรียบร้อยแล้วก็มาดูกันนะคะว่าวันนั้นไกด์ท้องถิ่นเราพาไปตรงไหนอย่างไรบ้าง แต่คงต้องบอกก่อนว่า กรุ๊ปนี้ไม่สนใจข้อมูลใดๆ ค่ะ เน้นถ่ายรูปอย่างเดียว ซึ่งโดยหน้าที่เราก็ต้องช่วยเค้าถ่ายรูปกันน่ะนะคะ ทำให้ไม่ค่อยได้ไปเก็บภาพอะไรๆ ที่สำคัญของวัดเท่าไหร่ แต่ถ่ายอะไรมาก็เอามาแปะให้ดูหละค่ะ แหะๆ
ไกด์ให้รถจอดแล้วก็พาเดินขึ้นทางประตูนี้ค่ะ
พอเข้าประตูไปปุ๊บก็จะเจอลานกว้างๆ ตามภาพเลยค่ะ
จากนั้นก็จะผ่านอาคารหน้าตาตามภาพนี้ไปตามลำดับค่ะ
แล้วก็เจอซากุระต้นเตี้ยที่สุดของทริปตามภาพสองต้นนี้ค่ะ แน่นอนว่า ลูกทัวร์ข้าพเจ้าหยุดถ่ายรูป ไม่สนใจไกด์ที่เดินนำหน้าไปแล้วค่ะ ฮา
ผ่านซากุระสองต้นนี้ไปก็เดินตามทางนี้ไปนะคะ
พอถึงตรงนี้ ถ้าจำไม่ผิดคือเดินขึ้นบันไดตามซ้ายมือของภาพนี้ขึ้นไปนะคะ
เดินขึ้นบันไดไปก็จะเจอตามภาพนี้เลยนะฮับ ก็เดินอ้อมอาคารทางขวามือของภาพนี้ไปค่ะ
ก็จะเจอบ่อพร้อมอาคารตามภาพนี้เลยค่า
หันหน้าเข้าอาคารเมื่อกี๊ มองไปทางขวามือก็จะเห็นสวนซากุระอยู่ไกลๆ เห็นมั้ยคะ แต่ถ้าหันไปทางซ้ายก็เห็นสวนซากุระเช่นกันค่ะ
และในบ่อหน้าอาคาร ก็มีเต่า เต่า และเต่าค่า
ซึ่งที่ด้านหน้าอาคารก็มีเทพเจ้าสององค์นี้ค่ะ องค์เล็กนี่ไม่ทราบประวัตินะคะ ส่วนองค์ใหญ่คือเทพเจ้าองค์เดียวกับที่ประดิษฐาานหน้าวิหารวัดโทไดจินะคะ เอาประวัติมาแปะอีกทีแล้วกันเนาะคะ
พระ Binzuru ความเชื่อคือ ถ้าเราเจ็บป่วยที่ตรงไหน ให้เราไปถูตรงส่วนนั้นของท่านแล้วเอามาถูกับส่วนนั้นของเราค่ะ แล้วอาการเจ็บป่วยเราจะหายไปค่ะ
นอกจากนั้นก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
กระทู้นี้ ว่า พระที่เห็นให้ลูบอธิษฐานหายเจ็บป่วยนั้น ไม่ใช่พระพุทธรูปครับ เป็นรูปพระอรหันต์นามว่า "พระปิณโฑลภรัทวาช" หรือคนญี่ปุ่นเรียกว่า "Binzuru" ครับ เป็นพระอรหันต์ที่ทรงอิทธิฤทธิ์มาก สมัยพุทธกาลเคยเหาะขึ้นไปเอาบาตรไม้จันทน์บนยอดไม้ได้ ชาวญี่ปุ่นจะนับถือในฐานะที่ท่านปัดเป่าความเจ็บไข้ได้ป่วยได้ครับ (ในพุทธประวัติไทยก็มีนะคะ แต่เราจำชื่อพระท่านนั้นไม่ได้แล้ว แหะๆ)
จากนั้นไกด์ก็พาเดินไปออกอีกด้านหนึ่งค่ะ ซึ่งจะผ่านทางสวนไปหน่อยหนึ่งนะคะ
สรุปสำหรับวัดนี้ เราคิดว่า ต้องฟังไกด์ค่ะ ถึงจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ถ้าชอบแค่ถ่ายรูป ต้องไปที่ตรงกับฤดู อย่างเราไปตอนซากุระบาน ก็สวยงามค่ะ แต่ถ้าไปตอนที่ไม่มีซากุระหรือไม่ใช่ใบไม้เปลี่ยนสี อาจจะรู้สึกว่าที่นี่ไม่มีอะไรนะคะ ทั้งที่เป็นวัดหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งเลยหละค่ะ แหะๆ
ปฏิทินธรรม
วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2559 (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
1. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา
วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2559 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่) 1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (เดือนนี้งานทอดกฐินด้วยค่ะ) ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37 เวลา 06.30-10.30 น. ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่ //www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447 วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 11 - 12 มีนาคม 2559
1. มุทิตาสักการะอายุวัฒนมงคล 80 ปี หลวงปู่อุทัย สิริธโร ณ วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง นครราชสีมา
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1510853665886058&id=1482592958712129
วันอาทิตย์ที่ 13 และ 27 มีนาคม 2559 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน) 1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14 กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts
วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2559 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)
1. เชิญทุกท่านร่วมทำบุญตักบาตร สดับธรรม พระเถระวัดป่ากรรมฐาน เมตตารับบาตร โดย เว็บไซต์บ้านอารีย์ //www.baanaree.netวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 26 - 27 มีนาคม 2559 1. ขอเชิญร่วมงานบุญประเพณี ผ้าป่า 12 เมษา สืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯhttps://www.facebook.com/siangdhamluangta/posts/1060056840717061 ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ1,469,696+3109529 =4579225/12048/1074
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
สวยจ๊ะน้องเต้ยจนอยากตามไปเที่ยว
โหวตท่องเที่ยวให้เลยจ๊ะ