##### Okinawa Night@Nirai Kanai ทองหล่อซอย 11 เที่ยว กินและรู้จักโอกินาว่า #####







สวัสดีค่า





เอนทรี่ล่าสุด รีวิว Nikko Hotel Osaka - อาหารเช้า (คลิกเพื่ออ่าน)








คำเตือน : บล็อกนี้ยาวมาก รูปเยอะ เนื้อหาแยะ แต่ถ้าใครอยากรู้จักโอกินาว่ามากขึ้น ก็ค่อยๆ อ่านนะคะ คิดว่าคงพอเป็นประโยชน์บ้างตามควรค่ะ แหะๆ







วันนี้ก็จะพาไปชมงาน Okinawa Night กันบ้างนะคะ ซึ่งการได้ไปก็เนื่องมาจากสมาชิกพันทิปท่านเดิมจาก JGB หลังไมค์มาชวนไปน่ะแหละค่ะ โดยบอกว่าจะจัดที่ร้าน Nirai Kanai ทองหล่อซอย 11 ค่ะ


Link ร้านนะคะ
//www.jgbthai.com/nirai-kanai-thonglor-11/




หลังจากเราเช็คตารางตัวเองแล้วก็ตกปากรับคำไปค่ะ จากนั้นวันที่เดินทางไปก็ไม่เอารถไป (เข็ดจากรอบที่แล้วที่เอารถไปแล้วเจอรถติดมหาโหด เหอๆ) โดยใช้วิธีนั่ง ARL จากที่ทำงานตัวเอง (แถวลาดกระบัง อุตสาหะมากๆ อะนะ ตังค์ก็ไม่ได้ แต่ก็อยากไป ฮา ) แล้วก็ไปนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่ออีกที (หกสิบบาทจากสถานีรามคำแหงค่ะ) ไปถึงก็หัวฟูเลย แต่ไปถึงตอนทุ่มนิดๆ ค่ะ ยังทันอยู่ แฮ่...


ร้านนี่พอวิ่งเข้ามาในซอยทองหล่อ 11 สุดซอยเลยร้านจะอยู่ตรงหัวมุมทีตันด้านขวามือ หน้าร้านก็ตามภาพเลยค่ะ ตกแต่งได้บรรยากาศแบบโอกินาว่ามากๆ อ้ะ ชอบบบบบ

















หน้าร้านมีเมนูด้วยค่ะ อาหารของร้านนี้ก็จะเป็นสไตล์โอกินาว่าด้วยนะคะ ซึ่งอาหารของโอกินาว่านี่ขึ้นชื่อมากๆ เรื่องของความเป็นอาหารสุขภาพ (ปกติอาหารญี่ปุ่นก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่ที่นี่ยิ่งขึ้นชื่อมาก เพราะคนบนเกาะนี้อายุเฉลี่ยยืนที่สุดในญี่ปุ่นอ้ะ)


















ป้ายร้านค่ะ แต่ข้าพเจ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก น่าจะเป็นชื่อร้านหละเนาะ แหะๆ



















เดินเข้าไปภายในร้านค่ะ ส่วนนี้คือส่วนที่ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่จะนั่งกันหละนะคะ (มากันเยอะพอควรแล้ววุ้ย) แล้วก็มีห้องด้านในที่เป็นห้องกระจกด้วยค่ะ (อันจะพาไปดูต่อไปนะฮับ)
























นี่คือส่วนภายในห้องกระจกค่ะ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่าข้างนอกหน่อยหนึ่งนะคะ



















เคาน์เตอร์บาร์ของทางร้านค่ะ เครื่องดื่มเรียงรายยั่วน้ำลายเป็นอันมากอ้ะ



















หลังจากนั้นก็ลงทะเบียนรับเอกสาร ไอทินเนอรี่ของงานและเอกสารข้อมูลโอกินาว่ามาค่ะ



















คุณพิธีกรท่านเดิมที่แสนจะเฮฮา น่ารัก และเป็นกันเอง ฮิ้วววว



















จากนั้นก็เป็นการสั่งเครื่องดื่มค่ะ ทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ แน่นอนว่าข้าพเจ้าเลือกแบบไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ เป็นน้ำส้มโอกินาว่าค่ะ ตัวรสชาติก็หอมอ่อนๆ เปรี้ยวเบาๆ ค่ะ





















สักพักเมนูแรกก็มาค่ะ เป็นสาหร่าย Mozuku ใส่น้ำส้ม รสชาติอมเปรี้ยวนิดๆ กินแล้วสดชื่นค่ะ เหมาะสำหรับเรียกน้ำย่อย


















จานต่อไปค่ะกับ Jimami Toufu ตอนที่ทางผู้จัดการอธิบายเรื่องอาหารต่างๆ ก็บอกว่า ไม่เหมือนเต้าหู้ทั่วไป ซึ่งก็สร้างความสงสัยเป็นอย่างมากให้กับเราค่ะ ก็เลยขอลองซะหน่อย

ผลปรากฏว่า เป็นเต้าหู้ที่นิ่มนุ่มนวลมากๆ กลิ่นของมันมีความเป็นกลิ่นของถั่วแบบที่ยังไม่หมักมากกว่าที่จะเป็นเต้าหู้ค่ะ อร่อยมากกกก ปกติเราไม่ชอบกินเต้าหู้เท่าไหร่ เจออันนี้เข้าไป ชอบเลยอะค่ะ



















ระหว่างนั้นน้องชื่ออะไรน้อ (ขออภัยพี่จำไม่ได้ แง) เสียงน่ารักสุดๆ (ยี่ปุ่งมากๆ) ก็มาบอกเล่าเรื่องราวของโอกินาว่าให้ฟัง ซึ่งควรตั้งใจฟังค่ะ เพราะกิจกรรมหนึ่งประจำงานคือการตอบคำถามล่ารางวัลนะคะ ฮา



















ก่อนอื่นขอสารภาพก่อนเลยว่า เราน่ะยังไม่เคยไปโอกินาว่าเลยค่ะ รู้จักชื่อนี้ครั้งแรกก็ตอนมีหนังเรื่องหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนโน้นออกมาหละค่ะ แต่ก็เป็นหนังที่ไม่ได้ดูอีกต่างหาก (เง่อ) แต่เป็นชื่อเมืองญี่ปุ่นเมืองแรกๆ เลยค่ะที่เราจำได้อ้ะ



















มามะ เรามารู้จักสถานที่เที่ยวของโอกินาว่ากันบ้างดีกว่าค่ะ แฮ่..


สำหรับเมืองโอกินาว่าเป็นเมืองที่ไม่มี JR ไปถึงนะคะ ดังนั้นการไปโอกินาว่าต้องบินไปเท่านั้นค่ะ แล้วก็ไม่มีสายการบินที่บินตรงไปที่โอกินาว่าจากเมืองไทยด้วยนะคะ (อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไทยยังไปเที่ยวที่นี้น้อยอยู่อะเนาะ)


ที่ JR ไปไม่ถึงก็เพราะโอกินาว่าเป็นเกาะทางตอนใต้ที่ห่างไปจากเกาะอื่นๆ ของญี่ปุ่นตามแผนที่นี้เลยนะคะ



















ซึ่งจุดขายแรกเลยนะคะ ก็คือ โอกินาวาเป็นที่ที่มีมรดกโลกอยู่ถึง 9 อย่างด้วยกันค่ะ

สำหรับสถานที่แรกซึ่งได้รับมรดกโลกนั่นก็คือ Shuri Castle นั่นเองค่ะ


ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกว่า


ปราสาทชูริ (อังกฤษ: Shuri Castle) เป็นปราสาทแบบริวกิว ตั้งอยู่ในเขตชูริ จังหวัดโอะกินะวะ เคยเป็นพระราชวังในสมัยอาณาจักรริวกิว (และจากที่พิธีกรบรรยายบอกว่า ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองค่ะ) จนกระทั่งปี 1992 ได้มีการก่อสร้างปราสาทขึ้นใหม่ให้มีลักษณะเดิมโดยอ้างอิงจากภาพถ่าย บันทึกทางประวัติศาสตร์ และความทรงจำของผู้อาศัยอยู่แถบนั้น

ช่วงเวลาที่เริ่มสร้างปราสาทนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด แต่เป็นที่ทราบแน่นอนว่าได้ถูกใช้เป็นที่พำนักในยุค Sanzan ประมาณกันว่าน่าจะถูกสร้างในระหว่างยุคกุซุกุ เช่นเดียวกับปราสาทอื่นๆในโอะกินะวะ เมื่อกษัตริย์โช ฮาชิได้รวบรวมดินแดนทั้ง 3 แห่งของโอะกินะวะและสถาปนาอาณาจักรริวกิว ได้ทรงใช้ปราสาทชูริเป็นที่ประทับ และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เมืองชูริได้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นจนได้รับการยกฐานะเป็นเมืองหลวง

ต่อมาอีก 450 ปีหลังจากเริ่มต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 เมืองชูริกลายเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรริวกิว และยังเป็นหัวใจหลักทางด้านการค้ากับต่างประเทศ การเมือง การศึกษา และวัฒนธรรมของริวกิว


















ต่อไปค่ะ ประตูหินที่ศาลเจ้า Sonohyan-utaki ค่ะ เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกค่ะ


ประตูหินนี้ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของประตูชูเรอิ สร้างขึ้นในปี 1519 โดยกษัตริย์โชชิน กษัตริย์พระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์โชที่สอง ที่ศาลเจ้าโซะโนะฮยัน นี้ กษัตริย์จะทรงสวดภาวนาเพื่อความปลอดภัยในการออกเดินทางทุกครั้ง ประตูหินนี้สะท้อนให้เห็นถึงความชำนาญในการแกะสลักหินปูนของช่างในสมัยอาณาจักรริวกิว จนได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมประจำชาติ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยแยกรายชื่อจากปราสาทชูริ








นอกจากนั้นทางพิธีกรก็ได้พูดถึงสถานที่อื่นๆ เช่น ปราสาทนากิจิน (Nakijin) Zakimi Castle ซึ่งเคยเป็นฐานยิงมิสไซล์สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นที่ที่นิยมในการถ่ายภาพเว็ดดิ้ง Katsuran Castle และ Nakagusugu Castle หรือ Tamaudum ซึ่งเป็นที่เก็บศพของพระราชวงศ์ (สร้างสมัยราชวงศ์ริวกิวค่ะ) ซึ่งสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นมรดกโลกของโอกินาว่าทั้งสิ้นค่ะ


นอกจากนั้นพิธีกรก็มีการแนะนำสวนชิกินะ (Shikinaen) ซึ่งแต่เดิมเป็นวังฤดูร้อน ต่อมาหลายๆ ปีไม่ได้ใช้ ก็ใช้เป็นที่ต้อนรับราชอาคันตุกะของกษัตริย์ค่ะ แล้วก็เล่าถึง Sefa-Utagi ซึ่งเข้าได้เฉพาะสมเด็จพระจักรพรรดิกับผู้หญิงเท่านั้น เชื่อกันว่าเพื่อความอุดมสมบูรณ์ เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ค่ะ

















หลังจากบรรยายเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวสักพัก ก็เริ่มเข้าสู่ความสนใจอีกอย่าง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้าพเจ้า แหะๆ) ก็คืออาหารการกินนั่นเองงงงง เย้ๆๆ ซึ่งอันไหนที่ทางเจ้าภาพให้เราได้ลองชิมของจริง เราจะลงรูปที่เราถ่ายเองนะคะ ส่วนอันไหนที่ไม่ได้ชิมจริงๆ ก็จะเอารูปที่เค้าขึ้นสไลด์บรรยายให้ดูแทนเนาะ

สำหรับ Mozuku กับเต้าหู้ก็บรรยายไปแล้วนะคะ เอาอันอื่นมาเลยแล้วกันนะคะ

อย่างเมนูนี้ (แต่วันนั้นไม่มีให้ชิมนะคะ) ชื่อ Umi Budou บางคนเรียกว่า Green Cavier รสชาติจะคล้ายๆ ไข่ปลาแซลมอนค่ะ โวะ





















ต่อไปค่ะเป็น Rafute เป็นหมูสามชั้นนะคะ โดยพิธีกรบอกว่า มันไม่เลี่ยนค่ะ ซึ่งอันนี้เราได้ชิมจริงๆ ด้วย

รายงานผลการกินนะคะ

ขอบอกว่ามันเป็นหมูที่นุ่มมากกกก เรียกว่าเอาเข้าปากปุ๊บ กดเพดานปากลง เนื้อหมูจะละลายไปเลยค่ะไม่ต้องเคี้ยวอ้ะ ปลื้ม

ชอบรสสัมผัสในปากมากๆ เลยหละค่ะ นุ่มนวล ละลายยย หย่อยๆ




















ต่อไปค่ะ Goya Champuru เป็นมะระญี่ปุ่นผัดไข่ค่ะ

ออกขมนิดๆ นะคะ ตัวนี้สำหรับเราไม่มีอะไรเด่นมากมายค่ะ แหะๆ


















ต่อไปเป็น Okinawa Soba ค่ะ ซึ่งเป็นเส้นที่นวดแป้งโดยไม่ใส่ไข่นะคะ ตัวนี้ได้ชิมของจริงด้วยค่ะ


















สำหรับจานนี้น้ำซุปหอมอ่อนๆ รสเบาๆ ค่ะ ซึ่งจะกินคู่กับขิงดองด้วยนะคะ ตัวขิงดองรสออกเปรี้ยวอ่อนๆ เค็มนิดๆ กลิ่นขิงชัดค่ะ

ตัวหมูที่อยู่ในโซะบะ นุ่มเปื่อย หมักมาหอมกรุ่นดีค่ะ ส่วนตัวเส้น อร่อยดี มีรสบางอย่างแฝงอยู่นิดๆ ชอบรสสัมผัสของเส้นในปากค่ะ อ่อนโยนนิดๆ ดีน่ะค่ะ

สำหรรับการกินกับขิง เค้าแนะนำให้เอาขิงลงไปในถ้วยเลยหละค่ะ ซึ่งบางทีขิงมันจะกลบรสอื่นๆ ของโซบะไปซะหมดเลยค่ะ ต้องกินขิงน้อยๆ หน่อยค่ะ ถึงจะบาลานซ์ดี ซึ่งถ้ากะปริมาณขิงได้ดี ก็จะทำให้โซบะอร่อยขึ้นด้วยค่ะ

















ต่อไปเป็น Taco Rice ค่ะ

อันนี้พิธีกรบรรยายว่าได้รับอิทธิพลจากอาหารอเมริกันนะคะ แต่อันนี้ไม่ได้ชิมของจริงง่ะค่ะ














ตัวนี้ไม่มีในอาหารแนะนำที่ขึ้นสไลด์ค่ะ แต่เสิร์ฟให้เรากิน แต่ไม่รู้ชื่อเมนูใดๆ ทั้งสิ้นอ้ะ (ที่จริงน่าจะมีชื่อเมนูมาให้ซะหน่อยนะคะ สำหรับทุกจานเลย เพราะบางคนก็ดูสไลด์กันไม่ทันอ้ะ แต่อันนี้ไม่มีในสไลด์ด้วย ก็เลยไม่รู้ชื่อเลยค่ะ)


รสชาติการกิน มีความเปรี้ยวนิดๆ ค่ะ หอมการย่างมาก อร่อย คล้ายๆ ปลาซาบะนะคะ แต่เราไม่แน่ใจว่าใช่ชัวร์ๆ หรือเปล่าค่ะ เนื้อปลาแน่นแต่นุ่มมาก อร่อยค่ะ ชอบหละ

















Sata Andagi น้องบอกว่าคล้ายๆ โดนัทค่ะ ตัวรูปที่อยู่ในสไลด์เป็นแบบนี้

















แต่ตอนเรากิน เค้าใส่มาในไอศกรีมค่ะ ตัวรสชาติของมัน ตัวเนื้อจะแน่นๆ คล้ายขนมอะไรสักอย่างของไทยอะค่ะ เปลือกกรอบนิดๆ กินกับไอติม 3 รส โดยรวมก็โอค่ะ แต่ไม่ถึงกับว้าวนะคะ



















เมนูนี้ขอแถมสาวๆ หน้าตาหวานกว่าของหวานซะหน่อยนะคะ ฮิ้วววว


















หลังจากมรดกโลก อาหารการกินแล้ว ก็มาถึงสิ่งที่ขึ้นชื่อมากๆ ของโอกินาวานะคะ นั่นก็คือเกาะต่างๆ และหาดอันสวยงามของโอกินาวานั่นเองหละค่ะ อย่างสไลด์แรกนี่ก็คือ Kume Island ค่ะ ซึ่งเป็นเกาะที่ได้รับการกล่าวขานอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นเกาะที่สวยงามที่สุดของโอกินาว่าค่ะ (เครดิตวิกิฯ ฮับ)

ซึ่งเกาะนี้จะอยู่เยื้องไปทางทิศตะวันตกของเมืองหลวงของโอกินาวานะคะ ตามแผนที่เลยหละค่ะ



















ต่อไปเป็น Miyako Island ค่ะ จะอยู่เยื้องไปทางใต้ของเกาะเมนหลักของโอกินาว่า 300 กิโลเมตรค่ะ


















Taketomi Island ค่ะ ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกไว้ว่า เกาะนี้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับบ้านเรือนสไตล์ Ryukyuan แบบดั้งเดิม กำแพงหิน และถนนที่เป็นผืนทราย ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวนะคะ กฎต่างๆ ของที่นี่ทำให้ยังรักษาความดั้งเดิมของที่นี้ไว้โดยไม่ถูกสิ่งก่อสร้างแบบทันสมัยทำลายความสวยงามของเกาะแห่งนี้ค่ะ ซึ่งก็มีการนั่งเกวียนเพื่อจะชมหมู่บ้านของที่นี่ เดินหรือขี่จักรยานรอบๆ เกาะได้ด้วยนะคะ


















นอกจากนั้นท้ายที่สุดทางพิธีกรก็ได้บอกถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโอกินาวา เช่น ปราสาท Shuri หรือ Shuraumi Aquarium ซึ่งพิธีกรเคลมว่าเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีฉลามวาฬถึง 3 ตัว (กรี๊ดมากกกกกก ) หรือหมู่บ้านวัฒนธรรม Ryukyu Mara ซึ่งมีบ้านแบบโอกินาวาแท้ๆ มีการแสดงให้ชมด้วยนะคะ




















นอกจากนั้นก็ยังมีหน้าผา Manzamo ซึ่งมีลักษณะคล้ายงวงช้าง พิธีกรบอกด้วยค่ะว่าพื้นที่ตรงนั้นสามารถให้คนไปยืนได้ถึงหมื่นคนกันเลยทีเดียวค่ะ



















นอกจากนั้นก็ยังมีโอกินาว่าเวิลด์และอเมริกันวิลเลจ ซึ่งพิธีกรบอกว่าคล้ายๆ บอร์ดเวย์ที่อเมริกาด้วยค่ะ (เราว่าที่เที่ยวของโอกินาว่าก็หลากหลายดีอยู่นะคะ เพียงแต่คนยังไปเที่ยวน้อยเพราะเรื่องของการเดินทางมากกว่าอะค่ะ)




















ต่อไปค่ะ เรามาดูแหล่งช็อปปิ้งของโอกินาว่ากันบ้างนะคะ

ซึ่งที่แรกที่มาแนะนำกันก็คือ Kokusai Dori เป็นถนนสายช็อปปิ้งความยาว 1 กิโลเมตรค่ะ นอกจากนั้นก็มี DFS Galleria อีกด้วย หรือถ้าสาวกแบรนด์เนมก็มี Ahibiraa Outlet Mall ให้ได้ช็อปปิ้งกันค่ะ


















ต่อไปก็มาถึงเสน่ห์ของการท่องเที่ยวอีกอย่างกันบ้างนะคะ นั่นก็คืองานเทศกาลต่างๆ นั่นเองค่ะ ซึ่งที่โอกินาว่าก็มีทั้งเทศกาลชมซากุระ ซึ่งบานเป็นแห่งแรกของญี่ปุ่น (ก็อยู่ใต้ซะขนาดนั้นอะนะคะ แฮ่...) แต่เค้าบอกว่าที่นี่ดอกจะแดงและใหญ่กว่าพื้นที่อื่นค่ะ แล้วก็มีเทศกาล Harii เป็นเทศกาลแข่งเรือซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิด้วยค่ะ


















พอมาถึงเรื่องของเทศกาล ไฮไลท์อย่างหนึ่งของงานในค่ำคืนนั้นก็ถูกบริการค่ะ นั่นก็คือจานนี้นี่เองงงงงง (เล่นเอาข้าพเจ้าไม่มีสมาธิจดข้อมูลแล้วค่ะ แหะๆ แต่ถ่ายๆ รูปมาบอกเล่าว่ามีเทศกาล Eisa / Naha Otsuna Hiki Matsuri / Shuri Castle Festival ด้วยนะคะ)

ไฮไลท์ (สำหรับข้าพเจ้าและอีกหลายคน) นั่นก็คือ เนื้อวากิวของโอกินาวาค่ะ


















ผลการกินก่อนนะคะ (เดี๋ยวจะมีข้อมูลเล่าเพิ่ม แหะๆ)

เนื้อนุ่มมาาาาาากกกก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตัวเครื่องจิ้มมีกลิ่นพริกไทยหน่อยๆ ค่ะ จิ้มกับไม่จิ้มอร่อยคนละแบบนะคะ




















นอกจากนั้นก็มีการให้ข้อมูลด้วยค่ะว่าเมื่อปีที่แล้ว 2013 เนื้อวากิวแห่งโอกินาว่า ได้แชมป์อันดับหนึ่ง ซึ่งก็คือเนื้อที่เราได้กินนั่นเอง ซึ่งเนื้อโอกินาว่าวากิวนี้ยังไม่มีขายในไทยนะคะ เพราะฉะนั้นเฉพาะคนที่มางานนี้เท่านั้นที่ได้กิน แต่ตอนนี้กำลังมีบริษัทขออนุญาตนำเข้ามาขายในไทยอยู่ค่ะ (บุญปากมากๆ อ้ะ แฮ่...)



















จากนั้นก็มีการมาแนะนำเบียร์ค่ะ แถมยังมีการบอกด้วยว่า โอกินาว่าเวลาชนแก้วจะพูดคำว่าคารีสามครั้งนะคะ (เหมือนการทักทายของโอกินาว่าก็มีคำเฉพาะว่า Haitai กับ Haisai สำหรับชายกับหญิงน่ะค่ะ เป็นภาษาถิ่นเฉพาะเลย)


















จากนั้นก็เริ่มเป็นการเล่นเกม โดยการตอบคำถามจากเรื่องราวต่างๆ ที่พิธีกรบอกเล่ามาหละค่ะ ก็มีหลายคำถามด้วยกัน เช่น มาสคอตการท่องเที่ยวโอกินาว่าคืออะไร (คำตอบคือ ฮานางาสะมาฮาเอะ - ผิดกันเกือบทั้งงาน ฮา) หรือชื่อรถไฟฟ้าโอกินาว่าชื่อว่าอะไร (คำตอบคือ ยุยเรล) เครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียงของโอกินาว่าคืออะไร (ซันชิน) ซันชินทำมาจากหนังสัตว์อะไร (งู) เหล้าโอกินาวาที่นำข้าวไทยไปผลิตชื่อว่า (อาวาโมริ) จนได้ห้าท่านสุดท้ายก็ใช้วิธีจับไพ่แล้วดูว่าใครที่ได้ใหญ่ที่สุดก็ชนะเลิศไปค่ะ


















ระหว่างนั้นก็มีการนำแบบสอบถามมาให้ทำ ซึ่งก็งงๆ กันไปเล็กน้อย เพราะมีถามเรื่องอาหาร แต่อาหารยังมาบริการไม่ครบง่ะ (ตอนนั้นโซบะกับไอติมยังไม่มาค่ะ) แต่เค้าให้ทำเลย เพราะจะเอาแบบสอบถามไปจับเพื่อให้ไปเล่นเกมอีกเกมน่ะแหละค่ะ


จากนั้นก็ได้มีการนำภาพผู้โชคดีชาวไทยที่ร่วมกิจกรรมแล้วก็ได้ไปเที่ยวโอกินาว่าฟรี (ซึ่งแบ่งออกเป็น คนที่นิยมอาหารญี่ปุ่น คู่รัก สนใจวัฒนธรรม ฯลฯ) ซึ่งตอนนั้นเราสนใจมากๆ แต่ไม่ได้สมัครไป เพราะคิดว่า...ช่วงเวลาดังกล่าวที่ทางเค้าจะจัดให้ไปนี่ เราไปไม่ได้แหงๆ เสียดายมากค่ะ


ก็มีภาพตัวอย่างมาให้คนในงานได้อิจฉาเล่นกันนะคะ (ฮา)


















แล้วพิธีกรก็ยังคงแนะนำสถานที่ต่างๆ ของโอกินาว่าต่อค่ะ ซึ่งอีกสถานที่ที่เราว่าน่าสนใจดีก็คือ Motobu Genki Mura นี่หละค่ะ เพราะที่นี่เราจะได้ว่ายน้ำกับปลาโลมาด้วยอ้ะ แล้วก็มีอีกที่ก็คือ Shuri Ryusen ซึ่งนำปะการังที่ตายแล้วเอามาทำเวิร์คช็อปเป็นงานสวยงามตามภาพค่ะ




















และแล้วก็มาถึงอีกสิ่งสำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่ง (สำหรับเรา...อีกแล้ว ฮา) นั่นก็คือการแนะนำร้านอาหารที่น่าสนใจของโอกินาว่านั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้าน Karamanjaku ซึ่งเป็นร้านที่ทำอาหารจากพืชพันธุ์ทั้งหมดโดยไม่มีเนื้อสัตว์เลยค่ะ (อย่างที่บอกว่า คนโอกินาว่าอายุยืนยาว ส่วนหนึ่งก็เพราะอาหารที่ค่อนข้างดีต่อสุขภาพนี่แหละค่ะ)


ซึ่งทางพิธีกรก็มีตัวอย่างเซ็ตอาหารของที่นี่มาให้ดูด้วยนะคะ





















อีกร้านที่น่าสนใจคือ Daikon no Hana ซึ่งเป็นบุฟเฟท์ที่ไม่จำกัดเวลาค่ะ แถมบอกราคาเสร็จสรรพว่าตกอยู่ที่ราวๆ 2500 เยนต่อคนค่ะ




















นอกจากนั้นก็ยังมีร้าน Ryukyu Soba Shibiunaa ซึ่งเป็นร้านที่เราสามารถที่จะชมสวนแบบเซนได้ด้วยค่ะ แล้วก็มีร้าน Uchira Chaya Buku Buku ซึ่งเป็นชาโอกินาว่าผสมข้าวคั่วและชามะลิผสมตีฟอง กินคู่กับขนมค่ะ


















นอกจากนั้นสำหรับท่านที่รักการกินเนื้อเค้าก็แนะนำ Motobu Wakyu ซึ่งเป็นร้านเนื้อลายหินอ่อนนะคะ (พิธีกรเค้าว่างี้ค่ะ)



















จากนั้นก็เป็นเบียร์มาให้คนที่โต๊ะลิ้มลองกันค่ะ (ข้าพเจ้าขอผ่าน ให้คนอื่นชิมแทน) แต่สามกระป๋องนี้เค้าบอกว่า (จากซ้ายไปขวา) ซ้ายสุดจะผสมสาเกออกเปรี้ยว ตรงกลางเบาๆ อารมณ์ประมาณไฮเนเก้น และขวาเข้มหน่อยประมาณสิงห์ค่ะ



















ระหว่างนั้นก็เก็บรูปผู้ร่วมโต๊ะค่ะ เป็นบล็อกเกอร์ ณ บล็อกแกงค์สองท่านหนึ่งท่านมากับตากล้องประจำตัว อิอิ


















ส่วนสาวน้อยหน้าตางดงามสองท่านนี้

ท่านหนึ่งเล่นบล็อกแกงค์ที่ลืมพาสเวิร์ดไปแล้ว (ฮา) กับอีกท่านชื่อคุณหลีค่ะ

เป็นสองสาวที่ตากล้องมาขอถ่ายรูปกันเยอะมาาาากกกก


















ส่วนนี่คือโฉมหน้าห้าท่านผู้โชคดีในรอบที่สองค่ะ ตัดสินกันโดยการจับไพ่อีกเช่นเคยค่ะ


















และนี่คือผู้โชคดีคนท้ายสุดที่ได้ชุดยูกาตะแบบโอกินาว่าและขนมขึ้นชื่อของเค้านะคะ


















ลองสั่งชามะลิของเค้ามาดื่มค่ะ กลิ่นมะลิอ่อนๆ จางๆ อึกแรกตอนต้นรสชาติไม่ออกค่ะ สักพักขมกลางๆ แล้วหวานที่ปลายค่ะ


















จากนั้นก็มีคณะมาเล่นเครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียงของโอกินาวาให้ฟังกันค่ะ

นั่นก็คือซันชินนั่นเอง (ที่จริงถ่ายวิดีโอมาด้วยค่ะ แต่โหลดนานเกิ๊น พยายามหลายรอบแล้วไม่สำเร็จ เลยได้แต่เอารูปมาให้ดู)


















แล้วคุณพิธีกรที่อัธยาศัยดีสุดๆ ก็ตระเวนมาถ่ายรูปกับแต่ละโต๊ะค่ะ


















จากนั้นก็มีการสอนการเต้นรำแบบโอกินาว่าค่ะ แต่อันนี้สำหรับผู้ชายนะคะ ที่จริงเค้าสอนแบบผู้หญิงก่อนหน้านี้ค่ะ














สอนเสร็จสรรพ ก็ให้แขกในงานได้ร่วมกันเต้นกันค่ะ อิอิ (มีสองคลิปนะคะ)























จากนั้นก็เป็นการถ่ายรูปหมู่ และก่อนกลับก็มีการแจกของที่ระลึกให้กับผู้ร่วมงานทุกท่านค่ะ




















เหนื่อยกันหรือยังคะ? (ฮา ) สรุปสำหรับงานนี้นะคะ เราชอบค่ะ ทำให้ได้รู้จักโอกินาว่าเพิ่มขึ้นมากๆ เลย ทำให้เกิดกิเลสอยากไปเที่ยวโอกินาว่าบ้างเลยหละค่ะ (ที่จริงประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ที่หลากหลายนะคะในแต่ละภูมิภาคเนี่ย ก็เหมือนไทยแหละค่ะ เสน่ห์ของแต่ละภาคก็แตกต่างกันไป) ซึ่งก็ต้องขอบคุณ JGB ด้วยนะคะที่ชวนเราไปค่ะ


และสำหรับเพื่อนบล็อกที่มาอ่านทุกท่าน (จะมีใครอ่านจบมะเนี่ย) เรามีคำถามร่วมสนุกนะคะ ท่านใดที่ตอบถูกและสามารถตอบโดยเวลาลงท้ายวินาทีด้วยเลข 9 ก่อนเป็นคนแรก(คนหนึ่งตอบได้หลายครั้งค่ะ จนกว่าจะได้ทั้งคำตอบที่ถูกและเวลาลงท้ายวินาทีด้วยเลขเก้านะคะ) เรามีของที่ระลึกจากญี่ปุ่น (แต่ไม่ใช่จากโอกินาว่านะคะ แหะๆ) มอบให้โดยจะมอบให้ในเดือนเมษายนนะคะ (เราจะไปปลายเดือนนี้อ้ะ)


คำถามนะคะ - ขนมที่ขึ้นชื่อของโอกินาว่าชื่ออะไรคะ ใบ้ให้ว่ามีทั้งหมด 7 พยางค์ค่ะ













ปฏิทินธรรม








วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2557

1. ตักบาตรพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น วัดพุทธบูชา (ทุกวันเสาร์แรกของเดือน)




วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น.


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
//www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447




วันอังคารที่ 4 มีนาคม 2557

1. ถวายจังหัน/ฟังธรรม 'ปฏิปทา หลวงปู่ดูลย์ อตุโล' โดย ศิษย์สายตรง พระราชวรคุณ (หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต) เจ้าอาวาส วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

เวลา 06:30-10:00 น.
06:30 น. นำภัตตาหารมอบให้เจ้าหน้าที่ (ข้าวสวย และภัตตาหาร)
07:45 น. อาราธนาศีล/รับศีล
08:00 น. ร่วมกันถวายจังหันเช้า พระราชวรคุณ (หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต) เจ้าอาวาส วัดบูรพาราม
08:15 น. รับพร
09:00 น. ฟังธรรม 'ปฏิปทา หลวงปู่ดูลย์ อตุโล (พระราชวุฒาจารย์)'
10:30 น. ถวายสังฆทาน/ รับพร
11:00 น. เสร็จกิจกรรม

ณ หอประชุมพุทธคยา อมรินทร์พลาซ่า ชั้น 22

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/events/2016948518444046/?ref=5




วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันพุธที่ 12 มีนาคม 2557

1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม แห่งวัดนายโรง และศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จันทบุรี รูปท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์-นักพัฒนา จบการศึกษาพระอภิธรรม จากอภิธรรมโชติกวิทยาลัย ม.จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ทำงานเผยแผ่ธรรม ทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ อาทิ อภิธรรมโชติกวิทยาลัย ม.จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย

18.30 น. - สวดมนต์ ทำวัตรเย็น / 19.00-21.00 น. - นั่งสมาธิ และ ฟังธรรม (เน้นการปฏิบัติ ตามแนวมหาสติปัฏฐาน 4)

ณ หอประชุมพุทธคยา อมรินทร์พลาซ่า ชั้น 22

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/events/715248761852616/?ref=5



วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗

1. เชิญทุกท่านร่วมสวดมนต์ และฟังการแสดงธรรม โดย พระครูโอภาสวุฒิกร (พระอาจารย์โสภณ โอภาโส) วัดบึงลัฏฐิวัน จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น.

ณ บ้านอารีย์

เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net





วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2557 (กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือน)

1. ตักบาตรพระกรรมฐาน (นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่น) ที่วัดบรมนิวาส (ไม่มีรายละเอียดอย่างอื่นค่ะ)





วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557 (จัดทุกวันเสาร์ที่สี่ของเดือน)

1. เมตตารับบาตร โดย พระครูกิตติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อินทสิริ) วัดป่าเขาภูหลวง จ.นครราชสีมา หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล จ. สกลนคร หลวงพ่อสุธรรม สุธมฺโม วัดป่าหนองไฝ่ จ. สกลนคร

เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ บ้านอารีย์

เว็บไซต์บ้านอารีย์
//www.baanaree.net




















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+1458021=2927717/10324/840








Create Date : 17 มีนาคม 2557
Last Update : 17 มีนาคม 2557 8:43:34 น. 24 comments
Counter : 9109 Pageviews.

 
คงจะได้ไปเยือนสักครั้งนะ โอกินาว่่า


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:10:32:38 น.  

 
~ Sata Andagi น่ากินจังพี่


โดย: ~ ริมน้ำ_VoUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:13:06:24 น.  

 
ป่าป๊าของน้องซีเค้าชอบ อาหารญี่ปุ่นมากค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้



โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:13:22:37 น.  

 
เคยไป okinawa แต่ไม่เคยกินแบบในรูปซักกะเมนู เศร้าๆ


โดย: ปลาทอง สมองน้อย วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:15:30:06 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Topical Blog ดู Blog
คนสวยที่ไม่เคยสวย
ขอบคุณที่แวะไปทักทายและกดโหวตให้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลโอกินาว่าด้วยนะคะ
ร้านตกแต่งได้บรรยากาศมากๆเลยค่ะ
เหมือนไม่ได้อยู่ในเมืองไทย

Jimami Toufu รู้สึกว่าจะทำจากถั่วลิสงนะคะ
เพราะเคยไปทานอาหารโอกินาว่าที่ Shibuya
ในเมนูเค้าบอกไว้ว่าทำจากถั่วลิสงนะค่ะ
เราก็ชอบมากๆเหมือนกัน

เห็นอาหารแต่ละจานแล้วทนแทบไม่ไหว
น่าทานเหลือเกินค่ะ ยิ่งใกล้เที่ยงยิ่งหิวเลยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Topical Blog ดู Blog
คนสวยที่ไม่เคยสวย Technology Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog


โดย: ปลาทอง9 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:17:08:25 น.  

 
แว๊ก ขอโทษนะคะที่โหวตขึ้นหัวขึ้นท้ายเลย
นึกว่าลบด้านบนทิ้งแล้ว แต่ยังติดมาอีก


โดย: ปลาทอง9 วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:17:11:31 น.  

 
มาดูเอากลางดึก หิวซ้าาาา T.T

เคโกะอ่านชื่อป้ายออกแค่ตัวคาตากานะค่ะ อ่านว่า "nirai kanai" ค่ะ

ส่วนคำถาม เคโกะพยายามเพ่งมองในรูปตั้งนานกว่าจะแกะออก >.<" (พยายามไปมั้ยอ่ะ) ขอตอบว่า .... Beni-imo kuruto ค่ะ (紅いも クルト ยังพยายามอยู่อีก 555)

ถูกรึเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ร่วมสนุกเฉย ๆ ค่ะ


โดย: keigolin วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:22:54:51 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 1
เห็นภาพแล้วอยากไปโอกินาว่า

ว่าแล้วไม่ได้ไปทองหล่อนานแล้ว
ว่างๆ ต้องไปเยือนซะหน่อย อิอิอิ
ขอบใจที่นำไอศกรีมน่าทานมาก



โดย: อุ้มสี วันที่: 17 มีนาคม 2557 เวลา:22:56:52 น.  

 
ถูกใจบล็อกนี้มากเพราะชอบประเทศญี่ปุ่นค่ะ แต่ยังไม่เคยไปเที่ยวเลย ดูแต่ภาพถ้าไม่บอกก็นึกว่าเป็นเมืองปลาดิบแน่ ๆ การตกแต่งและบรรยากาศนี่ใช่เลยค่ะ คุณเต้ยเก็บภาพและให้ข้อมูลแบบละเอียดมาก ได้ความรู้เกี่ยวกับโอกินาว่าแบบเต็ม ๆ เลยค่ะ

เคยดูสารคดีเกี่ยวกับเมืองนี้อยู่สองสามหน คุ้น ๆ ชื่อขนมหวานอะไรที่ขึ้นชื่อแต่จำชื่อได้ไม่ครบ ลองไปหาดูในวิกี ขนมที่มีเจ็ดพยางค์น่าจะเป็นขนมชนิดชื่อ Beniimo Taruto

กดไลค์กับโหวตหมวดท่องเที่ยวให้ค่า


โดย: haiku วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:9:38:08 น.  

 
น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะพี่เต้ย ร้านน่ารักดี


โดย: sawkitty วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:15:49:32 น.  

 
เขามาเปิดเทศกาลแบบนี้กันเลยหรือคะนี่
ได้เปิดหูเปิดตา
ขำเรื่องมะระผัดไข่


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:21:17:19 น.  

 
มาแบบเต็มเรื่องเต็มอิ่มเลยค่ะพี่เต้ย เดี๋ยวกลับมาเก็บเรื่องต่อ ข้อมูลเมืองนี้จัดไปเต็มๆ


โดย: wachi (กาบริเอล ) วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:22:39:27 น.  

 
เล่นเกมด้วย 555
เบนิอิโมะทารูโตะ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 18 มีนาคม 2557 เวลา:23:35:29 น.  

 
ข้อมูลละเอียดมากเลยค่ะ
แนะนำเมืองพร้อมชิมอาหารประเมือง
อ่านแล้วอยากไปเที่ยว อยากไปชิม
เป็นวิธีการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เยี่ยมมาก
รับข้อมูลแล้วอยากไปจริงๆค่ะ


โดย: ฝากเธอ วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:10:14:34 น.  

 
โหยากอ่ะ ต้องถูกด้วยต้องลงท้ายด้วยเลขเก้าด้วย >"<


อด


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:16:28:13 น.  

 
กลับมาโหวตจัา น้องเต้ย
นอนหลับฝันดีนะคะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog


โดย: ฝากเธอ2 วันที่: 19 มีนาคม 2557 เวลา:21:17:30 น.  

 
มาตอบเรื่องขนม Beni Imo Galette (เอ้ะ 7 พยางค์หรือปล่าวเนี่ยยยย)


โดย: wachi (กาบริเอล ) วันที่: 20 มีนาคม 2557 เวลา:12:32:18 น.  

 



More Flowers Presentation Comments

-------------------------------
แวะมาทักทายยามเย็น คิดถึงอยู่เสมอนะคะคุณเต้ย


โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 มีนาคม 2557 เวลา:19:44:06 น.  

 
อาหารน่ากิน
บรรยากาศน่านั่นค่ะ
ที่ชอบที่สุดตอนนี้อยากได้ไอศครีมสักถ้วยค่ะ อากาศร้อนเหลือเกินค่ะ 55


โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:12:33:26 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
jamaica Music Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
นธีทอง Business Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
----------------
แวะเวียนมาเติมกำลังใจให้กันค่ะคุณเต้ย


โดย: เกศสุริยง วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:14:06:26 น.  

 
ของกินๆ น่ากินเต็มไปหมดเลย เห็นแล้วก็อยากไปเที่ยวโอกินาว่าสักครั้งเลยนะครับพี่เต้ย


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:18:36:50 น.  

 
อยากเล่นเกมส์ด้วยอ่ะค่ะ แต่ไม่ทันแล้วแน่เลย
ยังไงลองตอบก่อนละกันค่ะ อิๆ

Beniimo Taruto ค่ะ

ปล. รอเวลาไม่ลงเลข 9 ซักที


โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 22 มีนาคม 2557 เวลา:22:28:57 น.  

 
รูปเยอะ เนื้อหาแยะ จริงๆ แต่ตามดูจนจบค่ะ

มีคอมเมนท์ที่ลงท้ายด้วยเลข 9 สองรายแล้วค่ะ แต่คนแรกไม่ได้ตอบคำถาม


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 23 มีนาคม 2557 เวลา:16:46:46 น.  

 
เห็นอย่างงี้แล้วอยากไปโอกินาว่า จริง ๆ ค่า


โดย: honeynut วันที่: 23 มีนาคม 2557 เวลา:19:53:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.