happy memories
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๕๖





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










ในหลวง…ในใจฉัน


เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคล ๕ ธันวาฯ มหาราช "BAREFOOT magazine" ร่วมกับ "แฟนเพจสหภาพ (เฉพาะกิจ)" เชิญชวนคนไทย ร่วมส่งภาพถ่ายความประทับใจที่เกิดขึ้นจากการเดินทางทั่วประเทศในหัวข้อ "LONG LIVE OUR BELOVED KING" ในหลวง…ในใจฉัน

รายละเอียดในการร่วมกิจกรรมคือ จะแบ่งหมวดการส่งภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกเป็น ๕ หมวด ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วไทย ดังต่อไปนี้ ๑. ภาคเหนือ ๒. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓. ภาคกลาง ๔. ภาคตะวันออก ๕. ภาคใต้ โดยภาพที่ต้องการจะต้องมีองค์ประกอบสื่อถึงแต่ละภูมิภาคอย่างชัดเจน หรือใช้คำอธิบายผ่านคำบรรยายภาพ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดหมวด ไม่จำกัดประเภทกล้องที่ใช้ ใช้ได้ทั้งกล้องฟิล์ม กล้องดิจิตอล หรือกล้องมือถือ และไม่จำกัดจำนวนภาพที่ส่ง โดยภาพที่ถูกใจผู้จัดทำมากที่สุดจำนวน ๘๗ ภาพ (ตามจำนวนพระชนมพรรษา) จะได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสาร BAREFOOT ฉบับพิเศษ ธันวาคม ๒๕๕๗

กติกาการส่งภาพถ่ายคือ ให้โพสต์ภาพลงในเพจสหภาพ และปฏิบัติตามรายละเอียดดังต่อไปนี้


๑. CATEGORY: ระบุหมวดของภาพตามภูมิภาคที่กำหนด (อ้างอิงตาม tourismthailand.org)

๒. TITLE: ตั้งชื่อภาพ

๓. CAPTION: เขียนคำอธิบายสั้น ๆ บอกให้รู้ว่า ในหลวงทรงอยู่ในใจฉันมากขนาดไหน ความยาวไม่เกิน 120 ตัวอักษร (เป็นภาษาถิ่นจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ**)

๔. LOCATION: บอกชื่อสถานที่และจังหวัดที่ถ่ายภาพ

๕. BY: ชื่อ-นามสกุลผู้ถ่าย

๖. HASHTAG: ติดแฮชแท็ก #longliveourbelovedking #barefootmag #สหภาพ

๗. ส่งไฟล์ต้นฉบับมาที่อีเมล longliveourbelovedking@gmail.com


ระยะเวลาในการส่งภาพประกวดตั้งแต่ ๑o-๓๑ ต.ค. ๕๗ ภาพที่ได้รับเลือกให้ขึ้นปกนิตยสาร BAREFOOT จะได้รับรางวัลเป็น ตั๋วเครื่องบินไป-กลับภายในประเทศ เส้นทางใดก็ได้ (เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือขอนแก่น) จำนวน ๒ ที่นั่ง จากสายการบินไทยสมายล์ ภาพชนะเลิศในแต่ละหมวด จะได้รับกระเป๋าเป้ Lowe Alpine รุ่น Lightflite ๒๕ หมวดละ ๑ ใบ ภาพที่ได้รับเลือกให้ตีพิมพ์ลงในนิตยสารทั้ง ๘๗ ภาพ จะได้รับนิตยสารฉบับพิเศษฟรี ส่งตรงถึงบ้านคนละ ๑ ฉบับ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุคสหภาพ







ภาพและข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th
เฟซบุคสหภาพ













งานแสดงภาพถ่ายศาสตร์แห่งพระราชา : โรงงานหลวงฯ เพื่อปวงชน


สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด และเครือข่ายนิเทศศาสตร์ ขอเชิญชม งานแสดงภาพถ่าย และเสวนาการถ่ายภาพ 'ศาสตร์แห่งพระราชา โรงงานหลวงฯ เพื่อปวงชน' สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด และเครือข่ายนิเทศศาสตร์ ขอเชิญชมงานแสดงภาพถ่าย และเสวนาการถ่ายภาพ 'ศาสตร์แห่งพระราชา โรงงานหลวงฯ เพื่อปวงชน' ตั้งแต่วันที่ ๑๕ – ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น.– ๑๙.๐๐ น. สอบถามเพิ่มเติม ๐๒ ๗๘๗ ๗๒๓๔-๖ เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน (หยุดวันจันทร์) ณ โถงเอนกประสงค์ ๑ อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร ๐๒ ๖๒๑ ๐๐๔๔
nitasrattanakosin.com


งานจัดแสดงภาพถ่าย ศาสตร์แห่งพระราชา : โรงงานหลวงฯ เพื่อปวงชน เป็นการจัดแสดงภาพถ่ายของอาจารย์และนักศึกษาเครือข่ายนิเทศศาสตร์ที่เข้า ร่วมโครงการจิตอาสาพัฒนาเต่างอย ณ โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๓ อ.เต่างอย จ.สกลนคร


การจัดแสดงภาพในครั้งนี้ จะมีการจัดเสวนา ดังต่อไปนี้
วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น.
หัวข้อ แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพและถ่ายภาพอย่างไรให้ได้รางวัล
โดย อาจารย์วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร
ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) พุทธศักราช ๒๕๕๒


วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น.
หัวข้อ แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพและจุดอ่อนที่หลายคนมองไม่เห็นในการถ่ายภาพ
โดย อาจารย์วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร
ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) พุทธศักราช ๒๕๕๒


วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น.
หัวข้อ เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพอย่างสร้างสรรค์
โดย อาจารย์เกรียงไกร ไวยกิจ
ช่างภาพผู้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ


วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น.
หัวข้อ สีสัน แสงเงา เพื่อสื่อความหมาย
โดย อาจารย์เกรียงไกร ไวยกิจ
ช่างภาพผู้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
nitasrattanakosin.com














กรมหม่อนไหมทูลเกล้าฯ ถวายผ้ายกไหมอีรี่ผืนแรกของไทยแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ


กรมหม่อนไหมทูลเกล้าฯ ถวายผ้ายกไหมอีรี่ ซึ่งเป็นผ้ายกผืนแรกของไทย ที่ทอจากไหมอีรี่และทอเป็นลายท้องถิ่นพื้นบ้านอีสาน แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเสด็จฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ณ ศูนย์การเรียนรู้ฟาร์มไหมอีรี่ และกองทุนกลุ่มไหมอีรี่ และทรงให้กำลังใจแก่ผู้ดำเนินงานกลุ่มเลี้ยงไหมอีรี่ ณ บ้านแผ่นดินเย็น หมู่ ๙ ตำบลแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โดยมีนางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม พร้อมด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่จังหวัดสระแก้วและกรมหม่อนไหม ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ เฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคมที่ผ่านมา






นางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เปิดเผยว่า กรมหม่อนไหม โดยศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หนองคาย ร่วมกับนายณัฐปคัลภ์ ไชยมุติ อาจารย์ศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ โรงเรียนสันติรักษ์ จังหวัดหนองคาย ได้ทอผ้ายกไหมอีรี่ดังกล่าว มีความยาว ๑.๘o เมตร กว้าง ๔๕ เซ็นติเมตร ใช้เวลาทอ ๒ สัปดาห์ โดยในกระบวนการทอนั้น เส้นยืนได้ใช้ไหมพื้นบ้านย้อมไม้ฝางและลูกหม่อน เส้นพุ่งใช้เส้นไหมพื้นบ้านย้อมด้วยไม้ฝาง ลูกหม่อน ฝางผสมคราม ส่วนเส้นยกใช้ไหมอีรี่ซึ่งมีลักษณะเส้นใยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนไหมพื้นบ้านทั่วไปนำมาย้อมด้วยกาแฟ






สำหรับลวดลายที่ใช้ในการทอนั้น เป็นลายที่พบได้บ่อยในผ้าทอพื้นบ้านอีสานทั่วไป แต่ยังไม่เคยนำผ้ายกมาทอด้วยลายดังกล่าว ครั้งนี้ได้มีการสร้างสรรค์โดยได้ประยุกต์การทอด้วยองค์ประกอบของผ้ายกแบบโบราณ เชิงชายใช้ลายหมากจับยอยแทนลายกรวยเชิง ซึ่งเป็นลายที่นิยมใช้ทอตีนผ้าซิ่นของอัญญาเมืองอุบลราชธานี คั่นด้วยลายดอกจันทร์แปดกลีบ ซึ่งเป็นลายท้องถิ่นพื้นบ้านอีสาน สังเวียนผ้าทอเป็นลายพญานาคกับบั้งไฟพญานาคซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดหนองคาย ส่วนแทงท้องลายทอเป็นลายหมากจับยอย ท้องลายหรือกลางผ้าเป็นลายแก้วชิงดวง โดยใช้ลายดอกจันทร์แปดกลีบมาแทรกไว้ตรงกลางดวงแก้ว ผ้ายกไหมอีรี่ผ้ายกผืนแรกของไทยที่ทอจากไหมอีรี่และทอเป็นลายท้องถิ่นพื้นบ้านอีสานผืนนี้จึงเป็นผ้ายกที่มีผิวสัมผัสและความสวยงามของเส้นไหมและลวดลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอันทรงคุณค่ายิ่ง







ภาพและข้อมูลจากเวบ
qsds.go.th














ปลุกคนไทยสนใจดนตรี 'คีตราชา'


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สนพระราชหฤทัยทางด้านดนตรีตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ไม่เพียงทรงฟังเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น หากยังทรงฝึกฝนการเขียนโน้ต การบรรเลงดนตรีคลาสสิก และทรงศึกษาประวัตินักดนตรีที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ด้วยเหตุนี้สถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จึงทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูงให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ ลำดับที่ ๒๓ ปรากฏพระนามจารึกไว้ตั้งแต่ ปี ๒๕o๗ และเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เป็นที่ประจักษ์ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดทำโครงการผลิตสื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชุด “คีตราชา” โดยจัดแถลงข่าวที่ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันก่อน


วาปี ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในนามคณะผู้จัดทำโครงการ เปิดเผยว่า ด้วยตระหนักถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านดนตรีและบทเพลงพระราชนิพนธ์อันเป็นที่ประจักษ์รับรู้กันอย่างดีในหมู่ชาวไทยว่า เป็นสื่อช่วยจรรโลงจิตใจ สร้างความสุข ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจสร้างสรรค์สิ่งดีงามหลายประการ หลายวาระให้แก่สังคมไทย พระเกียรติคุณนี้ได้แผ่ไพศาลไปยังนานาอารยประเทศทั่วโลก ทำให้คนไทยเกิดความปลื้มปีติ และนับเป็นอีกหนึ่งพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิอาจจะพรรณนาได้


"เรามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการจัดทำโครงการดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมหลัก ๓ ส่วน คือ สารคดีโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน ๑o ตอน ตอนละ ๒ นาที นำเสนอเรื่องราวความประทับใจในบทเพลงพระราชพระราชนิพนธ์ผ่านบุคคลในแวดวงดนตรี อาทิ พล.ร.อ.ม.ล.อัศนี ปราโมช, ชาตรี คงสุวรรณ, ปู แบล็คเฮด และญารินดา บุนนาค เป็นต้น โครงการโปรมิวสิก้า จูเนียร์ แคมป์ ซัพพอร์ต บาย บุญรอดบริวเวอรี่ และโครงการผลิตมิวสิกวิดีโอ ในชุด "หัวใจของพ่อ" ประพันธ์บทเพลงและการขับร้องโดยศิลปินผู้มากความสามารถ ได้แก่ อัสนี โชติกุล และ "ปาล์มมี่" อีฟ ปานเจริญ" โต้โผใหญ่โครงการ กล่าว


โดยเฉพาะโครงการโปรมิวสิก้า จูเนียร์ แคมป์ฯ ที่จะปลูกฝังเยาวชนให้สนใจดนตรีตามแนวทางการพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกของไทยนั้น อ.ทัศนา นาควัชระ ผู้อำนวยการโครงการ แจกแจงรายละเอียดว่า จะเฟ้นหาตัวแทนเยาวชนในท้องถิ่นภูมิภาคทั่วประเทศที่ส่วนมากมักจะขาดโอกาสในการฝึกฝน และการสนับสนุนด้านดนตรีคลาสสิก มาเข้าร่วมอบรมและฝึกฝน บ่มเพาะความสามารถด้านดนตรี โดยเฉพาะการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในช่วงปิดภาคการศึกษา ที่แคมป์ฝึกอบรมด้านดนตรี ที่กรุงเทพมหานคร โดยจะมีคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านดนตรีมาฝึกสอน ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะมีโอกาสบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ ในคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นราวปลายเดือนตุลาคมนี้ นอกจากเด็ก ๆ จะได้รับโอกาสทางการศึกษาแล้ว ยังได้เพื่อนอีกด้วย


ภายในงานแถลงข่าว ยังได้รับเกียรติจาก พล.ร.อ.ม.ล.อัศนี ปราโมช องคมนตรี มาเป็นประธานและเป็นผู้อำนวยบทเพลงพระราชนิพนธ์ ๓ เพลง ได้แก่ ลมหนาว, แผ่นดินของเรา และรอยัล มารีน มาร์ช ที่บรรเลงโดยวงดนตรีโปรมูซิกา โดยองคมนตรี กล่าวเสริมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยมาทุกยุคสมัย ดนตรีเป็นสื่อเชื่อมโยงคนไทยและพระองค์ เหมือนอย่างบทเพลงที่เพิ่งบรรเลงเมื่อสักครู่นี้ นักดนตรีต้องมีความสามัคคีกัน จึงเป็นบทเรียนของประชาชนคนไทยด้วย และการจะเข้าถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ได้ง่ายขึ้นนั้น คงต้องนำออกมาเผยแพร่ให้บ่อยขึ้น เมื่อรับฟังบ่อย ๆ ก็จะทั่วถึงเอง


ร่วมชื่นชมพระปรีชาสามารถทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด “คีตราชา” โดยเริ่มออกอากาศมิวสิกวิดีโอเพลง “หัวใจของพ่อ” ในวันที่ ๒๖ มิถุนายน และสารคดีเฉลิม พระเกียรติฯ ชุด “คีตราชา” ระหว่างวันที่ ๑-๔, ๗-๑๑ และ ๑๔ กรกฎาคมนี้ ทางช่อง ๕ เวลา ๑๘.oo-๑๘.๓o น. และเวลา ๑๙.๕๕-๒o.๑๕ น. และช่องเนชั่น แชนแนล ในรายการข่าวข้นคนเนชั่น เวลา ๒๑.๓o-๒๒.๔๕ น.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net














สายน้ำล้ำวัฒนธรรม


วิถีคนไทยผูกพันกับสายน้ำมาแต่อดีต โดยเฉพาะขนบธรรมเนียมและประเพณีหลายอย่างนั้นอุบัติขึ้นจากสายน้ำ อย่างเช่น ประเพณี "ลอยกระทง" เป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่ามีความหมายและงดงาม ดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมได้ทุกปี นั่นเองเป็นที่มาให้บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลัง กระทรงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน จัดงาน "ริเวอร์ เฟสติวัล ๒o๑๔ สายน้ำแห่งวัฒนธรรม" เทศกาลวัฒนธรรมร่วมสมัยและมหกรรมลอยกระทงบนโค้งน้ำเจ้าพระยา ชวนคนทุกรุ่นอิ่มเอมกับวิถีชุมชนริมน้ำ พร้อมสัมผัสศาสตร์และศิลป์จากวันวาน


ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แห่งไทยเปฟฯ ในฐานะพ่องานใหญ่ เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน แน่นอนว่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่แค่ด้านเศรษฐกิจ แต่จะมีผลต่อภาพรวมทั้งด้านสังคม ศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่หลาย ๆ ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีศิลปะวัฒนธรรมและประเพณีที่มีความโดดเด่น ซึ่งมีทั้งความคล้ายคลึงและแตกต่าง


"สำหรับเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมนี้ จะจัดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และเอเชียทีค ริเวอร์ ฟร้อนท์ แต่ละแห่งจะถ่ายทอดให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีของไทย นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับชุมชนในพื้นที่นำของดีของแต่ละชุมชนมานำเสนอ เรียกว่าเป็นครั้งแรกของเทศกาลวัฒนธรรมร่วมสมัยที่บอกเล่าเรื่องราวของประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และวิถีความเป็นคนไทยที่อยู่ริมโค้งน้ำเจ้าพระยาได้อย่างครบถ้วน เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นและประเทศ เรามีความตั้งใจที่จะให้งานนี้กลายเป็นงานท่องเที่ยวประจำปีที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้หลั่งไหลเข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมของไทย" หัวเรือใหญ่การจัดงาน กล่าว






ด้าน วิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไทยเบฟฯ แจกแจงรายละเอียดกิจกรรมที่จะมีขึ้นว่า เริ่มตั้งแต่วัดโพธิ์จะมีพิธีบูชารอยพระพุทธบาท, พิธีจองเปรียง หรือการยกโคมขึ้นบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระจุฬามณีในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์, นิทรรศการภาพโบราณ และการแสดงระบำฤาษีดัดตน เพื่อเป็นสาธารณทานแก่ผู้ต้องการฝึกตนเป็นแพทย์บำบัด เป็นต้น มาที่วัดอรุณฯ มีเวทีการแสดงย้อนยุค, หนังกลางแปลงพากย์สด, นิทรรศการบ้านช่างหล่อ ศิลปกรรมจากชุมชนเก่าแก่ฝั่งธนบุรี ที่สืบทอดวิชาการปั้นหล่อพระพุทธรูปมาแต่โบราณ, ตลาดโบราณ เป็นต้น ส่วนวัดกัลยณมิตรฯ มีการพาชมสถานที่สำคัญภายในวัด, การแสดงงิ้ว และออกร้านชุมชน ขณะที่วัดประยุรฯ มีการสักการะพระบรมธาตุมหาเจดีย์ ที่ได้รับรางวัลอันดับ ๑ จากองค์การยูเนสโก ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม, โชว์ปี่พาทย์เครื่องฝังมุกไฟ, ออกร้านอาหาร ๔ ชาติ เป็นต้น


ปิดท้ายที่เอเชียทีคฯ บริเวณท่ามหานที ใช้เป็นจุดประดิษฐ์และลอยกระทง, ประเพณีรับบัวจำลอง, สาธิตดอกไม้ไฟไทยโบราณ,สาธิตปลาตะเพียนสาน, มวยทะเล และการแสดงบนเวทีมากมาย โดยระหว่างวันที่ ๑-๖ พฤศจิกายน ที่มีการจัดงานนี้ จะมีบริการเรือโดยสารรับส่งฟรี ๒ เส้นทาง เส้นทางที่ ๑ จากวัดกัลยาณมิตรฯ ไปกลับเอเชียทีคฯ และเส้นทางที่ ๒ วนรับส่ง ท่าเตียน-วัดอรุณฯ-วัดประยุรฯ ตั้งแต่เวลา ๑๗.oo-๒๒.oo น.






ในส่วนของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร หนึ่งจุดหมายริมเจ้าพระยาที่รอรับการมาเยือนของผู้หลงไหลวัฒนธรรม โดย พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส เล่าว่าสายน้ำเจ้าพระยาเป็นกระแสหลักของวัฒนธรรมไทย อยากให้ทุกคนหันกลับมามองแม่น้ำแห่งนี้ โดยเฉพาะเวลาแล่นเรือผ่านจะเห็นศาสนสถานเรียงรายอยู่ริมสองฝั่งจำนวนมาก แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์และความงดงาม ถ้าไม่ช่วยกันทำนุบำรุงคุณค่าแห่งสายน้ำ ในไม่ช้าสิ่งเหล่านี้คงหมดไป


"แต่ละประเทศมีการอนุรักษ์จากมุมมองของแม่น้ำ มีเทศบัญญัติห้ามก่อสร้างอะไรมาบดบัง ประเทศไทยเราเองหากจะทำอย่างจริงจังก็ยังไม่สาย อย่างวัดโพธิ์ วัดอรุณฯ จะเห็นว่ายังมีความสวยงามอยู่มาก แต่ในอนาคตหากบ้านเมืองมีการพัฒนามากขึ้นก็อาจมีบางอย่างมาบดบังความงดงามเหล่านี้ ต้องร่วมใจอนุรักษ์คุณค่าแห่งสายน้ำไว้ โดยเฉพาะย่านกฎีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ของพ่อค้าชาวจีนฮกเกี้ยนที่ตั้งอยู่ริมคลองวัดกัลยาณ์ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และกลุ่มคนหลายเชื้อชาติทั้งชาวไทย จีน ฝรั่ง ญวน มอญ ฯลฯ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก เหมาะที่จะเข้าไปเรียนรู้วิถีและวัฒนธรรมดั้งเดิม ตอนนี้เริ่มมีการทำความสะอาดบ้านเรือน มีการจัดจักรยานเข้าไปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จึงอยากให้มองวัฒนธรรมเหล่านี้เป็นขุมทรัพย์" เจ้าอาวาส วัดประยุรฯ ชี้ชวน


ทั้งนี้ ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่ riverfestivalthailand.com







ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net
riverfestivalthailand.com














ศิลปาชีพรังสรรค์ อัศจรรย์เพ็ญเดือน ๑๒


เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานลอยกระทงตามประทีปศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ประจำปี ๒๕๕๗ ภายใต้แนวคิด "ศิลปาชีพรังสรรค์ อัศจรรย์เพ็ญเดือน ๑๒" จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และอนุรักษ์สืบสานประเพณีลอยกระทงตามแบบโบราณราชประเพณี ภายในงานจะได้เนรมิตเทศกาลลอยกระทงให้เป็นค่ำคืนอันแสนอัศจรรย์ตระการตา และยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ "พอร์ซเลนเลอค่า เลิศล้ำในสยาม" การจำลองบรรยากาศตลาดน้ำ และการสาธิตการประดิษฐ์ผลงานศิลปาชีพ โดยงานจะจัดระหว่างวันที่ ๕ - ๙ พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา







ภาพและข้อมูลจากเวบ
ayutthaya.go.th
mots.go.th














มหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพระนครศรีอยุธยา ขอเชิญทุกท่าน พบกับ“งานมหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข The Happiness Music Festival” วันที่ ๓๑ ตุลาคม ถึง ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา (อาคารศาลากลางหลังเก่า) ด้วยการจัดกิจกรรมที่สะท้อนภาพลักษณ์ของภูมิภาค จัดกิจกรรมที่นำเสนอเรื่องราวของมรดกทางวัฒนธรรมที่สั่งสมและสืบทอดวิถีชีวิตอันงดงามสะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้มีการออกเดินทางท่องเที่ยว และสร้างสรรค์สินค้าเชิงคุณค่า จึงได้จัดทำโครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการพัฒนากิจกรรมให้มีความหลากหลาย และใช้กิจกรรมเป็นตัวส่งเสริมให้ คนไทยเดินทางท่องเที่ยวกระจายตัวมายังแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา










ร้อยตรีชัยวัฒน์ เจริญสุข ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในงานมหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข The Happiness Music Festival ทุก ๆ ท่าน จะได้พบกับมหกรรมดนตรีพื้นบ้านของ ๔ ภาคในประเทศไทย ชมจากต้นแหล่งที่มา ขอแท้ ของจริง ในชุดการแสดง ที่มีชื่อว่า “จตุรทิศา ดนตรีไทย” การแสดงที่นำเสนอศิลปะแห่งการดนตรีของไทย ที่มีอัตลักษณ์ในแต่ละภาค มาเรียบเรียงสอดประสานให้เป็นการแสดงที่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในงาน มหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข พร้อมกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านของแต่ละภาคที่ในปัจจุบันนี้หาชมได้ยากมาก มาจัดแสดงให้ทุกๆท่านได้รับชมกันอย่างเต็มอิ่ม เต็มตา และยังสามารถเลือกซื้อสิ้นค้า OTOP ของดีของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา














นิทรรศการ การสาธิต และการแสดง
“มหัศจรรย์ งานดนตรีไทย”


การสาธิต และการแสดงเครื่องดนตรีไทยประจำถิ่น ทั้ง ๔ ภูมิภาค มานำเสนอท่วงทำนองแห่งท้องถิ่น โดยคนสร้างเครื่องดนตรีจัดในรูปแบบนิทรรศการมีชีวิต ด้วยการเชิญคนทำเครื่องดนตรี มาสาธิตการทำและแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมเครื่องดนตรีหลายชนิดที่นำมามีการแสดงที่งานนี้เท่านั้น เป็นการการนำเครื่องดนตรีไทยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเครื่องดนตรีไทยที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ซึ่งสามารถเล่นได้จริง มาร่วมแสดงถึงความมหัศจรรย์ของคนไทย และเรื่องราวความเป็นมาของเครื่องดนตรีไทยในแต่ละชนิด










มีการนำเครื่องดนตรีชาวเขา ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก และเสียงดนตรีก็เป็นเสียงที่เลียนแบบสรรพธรรมชาติซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยาก เช่น กลองกรือโต๊ะ และ กลองบานอ (มักเรียกรวมกันเป็นกลองกรือโต๊ะกะบานอ) เป็นกลองที่นิยมเล่นในงานเทศกาล หรืองานเฉลิมฉลองที่เป็นงานสำคัญของชาวอิสลาม ด้วยถือเป็นเสียงแห่งฤกษ์งาม โมงยามแห่งชัยชนะ ในปัจจุบันหาชมได้อยาก แต่ยังเล่นกันอยู่ในบางอำเภอของจังหวัดนราธิวาส










ห้ามพลาด!!! ชมลิเกพันล้าน “ไชยา มิตรชัย” ในวันเสาร์ที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ พร้อมกับชมการแสดงดนตรีแห่งความสนุกสนานของเพลงลูกทุ่ง จากสามสาวงาม เสียงสวย อย่างคุณฝน ธนสุนทร คุณหลิว อาราดา และคุณดวงตา คงทอง การแสดงชุด ดุริยศิลป์ สโมสร โดย “อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี” ร่วมด้วย “อาจารย์บรูซ แกสตัน” และ ขุนอิน ระนาดเอก ที่จะมามอบความสุขให้กับทุก ๆ ท่านในงานนี้ พร้อมอาหารจากหลากหลายร้านให้ทุก ๆ ท่านเลือกรับประทาน พร้อมชมการแสดงดนตรีอย่างมีความสุข ประทับใจไม่รู้ลืม










กำหนดการ “งานมหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข The Happiness Music Festival” วันที่ ๓๑ ตุลาคม ถึง ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ​ณ ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา (อาคารศาลากลางหลังเก่า) การแสดงที่มีการผสมผสานเครื่องดนตรี ท่วงทำนอง และ นักดนตรี ที่มีทั้งความเป็นไทยและความเป็นสากล โดยมีอาจารย์บรูซ แกสตัน อาจารย์ธนิส ศรีกลิ่นดี อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า (ขุนอิน)คุณโก้ มิสเตอร์แซ็กแมน คุณเก่ง เดอะว้อยซ์ และคุณปุ้ย เดอะว้อยซ์ มาร่วมแสดง









วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๗

เวลา ๑๖.oo – ๒๒.oo น.สินค้าสุดเลิศ และอาหารจานเด่น รสเด็ด จากที่พักชื่อดัง ในอยุธยา
เวลา ๑๖.๓o น.การสาธิต-การแสดงชุด “มหัศจรรย์ งานดนตรีไทย”
เวลา ๑๗.๓o น.พิธีเปิดงาน “มหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข”
เวลา ๑๘.oo น.การแสดงชุด “จตุรทิศา ดนตรีไทย” การแสดงที่นำเสนอศิลปะแห่งการดนตรีของไทย ที่มีอัตลักษณ์ในแต่ละภาค มาเรียบเรียงสอดประสานให้เป็นการแสดงที่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกนำแสดงโดยวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั้ง ๔ ภาค
เวลา ๑๙.oo น.การแสดงชุด “ดุริยศิลป์ สโมรสร” โดยอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ขุนอินทร์ ระนาดเอก และ ปุ้ย ดวงพร The Voice 2012
เวลา ๒o.oo น.การแสดงดนตรีชุด “สุข สนุก เสน่ห์ลูกทุ่งไทย” จากสามสาวงาม เสียงสวย อย่างคุณฝน ธนสุนทร คุณหลิว อาราดา และคุณดวงตา คงทอง










วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
เวลา ๑๖.oo – ๒๒.oo น.สินค้าสุดเลิศ และอาหารจานเด่น รสเด็ด จากที่พักชื่อดัง ในอยุธยาเวลา
๑๗.oo น. การสาธิต-การแสดงชุด “มหัศจรรย์ งานดนตรีไทย”
เวลา ๑๘.oo น. การแสดงชุด “จตุรทิศา ดนตรีไทย” การแสดงที่นำเสนอศิลปะแห่งการดนตรีของไทย ที่มีอัต ลักษณ์ในแต่ละภาค มาเรียบเรียงสอดประสานให้เป็นการแสดงที่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก นำแสดงโดยวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั้ง ๔ ภาคเวลา ๑๙.oo น. การแสดงชุด “ดุริยศิลป์ สโมรสร” “ดุริยศิลป์ สโมรสร” โดยอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดีขุนอินทร์ ระนาดเอก และ เก่ง ธชย The Voice 2012
เวลา ๒o.oo น. การแสดงลิเกพันล้าน โดย “ไชยา มิตรชัย”










ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ขอเชิญร่วม

“งานมหกรรมดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข

The Happiness Music Festival”

สอบถาม ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา

โทร. o-๓๕๒๔-๖o๗๖ –๗ หรือ tiewpakklang.com Facebook: Tat Ayutthaya



ภาพและข้อมูลจากเวบ
tiewpakklang.com














ลิเกทรงเครื่องเรื่องที่น่ารู้ (๒)
ขุนอิน


สมัยผมยังเด็กมักจะได้ยินบุคคลทั่ว ๆ ไปเรียกศิลปินว่า "พวกเต้นกินรำกิน " แต่ในยุคปัจจุบันนี้แล้วนั้นคำว่าพวกเต้นกินรำกิน นั้นได้หายไปจากความคิดของคนสมัยนี้ไปอย่างหมดสิ้นแทบจะไม่มีใครรู้จักคำนี้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งมีปัจจัยสำคัญต่าง ๆ นั้นช่วยกลบและสยบความรู้สึกต่าง ๆ เหล่านี้ให้หมดไปได้ก็อย่างเช่นการศึกษาของเหล่านักดนตรีไทยและสากลมีหลักสูตรไปถึงระดับปริญญาเอกกันไปแล้ว ส่วนในบางสาขาอาชีพอย่างนักแสดงลิเกถึงยังไม่มีใบปริญญาบัตรมารับประกันในสาขาของตัวเอง แต่ว่าในอาชีพลิเกนี้ต้องบอกว่า เป็นอาชีพที่ทำให้ความรู้สึกว่าการเต้นกินรำกินนั้นมันช่างสวยงามเหลือเกิน เพราะมันสามารถที่จะสร้างชื่อเสียงเงินทองเป็นคนดังที่ร่ำรวยและเป็นอาชีพที่ว่าด้วยการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอีกต่างหาก


อาชีพนักแสดงลิเกนั้นหลายๆ ท่านอาจจะมีชื่อเสียงโด่งดังกันยังตั้งแต่วัยเด็กไปจนโตก็เพราะความนิยมของผู้ชมในยุคปัจจุบันนี้โดยเฉพาะในแถบภาคกลางนั้นยังมีอยู่มาก ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ในการแสดงของลิเกนั้นถ้าเรามองย้อนขึ้นไปว่ายังมีลิเกที่ถูกว่าด้วยการเป็นต้นตำรับของการแสดงลิเกในยุคปัจจุบันแต่กลับไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับลิเกในยุคนี้ก็คือ "ลิเกทรงเครื่อง" แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีผู้คนจะนิยมหรืออาจจะไม่รู้จักกันก็ว่าได้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครแสดงเป็นกันนะครับ ยังมีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ยังพยายามที่จะอนุรักษ์ "ลิเกทรงเครื่อง" ให้คงอยู่กันต่อไปเนื่องด้วยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทยเราที่กำลังสูญหายไปนั่นเอง ซึ่งในกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือบุคคลที่อยู่ในหน่วยงานของรัฐที่ต้องคอยสืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมโดยเฉพาะการแสดงซึ่งเราจะเรียกบุคคลที่อยู่ในหน่วยงานของรัฐนี้ว่ากรมศิลปากร


คุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ ซึ่งท่านนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในการแสดงต่าง ๆ ที่เป็นศิลปะของไทยเราโดยเฉพาะ "ลิเกทรงเครื่อง" ซึ่งท่านได้เป็นผู้ที่ศึกษาลิเกทรงเครื่องมาหมดทุกท่ากระบวนความโดยลึกซึ้งกับครูวิโรจน์ วีรวัฒนานนท์หรือคุณวิโรจน์ หลานหอม ลิเกชื่อดังในยุค 40 ปีที่แล้วนั่นเอง ส่วนคุณกัญจนปกรณ์ แสดงหาญ หรืออาจารย์แป๊ะ กรมศิลป์ ซึ่งใคร ๆ ที่รู้จักและคุ้นเคยกันกับท่านนี้อย่างตัวผมเองแล้วนั้นก็จะทราบกันดีว่าความจริงแล้วท่านนั้นเป็นนักร้องเพลงไทยเดิมเสียงดีคุณภาพสูงและจบการศึกษาเอกวิชาคีตศิลปไทยหรือขับร้องไทยเดิมมาจากวิทยาลัยนาฏศิลป ปัจจุบันนี้ท่านเป็นข้าราชการสังกัดสำนักการสังคีตหรือที่สมัยก่อนเราจะเรียกว่ากรมศิลปากร ในตำแหน่งคีตศิลปอาวุโส ง่าย ๆ ว่า อาจารย์แป๊ะคือนักร้องเพลงไทยเดิมของกรมศิลปากรนั่นเองแหละครับ แต่บังเอิญว่าท่านนั้นเป็นผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในการแสดงลิเกเป็นพื้นฐานเคยได้ไปหัดแสดงลิเกกับบรมครูหลายท่านอย่างครูมานิตย์ ท้วมโสภา ครูสินพร ผ่องศรีและอีกหลายท่านโดยเฉพาะท่านหลังนี้รุ่นเก่า ๆ อย่างผมจะรู้ว่าท่านนี้คือบรมครูทางลิเกรุ่นราวคราวเดียวกับพระพรภิรมย์ ที่ล่วงลับไปแล้ว


และที่สำคัญไม่ยอมที่จะให้คำว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" นั้นมาเยือนตัวเอง อาจารย์แป๊ะ นั้นได้รับการถ่ายทอดท่ารำต่าง ๆ จาก อาจารย์ปกรณ์ พรพิสุทธิ์ ซึ่งท่านนี้ใคร ๆ ก็จะทราบกันดีว่าคือพระเอกของกรมศิลปตลอดกาล และปัจจุบันนี้ท่านดำรงค์ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการสังคีต ก็คือเป็นเจ้านายของคุณกัณจนปกรณ์ แสดงหาญโดยตรงนั่นเองแหละครับ และด้วยความที่เป็นนักร้องไทยเดิมรวมถึงต้องเป็นวิทยากรไปบรรยายในที่ต่าง ๆ ก็ต้องหนีไม่พ้นการศึกษาในเรื่องราวของศิลปะการแสดงต่างๆ ที่เก่าแก่อย่างเช่นลิเกทรงเครื่องนั่นเองแหละครับ อาจารย์แป๊ะก็เลยว่าจัดตั้งคณะลิเกทรงเครื่อง ขึ้นมาให้เป็นเรื่องเป็นราวโดยได้รับความสนับสนุนจากบุคคลในหน่วยงานเดียวกันก็คือ ท่านผู้อำนวยการปกรณ์ พรพิสุทธิ์นั่นเองแถมยังมาร่วมแสดงด้วยกันอีกในบางครั้ง เหมือนกับเป็นการส่งเสริมให้ลูกน้องตัวเองนั้นได้สืบสานศิลปะการแสดงที่เก่าแก่อย่างลิเกทรงเครื่องเอาไว้ให้อยู่กับชาวไทยเราตลอดไป ซึ่งตรงนี้ถือว่าสำคัญนะครับเพราะจะว่ากันไปแล้วนั้น กรมศิลปากรหรือสำนักการสังคีตก็ไม่ใช่หน่วยงานที่จะต้องมาอนุรักษ์การแสดงลิเกต่างๆ ทั้งสิ้นโดยตรงนะครับ เอาล่ะครับกำลังจะเข้าเรื่องก็มาหมดเนื้อที่ซะอีกเอาไว้ฉบับหน้าค่อยมาว่ากันต่อนะครับ


ในวันที่ ๓๑-๑พฤศจิกายน นี้ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะมีการจัดงานที่ชื่อว่า "มหกรามดนตรี วิถีไทย วิถีแห่งความสุข" พบกับการแสดงดนตรีร่วมสมัยวงฟองน้ำ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี, โก้ แซ็กแมน, เก่ง เดอะว้อยซ์, รวมถึงตัวผมขุนอินด้วยนะครับ แล้วพบกันตอนพลบค่ำทั้ง ๒ วันดังกล่าวนะครับ รับรองสนุกแน่นอนครับ



อ่านภาคแรกได้ที่นี่ เสพงานศิลป์ ๑๕๒



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net
























'ชนาพัฒน์' ตัดสิน ๓ นักออกแบบรุ่นใหม่
'Star Fashion Search 2014'


สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ หรือซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ (Chanapatana InternationalDesign Institute: CIDI) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม จัดโครงการ “Star Fashion Search 2014” ซึ่งได้ผู้ชนะเลิศการประกวด ทั้ง ๓ สาขาคือ ณัฐพงษ์ อุดมกัน ประเภทอุตสาหกรรม :เครื่องหนัง กับผลงาน TOUCH OF THAI FORM,อานนท์ เมฆพัฒนกิจ ประเภทอุตสาหกรรม : เครื่องนุ่งห่ม กับผลงาน Lahu Memory และ ศรัณย์ อยู่คงดี ประเภทอุตสาหกรรม : เครื่องประดับกับผลงาน Hide…Bangkok





ผศ.ดร.สุภาวี ศิรินคราภรณ์



ผศ.ดร.สุภาวี ศิรินคราภรณ์ คณะมัณฑนศิลป์ ภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยศิลปากร ตัวแทนผู้ให้ความรู้ทางด้านงานออกแบบดีไซน์ จาก สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ เผยว่า โครงการพัฒนานักออกแบบ “Star Fashion Search 2014” เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบใหม่ ได้เข้ามาสู่เส้นทางของการเป็นนักออกแบบในสาขาต่าง ๆ ด้วยรูปแบบของผลงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งบางผลงานเราอาจจะไม่คุ้นตา เวทีนี้จึงเป็นเวทีที่จะช่วยบ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ ให้มีความก้าวหน้าอย่างสนุกสนานกับการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีออกมา นอกจากนี้ ดิฉันเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ก็ยังได้ความรู้จาก นวัตกรรมใหม่ ๆ ของพวกเขาอีกด้วย ซึ่งดูแล้วแต่ละผลงานล้วนสามารถทำออกสู่สังคมให้ประสบความสำเร็จได้จริง





ธีระ ฉันทสวัสดิ์



ขณะที่ ธีระ ฉันทสวัสดิ์ นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี ซึ่งเมื่อจบแล้วอยากให้มีหน่วยงานของรัฐเข้ามาต่อยอดในการสนับสนุน ให้นักออกแบบรุ่นใหม่สามารถก้าวต่อไปสู่การเป็นนักออกแบบมืออาชีพได้ในอนาคต ผมในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการ จึงไม่ได้มองที่ผลงานการออกแบบสร้างสรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมองถึงการที่จะผลิตผลงานออกมาแล้วสามารถนำไปใช้งานได้จริง หรือยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดทำอย่างอื่นได้อีกต่อไป จึงอยากให้มีการประกวดในลักษณะนี้เรื่อย ๆ แต่ไม่ใช่เมื่อการประกวดจบ ทุกอย่างก็จบ ควรต้องมีการผลักดันกันต่อไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนด้วย





ผลงาน Touch of Thai Form ของ ณัฐพงษ์ อุดมกัน



ณัฐพงษ์ อุดมกัน เจ้าของรางวัลชนะเลิศประเภทอุตสาหรกรรม : เครื่องหนัง กับผลงาน TOUCH OF THAI FORM กล่าว ว่า แรงบันดาลใจของเขามาจากงานสถาปัตยกรรมไทย โครงสร้างเรือนไทย ลักษณะร่วมกันของโครงสร้างหลังคา หน้าจั่วสามเหลี่ยม ทั้ง ๔ ภาค เหนือ กลาง อีสาน และใต้ รวมไปถึงหลังคาเจดีย์ โบสถ์ วิหาร ซึ่งให้เส้นสายเหลี่ยมมุมที่มีความเป็นเรขาคณิต จึงนำมาประกอบใหม่ให้เกิดเป็นเรขาคณิตรูปทรงที่แปลกใหม่ โดยนำมาเป็นรูปทรงกระเป๋าเพิ่มดีเทลของโครงทองเหลืองที่นำมาแต่งประกอบ ซึ่งได้แนวคิดจากการถอดประกอบเรือนไทย โดยที่ตัวเรือนไม่เกิดความเสียหาย เช่นเดียวกับโครงทองเหลืองก็สามารถถอดประกอบกับตัวกระเป๋าได้โดยไม่ทำให้กระเป๋าผิดทรงไปจากเดิม เป็นการตีความคอนเซ็ปต์ พื้นถิ่นให้มีความทันสมัยและล้ำแบบฟิเจอริสติก





ผลงาน Hide...Bangkok ของ ศรัญย์ อยู่คงดี



ศรัณย์ อยู่คงดี เจ้าของรางวัลชนะเลิศประเภทอุตสาหกรรม : เครื่องประดับ กับผลงาน Hide…Bangkok เผยถึงแรงบันดาลใจว่า ไม่ยากนักที่เราจะถูกกลืนหายในเมืองใหญ่ และไม่ง่ายที่เราจะพยายามซ่อนตัวในเมืองใหญ่ เสมือนสัตว์ป่าบนพื้นดินที่พยายามซ่อนกาย ไม่ว่าป่ากว้างใหญ่แค่ไหน เราจะมองเห็นและถ้าคุณคิดจะ “ซ่อนกาย” จากสังคม คุณจะได้...แค่คิด จึงนำแรงบันดาลใจดังกล่าวมาเป็นแนวคิดในการร่างแบบจากสัตว์พลัดถิ่นที่พบเห็นได้ในสวนสาธารณะเมือง โดยผสมเรื่องราวบริบทในชุมชนและนำมาพิมพ์บนวัสดุ นำมาประกอบโดยเลียนแบบโครงสร้างทางธรรมชาติ ให้ความรู้สึกกำลังแอบซ่อนให้พ้นจากสายตา จากผู้คน...ในเมืองหลวง





ผลงาน Lahu Momory ของ อานนท์ เมฆพัฒนกิจ



อานนท์ เมฆพัฒนกิจ เจ้าของรางวัลชนะเลิศประเภทอุตสาหกรรม : เครื่องนุ่งห่ม กับผลงาน Lahu Memory เผยว่า ได้รับแรงบันดาลใจจากการตีความคำว่า“พื้นถิ่นไทย” โดยการมองย้อนกลับไปสู่รากเหง้าของชาวไทยกลุ่มน้อยที่มีชื่อว่า “ชาวลาหู่ หรือ มูเซอ” ซึ่งมีความแข็งแรงทางด้านศิลปวัฒนธรรมและปรัชญาการดำเนินชีวิต โดยแสดงออกมาในรูปแบบของประเพณีต่างๆ และยังมีฝีมือทางด้านงานหัตถกรรมที่ประณีตและงดงาม โดยชาวลาหู่จะทอผ้าฝ้ายใช้กันเอง มีวิธีการตัดต่อผ้าที่น่าสนใจ งานปักที่ไม่แพ้ชาติใด ๆ โดยเป็นผู้ริเริ่มการปักตามช่อง ที่ในปัจจุบันเรียกว่า การปักครอสติชและการสร้างบ้าน โดยใช้ไม้ไผ่ที่มีการสานหรือการขัดกันจนถึงการทำเครื่องประดับด้วยการสานที่ทำจากไม้ไผ่หรือหิน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
tcdcconnect.com














นิทรรศการ มหัศจรรย์กล้วยไม้ไร้พรมแดน สีสันแห่งเอเชีย


บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จํากัด ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลกรุ๊ป จํากัด และศูนย์การค้าสยามพารากอน ขอเชิญนักเรียนระดับประถมศึกษา สมัครเข้าร่วมการประกวดศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” มหัศจรรย์กล้วยไม้ไร้พรมแดน สีสันแห่งเอเชีย (PASSAGE TO ASEAN PARADISE) ในงาน 8th Siam Paragon Bangkok Royal Orchid Paradise 2014 ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 13,000 บาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร และเกียรติบัตร


ความเป็นมา

จากความสำเร็จครั้งใหญ่ในการจัดงานแสดงกล้วยไม้ The Royal Orchid Paradise ณ สยามพารากอน เมื่อปี ๒๕๕o ที่ผ่านมา บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จึงได้จัดงานมหัศจรรย์กล้วยไม้ไร้พรมแดน สีสันแห่งเอเชีย (PASSAGE TO ASEAN PARADISE) ระหว่างวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน – ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ และเพื่อเป็นการสร้างสีสันและความทรงจำอันน่าประทับใจเกี่ยวกับกล้วยไม้ จึงได้ร่วมมือกับบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด จัดกิจกรรมทางด้านศิลปะขึ้นเป็นครั้งที่ ๘ โดยให้สอดคล้องกับการจัดแสดงกล้วยไม้นานาพันธ์ครั้งนี้


วัตถุประสงค์


๑. เพื่อเปิดโอกาสให้ยุวศิลปินได้ถ่ายทอดความงามของกล้วยไม้ผ่านทางผลงานศิลปะ
๒. เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถทางศิลปะ
๓. เพื่อเผยแพร่ผลงานทางความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปกรรมสู่สาธารณชน


หลักเกณฑ์การสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน

ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ หรือ International School Grade (1-6)
ผู้เข้าร่วมการประกวดต้องสร้างสรรค์ด้วยฝีมือและความคิดของตนเองภายในเวลาที่กำหนด (๓ ชั่วโมง) ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้นำผลงานที่ทำมาล่วงหน้ามาใช้ประกอบ และสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ไม่จำกัดเทคนิค

ผู้จัดประกวดจะจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการวาดภาพ ได้แก่ กระดาษขนาด ๑๕ X ๒๒ นิ้ว ให้ โดยอุปกรณ์อื่นๆ ให้ผู้เข้าแข่งขันนำมาเอง ไม่อนุญาตให้ผู้แข่งขันใช้อุปกรณ์ที่ส่งกลิ่นรุนแรง และทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ทินเนอร์ สีสเปรย์ ฯลฯ


เกณฑ์การตัดสิน พิจารณาจากองค์ประกอบดังนี้

คุณภาพของงาน

นำเสนอประเด็นได้ชัดเจนตรงตามหัวข้อที่กำหนด
มีลักษณะโดนเด่นเฉพาะตัว

* ผลการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นข้อยุติ ผู้ใดจะอุทธรณ์มิได้ คณะกรรมการอาจงดการให้รางวัลใดรางวัลหนึ่งได้ หากไม่มีผลงานอยู่ในเกณฑ์พิจารณาหรือไม่มีผลงานที่สมควรได้รับรางวัลนั้น


คณะกรรมการตัดสิน

อาจารย์สมศักดิ์ รักษ์สุวรรณ ประธานกรรมการ (นายกสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทย)
อาจารย์เกียรติศักดิ์ ศิริพลา กรรมการ
อาจารย์สัมฤทธิ์ เพชรคง กรรมการ และเลขานุการ
รางวัล

รางวัลยอดเยี่ยม ๓,ooo บาท จำนวน ๑ รางวัล และรับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
รางวัลดีเด่น ๑,ooo บาท จำนวน ๑o รางวัล และเกียรติบัตร
รางวัลพิเศษ เกียรติบัตร จำนวน ๑o รางวัล


การรับสมัคร

สำรองชื่อได้ที่ E-Mail : sirimes.k@ttc.toshiba.co.th โทรศัพท์ o๒-๕๑๑-๗๗๑o-๑๒ และ //www.facebook.com/Toshiba CSR-Thai ตั้งแต่วันนี้ - ๒๖ กันยายน ๒๕๕๗
รับสมัครหน้างาน (กรณีที่ผู้สมัครยังไม่เต็มจำนวน) ระหว่างเวลา ๑o.oo – ๑o.๓o น. ณ บริเวณหน้า โตชิบา อินเทลลิเจนซ์ ช็อป ชั้น ๒ (โซนเครื่องใช้ไฟฟ้า) สยามพารากอน


การประกวด
วันพุธที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo – ๑๔.oo น.

๑o.oo – ๑o.๓o น. ผู้เข้าแข่งขันลงทะเบียนรายงานตัวและรับกระดาษ
๑o.๓o – ๑๓.๓o น. เริ่มการแข่งขัน
๑๔.oo – ๑๖.oo น. คณะกรรมการพิจารณาตัดสินผลงาน
๑๖.๓o น. ประกาศผล
๑๗.oo น. พิธีมอบรางวัล


กรรมสิทธิ์ของผลงานที่ได้รับรางวัล

ผลงานที่ได้รับรางวัลถือเป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย สำหรับผลงานที่ไม่ได้รับรางวัล สามารถติดต่อขอรับคืนได้ที่ โตชิบา อินเทลลิเจนซ์ ช็อป ชั้น ๒ สยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ ๘ - ๓o ตุลาคม ๒๕๕๗ หากไม่มารับภายในเวลาที่กำหนดถือว่าสละสิทธิ์ภายในผลงานนั้นแล้วและยินยอมให้โตชิบาดำเนินการตามเห็น สมควรต่อไป เช่น อาจนำผลงานบางส่วนมอบให้แก่ส่วนราชการหรือองค์กรการกุศลอื่น ๆ

นิทรรศการจัดแสดง ระหว่างวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน – ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ หน้าโตชิบา อินเทลลิเจนซ์ ชั้น ๒ สยามพารากอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายประชาสัมพันธ์โตชิบา โทร. o๒-๕๑๑-๗๗๑o-๑๒
toshiba.co.th
FB : ToshibacsrThai



ภาพและข้อมูลจากเวบ
contestwar.com














เทศกาลละครกรุงเทพ ๒๕๕๗


เทศกาลละครกรุงเทพ เป็นความร่วมมือสร้างสรรค์ของเครือข่ายละครกรุงเทพ ประชาคมบางลำพู หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และองค์กรพันธมิตรทางศิลปวัฒนธรรมและการแสดงต่าง ๆ โดยจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ เป็นต้นมา มีศิลปินการละครร่วมสมัยของไทยและต่างประเทศนำผลงานการแสดงเข้าร่วมในเทศกาล ทั้งละครการแสดงแบบประเพณีนิยม แบบพื้นบ้าน และละครร่วมสมัย ในรูปแบบต่าง ๆ จากสมาชิกเครือข่ายละครกรุงเทพ จัดแสดง ณ สวนสันติชัยปราการ ถ.พระอาทิตย์ บางลำพู หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และโรงละครต่าง ๆ เทศกาลละครกรุงเทพ ในปี ๒๕๕๗ นี้ จึงนับเป็นการเดินทางของเทศกาลในครั้งที่ ๑๒ โดยศิลปินการละครจะนำผู้ชมเข้าสู่จินตนาการ เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอมุมมองต่อประเด็นทางสังคม ผ่านศิลปะการละครของศิลปินกลุ่มต่างๆ เพื่อให้เกิดเจตคติที่ดีในการดำรงชีวิต สำนึกต่อสาธารณะ การแก้ไขปัญหาของสังคมส่วนรวม และการสร้างเสริมเครือข่ายทางศิลปะการละครให้เข้มแข็ง รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมการชมละครให้เกิดขึ้นในสังคมไทย


กิจกรรมการแสดง

- ละครเร่ ผู้ชมจะได้ใกล้ชิดกับการแสดงเร่ในรูปแบบต่างๆ อาทิ ดนตรี ฟ้อนรำ ละครใบ้ กายกรรม มายากล
- การแสดงสำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว ในรูปแบบมหกรรมละครสำหรับเด็ก และการอบรมเชิงปฏิบัติการศิลปะสำหรับเด็ก
- ละครทางเลือกเป็นละครสั้นขนาดเล็ก จัดแสดงในร้านอาหาร ณ ถนพระอาทิตย์ บางลำพู และร้านค้าในโซนอาร์ตฮับ หอศิลปกรุงเทพฯ
- ละครคัดสรร เป็นการจัดแสดงละครเต็มรูปแบบ ผ่านการคัดสรรโดยสมาชิกเครือข่ายละคร จัดแสดง ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น ๔ ( black box) และโรงละครต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ
- การสัมมนาวิชาการละครในประเด็นต่าง ๆ และการวิจารณ์งานละคร พุดคุยแลกเปลี่ยนระหว่าง นักวิจารณ์ นักการละคร


วันแสดง: ๑-๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

สถานที่:

๑-๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ สวนสันติชัยปราการ และร้านอาหารย่าน บางลำพู ถนนพระอาทิตย์
๔-๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น ๔ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และโรงละครต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม รายละเอียดละคร สถานที่ รอบการแสดง และราคาบัตรเข้าชม ได้ที่:
โทร o๙๔-๔๕๗-๕๔o๔ หรือ Facebook Page: เฟซบุค BTF


ภาพและข้อมูลจากเวบ
bacc.or.th














Humans Humans


PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเชิญชมนิทรรศการ ”มนุษย์ มนุษย์” โดย ศาสตราจารย์เข็มรัตน์ กองสุข (ศิลปินแห่งชาติ)


จัดแสดงระหว่างวันที่ ๒๕ ตุลาคม – ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo – ๑๘.oo น. เว้นวันอาทิตย์ และวัดหยุดนักขัตฤกษ์ ณ PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ *กำหนดการพิธีเปิด จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง


นิทรรศการ : “มนุษย์ มนุษย์”
ศิลปิน : ศาสตราจารย์เข็มรัตน์ กองสุข (ศิลปินแห่งชาติ)
วันที่ : ๒๕ ตุลาคม – ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๒๑-o๘๒o



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com





บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 27 ตุลาคม 2557
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2557 11:52:24 น. 0 comments
Counter : 2763 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.