Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
19 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

โรคสมาธิสั้นในเด็ก



หลายท่านที่มีบุตรหลานที่กำลังอยู่ในวัยเรียน อาจพบว่าบุตรหลานของท่านมีปัญหาเกี่ยวกับ
โรคสมาธิสั้นในเด็กหรือโรคไฮเปอร์ ขอนำเสนอสาระู้เกี่ยวกับโรคสมาธิสั้นในเด็กดังต่อไปนี้

โรคสมาธิสั้น หรือชื่อทางการแพทย์ว่า Attention Deficit Hyperactivity
Disorder ซึ่งเรียกอย่างย่อว่า ADHD คือ กลุ่มอาการที่เกิดในวัยเด็ก ก่อนอายุ 7 ปี
แล้วก่อให้เกิดผลกระทบต่อพฤติกรรม,อารมณ์,การเรียนรู้ และ การเข้าสังคมกับผู้อื่น
โดยเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะมีอาการสำคัญ 3 รูปแบบ

1.ความบกพร่องของสมาธิ คือ มีความสนใจสั้น เบื่อง่าย วอกแวกง่าย
ทำงานไม่เรียบร้อย ไม่รอบคอบ มักทำงานไม่เสร็จค้างคาไว้เสมอ

2.ความบกพร่องของพฤติกรรม คือ เด็กมักจะนั่งไม่ติดที่ ชอบวิ่ง ปีนป่าย
กระโดดเล่นโลดโผน เสียงดัง อยู่นิ่งไม่ได้ ถ้าให้นั่งนิ่งอยู่กับที่ก็จะหยุกหยิกตลอดเวลา

3.ความบกพร่องในการคิดวางแผน คือ เด็กมักจะหุนหัน วู่วาม ควบคุมตนเองไม่ได้
ยับยั้งตนเองไม่เป็น ใจร้อน มักตอบคำถามก่อนที่ผู้ถามจะถามจบ รอคอยไม่เป็น
ชอบพูดแทรกคนอื่น

เด็กอาจมีอาการทั้ง 3 รูปแบบ หรือมีเพียงรูปแบบใดเพียง 1 หรือ 2 แบบ
ทำให้ขณะที่อยู่ในห้องเรียน เด็กจะสนใจการเรียนไม่นาน เหม่อลอย หรือวอกแวกไปสนใจ
สิ่งนอกห้องเรียน แหย่เพื่อน หรือรบกวนคนอื่นๆในห้องเรียน ไม่ตั้งใจเรียนและผลการเรียน
มักไม่ดีเท่าที่ควร เด็กมักถูกลงโทษจากทั้งคุณครูและผู้ปกครองบ่อยกว่าคนอื่น
และถูกมองว่าเป็นเด็กดื้อ เด็กซน นิสัยไม่ดี

โรคสมาธิสั้นเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมองบางส่วน โดยยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
ในปัจจุบัน คาดว่าเกิดจากสารเคมีในสมองบางชนิดไม่สมดุลทำให้เด็กไม่สามารถควบคุมตัวเอง
ได้ดี แม้เด็กจะพยายามควบคุมตนเองแล้วก็ตาม จากการวิจัยพบว่า เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมัก
ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าความสามารถที่แท้จริงของเด็ก ทั้งการเรียนและมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น
มักมีปัญหาทางจิตใจ คือ มองตนเองเป็นคนไม่ดี ไม่มั่นใจตนเอง รู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ต้อง
การของใคร ๆ และจากการศึกษา พบว่าจำนวน 25% ของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะกลาย
เป็นเด็กเกเร ก้าวร้าว ถ้าไม่ได้รับการรักษาช่วยเหลือก่อน



สำหรับการรักษาโรคสมาธิสั้นนั้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดต้องใช้การรักษาแบบ
ผสมผสานหลายๆด้าน โดยเป้าหมายของการรักษา คือช่วยให้เด็กสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคม
อย่างมีความสุข และลดปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งการรักษาประกอบด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. ผู้ปกครองและครูของเด็กที่เป็นสมาธิสั้น ควรมีความรู้เกี่ยวกับตัวโรค และเทคนิคการปรับ
พฤติกรรม เพื่อช่วยในการจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็ก การประจาน ประณาม
หรือตราหน้าว่าเด็กเป็นเด็กไม่ดีรวมทั้งการลงโทษด้วยความรุนแรง เป็นวิธีการปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมที่ไม่ได้ผล โดยจะทำให้เด็กมีอารมณ์โกรธ หรือแสดงพฤติกรรมต่อต้านและก้าวร้าว
มากขึ้น แต่การชมหรือให้รางวัลเมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่เหมาะสม รวมถึงการควบคุมพฤติกรรม
ที่ไม่เหมาะสม โดยการตัดสิทธิหรืองดกิจกรรมที่เด็กชอบ จะเป็นวิธีการที่ได้ผลดีกว่า

2. เด็กสมาธิสั้นส่วนใหญ่มักมีปัญหาการเรียนร่วมด้วยเนื่องจากไม่สามารถเรียนได้ตาม
ศักยภาพที่มี ดังนั้นควรมีการประสานงานกับครูอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการเรียน และสิ่งแวดล้อม
ในห้องให้เหมาะสมกับเด็กคือ ห้องเรียนต้องค่อนข้างสงบไม่สับสนวุ่นวายและไม่มีสิ่งกระตุ้นมาก
มีระเบียบกำหนดกิจกรรมที่เด็กจะทำอย่างชัดเจน ก็จะช่วยเหลือเด็กสมาธิสั้นให้เรียนได้ดีขึ้น

3. ยาที่ใช้รักษาโรคสมาธิสั้นนั้นเป็นยาที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย และมีประสิทธิภาพ
ในการรักษาสูง ไม่ก่อให้เกิดการง่วงซึม หรือสะสมในร่างกาย ยาจะช่วยให้เด็กมีสมาธิดีขึ้น
ซนน้อยลง ดูสงบขึ้นมีความสามารถในการควบคุมตนเอง ผลที่ตามมาคือ การเรียนอาจดีขึ้น
มีความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือคนรอบข้างดีขึ้นและเด็กจะมีความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า

เมื่อเด็กโตขึ้นผ่านวัยรุ่น ประมาณ 1 ใน 3 ของเด็กสมาธิสั้นมีโอกาสหายจากโรคนี้
สามารถเรียนหนังสือหรือทำงานได้ปกติโดยไม่ต้องรับประทานยา
ส่วนใหญ่ของเด็กสมาธิสั้นยังคงมีความบกพร่องของสมาธิในระดับหนึ่ง แต่สามารถควบคุม
ตนเองได้ดีขึ้น และสามารถปรับตัวและเลือกงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้สมาธิมากนัก
ก็จะประสบความสำเร็จ และดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

แม้แพทย์จะวินิจฉัยลูกว่าเป็นโรคสมาธิสั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกเป็นเด็กไม่ดี
หรือจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่หมายความว่าลูกมีปัญหาในการตั้งสมาธิ
ดังนั้น ความรักและความเข้าใจลูกในสิ่งที่ลูกเป็นและพยายามให้กำลังใจช่วยแก้ไข
ข้อบกพร่องของลูกมีความสำคัญ และมีส่วนช่วยเหลือลูกให้ประสบความสำเร็จได้

ผ.ศ. ดนัย บวรเกียรติกุล
ที่มา : //www.docdek.com


เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
12 วิธี ช่วยจัดการเด็กในสมาธิสั้น สำหรับพ่อแม่





 

Create Date : 19 มกราคม 2552
0 comments
Last Update : 19 มกราคม 2552 18:54:23 น.
Counter : 952 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.