#### รีวิว Cheongdamdong Alice ซีรี่ส์เกาหลี ที่อยากให้ดูกันค่ะ ####



สวัสดีค่าาาาา 










วันนี้จะมารีวิวซีรี่ส์เกาหลีเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราได้ดูเมื่อน้านนานมาแล้ว แต่ดูไม่จบเพราะช่วงนั้นงานเข้าเยอะมาก พอเวลาผ่านไปก็ลืม จนวันหนึ่งดูวันนี้เมื่อปีก่อนๆ ในเฟซบุ๊ค ถึงได้เห็นว่า เอ๊ะ เคยพูดถึงซีรี่ส์เรื่องนี้นี่หว่า (เพราะตอนนั้นก็มีเพื่อนเฟซคนหนึ่งเชียร์ค่ะ) เลยไปตามหาดูจนจบ พอดูแล้วก็อยากมารีวิวเพื่อให้ใครที่ยังไม่ได้ดูได้ลองไปหาดูกันบ้างนะคะ 5555



Cheongdamdong Alice

ผู้กำกับ: Jo Soo Won (조수원), Shin Seung Woo (신승우)
เขียนบทโดย: Kim Ji Woon (김지운), Kim Jin Hee (김진희)

นักแสดง

Moon Geun Young เป็น Han Se Kyung 







Park Shi Hoo เป็น Cha Seung Jo 







So Yi Hyun เป็น Seo Yoon Joo 







Kim Ji Suk เป็น Tommy Hong







เรื่องย่อ


ฮันเซคยง หญิงสาวที่มีผลการเรียนที่ดีเยี่ยมซึ่งมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นดีไซน์เนอร์ ทว่าการที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในต่างประเทศ ทำให้เธอไม่ได้รับการตอบรับ จนกระทั่งบริษัทหนึ่งได้ตอบรับทั้งที่กรรมการให้คะแนนเธอในระดับ D ระหว่างนั้นเอง เธอได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งโดยอุบัติเหตุ เขาบอกว่าเป็นเลขาของผู้บริหารใหญ่คนหนึ่งของแบรนด์ฝรั่งเศส ในระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้ฮันเซคยงตัดสินใจที่จะหาวิธีเข้าสู่สังคมชองดัมดง สังคมชั้นสูงของเกาหลี ทว่า...หนทางมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และเธออาจจะต้องยอมสูญเสียอะไรต่างๆ อีกมากมาย





ความรู้สึกที่ได้ดู


เป็นซีรี่ส์ที่สร้างความรู้สึกทั้ง...

- เศร้าสะเทือนใจ
- ชวนคิดใคร่ครวญ
- อมยิ้มหัวเราะ

เป็นซีรี่ส์เรื่องหนึ่งที่ครบรสชาติจริงๆ ค่ะ และเราอยากให้นักเขียน ไม่ว่าจะนิยายหรือบทละครได้ลองดูเรื่องนี้นะคะ เราว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่มีการเขียนบทสนทนาที่คมคายมากๆ ค่ะ




นางเอกของเราเปิดตัวมา ไม่ใช่หญิงสาวที่ยังไม่มีแฟน เธอมีแฟนแล้ว เพียงแต่ด้วยการที่แม่เขาป่วยหนัก ทำให้เขาต้องตัดสินใจทำบางสิ่งที่ทำให้ชีวิตการทำงานของเขาต้องพังพินาศลง ฮันเซคยงต้องตัดสินใจมอบเงินเก็บสะสมของตนเองเพื่อช่วยคนรักพร้อมกับเขียนจดหมายขอความเห็นใจจากผู้บริหารของอาร์ธีมิส - ชอง เธียร์อิล ชา แต่แล้ว...แฟนของเธอก็ทำในสิ่งที่ทำให้เธอต้องอึ้ง...และนั่นก็คือจุดเริ่มของการที่เธอตัดสินใจที่จะละทิ้งตัวตนเดิมของตัวเอง เพื่อที่จะเข้าสู่สังคมชั้นสูง ชงดัมดง - เหมือนกับอดีตเพื่อนคู่แค้นของเธอ ซอยุนจูให้ได้







เราชอบซีรี่ส์เรื่องนี้ นอกจากการผูกเรื่องได้เข้มข้นแล้วก็คือ การทำให้เรื่องที่เหมือนน้ำเน่าทั่วไป หญิงสาวจากครอบครัวยากจน รักกับชายหนุ่มผู้ร่ำรวย กลายเป็นสิ่งที่มีอะไรให้ครุ่นคิด และคนดูต้องตอบคำถามกับตัวเองว่า...นั่นสิ ทำไมหละ ทำไมทำไม่ได้ และซีรี่ส์เรื่องนี้ก็มักตบหน้าด้วยการพ่นความเป็นจริงใส่หน้าคนดูว่า มันไม่ใช่น้ำเน่าดาดๆ หรอกนะ

อย่างเช่น การที่นางเอกไม่ได้รับการให้เป็นดีไซน์เนอร์ นางเอกคิดแต่ว่า เป็นเพราะตัวเองไม่มีประสบการณ์จากเมืองนอก แต่แล้วเจ้านายเธอก็เป็นคนอธิบายให้เธอฟังอย่างกระจ่างแจ้งว่า ไม่ใช่แค่เรื่องประสบการณ์ต่างประเทศไม่มี แต่การที่ไม่มีประสบการณ์ต่างประเทศ การอยู่แต่ในสังคมแบบที่ฮันเซคยองอยู่นั้นทำให้เธอไม่มี "สายตา" แฟชั่นแบบที่ควรมี และบอกให้เห็นชัดจากการแต่งตัวของเธอ (อ้อ แน่นอนค่ะ จากการที่เธอมีเงินจำกัดด้วยเช่นกัน ที่ทำให้เธอเลือกที่จะแต่งตัวไม่ได้มากนัก)







ซึ่ง...นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นของแบรนด์เนม (ในสายตาพระเอก) แต่ขณะเดียวกัน มันก็ใช่สำหรับสายตาของคนทั่วไปค่ะ เหอๆ





และเมื่อฮันเซคยองตัดสินใจจะทำทุกอย่างเพื่อเข้าสู่สังคมชั้นสูง เธอใช้วิธีแบล็คเมล์เพื่อนคู่แค้นของเธอ เพื่อให้บอกวิธีการที่จะทำให้เธอทำได้เหมือนอย่างยุนจูบ้าง ซึ่งยุนจูก็ยอมโดยมีข้อแม้ว่า เมื่อช่วยแล้วต้องจบ เธอให้ตำรา (สมุดบันทึก) ของตนเองแค่เซคยอง และสอนตั้งแต่การแต่งตัว ที่อาจจะไม่ต้องแพง แบรนด์เนม แต่ที่สำคัญคือ ต้องดูใหม่และทำจากวัสดุดีค่ะ







รวมทั้งการหากระต่ายขาว (หากใครเคยอ่านอลิซในแดนมหัศจรรย์ กระต่ายขาวคือสัตว์ที่พาอลิซเข้าสู่ดินแดนมหัศจรรย์ค่ะ) ซึ่งนั่นก็คือทอมมี่ ฮง นักจับคู่ให้กับชนชั้นสูงนั่นเอง







แล้วในซีนนี้นี่เอง ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็ได้ตบหน้าเราอีกครั้ง เพราะเราเองก็มีความเชื่อเหมือนนางเอกว่า คนเราถ้าพยายามจนถึงที่สุดจริงๆ มันจะต้องสำเร็จ แต่ซีรี่ส์เรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า โลกที่แท้จริงมันไม่ใช่อย่างนั้น (โว้ยยยย) มันไม่ใช่แค่ความพยายามเท่านั้น มันมีอีกหลายปัจจัยมาก การพยายามถึงที่สุดแล้วก็อาจจะไม่ได้ทำให้เราได้สิ่งที่เราหวัง และบางทีการพยายามมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ส่งผลร้ายอย่างไม่คาดคิดก็ได้







นอกจากนั้นก็ยังมีบทพูดที่ทำให้เราเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่คาดคิด เรารังเกียจคนจนที่ตั้งใจจะจับคนรวยเพื่อยกระดับฐานะ แต่นางเอกก็ถามว่า แล้วต่างอะไรกัน ในเมื่อตัวนางเอกก็พยายามเพื่อที่จะให้ตัวเองมีชีิวิตที่ดีขึ้น ขณะที่คนรวยด้วยกันก็ทำเหมือนกัน เพียงแต่เรียกด้วยถ้อยคำสวยๆ ว่า "ต่อยอดทางธุรกิจ" แต่ก็เป็นการต้องการจับคู่กับคนรวยเหมือนกัน เป็นการพยายามและแฝงไปด้วยความเสแสร้งเหมือนกัน...นั่นสิคะ 









อีกประเด็นหนึ่งที่ดูแล้วทำให้เราฉุกคิดก็คือ...มันจริงใช่มั้ย ที่คนรวยเชื่อใน "โชคดี" มากกว่าคนจน ขณะที่ความลับอย่างหนึ่งที่พระเอกอยากรู้นั้น ในบรรดาคนไม่รวยทั้งหมดในเรื่อง (นางเอก เพื่อนนางเอก เลขา) ต่างก็รู้ทั้งหมดว่าใครที่ช่วยเหลือ แต่พระเอกและเพื่อนพระเอกกลับไม่สามารถคาดเดาได้ (คือ มันเป็นเรื่องของข้อจำกัดของมุมมองและวิสัยทัศน์จริงๆ ค่ะ คนรวยมีสายตามองเรื่องต่างๆ อีกแบบ ขณะที่คนธรรมดาทั่วไป ก็จะเห็นอีกแบบ)







นอกจากนั้น...ในเรื่องนี้ก็ยังสะกิดบอกเบาๆ ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ละครแบบที่คุณคิดหรอกนะ เพราะพระเอก (ผู้ช่างแสนใสซื่อเหลือเกิน) ก็อดถามไม่ได้ว่า ปกตินางเอกต้องไม่หวังเงินไม่ใช่เหรอ? (แต่นางเอกของเราไม่ใช่) ซึ่ง...มันดูเรี้ยลเรียลและทำให้เรารู้สึกว่าซีรี่ส์เรื่องนี้นี่เจ๋งดีจัง 555







และยังให้ทอมมี่ ฮอง (ซึ่งมีหลายช็อตมากที่ทำให้เรารู้ว่า ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตกหลุมรักนางเอกเหมือนกัน) บอกกับเราว่า...ชีวิตมันไม่ได้จบอยู่แค่นั้นหรอก มันไม่เหมือนในละครนะโยมมมมม







ตัวละครที่เรารักมากตัวหนึ่งคือ พ่อของนางเอกค่ะ แน่นอนว่าครอบครัวนางเอก สมาชิกบางคนก็ดีใจจนเนื้อเต้นที่พระเอกรวย แต่พ่อของนางเอกก็มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ด้วยเหตุผลที่เราเข้าใจได้ว่า ความสุขของนางเอกต่างหากที่สำคัญจริงๆ ในสายตาพ่อของนางเอก และแม้เมื่อสองคนลงเอยกันแล้ว การที่พ่อพระเอกพยายามให้ครอบครัวนางเอกย้ายไปอยู่ย่านคนรวย ก็ยังเป็นสิ่งที่พ่อนางเอกอิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน






สรุปแล้วเราคิดว่าเป็นซีรี่ส์ดีๆ เรื่องหนึ่งที่อยากให้ดูกันค่ะ พล็อตดี บทพูดและความคิดที่แฝงอยู่ในเรื่องคมคายมาก ส่วนการแสดงนี่ไม่ต้องห่วงค่ะ แสดงดีทุกคน และทุกคนมีความเป็น "มนุษย์" มาก มีดีมีเลว ค่อนข้างมีมิติและความ "กลม" มากค่ะ เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วชอบและประทับใจนะคะ


ท่านใดที่ต้องการหาดู เราไม่แน่ใจว่าแบบถูกลิขสิทธิ์มีจำหน่ายหรือเปล่า แต่เราดูจากลิงก์ที่เพื่อนส่งมาให้ และเซิร์ชหาเอาเพิ่มเนื่องจากบางตอนถูกลบไปแล้วนะคะ





ปฏิทินธรรม




วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 
2561
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447


2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันพุธที่ 4 เมษายน 2561

1. ฟังธรรมพระอาจารย์บุญมี ธัมมรโต วัดป่าศรัทธาถวาย จ.อุดรธานี 

ณ ชมรมพระพุทธศาสนา บริษัท เอไอเอ จำกัด ชั้น 8 อาคาร เอไอทาวเวอร์ ถ.สุรวงค์ 



วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561

1. บำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน การละสังขาร น้อมถวายองค์หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 

ณ วัดอรัญญวิเวก (บ้านปง) จ.เชียงใหม่




วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561

1. พระอาจารย์มานพ อุปสโม ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เขาดินหนองแสง จ.จันทบุรี
แสดงธรรมและนำปฏิบัติกรรมฐาน 

ตั้งแต่เวลา 9.30-13.30 น. พัก 11.00-12.00 น. 
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2



วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts




วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28 และ 29 เมษายน 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร





วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2561
1. พระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) วัดมเหยงคณ์ จ.อยุธยา อบรมปฏิบัติธรรม
ตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.30 น.
ณ ศาลาไตรสิกขา บ้านจิตสบาย พุทธมณฑลสาย 2










ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+6045073=7514769/13169/1639






Vote Hobby Blog  




 

Create Date : 02 เมษายน 2561    
Last Update : 2 เมษายน 2561 8:25:00 น.
Counter : 2898 Pageviews.  

#### รีวิวพระร่วง เดอะมิวสิคัล - ละครเวทีน่าดูเรื่องหนึ่งของปีนี้ค่ะ ####



สวัสดีค่าาา










วันนี้จะพาไปชมละครเวทีแนวมิวสิคัลอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งจะฉายที่โรงละครเมืองไทยรัชดาลัยเธียร์เตอร์ เอสพลานาดรัชดานะคะ นั่นก็คือ พระร่วงเดอะมิวสิคัลนั่นเองงงงง







โดยหากใครอ่านรีวิวนี้สนใจ ก็สามารถจองผ่าน thaiticket ได้ที่ลิงก์นี้นะคะ


ราคาบัตร :
 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 / 1,000 บาท
*ราคาบัตรยังไม่รวมค่าบัตรพลาสติกใบละ 20 บาท


ส่วนโปรโมชั่นก็ตามนี้เลยค่ะ

🎟️ นักเรียน-นักศึกษา (ไม่เกินระดับปริญญาตรี และอายุไม่เกิน ๒๓ ปี)รอบวันพุธ-วันศุกร์ รับส่วนลด ๓๐% รอบวันเสาร์-วันอาทิตย์ รับส่วนลด ๒๐%
🎟️ ผู้สูงอายุ (อายุ ๖๐ ปีขึ้นไป) รับส่วนลด ๓๐% 
🎟️ ซื้อบัตรพร้อมกัน ๔ ใบ จ่ายเพียง ๓ ใบ
🎟️ กด Like & Share โพสต์ใดก็ได้ในเพจ พระร่วง เดอะ มิวสิคัล พร้อมแท็กชวนเพื่อน ๕ คน รับส่วนลด ๒๐% สูงสุด ๔ ใบ
🎟️ ซื้อบัตรราคาเดียวกัน พร้อมกัน ๑๐ ใบขึ้นไป รับส่วนลด ๒๕%

สอบถามรายละเอียดได้ที่จุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร. ๐๒๒๖๒๓๔๕๖ หรือ Facebook “พระร่วง เดอะ มิวสิคัล”


ละครเรื่องนี้จะแสดงตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. - 4 มี.ค. รอบก็ตามนี้เลยนะคะ






หน้าตาบัตรของรอบสื่อนะคะ






สำหรับท่านใดที่นำรถส่วนตัวไป สามารถจอดได้ที่ชั้น 4 นำบัตรจอดรถไปสแกนที่หน้าโรงละคร จอดได้ 5 ชม.เสียค่าจอด 20 บาทนะคะ ชั่วโมงที่ 6 7 ชั่วโมงละ 20 บาทค่ะ


เดินจากอาคารจอดรถมาก็จะเจอโรงละครเลยแหละค่ะ ซึ่งในช่วงของการแสดงละครเรื่องนี้ก็จะมีโปสเตอร์และสแตนด์ของนักแสดงในเรื่องนี้จัดวางอยู่ให้ได้ถ่ายรูปกันนะคะ











สำหรับละครเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่รุ่นเราเคยมีเรื่องราวของท่านในหนังสือภาษาไทยเล่มหนึ่ง (น่าจะมัธยมปลายนะ ถ้าจำไม่ผิด) ที่เล่าเรื่องราวของท่านทั้งเรื่องการส่งน้ำให้กับขอมและเรื่องของขอมดำดิน แต่เรื่องนี้จาระนัยลงรายละเอียดไปเพิ่มเติม และคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบทด้วยนะคะ แต่ถ้าใครอยากอ่านแบบละเอียดๆ ที่หน้างานจะมีการขายของที่ระลึก ซึ่งมีหนังสือพระร่วงนี้จำหน่ายด้วยค่ะ ขายเป็นชุด 2 เล่มราคา 500 บาทเองหละ...ซึ่งแน่นอนว่าเราสอยมาเรียบร้อย 555







โดยละครเพลง เรื่อง “พระร่วง เดอะ มิวสิคัล” มาจากบทพระราชนิพนธ์ละครพูดคำกลอนเรื่อง “พระร่วง” ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มานำเสนอในรูปแบบละครเพลงสมัยใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ในมงคลสมัยเสด็จขึ้นทรงราชย์และฉลองวาระ ๑๐๐ ปีบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ เรื่องเอกแห่งวงวรรณคดี 





สำหรับการเข้าชม จะต้องฝากกล้องไว้ก่อนเข้านะคะ โดยจะมีป้ายสำหรับรับหลังจากการแสดงจบแล้วค่ะ



เครดิต : พระร่วงเดอะมิวสิคัล

นำแสดงโดย ท็อป - จรณ โสรัตน์, อาร์ม - กรกันต์ สุทธิโกเศศ, ปนัดดา เรืองวุฒิ, อาร์ -อาณัตพล ศิริชุมแสง, วิทย์ -พชรพล จั่นเที่ยง, ตี๋ -วิวัศน์ บวรกีรติขจร, ตั้ม - ศรัณย์ แก้วจินดา, หมู - กลศ อัทธเสรี และ โหน่ง วสันต์ อุตตมะโยธิน 




กำกับการแสดงโดย นภาดล กำปั่นทอง

อำนวยการสร้างโดย อนาวิล วิภาสวัสดิ์





เรื่องย่อ

สำหรับเรื่องราวของละครเรื่องนี้ก็จะเริ่มตั้งแต่สมัยพระร่วงยังคงอยู่เมืองละโว้ เพิ่งสูญเสียพระราชบิดาผู้เป็นผู้ปกครองเมืองไป แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงต้องส่งส่วยน้ำให้กับขอมในฐานะที่ตนเองเป็นเมืองขึ้น ทั้งที่ขณะนั้นละโว้เองก็ประสบกับปัญหาภัยแล้ง แต่ด้วยสติปัญญาของพระร่วงก็จัดการแก้ไขปัญหาไป รวมทั้งแก้ปัญหาการส่งน้ำที่กษัตริย์ของขอมต้องการที่จะกึ่งๆ "หาเรื่อง" ได้สำเร็จ แต่ก็เป็นเหตุให้เกิดสงครามขึ้น ซึ่งพระร่วงก็ยังคงหาวิธีแก้ปัญหาให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด จนกระทั่งไปถึงการขึ้นเป็นเจ้าเมืองแห่งสุโขทัยในตอนท้ายเรื่องค่ะ





ความรู้สึกที่ได้ดู


เราได้ดูเรื่องนี้ก่อนที่จะมีการแสดงจริงนะคะ ไปในรอบสื่อค่ะ


ซึ่งก็เปิดตัวด้วยการที่ผู้อำนวยการสร้างออกมาเกริ่น พูดคุยเล็กน้อย จากนั้นก็จะเป็นเสียงบรรยายบอกถึงการนำเอาประเพณีของการแสดงในสมัยร.6 มาใช้ เช่น การเคาะพื้น 3 ครั้งก่อนเริ่มการแสดง รวมทั้งการใช้เพลงสรรเสริญพระบารมี โดยใช้เพลงสรรเสริญเสือป่าหรือสรรเสริญพระบารมีบทพระสุบินของสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เป็นการระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเก๋มากๆ เป็นการเปิดฉากที่ดึงดูดความสนใจคนดูได้ดีมากเลยค่ะ


สำหรับในส่วนของตัวเนื้อละครเรื่องนี้นั้น อันดับแรกเลยนะคะ เป็นละครเวทีที่บอกได้เลยว่ารู้เลยว่าตั้งใจทำและซ้อมกันหนักมากค่ะ เรื่องการแสดงนี่ต้องชมเลยแสดงออกมาได้ดีทุกคน บล็อกกิ้งและไลน์ที่ถูกออกแบบมาอย่างเห็นได้ชัดนี่เป๊ะกันมาก มีจุดหลุดน้อยมากเลยค่ะ ทั้งที่ไลน์และบล็อกกิ้งในแต่ละฉากนี่ เปลี่ยนเยอะมากกกกก แต่ก็ค่อนข้างเป๊ะกันหมดเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉากที่ฝ่ายละโว้เจอกับทหารของขอมรอบแรกด้วย ไลน์นั้นสวยมากกก เก๋มากกกกก แบบพอช็อตนั้นนี่อิชั้นโอ้โหเลยอ้ะ #ยืนปรบมือเลยทีเดียว เอาภาพบางส่วนมาให้ดูค่ะ (ตอนเราดูการแสดงนี่ถ่ายไม่ได้นะคะ อันนี้ภาพจากพีอาร์ที่เชิญไปค่ะ)











นอกจากนั้นจะเห็นว่าจากภาพที่เอามาให้ดู การให้สีแสงของละครเรื่องนี้สวยและสื่อความค่อนข้างดีนะคะ และคิดว่าเป็นความตั้งใจของผู้จัดเลยว่าในฉากเมืองขอม จะมีความทะมึน ขรึม มืดหม่นมากกว่าเมืองละโว้ที่ค่อนข้างใช้แสงสีที่ดูสดใส ร่าเริง ซึ่งแสดงถึงบรรยากาศของแต่ละเมือง (ในเรื่องนี้) ด้วยค่ะ เพราะเมืองขอมนี่ขาดไร้ซึ่งความสามัคคี มีแต่แก่งแย่งชิงดีกัน ขณะที่ชาวละโว้นั้นมีความกลมเกลียวสามัคคีกันค่อนข้างมากนะคะ









นอกจากการแสดง แสง สี บล็อกกิ้งแล้ว ที่เราชอบมากในละครเรื่องนี้คือ การออกแบบเสียงประสานเวลาร้องเพลงแต่ละช่วงค่ะ คือ นอกจากการร้องเดี่ยวแล้ว การร้องแบบองค์รวมนี่มีการออกแบบเสียงได้บาลานซ์ดีมาก เพราะมากๆ เลย มีเสียงแบบครบทุกโทน ถ้านั่งอยู่ตรงกลางแล้วด้วยเนี่ย จะค่อนข้างได้อรรถรส (หรือต้องเรียกว่าอรรถเสียง? ฮา) อย่างค่อนข้างครบถ้วนเลยค่ะ ซึ่งเราโชคดีมาก เพราะได้นั่งจุดที่ค่อนข้างโอเค (ตรงกลางโรง) เลยแหละค่ะ (ต้องขอบคุณน้องตู่ - พีอาร์ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)







นอกจากนั้นในเรื่องของเครื่องแต่งกาย สวยงามมากเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนเป็นเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ แถมขยันเปลี่ยนกันด้วยค่ะ 555 นอกจากนั้นฉากก็สร้างได้ดีค่ะ (มีฉากเมืองละโว้ เมืองขอม สุโขทัย และฉากย่อยๆ เช่น กลางป่า ฉากตอนไปดูระหัดวิดน้ำ ฯลฯ) ในส่วนของการเปลี่ยนฉาก ลื่นไหลดีค่ะ แต่เนื่องจากการแบล็คเอาท์มันไม่มืดสนิทจริงๆ ทำให้เห็นอยู่บ้าง ถ้าแบล็คเอาท์ได้มืดสนิทกว่านี้ จะยิ่งเนียนขึ้นค่ะ







สิ่งที่อยากชมอีกเรื่องคือ เราชอบเรื่องการเล่นดนตรีสดในละครเรื่องนี้มากเลยค่ะ มันทำให้อารมณ์ต่อเนื่อง และรับส่งกับอารมณ์ของการแสดงในแต่ละช็อตได้ดีค่ะ (นั่นหมายความว่าต้องซ้อมกันมาแน่นๆ ด้วยนะคะ ไม่งั้นดนตรีจะรับในบางจุดไม่ได้ขนาดนี้น่ะ) คือ เรียกว่าค่อนข้างประณีตในองค์ประกอบแต่ละอย่างจริงๆ ค่ะ ดูแล้วรู้เลยว่า ตั้งใจและมีความประณีตละเอียดในการสร้างมากๆ







ส่วนเรื่องของสถานที่ เราว่าเป็นโรงละครที่พร้อมมากๆ ในหลายๆ เรื่องนะคะ ความใหญ่โต สำหรับคนดูแล้วที่เห็นชัดคือการวางตำแหน่งของเก้าอี้ที่สลับกัน ซึ่งทำให้หัวคนข้างหน้าไม่บังหละ อันนี้ขอชมเลย เลิศมาก









สำหรับการร้อง ทุกคนไม่น่าห่วงนะคะ มีก็แต่พระร่วงที่แม้ว่าจะไม่แกร่งเรื่องการร้องเท่าคนอื่น แต่ก็ไม่ได้แย่นะคะ (ก็ดูแต่ละคนเอาแล้วกัน นักร้องล้วนๆ อะนะ) เรียกว่าค่อนข้างโอเคเลยค่ะสำหรับมือใหม่ในละครเพลงอย่างท็อปค่ะ







แต่ที่เด่นและเราชอบมากๆ จะมีสองตัวค่ะ คือ นายมั่น ปืนยาว (ซึ่งครั้งก่อนโน้นแสดงโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) และพญาเดโช เสียงร้องดีทั้งคู่ การแสดงดีทั้งคู่เลย ตอนจบที่นักแสดงออกมานี่ เพิ่มเสียงกรี๊ดให้สองคนนี้เป็นพิเศษ 555









ส่วนข้อที่ยังต้องปรับปรุง ก็จะมีเรื่องไฟช่วงหนึ่งที่เป็นไฟหมุนสลับ (มีสองช็อตค่ะ ช็อตตอนร้องเพลงปาฏิหาริย์ที่มีแม่ของพระร่วงอยู่ด้วย) มันทำให้ใบหน้าของนักแสดงมืดและสว่างเป็นช่วงๆ ซึ่งมันทำให้ไม่สอดคล้องกับอารมณ์ของซีนนั้นง่ะ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมช็อตนี้ถึงออกแบบไฟแบบนี้นะคะ แล้วก็ตามประสาละครเวทีนะคะ ยังมีหลุดบ้างบางช่วง ไม่ว่าจะเป็นการเต้น และการยืน จุดยังไม่เป๊ะ แต่เข้าใจได้ ละครเวทีน่ะนะ หลุดแค่นี้ถือว่าน้อยแล้วแล้วค่ะ (เขาซ้อมกันหนักจริงๆ อ้ะ)


นอกจากนั้นที่คงต้องปรับด่วนๆ (ซึ่งเราเองก็แจ้งไปแล้ว เพราะพีอาร์ขอฟีดแบ็คหลังดูเพื่อให้ทางทีมเขานำไปปรับค่ะ) นั่นก็คือ ไมค์ของนักแสดงแต่ละคนมีหลุดหลายช่วงเลย ไมค์ของคนพูดดันไม่ดังซะงั้น ส่วนใหญ่เป็นพวกตัวประกอบเล็กๆ  ดีว่าคนพูดเสียงดังพอควร เลยทำให้แม้ไมค์จะไม่ดัง แต่ ณ ตำแหน่งที่เรานั่งยังฟังออกว่าพูดอะไรอยู่ค่ะ แต่ตำแหน่งอื่นนี่ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ


จังหวะการแสดงบางจังหวะ ดูเงียบนานไปอ้ะ จนลุ้นว่าลืมบทมั้ย? ถ้าเป็นการทิ้งช่วงเพื่อแสดงการครุ่นคิดของตัวละคร ก็รู้สึกค่ะว่านานไป อย่างตอนกษัตริย์ขอมคุยกับพญาเดโชนั่นก็เป็นช็อตหนึ่งค่ะ







นอกจากนั้นละครเพลงเรื่องนี้แสดงตั้งแต่ 19.30-23.00 รวมเวลาพัก เพราะฉะนั้นก็ราวๆ 3 ชั่วโมงครึ่งค่ะ ซึ่งรู้สึกว่านานเกินไปนิดหนึ่ง คือช่วงท้ายนี่เรียกว่าหนืดเลยหละค่ะ คือคนดูจะล้าพอควรด้วย (คนที่ดูรอบค่ำนี่น่าจะกระทบกว่ารอบอื่น) แต่...น่าจะปรับอะไรไม่ได้แล้วหละค่ะในส่วนนี้ แต่มันนานไปนิดหนึ่งค่ะ


นอกจากนั้นไฟตรงวงดนตรี แม้ว่าจะไม่สว่างจ้า สว่างอ่อนๆ แต่มันมีผลอะค่ะ มันทำให้แสงส่งไปบนเวที แล้วรอบที่เราดูนี่เห็นเหมือนใครตั้งโทรศัพท์อยู่ในวงด้วย ซึ่งมันเด่นขึ้นมาเลยค่ะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะรอบสื่อหรือเปล่านะคะ รอบจริงไม่น่าจะมีแหละ




โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นละครเรื่องหนึ่งที่โปรดักชั่นและองค์ประกอบต่างๆ ดีมากนะคะ เรื่องของข้อคิดของเรื่อง สำหรับเราอาจจะไม่ได้กระทบใจมากเท่าโหมโรง กับเรื่องนี้ที่เน้นเรื่องของความสามัคคี การเสียสละของผู้นำ การใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาและการให้อภัยแก่ผู้มุ่งร้ายต่อตนนั้น อาจจะดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รับรู้กันอยู่แล้ว (แต่ไม่ทำ 555) ก็เลยไม่ได้ประทับใจหรือสร้างความฮึกเหิมในส่วนนี้มากนักค่ะ แต่โดยรวมแล้วก็เป็นละครเพลงอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ไปดูกันนะคะ งานดีเลยค่ะ






ป.ล. เรารู้สึกว่า การนำละครเรื่องนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ในประเทศที่แตกความสามัคคีกันอยู่มาก เหมาะสำหรับการแสดงในรัชสมัยนี้ ที่กษัตริย์ผู้ขึ้นครองราชย์นั้น ถูกกดดันไม่แพ้กันกับการที่ร.6 ขึ้นครองราชย์ต่อจาก ร.5 (ตอนน้องคนหนึ่งโพสตที่หน้าเฟซ เรานี่ฉุกคิดเลยนะ มันไม่ง่ายจริงๆ) เรียกว่าเป็นละครที่มาถูกที่ถูกเวลาเรื่องหนึ่งเลยค่ะ


ถ้าใครได้ไปดูก็มาคุยกันนะคะ จะรอค่ะ 





(อย่าลืมเก็บตัวนี้มานะคะ มีรายละเอียดเยอะเลย น่าเก็บสะสมอย่างยิ่งค่ะ)







ปฏิทินธรรม




วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์
2561
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447


2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/




วันอาทิตย์ที่ 11 และ 25 กุมภาพันธ์ 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts





วันศุกร์และเสาร์ที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2561

1. ขอเชิญร่วมงานบุญประจำปี กิจกรรม “เข้าวัด(หอพระ) ตักบาตร ฟังธรรม”ณ หอพระพุทธธรรมทิฐิศาสดา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต.ในโอกาสครบ 1 รอบ 12 ปี การก่อตั้งชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐานแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ .
กำหนดการ
วันศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 17.00 น. ลงทะเบียนผู้ร่วมงาน17.30 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น-นั่งสมาธิ18.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา โดยพระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตโต วัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี (สาขาวัดหนองป่าพงที่ 130)19.30 น. ถาม-ตอบปัญหาธรรม20.00 น. เสร็จพิธี.วันเสาร์ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 256107.00 น. ลงทะเบียนผู้ร่วมงาน07.30 น. ตักบาตรพระเถระกรรมฐาน บริเวณรอบหอพระฯ08.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องกลาง หอพระฯ08.30 น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์10.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา โดยหลวงตาศิริ อินทสิริ วัดถ้ำผาแดงนิมิต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น11.30 น. ถาม-ตอบปัญหาธรรม12.00 น. เสร็จพิธี



วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24 และ 25 กุมภาพันธ์ 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร











ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+5903544=7373240/13102/1619





โหวตงานอดิเรกนะคะ


Vote Hobby Blog  

เครดิตแบนเนอร์โหวต : oranuch_sri




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2561    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2561 8:49:35 น.
Counter : 3276 Pageviews.  

###### ขอบคุณสำหรับทุกคะแนนโหวตค่ะ ######



สวัสดีค่าา




เอนทรี่นี้ถือเป็นเอนทรี่พิเศษ ทำขึ้นมาเพื่อขอบคุณและคุยเรื่องการโหวตของปี 2017 ที่ผ่านมานะคะ นี่ทำแทรกจากเอนทรี่ที่ตั้งใจจะอัพเลยนะนี่ แหะๆ


ก่อนอื่นเอาผลมาแปะก่อน







สำหรับปีนี้เจ้าของบล็อกได้สองรางวัลนะคะ นั่นก็คือ 

ที่ 2 Review Travel Blog
ที่ 3 Review Food Blog

ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนอื่นขอขอบคุณทุกๆ คนที่โหวตให้ด้วยนะคะ เอ้า กราบบบบบบบ





ต่อไปจะเป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว ถ้าทำใครระคายเคืองก็ขออภัยด้วยค่ะ แฮร่.. (คือ เขียนโดยไม่พูดถึงคนอื่น นอกจากตัวเองแล้วนะ แต่เผื่อใครเก็บไปคิดอีก)


เราค่อนข้างเซอร์ไพรซ์นิดๆ กับรางวัล Review Travel Blog ค่ะ ฮาาาา ด้วยความที่ถ้าเทียบปริมาณการเขียนแล้ว Review Travel Blog เรามีจำนวนน้อยกว่า Travel  Blog มาก (เพราะเราไม่ได้มีคนเชิญไปมากนักอะนะ แหะๆ) 



อ้างอิงจากบล็อกสรุปการเขียนบล็อกปีที่แล้วอันนี้






ซึ่งพอได้ปุ๊บก็เลยไปนั่งนับว่าตัวเองเขียน Review Travel ไปกี่บล็อก เมื่อเทียบกับ Travel ก็พบว่า 

Review Travel Blog มี 16 เอนทรี่
Travel Blog มี 46 เอนทรี่

คือ Travel Blog มากกว่า Review Travel Blog เกือบ 3 เท่าอ้ะ 555555
(ย้ำว่า เราเทียบนี่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องได้ Travel นะคะ แต่เทียบจำนวนการเขียนเพื่อจะพูดประเด็นต่อไปให้ดูค่ะ เพราะการได้รางวัลไม่ได้ขึ้นกับปริมาณการเขียนมาก-น้อยในหัวข้อนั้นๆ อย่างเดียวค่ะ) 


ดังนั้นการที่เราได้หมวดนี้ เพราะว่าหมวดนี้ (Review Travel Blog) คนเขียนน้อยมาก เรียกว่าเท่าที่เห็นก็มีคนที่ได้รางวัลสองคนนี่แหละมั้งคะที่เขียนเยอะสุด (ก็เลยทำให้ได้ค่ะ ขนาดเขียนแค่ 16 เอนทรี่ยังได้เลยอ้ะ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะบางปี บางรางวัลเขียนน้อยกว่านี้อีก ยังมีได้รางวัลเลยน่อ) คือ ถ้าไม่ใช่เพราะคนเขียนหมวดนี้น้อย ปีนี้เราน่าจะได้แค่รางวัลเดียวด้วยซ้ำอะนะ






ปัจจัยที่สอง เพราะรางวัลไม่ได้จากการเขียนมากเขียนน้อย แต่มันเกิดจากจำนวนโหวตโดยรวมของทุกเอนทรี่ (ที่มากกว่า 6 โหวตในแต่ละเอนทรี่ ถ้าน้อยกว่านั้นระบบจะไม่นับ) ดังนั้นถ้าเราเขียน 46 เอนทรี่ คนโหวตเอนทรี่ละ 6 ได้คะแนนรวม 276 คะแนน (อันนี้สมมตินะคะ เพราะจริงๆ คนโหวตมากกว่า 6 อยู่แล้ว) แต่ถ้าคนอื่นเขียน 10 เอนทรี่ (น้อยกว่าเราเกือบห้าเท่า) แต่มีคนโหวต 30 คน ก็จะได้เป็น 300 คะแนน ซึ่งเขียนน้อยจึงมีโอกาสได้รางวัล ไม่เกี่ยวกับการเขียนมากกว่าค่ะ มันอยู่ที่คะแนนโหวตล้วนๆ จริงๆ


คือ ที่จริงการสรุปอย่างนี้ ที่จริงค่อนข้างเสี่ยงกับบล็อกแกงค์นะคะ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นคนยิ่งเขียนน้อยลงไปอีก (จากที่ทุกวันนี้ก็น้อยลงไปมากอยู่แล้ว) แหะๆ เพราะเขียนน้อยแต่รอให้คนโหวตเยอะ น่าจะทำให้ได้รางวัลมากกว่าเขียนเยอะๆ ซะอีก (สำหรับคนที่สนใจรางวัลอะนะ) แต่เราแค่อยากชี้ให้เห็นน่ะค่ะว่ามันเป็นไปได้อย่างไรน่ะนะ




อย่างไรก็ตามแต่ เรื่องรางวัล Popular Vote ของบล็อกแกงค์นี่ เราเห็นข้อบกพร่องมาทุกครั้งหละค่ะ แต่เราว่าระบบสองปีที่ผ่านมานี่ดีที่สุดแล้ว ที่ให้โหวตทั้งปี โหวตทุกเอนทรี่ โหวตได้วันละ 10 และซ้ำหมวดได้ เพราะถ้าใช้ระบบการโหวตสมัยก่อน มันจะมีแบบคนมาเขียนแค่สี่เดือนสุดท้ายของปี (สมัยให้โหวตปลายปีอย่างเดียว) แล้วได้รางวัล แล้วก็ไม่เขียนต่อ ก็มีมาแล้ว...หลายคนน่าจะเคยเห็น ทันเห็นกันน่ะนะคะ






แล้วสำหรับเราเอง ย้ำอีกที (ปกติจะไปคุยด้วยคอมเมนท์กับบล็อกเพื่อนๆ มากกว่า) ว่า สำหรับเรา รางวัลที่ได้มา ได้มาก็ดีใจ ไม่ได้มาเราก็ไม่ได้เสียใจนะคะ เพราะหลายปีก่อนหน้านี้ที่เราไม่ได้รางวัลอะไรเลย แต่เราก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ไม่ได้เลิกเขียน ไม่ได้ท้อที่จะเขียน เพราะเราทำบล็อกเพราะสาเหตุอื่น ไม่ใช่เรื่องของการได้รางวัล เราเขียนบล็อกเพราะเราอยากให้มีคนได้ประโยชน์จากบล็อกของเรา ซึ่งการที่เราจะเลิกเขียนบล็อก ก็เป็นเพราะไม่มีคนอ่าน จนรู้สึกว่าการเขียนบล็อกต่อไปมันไม่มีประโยชน์...แบบนั้นมากกว่าค่ะ นางฟ้ามั้ยหละ กร๊ากกกก (โบกคทาไปรอบๆ สิคะป้า)






ในส่วนประเด็นของคนอ่านที่น้อยลง ซึ่งอันนี้เรากำลังพิจารณาอยู่ว่าควรเขียนที่บล็อกแกงค์ต่อไปหรือเปล่า หรือควรปรับการเขียนยังไงดี เพราะคนอ่านแต่ละเอนทรี่น้อยลงมากๆ จริงๆ น้อยจนแบบ....นอกจากเพื่อนบล็อกที่มาเมนท์มาคุยกันบ่อยๆ แล้วนี่...มันยังเหลือคนอ่านสักเท่าไหร่ฟระ (คนที่มาเมนท์ก็ใช่ว่าจะอ่านจริงๆ จังๆ กันทั้งหมด อ่านเมนท์ก็รู้แล้วว่าใครอ่านจริงอ่านไม่จริงอะนะ) อันนี้ทำให้เราท้อมากกว่านะคะ แบบ...เสียเวลาเขียน เอาเวลาที่ควรพักผ่อนมาเขียนนี่ก็เหนื่อยแล้ว ยังไม่มีคนอ่านอี๊กกกกก แล้วจะเขียนเพื่อ? แบบ...ไปเขียนที่อื่นที่คนอ่านเยอะกว่าดีมั้ย อะไรงี้น่ะค่ะ (ย่อหน้านี้เป็นเรื่องการบ่นของป้าล้วนๆ อย่าถือสาป้าเลยค่ะ  ) เราเองเคยเสนอกับบล็อกแกงค์ไปหลายอย่างที่จะทำให้คนอ่านมาอ่านเนื้อหาในบล็อกแกงค์มากขึ้น (ไม่ใช่เฉพาะบล็อกเรานะ) แต่ด้วยแพลตฟอร์มของบล็อกแกงค์เอง ทำให้มันทำอะไรมากไม่ได้ ก็ได้แต่ยอมรับสภาพกันไปแหละค่ะ




อย่างไรก็ตามแต่ เราขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกคะแนนโหวต

ยินดีกับเพื่อนๆ ทุกคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ

และเป็นกำลังใจให้กับคนที่ไม่ได้รางวัลอะไร (จากคนที่ไม่เคยได้รางวัลอะไรอยู่สองสามปีติด ฮาา) เพราะอย่างที่บอกจากที่เขียนมาด้านบนค่ะ คุณไม่ได้รางวัล ไม่ได้หมายความว่าบล็อกคุณไม่ดี คุณเขียนไม่ดี แต่มันขึ้นกับการโหวตล้วนๆ ซึ่ง...เรื่องการโหวตนี้มันมีอีกหลายปัจจัยที่ไม่อยากจะเขียนถึงอะนะ แต่เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ 



เราเองคงเขียนที่นี่ต่อไป...แต่จะอีกนานแค่ไหน...สไตล์การอัพบล็อกจะเปลี่ยนไปไหม...อนาคตจะบอกเองนะคะ แฮร่...



ขอบคุณที่ยังเป็นเพื่อนกันค่ะ 




 

Create Date : 13 มกราคม 2561    
Last Update : 13 มกราคม 2561 9:39:19 น.
Counter : 2898 Pageviews.  

###### สรุปการเขียนบล็อกประจำปี 2660 ######



สวัสดีค่าาา



ใกล้สิ้นปีแล้ว ตามธรรมเนียมของทุกปี เจ้าของบล็อกก็ขออนุญาตสรุปการเขียนบล็อกประจำปี เพื่อเอาไว้ดูเป็นบันทึกของตัวเองนะคะ รวมทั้งหากเพื่อนบล็อกคนไหนที่พลาดอ่านเอนทรี่ไหนไป ก็อาจจะไปอ่านย้อนหลังได้ค่ะ


ก่อนจะไปถึงการสรุปบล็อกทุกเอนทรี่ของปี 2560 ก็ต้องขอบคุณเพื่อนบล็อกทุกๆ คน ทุกๆ คอมเม้นท์ ขอบคุณทุกมิตรภาพที่มีให้กัน บางคนก็เห็นกันตั้งแต่ทำบล็อกใหม่ๆ บางคนก็เห็นกันไม่กี่ครั้งแล้วก็หายไป บางคนก็แวะเวียนมาบ้างแล้วแต่สะดวก และบางคนก็ยังมาหากันอย่างสม่ำเสมอ ปีนี้มีหลายคนเลยที่เข้ามาคุยกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ทำให้ได้เพื่อนใหม่ๆ เยอะเลย ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ค่ะ


ผลการเขียนบล็อกปีนี้ มีเฉลี่ยในกลุ่มหนังสือและหนังเพิ่มขึ้น แต่สถิติก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจค่ะ (ไม่น่าพอใจมาสามปีแล้วเนี่ย แหะๆ) คือ ตั้งใจว่าหนังกับหนังสือ จะอย่างน้อยเดือนละเล่ม...แต่ก็นะคะ หนังนี่แทบไม่มีเวลาไปดูค่ะ หนังสือยังพอได้บ้าง (คือ แค่เวลานอนนี่ก็ยังจัดสรรไม่ค่อยจะได้เลยค่ะ เหอๆ) มาทำได้เยอะหน่อยก็ช่วงเดือนหลังๆ ของปีค่ะ แหะๆ


หลักๆ ปีนี้ก็มีรีวิวเที่ยวพอๆ กับปีที่ผ่านมาทั้งในและต่างประเทศ และรีวิวร้านอาหารนี่ยังมากที่สุดเช่นเคย (จนเต็มกรุ๊ปบล็อกอีกแล้ว 555) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบล็อกกินนอกกรุงนี่ทะลุทะลวงจากปีที่แล้วมาก (จากทริปเชียงใหม่กับจันทบุรีก็สามสิบกว่าเอนทรี่เข้าไปแล้วววว) แล้วก็ด้วยความที่ต้องการเอาที่ดองๆ ไว้ (คือทำเก็บไว้นานแล้ว แต่ไม่ได้อัพ) ออกให้หมด ปีนี้จึงอัพค่อนข้างถี่ แต่หลายอันก็อัพแบบไม่เปิดเมนท์น่ะนะคะ คือ ให้เป็นข้อมูลไว้ในบล็อกมากกว่าน่ะค่ะ  แล้วก็ปีนี้หลังจากที่พยายามยัดรีวิวบางอย่างไปในกลุ่มอื่นอยู่เนืองๆ ท้ายที่สุดก็เลยเปิดกลุ่มบล็อกใหม่นั่นก็คือกลุ่มบล็อกความงามนั่นเองค่าาา 555




สรุปยอดคนอ่านจากตัว counter ที่เพิ่งเอามาติดเมื่อไม่กี่ปีก่อน (หลังจากแฮงก์ไปรอบหนึ่งแล้วเลขรีเซ็ทหมดเลย เหอๆ) ดูได้จากทางขวามือนะคะ กรอบสีน้ำเงินๆ น่ะค่ะ

ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2560 เวลา 8.30 น. ดังนี้นะคะ 
(ตอนนี้บราวเซอร์เราดูไม่ได้เลยค่ะ ขอค้างสถิติไว้ก่อนนะคะ)

จำนวนผู้เข้าชม  (จากปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 2,520,210) เท่ากับ 1 ปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้เข้าชมทั้งสิ้น  คน
จำนวนเพจที่มีคนมาเข้าชม  (จากปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 3,009,178) เท่ากับ 1 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนเพจที่มีคนเข้าชมทั้งสิ้น  เพจ




สรุปยอดคนอ่านจากเคาน์เตอร์ของบล็อกแกงค์เอง (หลังจากแฮงก์ไปหลายรอบเช่นกันแต่เรามียอดเดิมที่เขียนไว้ที่ท้ายบล็อกทุกเอนทรี่เลยเอามาบวกได้นะคะ)

จำนวนผู้เข้าชม 6995644 คน (จากปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 5,457,496 คน) เท่ากับหนึ่งปีที่ผ่านมา มียอดคนเข้าชม 1,538,148 คน 
จำนวนผู้ชมโปรไฟล์ 13028 คน (จากปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 12556 คน)
จำนวนบล็อกที่อัพและเผยแพร่ตั้งแต่ 2548 จนปัจจุบัน 1624 เอนทรี่





มาดูกันค่ะว่าปีนี้มีอะไรยังไงบ้างนะคะ แยกตามกรุ๊ปบล็อกเช่นเคยนะคะ


สรุปการเขียนบล็อกทั้งหมดของปี 2560 จำนวน 261 เอนทรี่




กลุ่มบล็อก เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า (กิน เที่ยว ต่างประเทศ) 
รวมทั้งสิ้น 23 เอนทรี่









กลุ่มบล็อก ไปไหนมา สามวาสองศอก (เที่ยวในประเทศ)
รวมทั้งสิ้น 12 เอนทรี่











กลุ่มบล็อก อยู่สูงให้นอนคว่ำอยู่ต่ำให้นอนหงาย (ที่พักทั้งในและต่างประเทศ)
รวมทั้งสิ้น 27 เอนทรี่










กลุ่มบล็อก ตีฆ้องร้องป่าว (ข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ)
จำนวนทั้งสิ้น 20 เอนทรี่











กลุ่มบล็อก กินในกรุงและกินรอบกรุง (รีวิวร้านอาหารในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) - มักเป็นร้านเล็กๆ หรือร้านแฟรนไชส์ค่ะ
จำนวนทั้งสิ้น 60 เอนทรี่











กลุ่มบล็อก กินนอกกรุง (รีวิวร้านอาหารต่างจังหวัด)
รวมทั้งสิ้น 58 เอนทรี่











กลุ่มบล็อก กินข้าวร้อนนอนตื่นสาย (รีวิวร้านอาหารในประเทศ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด)
รวมทั้งสิ้น 42 เอนทรี่











กลุ่มบล็อก Cinema (รีวิวหนัง)
จำนวนทั้งสิ้น 4 เอนทรี่











กลุ่มบล็อก bookworm (รีวิวหนังสือ)
จำนวนทั้งสิ้น 6 เอนทรี่









บล็อกไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง (ความงามและสุขภาพ) - กลุ่มบล็อกใหม่ เปิดเมื่อกันยา 60
จำนวนทั้งสิ้น 5 เอนทรี่












กลุ่มบล็อก รำพึงรำพัน (จิปาถะ มโนสาเร่)
จำนวนทั้งสิ้น 4 เอนทรี่











ก็อปคำพูดปีที่แล้วมาแปะ...เพราะยังรู้สึกเหมือนเดิมค่ะ (ความจริงคือขี้เกียจ 555) ก็อปมาสองปีแล้ววว ขี้เกียจอย่างแท้ทรู 555555


ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านบล็อกนี้อีกครั้งนะคะ ไม่ว่าจะแสดงตัวหรือไม่ จะคอมเม้นท์หรือไม่ก็ตาม สำหรับเราเองก็คงจะพยายามทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่ไหว เพราะแม้การทำบล็อกจะเหนื่อยและบางทีก็เครียด แต่ในอีกทางเราก็รู้สึกว่าได้ระบาย ได้ทำอะไรที่เรารัก (ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมด้วย..ขนาดนั้นเลยทีเดียว) เป็นการผ่อนคลายไปด้วยอย่างหนึ่งค่ะ 



พบกันปีหน้าฟ้าใหม่ ปีพุทธศักราช 2561 ค่ะ



ท้ายที่สุดนี้ก็ขอคุณอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ช่วยดลบันดาลให้ทุกๆ ท่านมีสุขภาพกายที่แข็งแรง มีหัวใจที่เข้มแข็ง มีสัมมาทิฐิ ไม่เห็นผิดเป็นชอบ เติบโตอย่างมีคุณค่าทั้งต่อตนเองและสังคมรอบข้างนะคะ





ปฏิทินธรรม




วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2561

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันจันทร์ที่ 1 มกราคม
2561
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447




วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2561

1. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/



วันอาทิตย์ที่ 14 และ 28 มกราคม 2561 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2561 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2561 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 27 และ 28 มกราคม 2561 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร











ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+5525948=6995644/13028 /1577




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2560    
Last Update : 30 ธันวาคม 2560 8:46:13 น.
Counter : 2265 Pageviews.  

###### Bloggers Party ณ COCA สาขาสุรวงศ์ สนุกสนานเฮฮาส่งท้ายปี ######



สวัสดีคร้าบบบบบบบบ










วันนี้จะพาไปชิมแอนด์ชมบรรยากาศงานปาร์ตี้ของบล็อกเกอร์ในกลุ่มกันนะคะ กับกลุ่ม All Style Thai Bloggers นั่นเองค่ะ ซึ่งในกลุ่มปัจจุบันมีด้วยกัน 19 คนนะคะ ได้แก่ 

1. ลุงอ้วนกินกะเที่ยว
2. พี่วัฒน์ - ชายกาง
3. พี่ต้น - หญิงใหญ่ใจดี
4. พีท กินกับพีทเที่ยวกับผม
5. ชิ้ง - Ching can cook
6. พี่โด้ - Do is on the way (Reviewnowz)
7. พี่แหม่ม - maamjourney
8. เบนซ์ - Benzreview
9. บุ๊ง - Close to Heaven
10. ชื่น - บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
11. เหมียว - nanareview
12. น้องจ๊ะจ๋า - kittyjaja
13. น้องเบล - FoodZologist
14. พี่คม - อร่อยปักหมุด
15. น้องแบงค์ - bljourney
16. อ้น - OnTable
17. น้องเอ็ม - เอนกายสบายพุง
18. น้ำมนต์ - memonjourney
19. เราเองค่ะ - สาวไกด์ใจซื่อ


แต่วันนั้นมีไม่ได้ไปกันสองคนนะคะ คือ น้องพีท และบุ๊งค่ะ







โดยปาร์ตี้ครั้งนี้ จัดขึ้นโดยการสนับสนุนของโคคานะคะ และสาขาที่เราได้ไปจัดปาร์ตี้กันก็คือ โคคาสาขาสุรวงศ์นั่นเองหละค่าาาา

พิกัดร้านก็ตามนี้เลยนะคะ







โดยในงานนี้ หลังจากหลายคนทราบข่าวว่าทางกลุ่มจะจัดปาร์ตี้กัน ก็มีเสนอของรางวัลสำหรับการจับรางวัลให้นะคะ 

โดยสปอนเซอร์ที่มอบรางวัลสำหรับงานนี้ก็มีดังนี้ค่ะ

1.ร้านโคคา สปอนเซอร์สถานที่ โต๊ะจีน+สุกี้ 15,000 บาท 3 โต๊ะ รวมเครื่องดื่มไม่อั้น มูลค่า 50,000 บาท รางวัลอีก 10,000 บาท รวมเป็น 60,000 บาท

2.เครือโรงแรม Dusit Thani มอบห้องพักและบัตรอาหารรวม 30,000 บาท

3.โรงแรม อัมรา กรุงเทพ สุรวงศ์ บัตรห้องพักและอาหาร 21,600 บาท

4.เครือโรงแรม Hilton บัตรห้องพักและอาหาร 18,000 บาท

5.สายการบิน Bangkok Airways มอบตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่และภูเก็ต 16,000 บาท

6.บริษัท Theoxeny PR เอเจนซี่รายใหญ่ มอบแหวนทองคำ 4 วง รวม 6,800 บาท (CR. พี่คม)

7.โรงแรม มานะไทย ภูเก็ต บัตรห้องพัก 10,000 บาท

8.โรงแรม The Continent กรุงเทพ บัตรห้องพักและอาหาร 11,000 บาท

9.โรงแรม The Landmark Bangkok บัตรอาหาร 18,000 บาท

10.โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ห้องพัก 12,000 บาท

11.เครือโรงแรม Siam@Siam มอบบัตรห้องพักและอาหาร 10,000 บาท

12.เครือโรงแรม Fortune มอบบัตรห้องพักรวม 8,600 บาท

13.Oasis Spa 13,800 บาท (CR.พี่เอิร์ธ)

14.Time Clinic ทองหล่อ 10,000 บาท (CR.พี่เอิร์ธ)

15.โรงแรม Ramada บัตรอาหาร 12,500 บาท

16.โรงแรม U เชียงใหม่ บัตรห้องพัก 7,000 บาท

17.ร้าน Copper บุฟเฟ่ต์ บัตรอาหาร 10,000 บาท

18.โรงแรม Marriott MarQuis บัตรอาหารและสปา 9,200 บาท

19.โรงแรม Centara ลาดพร้าว บัตรอาหาร 7,200 บาท (CR.พีท)

20.โดนัท คริสปี้ ครีม มอบบัตรรับโดนัทฟรี รวม 6,000 บาท

21.โรงแรม Novotel SiamSquare บัตรอาหาร 6,600 บาท

22.ห้องอาหารสีฟ้า บัตรอาหาร 5,000 บาท

23.เครือโรงแรม Movenpick บัตรห้องพักและอาหาร 5,500 บาท

24.โรงแรม ดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ บัตรอาหาร 5,000 บาท

25.ค่ายสิงห์ มอบเบียร์ Snowy 3 โหล รวม 2,200 บาท (CR.พี่แหม่ม)

26. AIS ดูหนัง 3 เดือน 10 รางวัลๆละ 599 บาท รวม 5,990 บาท

27.โรงแรม Grand Hyatt Erawan บัตรอาหาร 4,000 บาท

28.โรงแรมรอยัล ออคิด เชอร์ราตัน บัตรอาหาร 5,000 บาท

29.โรงแรมแรมแบรนดท์ บัตรอาหาร 2,000 บาท

30.โรงแรมอีสตินสาทร บัตรอาหาร 4,000 บาท

31.ห้องอาหารสึโบฮาจิ (เครือ Impact) บัตรอาหาร 2,000 บาท

32.The MarCom Pro มอบบัตรกำนัลห้างเซ็นทรัล 2,000 บาท

รวมมูลค่า 302,482 บาท


ซึ่งทางกลุ่ม All Style Thai Bloggers ก็ขอกราบขอบพระคุณสปอนเซอร์ทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้นะฮ้าบบบบ 





เนื่องจากเราในวันนั้นจะเพิ่งกลับจากทริปเสียมเรียบมา ตามเวลาเดิมบินถึง 17.30 น.ค่ะ แต่ไฟลท์ดีเลย์มาถึงซะหกโมงกว่า เลยตามไปถึงตอนทุ่มกว่าๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นรูปอาหารและหลายๆ รูป จึงขอความอนุเคราะห์ขโมย เอ๊ยยย หยิบยืมมาจากน้องอ้น OntCu หรือ อ้น OnTable นั่นเองนะคะ (กราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้)



ไปถึงก็ถ่ายรูปบรรยากาศห้องด้านล่างก่อนเลยค่ะ ส่วนใหญ่คนที่มาเป็นชาวต่างชาติซะเยอะเลยค่ะ คนไทยก็มีนะคะ แต่จะเป็นแนวครอบครัวมากกว่า









แต่วันนั้นกลุ่มของเราขึ้นไปที่ชั้นสองกันค่ะ ซึ่งจะเป็นห้องๆ ส่วนตัวกันมากกว่าด้านล่างนะคะ


สำหรับโคคา เราเองเคยรีวิวสาขาสยามสแควร์ไปแล้วที่ลิงก์นี้ (คลิกเพื่ออ่าน)

อย่างที่บอกว่า โคคาเองไม่ได้มีดีแค่สุกี้นะคะ แต่หลายๆ สาขา (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุรวงศ์และสยามสแควร์) ก็มีติ่มซำและอาหารจีนด้วยค่ะ อย่างสองสาขาที่เราบอกนี่คือมีเชฟชาวมาเก๊าอิมพอร์ตมาไว้ด้วยเลยนะคะ

ให้ดูหน้าตาอาหารที่เราไปไม่ทัน (อ้าว) แล้วกันนะคะ 555




ซึ่งอาหารที่บริการก่อนหน้าเราไปถึงก็มีดังนี้เลยฮ้าบบบบ


ฮะเก๋าจักรพรรดิ (88 บาท)
ฮะเก๋าของเราเป็นไส้กุ้งแชบ๊วยทะเลทั้งตัว แป้งบางใส ทำโดยเชฟ Import จากฮ่องกง

ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง (88 บาท)
อัดแน่นไปด้วยกุ้งตัวโต เต็มปากเต็มคำ มีความนุ่ม และกลมกล่อม ห่อด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวแผ่นบาง เพิ่มรสชาติด้วยน้ำซอส หวานเค็มกลมกล่อม

ปาท่องโก๋ (55 บาท)
เป็นกุ้งก้ามกรามขนาด 22-25 ตัว/kg. ผสมกับเนื้อหมูบด และเครื่องเทศ 

กุ้งยัดใส้โคคา (128 บาท)
เป็นกุ้งก้ามกรามขนาด 22-25 ตัว/kg. ผสมกับเนื้อหมูบด และเครื่องเทศ รสชาติกลมกล่อม

ไก่ห่อโคคา (68 บาท)
ไก่สดจากเบทาโกร หมักกับเครื่องเทศสูกตรลับนำมาคั่ว และหมักใส่ในถุงกระดาษ และนำไปทอด

นกพิราบฮ่องกงทอด (488 บาท)
เราคัดสรรค์นกพิราบฮ่องกงอย่างดี ขนาดพิเศษ 400-450 กรัม/Kg. ผ่านกรรมวิธีการต้มด้วยเครื่องพะโล้ ทอดจนกรอบ รับประทานพร้อมกับเกลือคั่ว

เกี๊ยวซ่าเจี๊ยน (78 บาท)
เกี๊ยวซ่าเจี๊ยนในกระทะร้อน เพื่อให้ได้แป้งกรอบ หอม อร่อย

หมูหัน L (2,688 บาท)
หมูอายุ 1 เดือนนำมาย่าง จนหนังพองกรอบ เสิร์ฟพร้อมแป้งหมั่นโถว และแตงกวา

บะหมี่ผัดโคคา (168 บาท)
เส้นหมี่ผัดคลุกเคล้ากับวุ้นเส้น ผัดกับซอสสูตรลับของโคคา รสชาติติดปาก


ชุดบาร์บีคิว M หมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง (498 บาท)
หมูแดง : หมูหมักซอสสูตรพิเศษ หมักจนเข้าเนื้อ นุ่ม หวาน หอม อร่อย
หมูกรอบ : หมูกรอบมันน้อย เนื้อคัดพิเศษอย่างดี อบให้กรอบ หอมอร่อย
เป็ดย่าง : หมักด้วยเครื่องเทศนำมาย่างด้วยไฟปานกลาง ให้ได้เนื้อเป็ดที่นุ่ม หนังกรอบ

ขนมปังหน้ากุ้ง (88 บาท)
ขนมปังแผ่นหนาทอดจนกรอบ อัดแน่นด้วยเนื้อกุ้งเต็มแผ่น โรยหน้าด้วยงาเพื่อเพิ่มความหอม

ไก่บ้านแช่เหล้า M (358 บาท)
ไก่บ้านตะนาวศรี ขนาด 1.2-1.4 ตัว/kg. ซึ่งเป็นไก่บ้านแท้ๆ เลี้ยงด้วยสมุนไพร

แมงกะพรุนหมักน้ำมันงา (298 บาท)
แมงกะพรุนชิ้นใหญ่ เคี้ยวกรุบกรอบเต็มๆ คำ คลุกเคล้าเครื่องเทศ อร่อยกลมกล่อม

ขนมผักกาดเจี๋ยนซอส XO (78 บาท)
นำแป้งขนมผักกาดไปทอด ได้ความหวานของหัวไชเท้าที่ผสมอยู่ ทานคู่กับซอส XO รสชาติกลมกล่อม เข้ากันได้ดี

ซี่โครงหมูนึ่ง (68 บาท)
ซี่โครงหมู หมักเครื่องเทศกลมกล่อม นึ่งจนเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่ติดกระดูก รับประทานง่าย

ขาไก่นึ่งเต้าซี่ (68 บาท)
รสชาตกลมกล่อม เนื้อไม่เหนียว รับประทานง่าย หอมกลิ่นเต้าซี่ 

ทาร์ตไข่โปรตุเกส (98 บาท)
ทาร์ตไข่ชิ้นใหญ่ เนื้อสีเหลืองนวล ชั้นพายเรียงตัวสวยงาม หอม หวาน อร่อบ กรุบกรอบ
ข้าวเหนียวห่อใบบัว (78 บาท)
ข้าวเหนียวหอมกลิ่นใบบัว เนื้อแน่น รสชาติถูกปาก แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย

วอแป๋งไส้ครีม (78 บาท)
กรอบนอกนุ่มใน ไส้ครีมหอมหวานละมุนลิ้น ไม่หวานจนเกินไป

ฟันโก๋วแต้จิ๋ว (88 บาท)
ติ่มซำรูปร่างคล้ายฮะเก๋า อัดแน่นด้วยไส้ผัก และกุ้งตัวโต รสชาติกลมกล่อม

โกยซีหมี่ (128 บาท)
เส้นหมี่เหนียวนุ่มกำลังดี ราดด้วยน้ำราดสูตรพิเศษจากโคคา เลือกได้ทั้ง หมู ไก่ กุ้งเห็ดหอมชิ้นโต และหน่อไม้คุณภาพดี





แต่ที่กินทันก็ชอบหลายอันเลยนะคะ อย่างพวกฮะเก๋านี่ยังคงคุณภาพกุ้งบิ๊กเบิ้มเหมือนเดิม หรืออย่างทาร์ตไข่นี่อร่อยมากๆ เหมือนกินที่มาเก๊าเลยค่ะ







แต่ที่ทันคือสิ่งนี้ค่าาา สุกี้ น้ำจิ้มยังอร่อยเด็ดเหมือนเดิม ถ้าไม่ได้กินรสจัดมาก ไม่ต้องเติมพริกเลยค่ะ 


สุกี้ชุดซีฟู้ด (888 บาท)

ชุดสุกี้สุขภาพ รวมมิตรอาหารทะเล อาทิเช่น ถุงเงินถุงทอง(ด้านในเป็นลูกชิ้นกุ้ง) หัวแมงกะพรุน ลูกชิ้นเศรษฐี ปลาสวรรค์ หอยเชลล์ติดไข่ ฟองเต้าหู้ กุ้งกุลาดำ ปลาหมึกกระดอง









วันนั้นสั่งกันมาสองน้ำซุปนะคะ ต้มยำยังอร่อยมากๆ เหมือนเดิม เข้มข้นค่ะ แต่ถ้าชอบกินกับน้ำจิ้ม แนะนำให้ลวกกับฝั่งน้ำซุปธรรมดานะคะ









ซึ่งแน่นอนว่า พอกินสุกี้กันเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือข้าวต้มโคคานั่นเองค่าาา สั่งเพิ่มต่างหากนะคะ ราคา 58 บาท จะได้ข้าว ไข่ ต้นหอม ซีอิ๊วญี่ปุ่นค่ะ ขั้นตอนคือ ถ้าน้ำซุปยังอยู่เยอะให้ตักออกพอเหลือให้ใส่ข้าวได้ขลุกขลิกนะคะ จากนั้นก็ใส่ซีอิ๊ว ไข่ และต้นหอมค่ะ (ต้องดูตามลำดับนะคะ) จากนั้นก็กินได้เลย อร่อยยยยย









ตอนเราไปถึง ก็เป็นสองรางวัลสุดท้ายแล้วค่ะ เราเองให้ลูกของน้องอ้นจับให้ ได้เป็นที่พักของสยามแอทสยามกรุงเทพฯ พร้อมบัตรอาหารสามพันบาท ซันเดย์บรั้นช์โนโวเทล และบัตรอาหารที่แกรนด์ไฮแอทค่ะ











































ก็จบงานปาร์ตี้กันไปด้วยความสนุกสนานอิ่มอร่อยนะคะ 


สุดท้ายนี้ กราบขอบพระคุณสปอนเซอร์ทุกๆ องค์กร ลุงอ้วนกินกะเที่ยว ผู้ใหญ่ใจดี หัวหน้ากลุ่ม และเพื่อนๆ บล็อกเกอร์ทุกท่านด้วยนะคะที่มาร่วมงานกันวันนั้น เอาไว้เจอกันใหม่นะคร้าบบบบบ






ปฏิทินธรรม




วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2560

1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)



วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม
2560
 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 


ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447



2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนณ. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/



วันอาทิตย์ที่ 10 และ 24 ธันวาคม 2560 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts



วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2560 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
1. 19 มีนาคม- ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้


วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2560 (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน

เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์



วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 30 และ 31 ธันวาคม 2560 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)

1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัยร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านตาด

ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑล สาย 3 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร











ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1,469,696+5482715=6952411/13024/1574




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2560    
Last Update : 26 ธันวาคม 2560 14:14:17 น.
Counter : 1803 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.