~* ~* ~* ~* ~* ~* TAG A-Z จาก arcoiris ~* ~* ~* ~* ~* ~*




รับแท็กมาจาก arcoiris







วิธีเล่นแท็กนี้: คงภาษาอังกฤษทุกคำไว้เหมือนเดิม แล้วเปลี่ยนเป็นคำตอบ (ความคิดเห็นเกี่ยวกับคำแต่ละคำ) ของตัวเอง (ว่าแต่ตรูจะรอดม้ายยยยย ภาษาอังกฤษก็เก่งโคตรๆ ซะด้วย ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ เหอๆ)



หมายเหตุ ทุกตัวอักษร A-Z เซิร์ชหาจาก google นะคะ ที่สไตล์เถาไม้เลื้อยทั้งหลายมาจาก //www.pamelabaldwin.com/store/index.php?main_page=index&cPath=1_6 ค่ะ












Available:
Available เอิ่ม..ถ้าเอาเรื่องสะดวกเสมอ ว่างเสมอนี่ เมื่อก่อนเป็นคนปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็นสมัยเด็กๆ นะ ก็จะว่างเสมอแหละ แต่ตอนนี้ไม่แล้วหละ กล้าปฏิเสธคนขึ้นเยอะแล้ว เพราะปรากฏว่า..นิสัยอย่างนั้นทำให้ตัวเองเจ็บปวดไม่น้อย เหอๆ

แต่ถ้าถามสถานภาพอย่างอื่น ไม่ค่ะ แต่งงานแล้ว หุๆ



Age:
เอิ่ม..ขึ้นเลข 3 แล้วฮ่ะ แต่คนชอบเดาว่ายังเป็นเลข 2 ให้ดีใจเล่นอยู่บ่อยๆ อิอิ



Annoyances:
เวลาเจอคนงี่เง่า (แม้ตัวเองจะเป็นในบางที 55+) และคนที่เห็นแก่ตัวมากๆ น่ะ จะรู้สึกว่า..เอ่อ..จะเอาเปรียบคนอื่นไปถึงไหน และอยากกระโดดถีบยอดหน้า แต่ต้องเก็บอาการไว้



Animal:
รักหมามากๆ (ถ้าไม่กัดเรา แหะๆ) ที่จริงเคยตอบในหัวบล็อกดาร์คไซด์ฯ แล้วแต่เอาอีกทีก็ได้ คือ เราไม่ได้รังเกียจหรือกลัวสัตว์ใดๆ ถ้าสัตว์นั้นๆ ไม่มีเชื้อโรคหรือมีพิษ จับได้ รักได้หมด

ที่บ้านตอนนี้มีหมา 3 ตัว ล้วนเป็นหมาที่ไร้เพ็ดดีกรีใดๆ แต่น้องชายหามาให้จากแหล่งต่างๆ และเอามาให้แม่เลี้ยง 555+












Beer:
ถ้าจะกินจริงๆ เราชอบแบบผสมสไปรท์มากกว่า หรือไม่อย่างนั้นก็กินวิสกี้ผสมเหล้าหรือออนเดอะร็อคไปเลย สำหรับเรา เบียร์ขมเกินกว่าจะกินเปล่าๆ ได้อร่อย (ยกเว้นเบียร์อ่อนมากๆ เหมือนน้ำเปล่าอย่างในประเทศจีนเป็นต้น)



Birthday:
วันสงกรานต์ค่ะ



Best Friend:
ตอนนี้ที่นับเป็นเบสท์เฟรนด์ก็มีเพื่อนสมัยมอต้นหนึ่งคน มอปลายหนึ่งคน



Body Part on opposite sex:
เอิ่ม..ถ้าตอบว่า..ถ้าเอาเป็นส่วนของร่างกายเลยนี่ ไม่ค่อยแพ้กับอะไรง่ายๆ นะ แต่ถ้าดู ชอบดูดวงตาก่อนอย่างอื่น แต่ไม่เกี่ยวกับลักษณะหรือรูปร่างของตา

เป็นความรู้สึกที่แสดงออกทางสายตามากกว่าน่ะค่ะ

แต่ถ้าเอาแบบว่า..แพ้คนลักษณะไหน เราแพ้คนฉลาด อ่อนโยนน่ะ แหะๆ



Best feeling in the world:
ได้อยู่กับคนที่รักเราและเรารัก ได้นอนอ่านหนังสือ มีชีวิตที่สงบสุขพร้อมๆ กัน..เอิ่ม..เคยมีเวลานั้นเกิดขึ้นในชีวิตหรือเปล่าหว่า



Best weather:
ชอบเวลาแดดใสๆ แต่อากาศไม่ร้อนมาก (ที่จริงเราทนอากาศร้อนได้ดีกว่าอากาศหนาวนะ)



Been in Love:
เอิ่ม..ตอนนี้ก็ยังอยู่ในสถานะนั้นอยู่นะ ไม่เรียกว่า been มั้ง
อันนี้..ไม่แน่ใจว่าต้องตอบยังไงง่ะ งง แหะๆ



Been on stage:
สมัยยังทำทัวร์อยู่ เป็นหนึ่งในไกด์ที่ต้องขึ้นเวทีตลอด 555+ ไม่เกี่ยวกะหน้าตาเท่าไหร่หรอกนะ คนเค้าไม่ค่อยมีน่ะ กร๊ากกกกก



Believe in Magic:
เชื่อสุดๆ เพียงแต่..ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีมันหรือได้สัมผัสมันค่ะ



Believe in Buddhism:
ก็มีศาสนาพุทธนี่แหละค่ะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ (แม้ว่าจะไม่ได้ทุกขณะจิตก็ตามแต่) ไม่อย่างนั้นอาจจะไม่ได้ยืนอยู่บนโลกนี้ ณ วินาทีนี้แล้ว



Believe in Santa:
เชื่อว่าเคยมีแต่..โลกนี้คงงดงามน้อยลงจนเค้าไม่มาแล้วแหละ



เครดิตภาพจาก //christmas.howstuffworks.com/find-santa-claus.htm













Candy:
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทานเท่าไหร่ แต่ถ้าเอาชอบสุดๆ ก็ซูกัสค่ะ



Color:
สีม่วงออกแดง สีเขียวน้ำทะเล



Chocolate/Vanilla:
ชอบกินทั้งสองรสถ้าเป็นไอศครีม แต่ชอบช็อคชิปมากกว่า



Chinese/Mexican:
อาหารจีนค่ะ ไม่ค่อยได้ลิ้มอาหารเม็กซิกันเท่าไหร่ เลยไม่รู้ว่าถ้าได้กินอะไรของเม็กซิกันที่อร่อยๆ จริงๆ จะเปลี่ยนใจหรือเปล่าน่ะนะ



Cake or pie:
เค้กค่ะ พายชอบอย่างเดียวคือ บลูเบอรี่ชีสพาย



Continent/Country to visit:
ณ ตอนนี้ อยากพาแม่ไปนิวซีแลนด์กะอียิปต์ ก่อนที่แม่จะร่างกายแย่ไปกว่านี้ เพราะแม่ขาไม่ค่อยดีน่ะค่ะ



Cheese:
เมื่อก่อนไม่ชอบเลย แต่เดี๋ยวนี้ชอบกินไปซะละ ไม่ดีเลย เพราะว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คอเลสเตอรอลติดเพดานอยู่ตอนนี้











Day or Night:
ชอบเที่ยวกลางวัน แต่ชอบอยู่คนเดียวตอนกลางคืน (กรุณาอย่าถามว่าเอาสามีไปไว้ไหน 555+)



Dance in the rain:
ชอบมาก เคยทำสมัยเด็ก แต่ตอนโตนี่ไม่สามารถ เขิลลลลลล์



เครดิตภาพจาก //vidal12home.blogspot.com/2008/07/how-to-dance-in-rain.html















Eggs:
เอิ่ม..ไม่ได้ชอบมากนักแฮะ แต่กินได้ทุกอย่างที่เป็นอาหารไข่



Eyes:
ตาโตมาก และมีอาการตาลุกโพลงเป็นระยะๆ จนทำคนรอบข้างตกใจบ่อยๆ บางคนก็บอกว่าตาดุมากๆ ถ้าไม่ยิ้มจะน่ากลัว หุๆ



Ever failed a class?:
เคยสอบเคมีกลางภาคตกตอนมอปลาย ด้วยการทดลองอะไรบางอย่างของตัวเอง (ทดลองในการสอบน่ะ) แต่ก็ได้เกรด 3 มานะ 555+












Fashion:
ไม่ค่อยตามเท่าไหร่ค่ะ เราชอบความ classic มากกว่าน่ะ



Full name:
สาวไกด์ใจซื่อ



First thoughts waking up:
ยังนอนไม่พอเลย



Food:
เป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่เป็นของขวัญให้กับการเกิดเป็นมนุษย์ คือ การได้รับรู้รสอาหาร รู้ว่าเป็นกิเลส แต่ก็ช่างเป็นกิเลสที่ตัดได้ยากเสียนี่กระไร อ๊างงงงงงง











Greatest Fear:
กลัวคนที่รักตายก่อนเรา



Goals:
มีร้านหนังสือเป็นของตนเอง มีชีวิตที่สงบสุข



Get along with your parents?:
ไม่ได้อยู่ด้วย แต่ก็ยังไปหาอย่างสม่ำเสมอแหละนะ (แต่มักโดนแม่งอนที่ไม่ค่อยโทรไปหาแกง่ะ)



Good luck charm:
เครื่องราง..หรือเปล่าน่ะ? ไม่มีอะค่ะ มีแต่พระห้อยคอได้มะ เรียกว่าเป็นเครื่องรางเนาะ เป็นกรมหลวงชุมพรที่แม่ให้มา ก่อนได้องค์นี้มา ห้อยเจ้าคุณนรฯ ที่ได้มาจากเพื่อนสนิทแม่ตอนจบปอตรี ตอนนี้เลยนำท่านเก็บรักษาไว้เฉยๆ












Hair Color:
ดำนะ แต่บางคนบอกว่าผมเราสีน้ำตาลเข้มง่ะ



Height:
152 cm (เตี้ยเนาะ)



Happy:
เวลาได้อ่านหนังสือ ไม่มีเรื่องกังวล หรือได้ท่องเที่ยวไปกับคนที่รู้สึกดีๆ ต่อกัน



Holiday:
ตั้งแต่ย้ายมาทำงานใหม่นี่ วันหยุดเยอะขึ้น (เป็นข้อดีที่ถ่วงข้อเสียในเรื่องเงินเดือนน้อย เหอๆ) วันหยุดก็มีทั้งนอนอ่านหนังสือ หรือไม่ก็กลับบ้าน หรือไม่ก็ไปเที่ยวอะค่ะ



How do you want to die:
แบบสงบๆ หมดห่วง แบบนอนหลับแล้วไปเลย ไม่ทรมานกับสิ่งใดๆ จะดีมาก












Ice Cream:
ชอบช็อคชิปอะค่ะ



Instrument:
เอิ่ม..เครื่องมือไม่ระบุอย่างเหรอ? เอิ่ม..ถ้าเป็นเครื่องดนตรี เคยเล่นกีตาร์ได้ เล่นพวกดีดๆ คล้ายๆ อิเล็คโทนได้ ตีกลองได้ แต่เดี๋ยวนี้ห่างๆ ไปเยอะแล้ว
แต่ถ้าสำหรับเครื่องมือที่ขาดไม่ได้..เอิ่ม..น่าจะเป็นเครื่องเขียนอะค่ะ เป็นคนบ้าเครื่องเขียนในระดับหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้น้อยลงแล้ว แหะๆ













Jewelry:
ไม่ค่อยค่ะ ที่จริงไม่ชอบเลยด้วย จะใช้เวลาออกงานเท่านั้นน่ะ ถ้าเอาชอบจริงๆ เป็นไข่มุก (เรียกว่าเป็นจิวเวลรี่มั้ยเนี่ย) แต่ที่มีอยู่หายไปแล้ว ตอนนี้ก็เลยมีแต่ทองกะเพชร (แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรหรอกนะ)



Job:
ครูค่ะ เป็นไกด์และหัวหน้าทัวร์บ้างถ้าตรงกับวันหยุด













Kids:
รักเด็ก แต่คงไม่มีเป็นของตัวเองแน่ๆ เคยตอบเหตุผลไปแล้วในดาร์คไซด์ฯ อะนะ



Kickboxing or karate:
ไม่ชอบทั้งสองอันเลย กีฬา ชอบว่ายน้ำที่สุด (แต่ไม่ค่อยมีเวลาไปเล่น)



Keep a journal:
เอิ่ม..ไม่แน่ใจว่าหมายถึงบันทึกรายวันแบบไดอารี่หรือหมายถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังเก็บรักษาอยู่
สิ่งพิมพ์ เมื่อก่อนเก็บอะเดย์กับเอนเตอร์เทน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ตามทุกระยะเหมือนก่อน
ส่วนเรื่องบันทึก..พยายามทำอยู่ค่ะ












Longest Car Ride:
ขับได้แต่ยังไม่เป็น ไม่กล้าออกถนนที่มีรถเยอะๆ
เคยขับไกลที่สุดจากท่าเรือเกาะช้างจนมาถึงถ.สุขุมวิทก็ส่งเปลี่ยนมือ



Love:
แม่ คนรัก เพื่อน สัตว์และโลก



Letter:
เมื่อก่อนชอบเขียนมากกกกก จนจบปอตรีก็เลิกไปแล้ว



Laughed so hard you cried:
เอ่อ..อิชั้นโง่..ไม่เข้าใจประโยคนี้ง่ะ
ตีความเรื่องที่หัวเราะและร้องไห้แล้วกันเนาะ
ง่ายพอกันทั้งสองอย่างค่ะ












Milk flavor:
เมื่อก่อนหวาน แต่เดี๋ยวนี้จืด



Movies:
ยังชอบหนังเก่าโคตร It's a wonderful life นะ แต่เรื่องอื่นๆ ที่ชอบก็ยังมีอีกเยอะน่ะ



เครดิตภาพจาก //www.teachwithmovies.org/guides/its-a-wonderful-life.html




Motion sickness?:
มักเป็นกับรถเวลาทางโค้งเยอะๆ มากกว่า แต่เรื่องเรือนี่สู้ตายฮ่ะ



McD's or BK:
ชอบเฟรนช์ฟรายด์ของแม็กมากกกกกง่ะ












Number of Siblings:
มีน้องชายอีกแค่คนเดียว



Number:
จะบอกว่าเยอะมากจะโดนด่ามั้ย เอิ่ม..ชอบ 2 และ 9 ก็ได้














One wish:
อยากให้โลกสงบสุข อยากให้ประเทศไทยสงบสุขเร็วๆ











Perfect Pizza:
ชอบนารายณ์พิซซาเรียค่ะ หุๆ



Pepsi/Coke:
ต่างจังหวัดกินเป๊ปซี่ ถ้าอยู่ในกรุงจะกินโค้ก เพราะสองยี่ห้อนี้ ในตจว.กับในกรุงเทพฯ รสชาติไม่เหมือนกัน











Quail :
ผี เลือด และเข็ม ที่จริงเราเป็นคนอกสั่นขวัญแขวนง่ายนะ เหอๆ












Reason to cry:
เอิ่ม..เราร้องไห้ง่าย ล่าสุดดูคลิปยูทูปของป้าซูซาน บอยล์ยังร้องไห้พรากๆ เลย



Reality T.V.:
ถ้าเอาเรียลิตี้จริงๆ ก็ดู AF แต่ไม่ได้ตามติดเหมือนบางปีแล้ว



Radio Station:
น้อยมากที่จะฟัง ตอนนี้ที่ฟังคือฟังตอนเช้า เพราะคุณซะมีเปิดสินเจริญระหว่างทางที่มาส่งเราทุกวัน



Roll your tongue in a circle?:
ทำได้



เครดิตภาพจาก //madelynbristow.blogspot.com/




Ring size:
จำไม่ได้ง่ะ













Song:
ชอบเพลงฟังสบายๆ ได้ทุกแนวอะค่ะ แต่ขอบอกว่า..หลังๆไม่ค่อยได้เสพเพลงเท่าไหร่เลย



Shoe size:
เบอร์ 5 ส่วนไซส์ที่เป็นเลขสองตัว ไม่รู้ฮ่ะ



Sushi:
ชอบแต่ไม่ถึงกับคลั่งไคล้



Skipped school:
ไม่ค่อยนะ เป็นเด็กดีพอควร เคยครั้งเดียวตอนมอปลาย เนื่องจากเป็นร.ร.ที่ติดกับเขา วันหนึ่งนึกครึ้มชวนกันโดดเรียน ปีนเขาขี้นไปกันซะงั้น เป็นความทรงจำหนึ่งที่ประทับใจสุดๆ



Slept outside:
บ่อยครั้งอยู่นะ ล่าสุดก็ไปนอนฮ่องกงกะมาเก๊ามา ไปทำงานน่ะ



Skinny dipped?: (โป๊ตอนอาบน้ำ?)
เอ่อ..ถ้าแปลอย่างในวงเล็บจริงๆ เอิ่ม..มีใครใส่เสื้อผ้าอาบน้ำด้วยเหรอ



Shower daily?:
โดยปกติ ก็ทุกวันสิ (คำถามนี้ต้องเอาไว้ถามพวกชาติที่มีฤดูหนาวติดลบน่ะนะเหอๆ)



Sing well?:
เอิ่ม..เสียงไม่ดี แต่คิดว่าร้องพอได้นะ คิดว่าน่ะ



In the shower?:
เป็นความรู้สึกที่สบายยยยย หลงรักการได้อยู่ในน้ำน่ะ



Sport:
ชอบว่ายน้ำที่สุด แล้วก็ค่อนข้างเก่งกับทักษะที่เล่นโดยใช้มือ แต่มักจะทำได้ดีเฉพาะครั้งแรกที่หัดเล่น จากนั้นจะห่วยแตกไปเลย 555+



Swear?:
ไม่บ่อย แต่ถ้าทำ ก็จะรักษาคำพูดตัวเองอยู่นะ



Strawberries/Blueberries:
ชอบสตอเบอรี่มากกว่า












Time for bed:
แล้วแต่ช่วง แต่โดยมาก ไม่ต่ำกว่าห้าทุ่มเที่ยงคืนง่ะ












Unpredictable: (สิ่งที่คาดเดาไม่ได้?)
วันตายของมนุษย์แต่ละคน












Vacation spot: (สถานที่พักผ่อน?)
ทุกที่ที่ไม่ใช่ที่ที่พักประจำน่ะ โรงหนัง ห้องสมุด ต่างจังหวัด ต่างประเทศ ทะเล โอ้..ว่าแล้วก็อยากไปเวเคชั่นเฟ้ยยยยยยย




Video games:
ชอบมากแต่ไม่มีเวลาเล่น ไม่ได้เล่นมาหลายปีแล้ว (ลอกคำตอบคนส่งมาเป๊ะๆ เลย)













Weakness:
ค่อนข้างนะ โดยเฉพาะหลังความเสียใจอันใหญ่ยิ่งจากความรักแล้ว อ่อนแอกว่าเดิมเยอะมากกกกก



Which one of your friends acts the most like you:
ไม่ค่อยมีเพื่อนที่มีอะไรเหมือนตัวเองเท่าไหร่ (หรือที่แท้แล้ว เราเองต่างหากที่ประหลาดกว่าคนอื่น..ก็ไม่รู้แฮะ เหอๆ)



Who makes you laugh the most:
ไม่ใช่ who อะดิ หนังสือหรือการ์ตูนหรือหนังตลกๆ อ้ะ



Worst feeling:
เวลาเผลอทำร้ายคนที่เรารัก



Worst Weather?:
พายุเข้าอย่างหนัก ในวันที่ต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน












X-Rays:
ล่าสุดตอนตรวจสุขภาพประจำปี



Ex's:
เอ่อ..ง่า..มันคืออะไร ตรูโง่อีกแล้วววววววว
(ตัวช่วยจากแพนด้า - หมายถึงแฟนเก่า)
อ่า..ตอนนี้แฟนเก่ายังเป็นเพื่อนกันอยู่ทุกคนค่ะ คนหนึ่งยังติดต่อสื่อสารกันเป็นปกติ ส่วนอีกคนหนึ่ง หายไปพักใหญ่ๆ แล้วเนี่ย












Year it is now:
2009 (หรือจะให้ตอบปีฉลูดี อิอิ)



Yellow:
ทำไมนึกถึงมะม่วงสุกหว่า











Zoo animal:
ถ้าเราสามารถถามได้ว่า มีใครอยากอยู่สบายๆ ไม่ต้องหากินเอง มีคนดูแลแต่ต้องแลกกับอิสรภาพก่อนพามันมาอยู่สวนสัตว์ได้ก็ดีสิ

เราว่า..สัตว์บางตัวก็อาจจะเต็มใจก็ได้นะ (หรือเปล่าหว่า?)











ในที่สุดก็เสร็จ (ปาดเหงื่อ) ส่วนเรื่องส่งต่อ ไม่แล้วกันเน้อ มันยาวเกินง่ะ ไม่กล้าส่งให้ใคร แหะๆ







ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

318873/3958/333











 

Create Date : 27 เมษายน 2552    
Last Update : 27 เมษายน 2552 8:15:41 น.
Counter : 2413 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* รายงานความเสียหาย มหกรรมล้มละลาย (ของคนอ่านหนังสือ) แห่งชาติ ~* ~* ~* ~* ~* ~*






ทั้งที่..ตั้งใจว่า..ถ้าทลายกองดองไม่หมดจะไม่ไปงานหนังสือ



ทั้งที่..ตั้งใจว่า..ถ้าทลายกองดองไม่หมด ไปงานหนังสือ ก็ห้ามซื้อหนังสือ






แต่..ทุกความตั้งใจ..ถูกทลายไปด้วยการยั่วยวนของบรรดาหนังสือที่เรียงรายและล้อมวงมาเชิญชวน


"ซื้อฉันสิ"


"เอากลับบ้านหน่อย"


"จะไม่ทำความรู้จักกันหน่อยเหรอ"






และแล้ว...

.

.

.

.


ผลก็ออกมาเยี่ยงนี้











นัดกับชาวบล็อกแกงค์ว่า 11.00 น.เจอกัน เราไปถึงตอน 10.40 น. จึงคิดว่า เดินเล่นซะหน่อยดีกว่า ก็เลยตรงไปบู๊ทสารคดี นึกออกว่า..ยังมีหนังสือจังหวัดต่างๆ ที่ยังไม่ครบ แถมลด 50% อีก (ประเภทเล่มละ 120 เหลือ 60 เล่มละ 140 เหลือ 70 เลยแหละ) เลยกอบโกยมา 8 จังหวัด


จะใช้บัตรเครดิต เค้าบอกต้อง 500 บาทขึ้นไป (แต่ 8 เล่มนั้นมันแค่ 490 บาท) เลยเดินวนหนึ่งรอบว่า จะซื้ออะไรเพิ่มสักเล่มดี ปรากฏว่าได้มาทั้งสารคดีฉบับโทรเลข สิทธารถะของเฮสเส และพระราชวังวังวังเจ้านาย (เอ่อ..ได้ข่าวว่า ขาดแค่ 10 บาท มะใช่เหรอ )


ได้จับเบอร์ 2 เบอร์ ได้สมุดดอกไม้ฯ กับปากกาหนึ่งด้าม (ชีวิตเคยได้อะไรดีๆ กะเค้าบ้างมะ?) พร้อมกับถุงผ้าใบเล็ก (ในฐานะที่ซื้อถึง 800 บาทมั้ง) มา 1 ใบ ถ้าอยากได้ใบใหญ่ต้องซื้อ 1800 อ้ะ


รวมหมดไปกับบู๊ทนี้ 813 บาท







ยัง..ยังไม่รู้ตัว เดินไปเรื่อยๆ กะว่าจะตรงไปบู๊ทพี่แป๊ด แต่ลองเดินเล่นๆ ซะหน่อย อ๊ะ..เห็นบู๊ทเพทแอนด์โฮมไกลๆ เดินไปหน่อยดีกว่า จ๊ากกกกกผ่านบู๊ทเรือนปัญญาเห็นหนังสือสุดโปรดหนึ่งเล่ม ปลาย่าง ขายลดราคาจาก 50 บาทเหลือ 40 บาท นึกๆ ในใจ ยังไม่ได้ให้อะไรเป็นของขวัญปีใหม่เพื่อนบล็อกเลย (เอ่อ..เจ๊..ได้ข่าวว่านี่เดือนมีนาคมแล้ว ช่าง.. จะให้สักอย่าง ) โทร.ถามแพนด้าฯ ว่าใครมาบ้าง แล้วกะประมาณเอา ก็เลยเหมามาซะ 8 เล่ม 320 บาท น้องที่บู๊ทพยายามขายเจ้าชายน้อย เราบอกว่า..มีแล้วน้อง สองเวอร์ชั่นเลย น้องเลยหยิบปิ๊บปี้มาอีก บอกเอาเล่มนี้อีกเล่มสิพี่ 20 บาทเอง เห็นแววตาอ้อนวอนแล้วก็เลยสนับสนุนไปอีกเล่ม


รวมหมดกับบู๊ทนี้ 340 บาท







เดินไปบู๊ทเพทแอนด์โฮมต่อ (ยัง..มันยังไม่รู้ตัว ที่ซื้อนี่ยังไม่มีในลิสต์ที่กะว่าจะซื้อเลยนะ ให้ตายเหอะ) หยิบวินน์ ดิ๊กซี่ สุนัขร้านชำทำเหตุมาหนึ่งเล่ม โดนน้องเชิญชวนเล่มอื่นต่อ แต่มีสติขึ้นมาได้ชั่วครู่ เลยเอาแค่เล่มเดียว


หมดไปกับบู๊ทนี้ 125 บาท







จบจากนั้นก็ 11 โมงฝ่าๆ แล้ว เย้ยยยยย..โทร.หาแพนด้าฯ แพนด้าบอกตำแหน่งของ Auditorium เรียบร้อยก็เดินไปหา เจอเจ้าตัวปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็เลยนั่งรอที่ด้านหลังประดุจนางสนองพระโอษฐ์ (ที่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั่งยิ้มไปยิ้มมา) แพนด้าให้ของฝากจากญี่ปุ่น (น่าร้ากกกกกกก ) นั่งรอ rebel พร้อมกับโทร.หาแมวพันปีเป็นระยะ จนราวๆ เที่ยงกว่าๆ ทุกคนก็ไปประชุมกันที่ Black Canyon หม่ำๆๆๆ พร้อมกับหาทางช่วยปลดปล่อยนกกระจอกที่หลุดเข้ามาในร้านให้ออกไปด้านนอก แต่...ไม่สำเร็จ เลยต้องปล่อยให้มันผจญกรรมของมันต่อไป ได้ของฝากจากอีกหนึ่งแห่งคู่เห่ย น่าร้ากกกกกกกก











หลังเจอกันจนครบถ้วน ประกอบด้วย หมี แอปเปิ้ล รีเบล แมวพันปี สามออ ทินา (พร้อมกับของฝากอันคู่ควรแก่หนอนๆ อย่างพวกเรา ) บุ๊คกะฮอลิค และเราแล้วก็ยกขบวน (อันดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย) ไปยังบู๊ทรหัสคดีตามบัญชาของแมวพันปี ได้มหาสุญญกาลมาหนึ่งเล่ม (อ้อ..รู้สึกว่าระหว่างนั้น (หรือเปล่าหว่า?) ไปพบหน้ากับนักเขียนคนโปรดคุณลวิตร์ที่บู๊ทด้วย อ๊างงงง เขินมากมาย )


หมดไปที่บู๊ทนี้ 180 บาท









จากนั้นก็ตรงไปบู๊ทพี่แป๊ดตามตั้งใจ แต่..ไม่เจอพี่แป๊ดซะงั้น หยิบแพร์โพลิสเล่ม 2 มา Catcher in the Rye (สะกดผิดมั้ยหือม์?) ฉบับแปลใหม่โดยปราบดามาหนึ่งเล่ม สมุดบันทึกเล่มเล็กแบบสอดไส้สีเท่ากัน (ต้องเป็นผู้ที่อยู่ ณ ตรงนั้นด้วยกันจึงจะเข้าใจในประโยคนี้ ) The Meaning of Life มาอีกเล่ม


หมดกับบู๊ทนี้ทั้งหมด 520 บาท









จากนั้นว่าจะไปอะเดย์ หมีบอกให้เลี้ยวไปทางข้างๆ เพลนเนอรี่ แต่ถัดไปสองบู๊ทก็เจอบู๊ทอะเดย์ซะก่อน เป็นบู๊ทเล็ก ก็เลยตรงดิ่งเข้าไป หยิบลอนดอนไดอารี่ 1.1 ต้นไม้ใต้โลก ถั่วงอกหัวไฟ 1 และ 2 (สี่เล่มนี่ผลจากการอ่านหน่อไม้ที่รีวิวไปเมื่อจันทร์ที่ผ่านมาฮ่ะ) สมุดบันทึกนั่งรถไฟไปตู้เย็น และโลกจิต


หมดไปทั้งสิ้นกับบู๊ทนี้ 725 บาท










หลังจากนั้นก็ได้สติขึ้นมา ยุติตัวเองและไปที่บู๊ทมติชน เพื่อไปดูแมวพันปีแจกลายเซ็นกะเพื่อนที่ร่วมแปล "คำพิพากษาของพระเจ้า" อยากอ่านมาก แต่พอรวมเงินแล้ว..เง่อ เกินงบกระจาย (กะว่า..จะยอมเสียสัจจะไม่เกิน 2000 แต่หมดไปตามยอดสรุปข้างล่าง) ก็เลยมิสามารถเสียตังค์เพิ่มได้ (แมวๆ ข้าน้อยสมควรตาย ให้อภัยเราเหอะนะ ) เลยได้แต่เจี๋ยมเจี้ยมนั่งแหมะอยู่กับที่ จนกระทั่งแมวพันปีเสร็จสิ้นภารกิจ

(ที่จริงแวะไปซีเอ็ดที่อยู่ติดกับนายอินทร์เพื่อซื้อหนังสือเที่ยวญี่ปุ่น แต่ปรากฏว่ามันหมด ซึ่งโชคดีมาก เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าเกินงบ เหอๆ ถ้าหนังสือไม่หมด เราจะเกินงบอีกหลายร้อยอยู่)







งานนี้ ได้หนังสือที่ลดราคาไม่เท่าไหร่เอง (เซ็งจิต แผนการเดินงานรอบที่แล้วดีกว่านี้เยอะเลย ดูกองหนังสือลดเป็นหลักประกอบกับโปรโมชั่น แต่งานนี้เสียสติซะเป็นส่วนใหญ่) แถมยังเกินที่ตัวเองกำหนดไว้อีก









รวมแล้ว..งานนี้..ทรัพย์สินสูญหายไปกับหนังสือ 2,703 บาท







มี ใ ค ร อ า ส า เ ลี้ ย ง ดู ผู้ ใ ห ญ่ ที่ ไ ม่ มี เ งิ น กิ น ข้ า ว บ้ า ง มั้ ย ค ะ?












ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านบล็อกนะคะ


310178/3916/329






 

Create Date : 02 เมษายน 2552    
Last Update : 2 เมษายน 2552 8:12:54 น.
Counter : 1243 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* แท็กสอเสือแสนซน หุๆ ~* ~* ~* ~* ~* ~*






สวัสดีค่ะ




คั่นบล็อกมหากาพย์ของการรีวิวท่องเที่ยวฮ่องกง (ใกล้จบแล้วค่ะ แหะๆ) ด้วยบล็อกแท็กอีกแล้วนะคะ ซึ่งคราวนี้ได้รับมาจากพี่แฟนผมตัวดำ ค่ะ แล้วจขบ.ได้ไต่ถามคนที่แท็กมาแล้วว่า ทราบต้นตอหรือไม่ จะได้ให้เครดิต แต่เจ้าตัวก็ไม่ทราบ เพราะงั้นก็ลุยกันเลยแล้วกันนะคะ



กฏ กติกา มีอยู่ว่า


1. ก๊อปปี้คำถามพวกนี้ไปที่โน้ตของคุณ
2. ลบคำตอบของฉันออกไปซะ
3. ใส่คำตอบของคุณเองลงไป
4. หลังจากนั้นจะแท็กเพื่อนกี่คนก็ได้
5. ใช้ตัวพยัญชนะแรกของชื่อคุณในการตอบคำถามต่อไปนี้
6. ต้องตอบเป็นความจริง



อ่า..สอเสือ..น่าจะไม่ยากเท่าไหร่ (มั้งนะ) ลองดูแล้วกันค่ะว่าจะรอดไม่รอด แหะๆ



1. ชื่ออะไร/ สาวไกด์ใจซื่อ

2. คำสี่ตัวอักษร/ สดใส

3. ชื่อผู้ชาย/ สันติ (ดวงสว่าง 555+)

4. ชื่อผู้หญิง/ สิริรัตน์ (เพื่อนที่ทำงาน)

5. อาชีพ/ สูบส้วม กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

6. สี/ ส้มหรือแสด

7. สิ่งที่ใส่ไว้บนร่างกาย/ เสื้อสิคะ หรือจะเอาสิวดี ^^~

8. อาหาร/ สิงโตเชื่อม เย้ยยยยย ไม่ช่ายยยย สับปะรด - ได้มะคะ?

9. ของที่เจอในห้องน้ำ/ เสื่อ (เอาไปปูปิคนิคหรือไงแก) อ่า..สบู่จิ

10. สถานที่/ สถานพยาบาล หรือจะสุขาก็ได้อยู่

11. เหตุผลที่มาสาย/ สู้อยู่กับการจราจร (ก็ไปได้เรื่อยๆ อะนะ)

12. คำที่ตะโกนออกมา/ สุดยอดดดดดดดดด

13. ชื่อหนัง/ สีสันเชนจ์ 555+ ถ้าเอาไม่แถมากก็ สาละวิน ไม่ก็ แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้าอะค่ะ

14. เครื่องดื่ม/ สไปรท์จิ

15. วงดนตรี/ สิบล้อ (มันเคยมีวงนี้นะ มีใครทันหรือเปล่านี่)

16. สัตว์/ เสือ สิงโต

17. ชื่อถนน/ สุทธิสาร

18. รุ่นรถ/ ขอผ่านได้มั้ยเนี่ย..อะไรดีฟระ นึกไม่ออก

19. ชื่อเพลง/ สุขใจ (ของอัสนี-วสันต์ปะ?)

20. คำกริยา/ สูบ สัก เสก





ตัวอักษรไม่ยากเท่าคุณแฟนผมฯ เลยพอทำได้ (ยกเว้นรุ่นรถ ไม่สามารถจริงๆ ง่ะ แหะๆ) แท็กต่อกี่คนก็ได้เหรอ แท็กใครดีหว่าเนี่ย..อ่า..ผู้โชคดี (เหรอ?) มีรายชื่อดังต่อไปนี้ค่ะ (เลือกแต่คนล็อกอินภาษาไทยนะคะนี่)

1.อั๊งอังอา (น่าจะไม่ยากมากมั้งนะ)
2. ตุ๊กตาไขลาน (มามะ อิ๋ม มาเล่นกัน)
3. ลวิตร์ (อยากแท็กนักเขียนคนโปรด 55+)





สามคนพอแระ เก็บคนอื่นไว้ให้คนอื่นเขาแท็กกันบ้างเนาะ







ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะคะ

305433/3896/324







 

Create Date : 19 มีนาคม 2552    
Last Update : 19 มีนาคม 2552 8:01:55 น.
Counter : 1289 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* หนังสือเปลี่ยนชีวิต หากไม่มีเธอ คงไม่ใช่ฉันในวันนี้ ~* ~* ~* ~* ~* ~*









เนื่องด้วยไปอ่านเจอโครงการอัพบล็อกเรื่อง "หนังสือเปลี่ยนชีวิต" ของสามสาว BeCoffee Nikanda และนางสาวดุ่บดั่บ ตามลิงค์นี้ถนนสายนี้..มีมิตรภาพ แล้ว เห็นว่าน่าสนใจก็เลยโดดเข้าร่วมวงกะเขาด้วยคนค่ะ









ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังเด็ก ตัวเองเติบโตมากับกองหนังสือ ซึ่งในกองหนังสือนั้นมีสองแบบ หากเป็นของแม่..จะเป็นนิยายของคุณทมยันตี(และนามปากกาอื่นๆ ของนักเขียนคนเดียวกัน) คุณโสภาค สุวรรณ นิตยสารสกุลไทย นิตยสารขวัญเรือน แต่สำหรับฝ่ายพ่อแล้ว เป็นหนังสือแนวนิยายบู๊ ผจญภัย




สำหรับการอ่าน "ตัวหนังสือ" ออกนั้น คงต้องย้อนไปเมื่อครั้งที่เราเติบโตมากับการไม่เข้าชั้นเรียนอนุบาล (เพราะอนุบาลเรียนอยู่ที่โรงเรียนที่แม่เป็นครูสอนอยู่ ทำให้มีอภิสิทธิ์เหนือเด็กอื่น ) เตร็ดเตร่ไปตามชั้นเรียนของพี่ๆ ชั้นประถม จนทำให้อ่านหนังสือออกตั้งแต่ตัวเองยังไม่เข้าปอหนึ่ง ยังจำได้ว่าตอนก่อนเข้าปอหนึ่ง เราเอาหนังสือของปอหนึ่งมานอนอ่าน เพื่อนแม่มาและไต่ถามว่า "นั่นไอ้เต้ยมันอ่านหนังสือออกแล้วหรือ?" แม่กลับตอบกลับว่า "เปล่าหรอก มันก็ทำท่าอ่านไปอย่างนั้นแหละ " ทั้งที่...เอ่อ..เราอ่านออกแล้วจริงๆ นะ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป





ข้างบนนี้เป็นเพียงบทเกริ่นนำ







ห นั ง สื อ เ ป ลี่ ย น ชี วิ ต



ถ้าจะพูดถึงหัวข้อนี้ เราคงนึกถึงอมตนิยายเรื่องนี้แน่ๆ






ก่อนหน้าจะได้อ่านนิยายเรื่องนี้ เราลองอ่านนิยายของแม่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นของคุณทมยันตีหรือคุณโสภาค แต่ปรากฏว่าด้วยวัยขนาดนั้น เรากลับไม่รู้สึกอิน (เอ่อ..ปอหนึ่งหนะนะ) จนกระทั่งปิดเทอมปอสอง ที่เราเริ่มย้ายมาอยู่กับพ่อทั้งครอบครัว (ก่อนหน้านั้นแม่จะไปอยู่บ้านพักครู และเราก็อยู่ที่นั่นกับแม่) เราก็ค้นพบเพชรพระอุมา และเริ่มได้อ่านมันเป็นครั้งแรก





และนั่น..


คือ "จุดเปลี่ยน" แรกของชีวิต






เพชรพระอุมา ทำให้เราก้าวเข้าไปสู่อีกโลกที่เรียกกันว่า "จินตนาการ" การบรรยายที่ทำให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ความตื่นเต้นที่เกิดจากการผจญภัยไปกับตัวละคร ความรักและมิตรภาพที่เกิดขึ้นในเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นนิยายที่ครบรสชาติจริงๆ และทำให้เราหลงรักโลกของ "หนังสือ" ไปโดยปริยายทันที และทำให้เป็นคนเสพติดการอ่านหนังสือมาจนถึงทุกวันนี้






จากนั้นเราก็ตะลุยอ่านหนังสือเท่าที่เด็กคนหนึ่งพอจะหามาอ่านได้ หาการ์ตูนมาอ่าน ตั้งแต่ นักกี้จอมใจจอมแก่น (ซึ่งหายไปไม่ครบชุดแล้ว เสียดายโคตร) ทัช รัฟ และอื่นๆ ของอาดาจิ มิซึรุ ข้าชื่อโคทาโร่ บลูส์ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ นักรักโลกมายา คำสาปฟาโรห์ ฯลฯ ซึ่งทำให้ทำให้กลายเป็นคนอ่านหนังสือ (การ์ตูน) หลากหลายมาตั้งแต่นั้น ทำให้ตัวเองได้ค้นพบว่า..บางสิ่ง แม้เราอาจจะไม่เคยชอบ อาจไม่เคยคุ้น แต่มันกลับมีสิ่งดีๆ บางอย่างอยู่ รอให้เราได้เรียนรู้และค้นพบมัน








เ ว ล า ผ่ า น





จวบจนมอต้น เราได้ซื้อหนังสือเองเป็นครั้งแรก

แปลก..ที่หนังสือเล่มแรกที่เราเลือกซื้อเอง กลับเป็นหนังสือในเครือศิษย์สะดือ กับ โอ๊ทส์ และทำให้เรารู้จักหนังสือแนวอารมณ์ดีแต่ไม่ไร้สาระเป็นครั้งแรก จากนั้นก็ตามอ่านและทำให้ พิง ลำพระเพลิง กลายเป็นนักเขียนขวัญใจสำหรับเราไปเลย แม้ว่าเล่มหลังๆ พิงจะไม่ได้ออกกับศิษย์สะดืออีกแล้ (เล่มที่ชอบที่สุดของพิง มีพรุ่งนี้ก็สายสะดือ กับยอดมนุษย์สุด...จริต) เสียดายว่า หลังๆ ไม่ได้เห็นงานเขียนของพิงในลักษณะนั้นอีกแล้ว และเล่มเก่าๆ ของพิง เราให้เพื่อนยืมไป แล้วก็ไม่ได้คืนมาอีกเลย
















จวบจนเข้ามหาวิทยาลัย เราเริ่มได้อ่านวรรณกรรมเยาวชนหลายๆ เล่มที่สร้างแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายน้อย ต้นส้มแสนรัก จินตนาการไม่รู้จบ ฯลฯ และนั่น..ทำให้เรากลายเป็นคนที่มาหลงรักวรรณกรรมเยาวชนอย่างหัวปักหัวปำ ค้นพบโลกที่งดงามแต่มีบางสิ่งที่เหมือนยารักษาบาดแผล เป็นอ้อมกอดอันอบอุ่นและสั่งสอนอย่างอ่อนโยน ไม่ใช่เพียงขนมหวานหรือลูกอม แต่เป็นอาหารแสนอร่อยอันอุดมด้วยคุณค่า














และเราก็ได้ค้นพบคำตอบสำหรับบางเรื่องของชีวิตจาก "การเดินทางของส่วนที่หายไป" ซึ่งจนถึงเวลานี้ ก็ยังเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เราอยากให้ใครๆ ได้อ่าน เป็นหนังสือที่ให้คำตอบกับการดำเนินชีวิต ความรัก และมิตรภาพ เป็นหนังสือที่..อยากจะเขียนหนังสือให้ได้อย่างนี้สักเล่มในชีวิต ขอเล่มเดียวเท่านั้น แล้วจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีห่วงอะไรอีกแล้ว (เอ่อ..ขออภัยที่พูดราวตัวเองเป็นไม้ใกล้ฝั่ง แต่ก็นั่นแหละ คนเราไม่ได้ตายตอนแก่กันทุกคนนี่นะ)










การอ่านหนังสือ ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ทั้งที่ยังไม่เคยไปจากสถานที่นั้น ทำให้เรากลายเป็นคนที่พร้อมจะอ่านหนังสือ หาข้อมูลต่างๆ นานา เวลาที่จะต้องเดินทางไปไหนสักครั้ง (ซึ่งสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบอ่านหนังสือแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเหลือแสน) ทำให้เราคิดว่า..เป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งสำหรับคนอ่านหนังสือค่ะ



และจนถึงทุกวันนี้ เรายังคงเดินทางไปกับโลกของการอ่านหนังสือ..บางเล่มทำเราร้องไห้ บางเล่มทำเราได้คิดถึงอดีต คิดถึงความผิดพลาดบางอย่างของชีวิต บางเล่มทำให้ตัวเองได้สติ และใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดบางอย่างได้อย่างไม่ทรมานนัก










โลกหนังสือ..ช่างเป็นโลกที่แสนลี้ลับ (ที่ไม่แพ้..โลกของน้ำตา) และยังมีหนังสืออีกหลายหมื่นเล่มที่รอเราไปทำความรู้จัก

และทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือ..เหมือนกับเราได้ชิม ได้กินอาหารอีกชนิด ซึ่งแน่นอน..สำหรับเราแล้ว มันมีผลต่อความคิด ต่อพฤติกรรมและการกระทำ มีผลต่อการมีลมหายใจต่อไปบนโลกใบนี้









สำหรับเรา การอ่านหนังสือก็เหมือนกับการกินอาหารค่ะ


เพราะฉะนั้น หนังสือทุกเล่มมีผลต่อเราเสมอ เปลี่ยนแปลงชีวิตเราเสมอ
(จะมากหรือน้อย..นั่นก็แล้วแต่)


สำหรับเรา ตรงมากๆ กับสโลแกนนี้

"You are what you read"











วั น นี้ . . คุ ณ อ่ า น ห นั ง สื อ ห รื อ ยั ง ค ะ











เพื่อนร่วมโครงการ "หนังสือเปลี่ยนชีวิต" (คลิกเพื่ออ่านได้เลย)

BeCoffee

นางสาวดุ่บดั่บ

Nikanda

ขอรบกวนทั้งชุดนอน

กะว่าก๋า

นัทธ์

แม่นู๋มี่ (ขออภัยที่ไม่ทำลิงค์นะคะ เพราะกดไปทีไร..เว็บ error ตลอดเลยค่ะ ไม่รู้ทำไม)

ปณาลี

กิ่งไม้ไทย








ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านค่ะ

304470/3892/323





 

Create Date : 16 มีนาคม 2552    
Last Update : 19 มีนาคม 2552 8:00:54 น.
Counter : 1983 Pageviews.  

~* ~* ~* ~* ~* ~* คู่มือทำความเข้าใจสาวไกด์ฯ Dark Side of me ~* ~* ~* ~* ~* ~*





สวัสดีค่ะ





หลังจากมีการเปิดเผยคู่มือทำความเข้าใจตัวผมของคุณแฟนผมตัวดำแล้ว ก็ทำให้ชาวบล็อกเกอร์บางคน เอาไปทำบ้าง ไม่ว่าจะเป็นแพนด้ามหาภัย ThE BooK@HoLiC พี่บลูยอชท์ นางสาวดุ่บดั่บ จนในที่สุดเราก็อดรนทนไม่ไหว ขอเล่นด้วยคน หุๆ





คำเตือน


หากคุณอยากจะเก็บภาพอันสวยงามที่คุณเคยคิดว่าจขบ.เป็นกรุณาอย่าอ่าน แต่ถ้าอยากรู้จักกันอย่างแท้จริง ก็เรียนเชิญเลยค่ะ









คู่มือทำความเข้าใจตัวข้าพเจ้า




1. จขบ.เป็นคนไม่มีระเบียบกับการจัดข้าวจัดของ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเจ้าของจะไม่มีระเบียบในทุกเรื่อง แม้ห้องนอน+บ้าน+โต๊ะทำงานจะรกโคตร แต่อะไรที่ต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน มีกฎระเบียบแน่ชัด จขบ.จะเป็นคนยึดกฎระเบียบมาก และไม่ชอบคนที่ชอบฝืนกฎเพียงเพื่อประโยชน์สุขของตัวเอง (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าสิ่งที่ทำนั้นส่งผลกระทบต่อคนอื่นได้นี่ ยิ่งไม่ชอบหนัก)



2. จขบ.เป็นคนเซ้นสิทีฟมากๆ ซึ่งทำให้ขี้น้อยใจสุดๆ แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากเท่าเดิม (เมื่อก่อนรู้สึกไปหมด ไม่ว่าใครจะทำอะไร พูดอะไรมา ไม่รู้เป็นบ้าอะไร) แต่ยังรู้สึกมากหากคำพูดหรือการกระทำนั้นๆ มาจากคนที่ตัวเองรักหรือแคร์ เพราะงั้น..ถ้าคุณอยู่ในสถานภาพที่ว่า กรุณาระวังคำพูดและการกระทำต่างๆ ด้วย



3. จขบ.ชอบคนด่า+ว่าและพูดตรงๆ ต่อหน้า หากไม่พอใจ สงสัยอะไร พูดกันต่อหน้ามาตรงๆ ถ้าเอาไปพูดลับหลัง แล้วจขบ.มารู้ จงรู้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คุณจะโดนลดสถานภาพความใกล้ชิดลงไปทันที และข้อนี้เป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักสำคัญมากๆ อย่างยิ่งต่อการวางสถานภาพของคุณกับเจ้าของบล็อก



4. เจ้าของบล็อกเป็นคนปากร้าย พูดตรงและหากคำพูดนั้นไปทำร้ายใจใคร ให้บอกมาตรงๆ ซึ่งคุณอาจจะเจอทั้งคำขอโทษ (เพราะไม่ตั้งใจทำร้าย) และคำพูดที่บอกว่า "ก็ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น" (เพราะตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ หึๆ) แต่ถ้าคุณเป็นคนจำพวกหลัง ก็ขอแสดงความยินดีที่คุณเป็นคนในจำนวนไม่กี่คนที่จะเจอเจ้าของบล็อกในโหมดนี้



5. จขบ. (ทำไมพิมพ์ย่อบ้างเต็มบ้างฟระ?) ไม่ชอบการเป็นมือที่สามของใคร ไม่ชอบการเป็นชู้ ไม่นิยมการเป็นกิ๊กและการนอกใจใดๆ ทั้งสิ้น ใครมาคุยในเรื่องนี้ โดนด่าอย่างเดียว อย่ามาบอกว่าหัวใจสำคัญกว่าสมอง อย่ามาบอกว่าความรักยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง (โดยเฉพาะยิ่งใหญ่กว่าศีลธรรมและความเจ็บปวดของคนอื่น) เพราะเจ้าของบล็อกไม่สนับสนุนประเด็นนี้ และไม่เคยคิดจะทำในเรื่องนี้ (ถ้าไม่เสียสติไปเสียก่อน) อ้อๆ ดังนั้นเจ้าของบล็อกจึงไม่ชอบคนเจ้าชู้มากๆ ด้วยค่ะ ไม่ชอบคนที่ล้อเล่นกับความรัก โดยไม่สนใจว่าใครจะเจ็บปวดจากความสนุกของตัวเองบ้าง



6. จขบ.เคยเป็นคนที่กินได้เฉพาะผักดอกกะหล่ำและผักบุ้ง จนถึงทุกวันนี้ที่กินได้ทั้งสะตอ สะเดา และผักนานาชนิด และพบว่ามันดีต่อสุขภาพมากๆ จึงได้ค้นพบว่า คนรอบข้าง (แฟนคนก่อนและสามีปัจจุบัน) ที่กินผักได้อร่อยมีผลอย่างยิ่งต่อทัศนคติในการกินผักของคนเรา เพราะงั้น..ใครที่กินผักไม่ได้มากทั้งหลาย มาเข้าคอร์สกินผักให้อร่อยกันมะ (มามั้ยหมี มามั้ย อิอิ)






7. เจ้าของบล็อกไม่ชอบคนที่ดูถูกคน ไม่ว่าจะดูถูกเรื่องฐานะ รสนิยม ฯลฯ ไม่ชอบคนเห็นแก่ตัว ไม่ชอบคนที่สามารถทำร้ายคนอื่นเพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และหากคุณมีนิสัยอย่างหนึ่งอย่างใดที่กล่าวมา กรุณาทราบว่า นั่นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คุณถูกลดสถานภาพความใกล้ชิดกับจขบ.ได้



8. เจ้าของบล็อกรักหมา (ที่ไม่กัดเจ้าของบล็อกน่ะนะ) รักเด็กที่นิสัยดี แต่ก็ชอบแมวด้วย (แม้จะเคยโดนแมวกัดเพราะทำมันตกใจ) ที่จริงสัตว์ทุกชนิดถ้าไม่มีเชื้อโรคหรือเป็นอันตราย เจ้าของบล็อกสามารถสัมผัส+จับได้หมด ไม่ว่าจะไส้เดือน งู กิ้งกือ ฯลฯ




เพราะงั้นสัตว์ที่มีเชื้อโรคและสามารถบินได้อย่างแมลงสาบจึงทำให้เจ้าของบล็อกกลัวมาก คิดว่าถ้ามันไม่มีเชื้อโรคก็คงไม่กลัวเหมือนกัน แต่นี่มันวิ่งก็เร็ว บินก็ได้ แงงงงง กลัวอ้ะ อย่างหนูก็เหมือนกัน ถ้าเป็นหนูสะอาดๆ เล่นได้ จับได้ แต่ถ้าเป็นหนูตัวใหญ่ หนูบ้าน หนูท่อ เย้ยยยยย..ไปไกลๆ เลย กลัวสุดๆ ค่ะ


แต่แม้เจ้าของบล็อกจะรักเด็ก แต่ก็ไม่ได้คิดจะมีลูก เพราะคิดว่ามีเด็กอีกมากมายที่เกิดมาแล้ว และไม่มีคนดูแล หากจะดูแล ไปดูแลเด็กพวกนี้ดีกว่า ไม่อยากเพิ่มคนที่มาทำลายทรัพยากรบนโลกนี้ให้มากขึ้นอีกคน ด้วยเหตุผลเพียงแค่..อยากมี ให้ครอบครัวสมบูรณ์ ให้ไม่เหงาเวลาแก่ ให้เป็นโซ่ทองคล้องใจ ฯลฯ และไม่อยากให้วันหนึ่งลูกต้องมาถามว่า "แม่ก็รู้ว่าโลกมันแย่ขึ้นทุกวัน แล้วทำไมถึงให้ผม (หรือหนู) เกิดมาเพื่อผจญกับสิ่งเหล่านี้ด้วย?" (เพราะคงตอบลูกไม่ได้แน่ๆ)




9. เจ้าของบล็อกเป็นคนรักความยุติธรรม เพราะงั้น..อย่าคิดว่า การที่คุณเป็นเพื่อนรักของเจ้าของบล็อกแล้วข้าพเจ้าจะเข้าข้างคุณในทุกสิ่ง ถ้าคุณผิด ต่อให้อีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อนเจ้าของบล็อก คุณก็จะได้รับคำตอบว่าคุณผิด ไม่มีการเข้าข้าง (แต่จะพยามยามไม่หักหน้าคุณต่อหน้าคนคนนั้นหรอกนะ) สำหรับเจ้าของบล็อก ถูกว่าไปตามถูก ผิดว่าไปตามผิด


แต่ขณะเดียวกัน หากมีใครมาทำอะไรที่ไม่ถูกต้องกับคนรอบข้างของจขบ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่จขบ.รัก จขบ.จะโมโหโกรธา เป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งกว่าคนที่โดนเอง และแค้นยิ่งกว่าตัวเองโดนทำร้ายเองซะอีก เพราะงั้น..จะทำอะไรกับคนรอบข้างจขบ. กรุณาคิดให้จงหนัก



10. เจ้าของบล็อกชอบคนจริงใจ ไม่ชอบคนเสแสร้ง มีอะไรพูดตรงไปตรงมา แต่ก็ไม่ชอบคน "ถ่อยเป็นเก๋" ประเภทใช้ความจริงใจเป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้อื่น จริงใจได้ ตรงได้ แต่ไม่ใช่เอาไปเป็นข้ออ้างหรือเครื่องมือในการทำร้ายใครต่อใคร แล้วอ้างว่า ก็ฉันตรงน่ะ ก็ฉันจริงใจน่ะ ช่วยไม่ได้ บลาๆๆ



11. เจ้าของบล็อกเป็นคนความจำไม่ค่อยดี มักหลงลืมและสะเพร่าในเรื่องต่างๆ เสมอ ซุ่มซ่ามอยู่บ่อยๆ ของหายเป็นประจำเพราะคุณสมบัติที่กล่าวมา กรุณาทำความเข้าใจว่ามันเป็นนิสัยถาวรไปแล้ว



12. โดยปกติ เจ้าของบล็อกไม่เกลียดใครง่ายๆ และชีวิตหลายปีที่ผ่านมา มีไม่กี่คนในชีวิตที่เจ้าของบล็อกตัดขาดออกจากชีวิต และพยายามไม่เสวนาหรือปฏิสัมพันธ์ใดๆ ด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณได้ทำร้ายจขบ.มาไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง (จำนวนครั้งที่จขบ.จะให้อภัยคุณได้) หรือทำนิสัยที่จขบ.ไม่ชอบ (อย่างที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว) จนจขบ.รู้สึกว่า คุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่คงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ไปมากกว่านี้ ดังนั้นจึงไม่ควรอยู่ในความคิดและความทรงจำของจขบ.อีกต่อไปแล้ว และนั่นแหละ..คือคำว่า "เกลียด" ของจขบ.



13. จขบ.เป็นคนทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันไม่ได้ ทำอะไรได้ทีละอย่างเท่านั้น ผลงานจึงจะออกมาโอเคจนถึงดี หากทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน จขบ.จะเกิดอาการงุนงงทำอะไรไม่ถูกทันที เป็นข้อด้อยอย่างหนึ่งของจขบ.



14. จขบ.เป็นคนมีสมาธิกับบางสิ่งมากๆ เช่นการอ่านหนังสือ หรือการอ่านอะไรสักอย่าง ซึ่งนั่นทำให้เวลาคนเรียก หรือคุยด้วย (ต่อให้เอ่ยชื่อจขบ.ก็ตาม) จขบ.จะไม่ได้ยินเอาซะเลย (ราวกับตกอยู่ในโลกมิติลี้ลับ) เพราะฉะนั้น..หากคุณเจอเหตุการณ์เรียกหรือคุยด้วยแล้วจขบ.เงียบ กรุณาดูว่า จขบ.อยู่ในโหมดดังกล่าวหรือไม่ อย่าได้น้อยใจไปก่อนเลยนะ



15. จขบ.ไม่ใช่คนใจกว้าง ไม่สามารถยอมรับคนทุกประเภทได้ ไม่สามารถเข้าใจการกระทำทุกรูปแบบได้ เพราะฉะนั้น..อย่าคาดหวังในสิ่งที่กล่าวมานี้จากจขบ.



16. จขบ.ไม่ชอบคนขี้แกล้ง ไม่ชอบคนที่ชอบรังแก (ไม่ว่าจะแกล้งหรือรังแกคนหรือสัตว์ก็ตาม) เพราะจขบ.รู้สึกว่า เขาเหล่านี้ เป็นคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น เป็นคนประเภทหนึ่งที่จขบ.จะพยายามอยู่ให้ห่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้



17. จขบ.เป็นคนตอกย้ำซ้ำซากในเรื่องความผิดพลาดและความเจ็บปวดของตัวเอง หากพลาดหรือเจ็บปวดเรื่องอะไรแล้ว ก็มักจะหวนคิดถึงเรื่องนั้นอยู่บ่อยๆ (พยายามแก้อยู่ ซึ่งแก้ได้บ้าง แต่ไม่หมด) หมกมุ่นอยู่นั่นแล้ว บางเรื่องผ่านเป็นสิบปีแล้วก็ยังไม่เคยลืมเลย



18. จขบ.เคยติดกาแฟ แล้วก็เลิกไป หันมาดื่มชาแทน (จนกระทั่งกินกาแฟแล้วใจสั่นน่ะ) จนเปลี่ยนมาเป็นงานนี้ก็กลับมากินกาแฟเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ไม่ได้รักเหมือนเดิมหรอกนะ จนช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจะกลับมากินชาแทนอีกคำรบหนึ่ง ถ้าถามว่า..รักอะไรมากกว่ากัน ณ วันนี้คงตอบว่า ชา ค่ะ



19. นิสัยเสียๆ ของจขบ. ไม่ว่าจะขี้น้อยใจ หงุดหงิด ขี้โมโห จะเพิ่มมากขึ้นในอัตรามากกว่าปกติ เมื่อเป็นช่วงใกล้เสียเลือดในแต่ละเดือน เพราะฉะนั้น..หากจขบ.มีอาการต่างๆ ที่ว่ามา โปรดรู้ไว้เถิดว่า..อาจจะเป็นช่วงนั้นเน้อ



20. จขบ.ชอบทะเลมากกว่าภูเขา ชอบอาหารใต้ อาหารรสจัด กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด (ยกเว้นผลไม้แปลกๆ ในบางประเทศ ซึ่งยังไม่เคยลอง) ก๋วยเตี๋ยวจะปรุงอยู่สองรสคือ เผ็ดกับหวาน แต่ก็ชอบกินของเค็มและเปรี้ยวในบางอย่าง เช่น บ๊วยเค็ม (ยำ) ปลาเค็ม ตะลิงปลิง ฯลฯ ปกติแล้วไม่เรื่องมากเรื่องการกิน (ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ถ้ารู้สึกว่าไม่อร่อย อย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสได้กลืนลงไปในท้อง) แต่มีข้อแม้ว่า ต้องสะอาด เพราะจขบ.ลำไส้มีปัญหา ใครกินอะไรแล้วแค่ปวดท้อง จขบ.จะท้องเสีย แต่ถ้าใครกินอะไรแล้วท้องเสีย จขบ.จะเข้าโรงพยาบาลไปเลย



21. จขบ.เป็นคนแพ้หนังสือ คือ..ต่อให้บางทีไม่มีเงินกินข้าว แต่พอได้เห็นหนังสือบางเล่ม ก็เผลอเอาเงินที่ต้องใช้เรื่องสำคัญไปซื้อหนังสือซะงั้น เพราะงั้น..กรุณาเตือนๆ จขบ.กันบ้างนะจ๊ะ แหะๆ







อ่า..คงรู้จักกันพอสมควรแล้วนะคะ ไม่ได้เรียบเรียงเท่าไหร่นัก นึกอะไรออกก็พิมพ์ๆ เอาอะค่ะ









มีใครอ่านจบแล้วต้องการเปลี่ยนสถานภาพกับจขบ.ให้ลดความใกล้ชิดลงก็แจ้งได้เลยนะคะ..จะจัดให้






ขอบคุณที่มาทำความรู้จักกันค่ะ

299162/3877/319





 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 9:00:01 น.
Counter : 1467 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.