♥++++++++♥ หากไม่กล้าสูญเสียบ้าง จะสูญเสียสิ่งที่สำคัญกว่า?♥++++++++♥
คงเป็นหนังอีกเรื่องที่ขอเขียนถึงด้วย "ความรู้สึก" ล้วนๆ (จึงไม่เลือกเขียนหมวดนี้ในหมวดหนัง แต่เขียนในรำพึงรำพันแทน) ดูหนังเรื่องนี้แล้วนึกถึงหนังเรื่อง The Bridge of Madison County จริงๆ (เพียงแต่ The Bridge นั้นทำให้เราต่อมน้ำตาแตกระหว่างการดูได้มากมายกว่า อาจเป็นเพราะเราเข้าถึงได้มากกว่ากระมัง) กับความรักที่ค้นพบแต่ไม่อาจคว้าไว้ ดูจบแล้วประโยคอย่างหัวข้อบล็อกนั้นลอยขึ้นมาทันที การที่เอนนิสไม่กล้าเพียงพอที่จะเผชิญกับสิ่งที่เค้ากลัว (สังคม การโดนลงโทษฯลฯ) ไม่กล้าที่จะสูญเสียการยอมรับทางสังคม ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเค้าก็ไม่สามารถอยู่กับคนที่เค้ารักได้อีกเลย..ตลอดชีวิต..ใช่มั้ย?แล้วความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเล่า? ทุกคนในเรื่องนี้เจ็บปวดทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเอนนิสไม่รัก..แต่ความรักนั้นไม่มากไปกว่าความกลัวที่จะต้องเผชิญกับอะไรบางอย่างที่เค้าคิดว่าต้องเจอ เค้าไม่ยอมเจ็บปวดจากการต้องต่อสู้กับสังคมที่ไม่ยอมรับ แต่ท้ายที่สุดเค้าต้องเจ็บปวดแบบที่ไม่มีทางเรียกร้องอะไรกลับคืนมาได้เลย เจ็บปวดยิ่งกว่าสิ่งที่เค้ากลัวเสียอีก แล้วแจ็คหละ..การไปหาหนุ่มที่เม็กซิโกคือแค่ความต้องการทางเซ็กส์งั้นหรือ สำหรับเรา- -มันไม่ใช่นะ มันเหมือนเป็นทางออกหลังจากที่แจ็คได้รับความเจ็บปวดมามากมาย จากการที่เค้าคิดว่าจะได้เริ่มต้นอยู่กับคนที่เค้ารัก แต่ท้ายที่สุดคนที่เค้ารักกลับไม่กล้าพอที่จะมายืนอยู่ข้างเขา (ทั้งที่เค้ากล้าที่จะเสี่ยง แต่อย่างว่า เค้ากล้าพอที่จะขี่ม้าพยศ ขณะที่เอนนิสไม่นี่นะ) จะให้เค้าทำอย่างไร เค้าคงต้องทำอะไรเพื่อจะให้ตัวเองเจ็บปวดน้อยลงล่ะมั้ง เมียของเอนนิสเองล่ะ? (ชอบการแสดงของเธอสุดๆ) ความรู้สึกที่เธอมีนั้น..มันเหมือนกับสามีเธอนอกใจกับผู้หญิงอื่นหรือเปล่า ที่เธอเจ็บปวดมากมายนั้นเป็นเพราะ "คนอื่น" ที่ว่านั้นไม่ใช่เพศเดียวกับเธองั้นหรือ? (สำหรับเราตรงข้ามแฮะ อืมม์...) หรือที่เธอเจ็บปวด..ก็เพียงเพราะว่า..ท้ายที่สุดแล้ว...คนที่เธอรักก็ยังไม่กล้าที่จะยอมรับความจริงกับเธอ ยังเลือกที่จะโกหก ไม่ยอมรับ...หรือเปล่า? อั้งลี่ทำหนังเรื่องนี้ได้แบบ..ซึมลึกจริงๆ ดูนิ่งๆ (จนทำให้ใครหลายคนอาจหลับ) คลุมเครือ (หลายเรื่องมาก ทั้งการตายของแจ็ค ความสัมพันธ์ของแจ็คกับชายผู้มีภรรยาพูดมาก (คนเดียวกับที่พ่อแจ็คเล่าให้เอนนิสฟังหรือเปล่า?)ประโยคจบของเอนนิส I swear... ฯลฯ) และทิ้งเรื่องราวและร่องรอยไว้ในสมองและความรู้สึกของคนดูให้ได้คิดต่อ (หรือสำหรับบางคนอาจกลายเป็นความว่างเปล่าที่ไม่อยากคำนึงถึงไปเลยก็ได้) ทำได้ไงเนี่ย? ทำหนังอย่างนี้นี่เสี่ยงต่อการโดนด่าพอๆ กับการชมเลยนะนี่ (ไม่ใช่เรื่องประเด็นที่นำเสนอนะ แต่หมายถึงความก้ำกึ่งเอามากๆ ของหนังที่จะทำให้คนดูประทับใจได้น่ะ ผู้กำกับทำหนังเรื่องนี้ เหมือนการทำอาหารที่คนจะเสพอาหารที่เค้าปรุงได้แล้วรู้สึกว่ามันอร่อย ต้องกินอาหารประเภทนี้เป็นและต้องเป็นคนที่ชอบอาหารประเภทนี้จริงๆ น่ะ ) ฉากที่เรียกน้ำตาของเราได้มากที่สุดคือฉากกอดเสื้อ (ตกลงมันเป็นเสื้อของเอนนิสที่บอกว่าลืมไว้บนเขาแล้วแจ็คเก็บไว้หรือเปล่าคะ? ถ้าเราจำไม่ผิด เสื้อตัวนี้คือเสื้อของเอนนิสน่ะค่ะที่เป็นลายสก็อตสีครีมๆ) คือ..มันเป็นอะไรที่..เฮ้ย..คุณเก็บเสื้อชั้นไว้งั้นเหรอ มัน...บอกไม่ถูกจริงๆ ค่ะ ฉากนี้มันเจ็บปวดมากๆ จริงๆ มันให้ความรู้สึกคล้ายๆ ฉากที่นางเอกเห็นรถของพระเอกติดไฟแดงอยู่ข้างหน้าใน The Bridge of Madison County ค่ะ คือ บาด เจ็บจริงๆ นอกจากฉากนี้แล้วมันเป็นความเศร้าแบบลึกๆ มากกว่าไม่มีฉากที่กระทบความรู้สึกอย่างรุนแรงได้เท่าฉากนี้อีก สรุปแล้ว ดูจบก็ยังนิ่งๆ คิดต่อและถามคำถามกับหนังเรื่องนี้มากมาย แต่สำหรับเรา..หนังเรื่องนี้ถ้าเทียบกับ Crash (เพิ่งดูหนังที่เข้าออสการ์สามเรื่อง อีกเรื่องคือมิวนิค) เราว่า Crash กระทบ ใจมากกว่า (ถ้าเทียบสามเรื่องนี้แล้ว Crash กระทบใจเราที่สุดค่ะ) ประเด็นที่พูดถึงมัน โดน กว่าน่ะนะ แต่ก็ไม่แน่ ออสการ์เอาอะไรแน่ไม่ได้อยู่แล้ว (เหมือนปีที่เช็คสเปียร์อินเลิฟได้นั่นแหละ ผิดคาดสำหรับเรามากๆ) อืมม์...ช่วงนี้เป็นอะไรน้อ..ดูหนังแล้วเหมือนมีกำแพงกั้นตลอดเวลา...เฮ้อ...ขอบคุณที่แวะมาหากันนะคะ สำหรับท่านใดที่แวะมาบ้านสาวไกด์เป็นครั้งแรก (หรือเคยมาแล้วแต่มีหนังสือกับหนังที่อยากแนะนำเพิ่มเติม) เรียนเชิญ ที่นี่ค่ะ
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 11:00:34 น.
Counter : 1239 Pageviews.
★++++++★วั น พิ เ ศ ษ แ ห่ ง ช า ติ★++++++★
สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องมาชวนคิดชวนคุยอีกแล้ว อันเนื่องมาจากจุลสารทีเคปาร์คฉบับล่าสุดมีคอลัมน์หนึ่งที่สะดุดต่อมคิดเป็นอันมาก (อยู่ในคอมลัมน์ Thinking Park) โดยเนื้อหาในคอลัมน์ชวนคุยว่า ในจำนวน ๓๖๕ วันของปี มีวันหยุดเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ ถ้าเราเลือกกำหนดได้ให้มีวันหยุดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน เพื่อนๆ อยากให้วันนั้นเป็นวันหยุดเนื่องในโอกาสอะไรกันบ้าง สำหรับความเห็น ก็มีด้วยกัน ๗ ความเห็นดังนี้จ้าปัณณวิช ปานเจริญ อยากให้เป็น วันผู้ใหญ่ ครับ เพราะว่าเรามีวันเด็กกันแล้ว ถ้าวันเด็กคือวันที่ผู้ใหญ่พาเด็กไปเที่ยวในที่ต่างๆ ที่เด็กสนใจ วันผู้ใหญ่ก็จะเป็นวันที่พ่อแม่พาลูกไปดูที่ทำงานของตัวเองว่าทำงานอะไรบ้าง เด็กๆ จะได้เข้าใจว่าพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ต้องทำงานเหนื่อยแค่ไหนกว่าที่จะเลี้ยงดูพวกเราได้โตกันขนาดนี้ชัชนิตย์ อารีฟ สภาพแวดล้อมรอบตัวเราทุกวันนี้มีแต่มลพิษ พื้นที่สีเขียวก็มีน้อยเกินไป อยากให้มีวันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ค่ะ เป็นวันที่ทุกคนต้องหยุดไปช่วยกันรักษาความสะอาดกันทั้งเมือง เก็บขยะ ปลูกต้นไม้ รณรงค์ให้เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมและช่วยกันอนุรักษ์ด้วยค่ะอัญมณี ขันแก้ว หยุดเนื่องในวันเพื่อนแห่งชาติ ค่ะ เราจะได้มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนเยอะๆ ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ กับเพื่อนกลุ่มใหญ่แล้วสนุกดีค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะมีเวลาไม่ค่อยตรงกันเลย อยากมีวันนี้เป็นการบังคับทางอ้อมว่าต้องไปด้วยกันทั้งหมดนะณัฐสิมา บุญหวาน วันนอนหลับแห่งชาติ ค่ะ อยากให้มีวันนึงที่ไม่มีใครออกจากบ้าน ไม่มีใครทำอะไรเพราะทุกคนนอนหลับกันหมด บ้านเมืองเราอาจจะเงียบสงบกันหนึ่งวันเต็มๆ แล้วทุกคนก็ได้นอนกันอย่างเต็มอิ่ม ไม่ต้องมานั่งหาวหรือแอบหลับในห้องเรียนให้อาจารย์หงุดหงิดอีกต่อไปมาลินี ปลั่งดี (ของคนนี้เราชอบมากกกกกกค่ะ อิอิ ) อยากให้เป็นวันอ่านหนังสือแห่งชาติ ทุกคนจะได้มีเวลาในวันหยุดนี้สำหรับอ่านหนังสือ โดยไม่จำกัดว่าจะอ่านหนังสือแบบไหน หนังสือการ์ตูนหรือนิตยสารอะไรก็ได้ ขอให้เป็นหนังสือ จะได้แก้ปัญหาเวลาที่เราชอบอ้างกันว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือกันเสียทีนวพรรณ คีรีมา วันสวนสนุกแห่งชาติ ให้ทุกคนได้เข้าสวนสนุกฟรี ในวัดต่างๆ ก็ให้มีจัดงานวัดเป็นแฟร์เล็กๆ มีม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ ให้ทุกคนได้เล่นโดยไม่เสียเงิน เพราะรัฐบาลจะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ แล้วให้คนที่มีชื่อเสียงแต่งตัวเป็นมาสคอตหรือตัวการ์ตูนต่างๆ และที่สำคัญ ต้องมีคำขวัญวันสวนสนุกแห่งชาติเหมือนวันเด็กด้วยชฎาพร ทองสิมา วันหยุดสำหรับเทคโนโลยีต่างๆ ค่ะ เพราะเทคโนโลยีปัจจุบันมีเยอะมากและเราไม่มีเวลาที่จะเรียนรู้กับมันเท่าที่ควร หรือบางครั้งคุณตาคุณยายก็ใช้เทคโนโลยีสมัยนีไม่เป็น จะได้มีเวลาสอนคุณตาคุณยายให้ใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างง่ายๆ ค่ะ ก็เลยมาถามตัวเองว่าแล้วตัวเองอยากให้มีวันไหนอีกบ้างนอกเหนือจากความเห็นข้างบนแล้ว ก็มี วันภาพยนตร์แห่งชาติ ค่ะ ก็เป็นการนำหนังสมัยแรกๆ ของไทย-เทศ มีประวัติจัดเป็นนิทรรศการ นำหนังของทุกชาติทุกภาษาให้ได้ดูฟรีโดยความร่วมมือของโรงหนังต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร เป็นวันหยุดที่ให้ทุกคนออกมาดูหนัง มีกิจกรรมต่างๆ เช่นฉายหนังสั้น ฯลฯ หรือไม่ก็ วันศิลปะแห่งชาติ คือรวมหมดทั้งหนังสือ หนัง ดนตรี เป็นวันหยุดแล้วแต่ละจังหวัดก็จะมีการจัดเทศกาล (คล้ายๆ แฟตเฟสฯ) ให้ประชาชนแต่ละจังหวัดได้เลือกเข้าไปเสพงานต่างๆ อีกอันก็ วันทำความดีแห่งชาติ วันนี้ให้ทุกคนต้องทำความดีคนละ ๑ อย่าง (เหมือนทุกคนต้องไปเลือกตั้ง) จะเป็นความดีรูปแบบใดๆ ก็ได้ มีการรณรงค์อย่างเป็นรูปธรรม มีการให้รางวี่รางวัลด้วยก็ได้ ฯลฯ เท่าที่นึกออกตอนนี้มีแค่นี้ค่ะแล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ? อยากให้มีวันอะไรเป็นวันหยุดแห่งชาติอีกบ้าง และทำอะไรกันบ้างดีในวันนั้นๆ คะ? มาคิด-มาคุยกันเนาะขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะประก๊าศ ประกาศ เจ้าของบล็อกไม่อยู่ตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงวันจันทร์หน้านะคะ กรุณาฝากข้อความไว้ เมื่อเล่นเน็ตได้เมื่อไหร่จะรีบกลับไปหานะคะ
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2549 19:10:13 น.
Counter : 1512 Pageviews.
++++++เพราะหัวใจ..ยังคงเป็นแค่หัวใจ (แต่ยังมีอะไรควรค่ากว่านั้น)++++++
คนเลวที่รักเธอ เพลงนี้ทำให้เราฉุกคิดสิ่งที่สงสัยขึ้นมาอีกครั้ง คนสมัยนี้ ดูเหมือน จะเห็นแก่ตนเองมากขึ้นหรือไร เห็นแก่ความสุขของตนเอง เห็นแก่ความสุขของคนที่ตัวเองบอกว่ารักโ ด ย ไ ม่ เ ค ย ดู ห รื อ ส น ใ จ ว่ า . . . มั น อ ยู่ บ น ค ว า ม ทุ ก ข์ ข อ ง ใ ค ร บ้ า ง จะขอเป็นคนเลวที่รักเธอที่สุด ถึงใครจะมองแบบไหน ไม่ขอเป็นคนดีที่รักเธอไม่ได้ ไม่อยากเป็นคนดีที่ไม่มีความสุข ฟังแล้วเหมือนดูดี..แต่สำหรับเรา- - คงต้องหัวเราะ หึๆ เทิดทูนความรักเหลือเกิน เทิดทูนอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่สนใจสายตาใคร ไม่แคร์ใคร เพื่ออะไร? เพื่อที่จะได้รัก เพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข? เราคงไม่มีสิทธิ์ว่าหรอกเรื่องรักน่ะ ความรักมันห้ามกันไม่ได้ คนบางคนเกิดมาให้เรารักแต่เค้าเจอคนอื่นมาแล้ว คบกับคนอื่นมาแล้วนี่นาบุญมันไม่ถึงกัน จะไปทำให้คนอื่นเค้าต้องเจ็บปวดทำไม เข้าใจหรอกว่า - - เรื่องของหัวใจหลายครั้งมันก็ห้ามยาก-บังคับกันยากเหลือแสน ไม่ใช่ว่าไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงนี้ เคยทั้ง...รักคนอื่นที่ครอบครองไม่ได้ (แต่ไม่เคยข้ามเส้น ไม่เคยเรียกร้อง และแฟนของเขาไม่เคยแม้แต่จะรู้ ถึงรู้ก็เรียกว่าไม่ได้เดือดร้อนเอาเสียเลยนั่นแหละ- - เพราะเราก็ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือไปจาก ความสมควร เลยแม้แต่กระผีกริ้น) และเคยเป็นคนที่ต้องเจ็บปวดเมื่อมีใครอีกคนเข้ามาในสถานการณ์ที่ต้องมีแค่คนสองคน (ที่บล็อกของปิงปองงง เคยเขียนข้อความไว้ว่าความรัก...น้อยที่สุดคือสองคน มากที่สุดคือสองคน นั่นแหละ...ใช่เลย) ดังนั้นจึง ซึมซับ สถานการณ์แบบนี้ได้เพียงแต่ ถ้าแค่รัก - -แต่ไม่ครอบครอง ถ้าแค่รัก - - แต่ไม่ทำให้ใครเค้ารับรู้และเดือดร้อน ถ้าแค่รัก - - แต่ไม่ทำให้ใครเจ็บปวด ถ้ามันเป็นเช่นสามบรรทัดข้างบน...ใครจะว่าอะไรได้ แต่..ส่วนใหญ่ก็มักพลั้งเผลอ (หรือตั้งใจ) ข้าม The Thin Red Line ไปเสมอนั่นแหละ ข้ามไปสู่จุดที่ต้องทำให้คนอื่นเจ็บปวด ข้ามล้ำจากขอบเขตของการ รัก อยู่เพียงเงียบๆ แต่..ที่สำคัญ- - เราว่าทัศนคติของคนส่วนใหญ่ ณ เวลานี้ กลับไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ใครจะเจ็บปวดแล้วไง แต่ยึดเอาความรักเป็นสรณะ เหนือทุกสิ่ง (เอาเถอะ..แล้วเคยย้อนถามบ้างมั้ยว่า แล้วเค้าสองคนหละ ไม่เคย รัก กันมาก่อนแล้วหรือ ทำไมถึงได้คิดว่า ความรัก ของตัวเองถึงยิ่งใหญ่กว่า ความรัก ของคนอื่นนักนะ)อยู่เหนือแม้กระทั่งความดีงามหรือความถูกต้อง บางทีก็หวนถามตัวเองนะว่า..แล้วบางสิ่งมันควรค่าสำหรับการแลกความสุขของตัวเองกับความดีงาม-ถูกต้องนั่นแล้วหรือณ วินาทีนี้ เรายังตอบว่า ใช่ แต่พูดไป..จะมีใครเข้าใจ ยอมรับและทำได้ - - สักกี่คนกัน? ตราบเท่าที่หลายคนยังเห็นความรักของตัวเองยิ่งใหญ่ สวยงามกว่าของคนอื่น ตราบเท่าที่หัวใจของใครหลายคนยังเห็นแก่ความสุขมากกว่าความดีงาม เหมือนอย่างเรื่อง คิดถึงทุกปี ของบินหลา สันกาลาคีรีนั่นแหละ บางครั้ง..บางเรื่องราว ก็มีอีกหลายสิ่งที่สวยงามและควรค่าแก่การรักษาไว้ยิ่งกว่า ความรักเพียงแต่...หัวใจเรากว้างพอจะมีที่ทางให้ได้เห็นสิ่งอื่นควรค่า-สวยงามยิ่งกว่าความรักได้หรือไม่ หัวใจเรากว้างพอจะเห็นความรักของคนอื่นเทียบเท่ากับความรักของตัวเองบ้างหรือไม่ นั่ น สิ น ะ เ ฮ้ อ... ป.ล. สำหรับท่านใดที่ไม่ได้อ่านบล็อกหนังสือที่อัพเมื่อวานนี้ ก็ขอแจ้งให้ทราบว่าเย็นนี้จะไปเชียงใหม่ค่ะ กลับอีกทีดึกๆ ของวันอาทิตย์ เพราะเช่นนั้น...พบกันอีกทีจันทร์หน้านะคะ (ถ้าไม่กลับไปคอมเม้นท์แสดงว่าปิดอินเตอร์เน็ตเตรียมตัวเดินทางแล้วค่ะ)ป.ล.๒ พอดีเจอบล็อกของเพื่อนอีกคนพูดถึงมิวสิควีดีโอเพลงนี้ จึงขออนุญาตทำลิงค์เผื่อใครจะอยากรู้รายละเอียดค่ะ เชิญที่นี่นะคะ ที่นี่ค่ะ
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2549 15:41:55 น.
Counter : 1770 Pageviews.
++++++++คำตอบจากเว็บมาสเตอร์เรื่องระบบใหม่ค่ะ++++++++
สวัสดีค่ะ จากที่คุยกันไว้ที่บล็อกที่แล้ว เรื่องระบบตัวใหม่ที่นี่ค่ะ ตอนนี้ได้คำตอบจากเว็บมาสเตอร์ตามนี้นะคะสวัสดีค่ะ เนื่องจากทางเราได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการเรียงลำดับบล๊อกที่หน้ารวมใหม่ จากแต่เดิมที่เรียงกันอย่างไม่เป็นระบบ เป็นแบบเรียงตามวันเวลาที่สร้างเพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่เข้าชมค่ะ ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับว่าบล๊อกใดมีคนมาcomment จะทำให้อันดับดีขึ้นค่ะ สำหรับเหตุผลที่ทางเราไม่เรียงตามlast update (คนที่สร้างไว้แล้ว เมื่อมาแก้ไขข้อความลำดับของบล๊อกในหน้ารวมจะสูงขึ้น)เนื่องจากอาจจะทำให้บางคนใช้วิธีเข้าไปแก้ไขเล่นๆ เพื่อให้อยู่อันดับที่สูงเรื่อยๆ ซึ่งหากมีคนใช้วิธีนี้มากๆก็จะเบียดบังบล๊อกของคนอื่นให้ตกไปได้ค่ะ ดังนั้นทางเราคิดว่าการเรียงลำดับตามวันเวลาที่สร้าง เป็นวิธีที่ยุติธรรมที่สุดแล้วค่ะ นอกจากนี้ ทางเราได้นำบล๊อกแบบ private (ต้องใส่รหัสก่อนการเข้าชม)ออกจากหน้ารวมแล้ว ดังนั้นจะทำให้ท่านหาบล๊อกที่ท่านต้องการได้ง่ายขึ้นค่ะ สำหรับวิธีของคุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" นั้น หากนำมาใช้จริงอาจจะเกิดปัญหาขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น อาจจะมีคนใช้วิธีปั่น comment ในบล๊อกตัวเองอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้บล๊อกของเค้าได้อยู่ลำดับต้นๆ อยู่ตลอดหรือในอีกแง่หนึ่ง สำหรับบางท่านที่เป็นสมาชิกใหม่ ไม่เป็นที่รู้จัก การที่เค้าเขียนบล๊อกขึ้นมา แล้วไม่มีคนตอบ comment หรือมีคนตอบน้อย จนทำให้บล๊อกของเค้าถูกดันตกลงไปเรื่อยๆอยู่ตลอดก็จะยิ่งทำให้เค้าไม่เป็นที่รู้จักและอาจจะหมดกำลังใจในการเขียนบล๊อกได้ค่ะ สำหรับปัญหาเรื่องสมาชิกบางท่านโพสบล๊อกจำนวนมากๆในแต่ละวัน ทางเราได้สังเกตเห็นเช่นกันค่ะ ทั้งนี้ทางเราคงจะไม่ใช้วิธีจำกัดสิทธิ์การโพสในแต่ละวันในขณะนี้เนื่องจากเป็นสิทธิ์ของผู้ใช้บริการแต่ละท่านและคิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถอธิบายหรือขอความร่วมมือกับสมาชิกได้ซึ่งน่าจะได้ผลดีกว่าการจำกัดสิทธิ์ในการโพสค่ะ และคิดว่าคงไม่มีใครตั้งใจที่จะโพสจำนวนมากๆเพื่อจะทำให้บล๊อกของคนอื่นตกลงไปนะคะ อาจจะทำไปเพราะความไม่รู้มากกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ สำหรับบางท่านที่ทางเราเห็นชัดเจนว่าโพสจำนวนมากๆและเห็นหลายครั้ง ทางเราได้ส่งอีเมลไปขอความร่วมมือแล้วบ้างค่ะซึ่งได้รับการตอบรับ และพร้อมที่จะแก้ไขต่อไป ดังนั้นทางเราหวังว่าปัญหานี้จะดีขึ้น แต่หากในอนาคตยังคงพบปัญหานี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทางเราคงจะต้องหาวิธีอื่นๆในการจัดการต่อไปค่ะ สุดท้ายนี้ ทางเราต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งที่ท่านได้แจ้งปัญหามาให้ทางเราทราบ หากการเปลี่ยนแปลงของเรา ทำให้ท่านรู้สึกไม่สะดวกในการใช้บริการไปบ้าง ทางเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ และหากท่านใดมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสามารถเสนอมาได้นะคะ ทางเราจะลองนำไปพิจารณา เพื่อปรับปรุง bloggang ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา
Create Date : 27 มกราคม 2549
Last Update : 27 มกราคม 2549 15:35:44 น.
Counter : 1799 Pageviews.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [? ]
ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com หรือ https://www.facebook.com/saoguide