❤++++++❤ ลาไปเที่ยว เดี๋ยวเดียวก็กลับ ❤++++++❤




อะแฮ่ม อะแฮ่ม





วันนี้มาบอกกล่าวล่วงหน้าว่าตั้งแต่พรุ่งนี้จนกระทั่งถึงอังคารหน้าจะไม่อยู่ประจำการบล็อกนะค้า

จะแบ็คแพ็คพาคนใกล้ตัวไปเที่ยวสิงคโปร์ค่า



หุๆ



หุๆ





เนื่องด้วยข้าพเจ้าเคยไปเที่ยวกะทัวร์และนำทัวร์ไปยังซิงคะปุระแล้ว ๒ ครั้ง ก็เลยทำให้เค้าวางใจว่าเราจะพาไปเที่ยวได้ (กร๊ากกกก..หารู้ไม่ว่าฝากปลาย่างไว้กับแมว เอ๋ไม่ใช่ เอ่อ..เตะหมูเข้าปากหมา เอิ๊ก..ก็ไม่ใช่อีกแหละ เอ่อ..สำนวน คำพังเพยไหนดีหว่า? นึกไม่ออก ใครนึกออกช่วยบอกด้วย มีของรางวัลเป็นของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ (ย้ำ เล็กๆ ) ๑ ชิ้นค่ะ)




กำหนดการเดินทางก็วันศุกร์นี้ถึงอังคารหน้า ไปค้างอยู่ ๔ คืน ก็เลยกะจะเที่ยวแบบให้มากให้ครบที่สุดเท่าที่จะทำได้อะนะคะ



จริงๆ แล้วสิงคโปร์ไม่ใช่ประเทศในฝันที่อยากแบ็คแพ็คไปหรอกค่ะ เพียงแต่เรารู้สึกว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่ปลอดภัย กลโกงน้อย มีคนใช้ภาษาอังกฤษได้เยอะ การคมนาคมสะดวก เหมาะอย่างยิ่งแก่การแบ็คแพ็คไปครั้งแรก ก็เลยอยากให้ไปที่นี่ก่อน (อีกอย่างจะได้ให้เจ้าตัวเค้าฝึกภาษาอังกฤษที่ห่างหายไปนานด้วยค่ะ จะไปสปี๊คอิงลิชกันดูว่าเค้า (คนสิงคโปร์) จะรู้เรื่องกับเราบ้างมั้ย กร๊ากกกก) แล้วพอเริ่มที่แรกแล้วโอเค จะได้มีกำลังใจจะแบ็คแพ็คไปที่อื่นค่ะ



กำหนดการเที่ยวก็มีทั้ง standard ของทัวร์ทั้งหลาย อย่างเช่น สวนนกจูล่ง ไนท์ซาฟารี และเกาะเซ็นโตซ่า


รวมทั้งที่เที่ยวที่ชาวบลูแพลนเน็ตแห่งพันทิบไปๆ กันอย่างย่านอาหรับสตรีต Suntec สิงโตทะเลพ่นน้ำ (ซึ่งซ่อมอยู่ คงได้ถ่ายวันกลับช่วงเช้า เพราะเปิดวันแรกพอดี)


และที่น้อยคนที่เคยไปกันอย่าง Science Center, Asian Civilization Museum, สวนจีน สวนญี่ปุ่น เอสกิบาร์ และอื่นๆ



แล้วก็กะจะไปหม่ำๆ อาหารทั้งหลายให้เป็นที่ประจักษ์ (ถ้างบไม่หมดไปกะช้อปปิ้งซะก่อน ) ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กกบ ณ Geylang ซอย 9 สะเต๊ะ ณ Satay Club แห่งคาล์กคีย์ อาหารอินเดียแห่งร้าน Banana Leaf Apollo ลิตเติ้ลอินเดีย ปูผัดกะหรี่หรือผัดพริกไท ณ แถวๆ ไหนซักที่อะนะ และอื่นๆ อื่นๆ


กลับมาน้ำหนักจะขึ้นอีกมั้ยหละนี่ช้านนนนนนน




กลับมาแล้วจะมาทำรีวิว กริ๊กกริ้วววววค่า



กรุณารอคอยอ่านด้วยความสงบนะค้า (อย่ามาก่อการก่อกวนใดๆ เน้อ ไม่งั้นเจ้าของบล็อกจะวางยาพิษพร้อมเอาแส้เฆี่ยนแล้วราดน้ำเกลือซ้ำ เหอๆ )







ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายนะค้า











 

Create Date : 06 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 6 กรกฎาคม 2549 12:33:14 น.
Counter : 1451 Pageviews.  

❤++++++❤ ช่วงเวลาแห่งการเสียตังค์ ❤++++++❤



ก่อนจะอัพบล็อกหนังสือในอาทิตย์หน้า คั่นเวลาของการดองบล็อกด้วยเรื่องบ่นดีกั่ว



ตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมามีแต่เรื่องเสียตังค์ค่ะ



เมษายน – หนักๆ เลยก็งานสัปดาห์หนังสือที่หมดไปหมื่นฝ่าๆ น่ะแหละค่ะ

พฤษภาคม – เพิ่งไปต่างประเทศโดยกึ่งทำงานกึ่งเที่ยว ก็หมดค่าโน่นนี่ไปหมื่นกว่าเช่นกัน (หมายถึงเฉพาะ กินกะของฝากอะนะ) เสาร์นี้ไปดูเบิร์ดกะฮาร์ทอีก วันอาทิตย์ก็งานบวชน้อง (ซึ่งต้องทำบุญประมาณหนึ่งเลย น้องชายทั้งคนอะน้า)

มิถุนายน – มีโปรแกรมต้องพาเพื่อนม.ปลายไปเที่ยวเขาใหญ่ และโปรแกรมไปทะเลกับน้องๆ ที่เคยทำงานออฟฟิศ แล้วก็สนิทกัน นอกจากนั้นอาจตามด้วยการเที่ยวของแผนกอีก



แม่เจ้า..ช่วงนี้มันดวงเสียทรัพย์หรือไงเนี่ย?



หลายคนอาจบอกว่า อ้าว! ถ้างั้นก็ไม่ต้องไปดิ ไอ้ท่งเที่ยวอะไรเนี่ย


แต่มันไม่ได้อะค่า งือออออออ



เนื่องด้วยคนต้นคิดจะไปเที่ยวกับเพื่อนมอปลายนั้นเป็นเพื่อนรักของเรา ซึ่งให้เราติดต่อทุกอย่างให้ แถมแกมบังคับให้เราเป็นไกด์ไปอีก แล้วก็เป็นการไปเที่ยวครั้งแรกของเพื่อนๆ มอปลายด้วยน่ะ ก็เลย..นะ มัน “ต้อง” น่ะ งือออออ (อีกรอบ)



ส่วนการไปกับน้องๆ ที่เคยทำงานออฟฟิศนั้น เนื่องด้วยเป็นการพักผ่อนประจำปี (คิดว่านะ) ซึ่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะคนที่จะไปด้วยนี่เค้าอยากไปมาก (ดูเหมือนเป็นคนดีเลยนะนี่ เห็นแก่คนอื่นจนตัวเองเดือดร้อนน่ะ แต่เปล่าหรอก ไอ้เราก็อยากไปด้วยแหละ )



ตบท้ายด้วยการไปกับแผนกนั้น มันโดนบังคับกลายๆ ค่ะ ถ้าใครไปไม่ได้ก็จะต้องเลื่อนไป เพราะต้องไปในวันที่ไปได้ทุกคนน่ะ เจ้านายไม่ยอมให้ขาดใครไปแม้แต่คนเดียว ไม่เช่นนั้นเจ้านายจะถึงแก่อาการงอนนนนนนนน ต้องง้อกันอีกนาน พาลให้อารมณ์เสียมาลงกับลูกน้องอีก


เฮ้อ..โดยสรุปแล้ว ช่วงนี้มันดวงเสียทรัพย์จริงๆ แต่เป็นการเสียทรัพย์แบบสุขๆ หน่อยอะนะ (เอ่อ..ใช้ “ทุกขลาภ” ได้ปะคะ? )



เฮ้อ..เซ็งจิต



อยากเกิดเป็นลูกคนรวย ไม่ก็หาเงินได้เยอะๆ ง่ายๆ จังน้อ (บ่นถึงตรงนี้พี่ๆ ที่ชวนทำงานทางเน็ตเนิตไม่ต้องมาแปะนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้า )


ขอบคุณที่มาฟังบ่นค่ะ ถ้ามีเวลาอาทิตย์หน้าและอาทิตย์ถัดไปอาจได้อัพเรื่องหนังสือกะเรื่องการเที่ยวอิตาลีนะคะ (แต่ถ้าไม่ว่าง งานสุมหัวเหมือนเดิมก็อาจจะต้องอัพแต่เรื่องหนังสือแหละค่ะ)


เสาร์นี้ก่อนไปดูเบิร์ดกะฮาร์ทหวังว่าจะได้ไปดูหนังเรื่อง Always นะคะ แล้วคงได้มาคุยด้วยอีก (เหอๆ เอ็งนี่มันเดือดร้อนจริงหรือเปล่าวะเนี่ย นี่ก็เสียตังค์นะเฟ้ย )



จบรายงานการบ่นแต่เพียงเท่านี้




ขอบคุณที่มาทักทายกันค่ะ




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 19 พฤษภาคม 2549 15:49:43 น.
Counter : 1144 Pageviews.  

❤++++++❤ บันทึกบ่นบ้า – เลือกตั้งงง หนังสือเพี้ยน ❤++++++❤





ประกาศศศศศศศ




ใครเข้ามาเป็นคนที่ 30,000 (นับจากเคาน์เตอร์ตรงใต้โปรไฟล์นะคะ) กรุณาแสดงตัวด้วยนะจ๊ะ


มีของเล็กๆ น้อยๆ มาแจกจ้า..


มาบอกใกล้ๆ เพราะคิดว่าไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้แหละคงจะได้ตามเคาน์เตอร์นี้ จะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่า อยากปั่นยอด







สวัสดีค่ะ



เสาร์ที่ผ่านมา สาวไกด์ฯ กลับบ้านไปเนื่องจากที่บ้านต้องทำการเลือกตั้งใหม่เพราะผู้สมัครคนเดียวของพรรคทรท. ไม่ผ่านเกณฑ์ 20% ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

ครั้งนี้...แน่นอนค่ะ ก็ย่อมมีผู้สมัครจาก “พรรคเล็ก” เข้ามาแข่งขันด้วย เพราะน่าจะทำให้มีส.ส.สำหรับจังหวัดนี้ซะที (2 พรรคที่มาสมัครเพิ่มคือ ประชากรไทย กับ ขอคนปลดหนี้ค่ะ)


ยอมรับว่าตอนแรกโมโหควันขึ้นหูมากๆ และปลงอนิจจังไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรก็เกิดเหอะ


ยังไงก็จะกา “ไม่ลงคะแนนให้ใคร” เหมือนเดิม



แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ก็ปรากฏว่าเซอร์ไพรซ์ข้าพเจ้ามากๆ


เพราะพรรคที่ได้กลายเป็นพรรค “ขอคนปลดหนี้” ด้วยส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัดเพชรบุรี

ตอนได้ยินข่าวครั้งแรกอึ้งก่อน แล้วตามด้วยสะใจ จากนั้นก็เหวอและสับสน



อึ้งเพราะ..เฮ้ย..เป็นไปได้เหรอ จะมีคนต่อต้านและหาทางออกด้วยวิธีนี้พร้อมเพรียงกันเป็นหมื่นเลยหรือไร?


สะใจคือ..เป็นไงหละ คิดว่าหาคนมาสมัครด้วยแล้ว ต่อให้ไม่ถึง 20% ก็จะได้ แต่ก็ไม่ได้ใช่มั้ย (แต่ก็สงสารตาคนสมัครเหมือนกันนะ ไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่าว่า ที่เค้าไม่เลือกกันเพราะพรรคที่สังกัดน่ะ)


ส่วนเหวอและสับสนคือ เฮ้ย! จริงง่ะ เอาจริงเหรอประชาชนชาวเพชรบุรี – เรายังไม่กล้าขนาดนั้นเลยนะนี่ (เพราะตัวเองยังกาไม่เลือกใครเหมือนเดิม)

ตอนนี้ที่เกิดขึ้นคือ..อยากรู้มากๆ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เข้าไปแล้วจะถูก “กลืน” มั้ยหละนี่? เฮ้อ...



จบข่าวการเมืองท้องถิ่น





กลับบ้านคราวนี้เอาคาฟกา วิฬาร์ นาคาตะไปอ่านด้วย จนเพิ่งจบเมื่อตีหนึ่งวานนี้


อ่านแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้สนุกกว่าแดนฝันปลายขอบฟ้า อาจเป็นเพราะมันมีเรื่องราวนอกตัวมากกว่าการสำรวจภายในตัวเองกระมัง (ตอนอ่านแดนฝันปลายขอบฟ้า ราวกับเราได้เข้าไปอยู่ในสมองและจิตสำนึกของตัวเอก เหมือนหนังเรื่อง Being John Malkovich เลยแหละ )



แต่ฉากโหดนี่โหดสุดๆ จริงๆ อ่านไปก็ต้องหยุดปิดหนังสือพักหายใจน่ะ (เวอร์ไปเปล่าเนี่ยเรา แต่ไม่ไหวจริงๆ ง่ะ โหดมากๆ โหดสุดๆ คนรักแมวอ่านฉากนั้นอาจช็อคไปเลย)


ส่วนฉากเซ็กส์นี่ก็...นะ เอ้อ..อึ้งทุกครั้งเลยเวลาอ่านฉากเซ็กส์ของหนังสือมูราคามิ



หนังสือเค้ามันมีความบิดเบี้ยวบางประการอยู่เสมอเลยน้อ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่มีบาดแผล มีความผิดเพี้ยน แปลกแยกแล้ว เหตุการณ์เรื่องราว และบรรยากาศในหนังสือนี่ต่างก็บิดเบี้ยวแล้วก็เศร้าลึกๆ อึ้งหน่อยๆ อยู่ตลอดเลย


ชอบเวลาเค้าเขียนหนังสือสไตล์เซอร์เรียลแบบนี้นะ อ่านแล้ว “มันส์” ในการอ่านดีว่า มันจะ “แหก” ไปได้ซักแค่ไหน จะเพี้ยนหลุดไปได้ซักเท่าไหร่





อ้อ...แต่อ่านแล้วเข้าใจเจ้าหนุ่มรถบรรทุกเลยนะที่กลายเป็นคนฟังเพลงคลาสสิคไปเลย เราเองแค่อ่าน ไม่ได้ฟังด้วยหู เรายังรู้สึกอยากฟังเพลงคลาสสิคแบบจริงจังบ้างเลยน่ะ



เอ่อ..วันนี้บล็อกบ่นเพ้อ บันทึกเฉยๆ คั่นการอัพบล็อก เพราะบล็อกอันเดิมนั่นยาวมากแล้วค่ะ โหลดนานโคตร เจ้าของบล็อกยังเบื่อเลย แล้วเพื่อนๆ จะไม่เบื่อเหรอเนาะๆ (เอาใจสุดๆ ฮ่าๆ)



ใครใคร่คุยอะไรก็คุยมาแล้วกันนะคะ



(อ้อ..เนื่องด้วยมีประเด็นเกี่ยวกับการเมือง จึงให้เฉพาะผู้ล็อกอินคอมเม้นท์ได้นะคะ)





 

Create Date : 24 เมษายน 2549    
Last Update : 27 เมษายน 2549 9:23:18 น.
Counter : 1467 Pageviews.  

★++++++★ การคุกคามสื่อ คือการคุกคามประชาชน ★++++++★



บทบรรณาธิการร่วม
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย




คุกคามสื่อ คือ คุกคามประชาชน


หลักการสำคัญของวิชาชีพสื่อมวลชน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ จักต้องดำรงไว้ซึ่งเสรีภาพในการพูด การเขียน การพิมพ์และการโฆษณา เพราะหากปราศจากเสรีภาพเหล่านี้แล้ว การทำหน้าที่ในการทำความจริงให้ปรากฏย่อมไม่อาจจะเกิดขึ้นจริงได้เลยแม้แต่น้อย

กว่าหนึ่งศตวรรษที่วิชาชีพสื่อมวลชนได้ลงหลักปักฐานในแผ่นดินไทยครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2378 โดยหมอบรัดเลย์ผู้ริเริ่มทำหนังสือพิมพ์ “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” แต่ในที่สุดต้องประสบภาวะล้มละลายเพราะถูกฟ้องเนื่องจากเปิดโปงกรณีกงสุลฝรั่งเศสหลีกเลี่ยงภาษีอากร

ต่อมาในยุคเผด็จการทหารครองเมือง สื่อมวลชนที่นำเสนอความจริงและวิพากษ์วิจารณ์อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ หรือเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน กลับถูกลอบสังหาร จับกุมคุมขัง ถูกนำตัวไปปล่อยเกาะ แท่นพิมพ์ถูกทุบทำลาย สำนักงานถูกขว้างระเบิด ฯลฯ

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สื่อมวลชนในประเทศนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็ได้ทำหน้าที่ดังกล่าวโดยไม่ย่อท้อ เพราะต่างตระหนักกันดีว่าภาระหน้าที่ที่ดำเนินอยู่ เป็นภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความไว้วางใจจากประชาชนผู้บริโภคสื่อทั้งมวล

ดังนั้น หนทางเดียวที่สื่อมวลชนจะสามารถทำหน้าที่ของตนได้อย่างเต็มกำลัง จักต้องธำรงไว้ซึ่งอิสรภาพและเสรีภาพ หากปราศจากเสียซึ่งสิ่งนี้แล้ว ข่าวสารที่ถูกนำเสนอออกมาก็ย่อมไม่ต่างจากกระดาษเปื้อนหมึก หรือมลพิษทางเสียงและสายตาที่พร้อมจะทำลายคุณค่าแห่งความจริงที่ประชาชนจะต้องมีสิทธิได้รับรู้อย่างเท่าเทียมกันจนหมดสิ้น

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเศร้าว่า แม้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 จะระบุถึงการรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและนำเสนอข่าวสารของประชาชนและสื่อมวลชน แต่กลับเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการใช้อำนาจรัฐผนวกกับอำนาจทุนข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนทุกรูปแบบและทวีความรุนแรงขึ้นตลอดเวลา แต่ที่ร้ายที่สุดคือการใช้กำลังประทุษร้ายซึ่งหน้าและใส่ร้ายป้ายสี บิดเบือน ใส่ไคล้ ให้ร้าย เพื่อแยกสื่อออกจากประชาชน และแยกประชาชนออกจากสื่อ

วันที่ 5 เมษายน 2548 ที่ผ่านมา บรรณาธิการและนักข่าวของสำนักพิมพ์ทุกฉบับ สถานีข่าววิทยุและโทรทัศน์ทุกสถานี จึงได้มารวมตัวกันเพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่า พวกเราจะต่อต้านการคุกคามสื่อทุกรูปแบบ เพราะเราเชื่อว่าการที่สื่อคุกคามก็เท่ากับประชาชนถูกคุกคามด้วย และหากสื่อปราศจากเสรีภาพในการนำเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นแล้ว สังคมนั้นก็ย่อมจะตกอยู่ในภาวะแห่งความมืดบอดทางปัญญา

สื่อมวลชนทั้งหลาย จึงพร้อมที่จะรวมพลังกันต่อสู้ เพื่อสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของสาธารณชน บนหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชนและความถูกต้อง โดยยินดีน้อมรับการตรวจสอบจากสังคม และกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้องเป็นธรรมทุกด้าน แต่เราจะไม่ยอมรับการตรวจสอบโดยการใช้กลังและด้วยวิธีการนอกกฎหมาย

เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพและร่วมกันแปรเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ในเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ สิทธิเสรีภาพในการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสื่อวิทยุและโทรทัศน์ของประชาชน รวมถึงสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็นของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนและสิทธิเสรีภาพทางวิชาการอื่นๆ ให้เป็นจริงทั้งทางอุดมการณ์และทางปฏิบัติ

เราขอให้คำมั่นว่า เราจะใช้สิทธิเสรีภาพที่มี่อยู่ตามรัฐธรรมนูญควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อจริยธรรมทางวิชาชีพ เพื่อทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนในการชูประทีปแห่งความจริงไล่ความมืดบอดให้หมดไปจากสังคมนี้.




ไม่แน่ใจว่า “บทบรรณาธิการร่วม” ที่นำมาให้อ่านนี้จะตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับใดบ้าง มีใครพูดถึงบ้างหรือยัง พอดีเมื่อกลางวันเพิ่งได้อ่านจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2549 ก็เลยนำมาลงให้เพื่อนๆ ชาวบล็อกได้อ่านกัน

และเนื่องจากต้องการให้มีการแสดงความคิดเห็นโดยเปิดเผย บล็อกนี้จำต้องให้เฉพาะผู้ล็อกอินเท่านั้นจึงจะตอบได้



ขอบคุณการร่วมแสดงความคิดเห็นโดยสันติค่ะ





 

Create Date : 11 เมษายน 2549    
Last Update : 11 เมษายน 2549 15:56:16 น.
Counter : 1585 Pageviews.  

❤++++++❤ 2 เมษายน เลือกตั้งดีมั้ย? ❤++++++❤


สวัสดีค่ะ





ก่อนอื่นคงต้องบอกจุดยืนของสาวไกด์ฯ ก่อนนะคะ (แต่คงยืนนานไม่ได้ อาจนอนบ้าง นั่งบ้าง คงไม่ว่าอะไรกันนะคะ )




สำหรับสาวไกด์ฯ แล้ว ไม่ชอบนายกฯ คนนี้ แต่ไม่ได้ถึงกับเกลียด แล้วก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคุณสนธิ และคุณจำลอง ค่ะ


สาวไกด์ฯ เห็นข้อดีของนายกฯ คนนี้ตรงที่เค้าเป็นนายกฯ คนแรกของไทยที่บอกนโยบายอะไรตอนเลือกตั้ง พอเป็นนายกฯ ปุ๊บเค้าทำได้หมด แม้ว่าหลายนโยบายจะเป็นนโยบายแบบไม่มีการติดตามผล เป็นนโยบายเอาเงินไปโปรยเป็นหลัก เป็นนโยบายที่ทำไปงั้นๆ ไม่ได้มีผลดีอย่างที่ควรเป็น เช่น กองทุนหมู่บ้าน (ชาวบ้านหลายคนกู้มาแต่ยังไม่ต้องคืนใดๆ ทั้งสิ้น) 30 บาทรักษาทุกโรค (ซึ่งยาที่ให้ชาวบ้าน แย่ยิ่งกว่าประกันสังคม) ฯลฯ


ขณะเดียวกันหลายๆ อย่างสาวไกด์ฯ ไม่เห็นด้วย “อย่างยิ่ง” ในการตัดสินใจทำ ไม่ว่าจะเป็นการขายสาธารณประโยชน์ต่างๆ ให้ชาวต่างชาติมีสิทธิ์ซื้อด้วย ถามจริงเหอะ พอไทยเกิดเหตุการณ์แย่ๆ ไอ้พวกนี้ก็ถอนไป แล้วสมควรเหรอที่เอาสาธารณประโยชน์ทั้งหลายไปให้อยู่ในมือคนที่เค้าไม่ได้แคร์ประชาชนไทย (ส่วนหนึ่งก็เพื่อจะเอาเงินที่ได้มามาใช้หนี้ไอเอ็มเอฟให้ชาวบ้านเค้าสรรเสริญเยินยอ) หรืออย่างเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อต่อธุรกิจของครอบครัวตัวเอง ฯลฯ





แต่ขณะเดียวกัน สาวไกด์ฯ ก็เห็นว่า บางที..บางทีนะคะ คนที่ควรต้องกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งก็อาจยังต้องเป็นนายทักษิณ ชินวัตรคนเดิม เพราะสาวไกด์ฯ เองก็ไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับกรรมจากผลการกระทำของนายกทักษิณ เหมือนที่พลเอกชวลิตเคยต้องมารับกรรมจากผลการกระทำของนายกชาติชายน่ะค่ะ



แต่การกลับมาครั้งนี้ สาวไกด์ฯ อยากให้นายกทักษิณ “ปรับปรุง” และ “พัฒนา” ตัวเองให้มีจริยธรรมในการทำงานมากยิ่งขึ้น อยากให้เค้าทำงานเพื่อประเทศชาติมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อธุรกิจของตนเอง ไม่ใช่เพื่อการหวังสร้างคะแนนเสียงโดยไม่ดูผลลัพธ์จริงๆ ของมัน



ดังนั้นสิ่งที่สาวไกด์ฯ หวังจะทำคือ


ทำให้นายกฯ เข้าใจว่า สิ่งที่ตัวเองทำมาตลอดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง สมควร และหากเค้ากลับมาเป็นนายกฯ อีกก็ต้องระมัดระวังในการ “ทำ” อะไรต่อมิอะไรมากขึ้น (ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ )





แต่คราวนี้ปัญหาก็คือ ตอนแรกสาวไกด์ฯ คิดจะไปเลือกตั้งโดยกาไม่เลือกใคร


แต่ขณะเดียวกัน สาวไกด์ฯ ก็กังวลกับสิ่งที่เพื่อนๆ ได้คุยกันก็คือ พอมีคนไปเลือกตั้งแล้ว มันมีโอกาสที่จะทำให้พรรคที่อยากจะชนะ สามารถโกงการเลือกตั้งได้โดยการสับเปลี่ยนหีบคะแนนหรือเปล่า? (คือถ้าไม่มีคนไปเลือกตั้ง เค้าจะเอาคะแนนเสียงที่ไหนมาสับเปลี่ยนหีบกันหละ?)


แต่ขณะเดียวกันสาวไกด์ฯ ก็ยังอยากไปใช้สิทธิ์ของตัวเอง และใช้เสียงของตัวเองบอกคุณทักษิณว่า เราไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำตลอดมานะ




แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วควรทำอย่างไรถึงจะ “ดี” กว่ากัน แล้ว “ดี” ดีในแง่ไหน?


สาวไกด์ฯ ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจค่ะ





ลองมาถามเพื่อนๆ ดูค่ะ

2 เมษายนนี้ตั้งใจจะทำอย่างไรกันคะ ไปเลือกตั้งหรือไม่? เพราะอะไร?






ป.ล. ถามอีกเรื่องค่ะ จะทำให้คนมาคอมเม้นท์ได้เฉพาะคนที่ล็อกอิน ต้องไปแก้ตรงไหนอะคะ สาวไกด์ฯ หาไม่เจอง่า ไม่อยากให้พวกแอบแฝงมาตอบง่ะค่ะ




 

Create Date : 21 มีนาคม 2549    
Last Update : 21 มีนาคม 2549 12:20:35 น.
Counter : 1289 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.